บทที่ 110 การสอบเอาชีวิตรอดในถิ่นทุรกันดาร
กลยุทธ์การบินอู๋จิ๋!
“หากพวกเจ้ามั่นใจว่าพวกเจ้าสามารถโจมตีเป้าหมายได้โดยตรงด้วยความแม่นยำสูง นั่นก็ไม่เป็นไร”
ด้วยความเร่งจากแรงโน้มถ่วง มันราวกับอาวุธจลศาสตร์ความเร็วสูง ทว่าปัญหาก็คือแม้ว่าจะได้รับการสนับสนุนจากสุดยอดการมองเห็น อีเลฟเว่นก็ไม่สามารถทำได้
ท้ายที่สุด มันไม่สามารถควบคุมตัวเองได้ในระหว่างการตก
“ทว่าอีเลฟเว่นและบักกี้ฉลาดขึ้นอย่างแท้จริง!”
“พวกมันรู้วิธีการศึกษากลยุทธ์ต่อสู้”
ต้องบอกว่าขีดจำกัดสูงสุดของกลยุทธ์ต่อสู้นี้ค่อนข้างสูง หากบักกี้ดึงอีเลฟเว่นขึ้นไปและโยนมันลงมา พลังของอีเลฟเว่นนั้นคงเทียบได้กับอุกกาบาตที่ตกลงบนพื้น
นั่นขึ้นอยู่กับว่าอีเลฟเว่นจะไม่ตายหลังจากกระแทกพื้น นี่เป็นเรื่องยากเล็กน้อย
“อู๋!”
“จิ๋!”
อีเลฟเว่นนั่งลงบนเก้าอี้อย่างเชื่อฟังในขณะที่บักกี้นอนอยู่บนหัวของมัน
พวกมันทั้งสองตัวมีสีหน้าที่คาดหวัง ซืออวี๋ผ่านการสอบข้อเขียนแล้ว แม้ว่าพวกมันจะไม่ได้มีส่วนร่วมมากนัก แต่พวกมันก็ขยันขันแข็งใช่ไหม?
จะมีรางวัลไหม…
“ข้าจะตอบแทนพวกเจ้าด้วยทรัพยากรจำนวนมาก” ซืออวี๋หัวเราะอย่างบางเบา
ดวงตาของบักกี้และอีเลฟเว่นเปล่งประกาย
นั่นหมายความว่ายังไง? พูดให้รายละเอียดสิ
“ข้าจะพาพวกเจ้าไปในสถานที่ซึ่งเต็มไปด้วยทรัพยากรหายากจำนวนมาก เมื่อถึงตอนนั้น พวกเจ้าสามารถเลือกอะไรก็ได้ที่พวกเจ้าต้องการ มันเป็นของพวกเจ้า”
สีหน้าของซืออวี๋นั้นสงบและดูเป็นวีรบุรุษมาก
อย่างไรก็ตาม อีเลฟเว่นและบักกี้รู้สึกว่ามีบางอย่างผิดปกติ
“อู๋”
“จิ๋”
อีเลฟเว่นและบักกี้คุยกันสักพักก่อนที่จะเปิดโทรศัพท์ขอพวกมันและกดสองสามปุ่มอย่างไม่ใส่ใจ
จากนั้นวิดีโอก็เริ่มเล่น
ในวิดีโอ หญิงสาวในชุดสูทมืออาชีพกำลังประกาศข่าว
“หลังจากผ่านการประเมินมืออาชีพที่ตึงเครียดมาหนึ่งวัน จำนวนผู้ผ่านสองการสอบแรกของการประเมินมืออาชีพในเมืองหลวงโบราณก็คือ 6,440 คน”
“คน 6,440 คนเหล่านี้จะทำการสอบที่สำคัญที่สุดในการประเมินมืออาชีพในวันพรุ่งนี้ มันยังเป็นการสอบที่กำหนดว่าพวกเขาจะได้เป็นนักฝึกสัตว์อสูรมืออาชีพหรือไม่ซึ่งก็คือการสอบเอาชีวิตรอดภาคสนาม”
“เมื่อถึงเวลานั้น พวกเขาจะถูกโยนเข้าไปในเกาะทดสอบขนาดใหญ่ที่มีสัตว์อสูรดุร้ายนับแสนตัวและต้องเอาชีวิตรอดสามวัน ในสถานที่ซึ่งอันตรายแห่งนี้เต็มไปด้วยสัตว์อสูรดุร้ายที่คุกคามมนุษย์อย่างมาก ทว่าในขณะเดียวกัน ว่ากันว่าทรัพยากรมีอยู่ทุกหนแห่ง มีทรัพยากรหายากจำนวนมหาศาลตั้งแต่ระดับหนึ่งจนถึงระดับสาม และทรัพยากรมีความอุดมสมบูรณ์กว่าสถานที่ซึ่งอันตรายใกล้เคียงกันนับสิบเท่า”
“ตามสถานการณ์การประเมินในปีที่ผ่านมา ในระหว่างการสอบเอาชีวิตรอดถิ่นทุรกันดาร นอกเหนือจากการทำภารกิจการสอบที่เกี่ยวข้องแล้ว ทรัพยากรที่ผู้เข้าร่วมได้รับในระหว่างการสอบทั้งหมดจะเป็นของตัวเอง”
“แน่นอน ทรัพยากรเหล่านี้ได้รับการป้องกันจากสัตว์อสูจำนวนมากอย่างแน่นอน… ดังนั้นข้าจึงจินตนาการได้ว่าการสอบเอาชีวิตรอดถิ่นทุรกันดารนี้จะเป็นการสอบที่มีทั้งความเสี่ยงและโอกาส”
อีเลฟเว่นและบักกี้มองไปที่ซืออวี๋หลังจากดูวิดีโอ
นี่หมายความว่าในการสอบที่สาม ไม่เพียงแค่ต้องทำภารกิจการสอบที่เกี่ยวข้องเท่านั้น พวกเขายังต้องต่อสู้เป็นเวลาสามวันและทำงานอย่างหนักเพื่อรวบรวมทรัพยากร?
ป๊าบ!
ซืออวี๋ตบหน้าผากของเจา บัดซ* ทำไมพวกเจ้าทั้งสองตัวถึงไปหาข่าวด้วยตัวเองล่ะ?
“นั่นแหละ”
ซืออวี๋กอดอกและกล่าวอย่างดื้อรั้นว่า “เรามีลูกปัดซากปรักหักพัง ดังนั้นพวกเจ้าน่าจะรู้ว่าข้าหมายความว่ายังไง”
“เกาะทดสอบแห่งนี้คล้ายกับภูเขาเทียนหมั่ง มันถูกจัดเตรียมมาเป็นพิเศษโดยสมาคมนักฝึกสัตว์อสูรในเมืองหลวงโบราณสำหรับการประเมินมืออาชีพ มีทรัพยากรระดับต่ำจำนวนมากอยู่ข้างใน และไม่มีสัตว์อสูรดุร้ายระดับผู้บัญชาการ มันเป็นสถานที่ซึ่งดีที่สุดสำหรับเราในการแสดงความสามารถของเรา”
“ตราบใดที่พวกเจ้ามีพลังงานมากพอ ประสิทธิภาพของเราในการได้รับทรัพยากรจะเร็วยิ่งกว่านักฝึกสัตว์อสูรคนอื่นหลายสิบเท่าอย่างแน่นอน”
ทุกปี ในการสอบเอาชีวิตรอดถิ่นทุรกันดารของการประเมินมืออาชีพ ผู้เข้าร่วมและสัตว์อสูรส่วนหนึ่งจะตาย ทว่าในขณะเดียวกัน ผู้ที่เอาชีวิตรอดมาได้ก็จะเติบโตได้ค่อนข้างดีจากดินแดนสมบัติแห่งนี้
ทรัพยากรเหล่านี้เป็นส่วนหนึ่งของผลประโยชน์ที่ผู้เข้าร่วมอาจได้รับเนื่องจากผู้เข้าร่วมต้องเผชิญหน้ากับความเสี่ยงในการประเมินมืออาชีพ
อย่างไรก็ตาม นั่นก็เป็นเพราะทรัพยากรเหล่านี้เองที่ทำให้เกาะทดสอบถูกใช้เพื่อเป็นสนามการทดสอบในเมืองหลวงโบราณในปีนี้ สัตว์อสูรดุร้ายเหล่านี้ถูกเลี้ยงดูเพื่อเป็นหินรองเท้าที่เตรียมไว้สำหรับผู้เข้าร่วมโดยสมาคมนักฝึกสัตว์อสูรเมืองหลวงโบราณ!
อีเลฟเว่นและบักกี้มองหน้ากัน
“เล่นใหญ่เลยไหม?” ซืออวี๋เอ่ยถามออกมา
“อู๋!!!” “จิ๋!!!”
อีเลฟเว่นยกแขนขึ้นและบักกี้ก็กระโดดลงมา
ลุย ลุย ลุย!
เพื่อเงิน! ด้วยเงินจำนวนมาก ซืออวี๋จะสามารถซื้ออาหารเสริมมากขึ้นและเพิ่มแต้มให้พวกมันได้!
อีเลฟเว่นไม่สนใจเกี่ยวกับการสอบเอาชีวิตรอดถิ่นทุรกันดาร นับประสาอะไรกับบักกี้ พวกมันมีทักษะการหลับลึก ดังนั้นการที่พวกมันจะปล้นทรัพยากรอย่างบ้าคลั่งเป็นเวลาสามวันสามคืนจึงไม่ใช่ปัญหาเลย
“ลุยเลย” พวกเขาทั้งสามได้ตกลงกันอย่างเป็นมติ
ดวงตาของอีเลฟเว่นและบักกี้เป็นประกายราวกับหมีที่หิวโหยและหนอนที่บ้าคลั่ง
สำหรับผู้เข้าร่วมธรรมดา การสอบที่สามนั้นยากมากอย่างแท้จริง พวกเขาไม่มีเวลาคิดหาทรัพยากร
อย่างไรก็ตาม ซืออวี๋นั้นแตกต่าง ภารกิจการสอบเหล่านั้นสบายสำหรับเขามาก
ก่อนเที่ยง อินเทอร์เฟซในเว็บของซืออวี๋ได้แสดงเวลารวมตัวและภารกิจการสอบของเขา
อีเลฟเว่นและบักกี้เข้ามา
ซืออวี๋ยังคงสงสัยอย่างมากเกี่ยวกับภารกิจที่สมาคมนักฝึกสัตว์อสูรใช้เพื่อกำหนดเป้าหมายเผ่าพันธุ์อสูรกินเหล็ก
หลังจากดูแล้ว ซืออวี๋ก็รู้สึกขบขันทันที
ภารกิจที่ 1 : การล่านกกระจอกวายุระดับเหนือธรรมชาติ
ภารกิจที่ 2 : การล่าดอกไม้หลวงหลอก
ภารกิจที่ 3 : การรวบรวมบัววารี
พวกเขารู้วิธีแก้ทางอีเลฟเว่นอย่างแท้จริง
นกกระจอกวายุเป็นสัตว์อสูรธาตุลมของเผ่าพันธุ์ระดับเหนือธรรมชาติขั้นกลาง มันเชี่ยวชาญปีกสายลมแลบินได้เร็วมาก
การให้อสูรกินเหล็กซึ่งบินไม่ได้และทำได้เพียงต่อสู้ระยะประชิดไปล่านกกระจอกวายุนั้นเป็นเรื่องยากมาก
ยิ่งกว่านั้น มันอยู่ในสถานที่ซึ่งอันตรายเช่นเกาะทดสอบที่มีสัตว์อสูรอยู่ทุกหนแห่ง นกกระจอกวายุที่นั่นมีความตื่นตัวมาก หากพวกมันเจอศัตรูที่แข็งแกร่ง พวกมันจะหนีไปในทันที ความยากในการล่าจะสูงขึ้นอย่างแน่นอน
ดอกไม้หลวงหลอกเป็นดอกไม้ปิรันย่าที่สามารถสร้างภาพมายาได้ มันชอบปลอมตัวเป็นรูปแบบต่างๆ และสะกดจิตเหยื่อก่อนที่จะกินเหยื่อของมัน
นี่เป็นพืชดุร้ายซึ่เก่งในดานการโจมตีทางจิต โดยทั่วไปแล้ว การที่จะรับมือกับมันด้วยอสูรกินเหล็กที่มีเพียงแค่การเคลือบแข็งนั้นเป็นไปไม่ได้เลย
สำหรับบัววารี มันเป็นทรัพยากรระดับสองที่เติบโตเฉพาะในน้ำ การที่อสูรกินเหล็กจะไปนำมันมาก็ไม่ใช่เรื่องง่ายเช่นเดียวกัน
ทั้งสามภารกิจถูกเลือกให้แก้ทางอสูรกินเหล็กธรรมดา
น่าเสียดาย อีเลฟเว่นไม่ใช่อสูรกินเหล็กธรรมดา ทว่าเป็นราชาแพนด้า
ในความคิดเห็นของซืออวี๋ ภารกิจเหล่านี้ไม่ยากเลย
เป้าหมายหลักของพวกเขาก็คือการใช้ประโยชน์จากการสอบนี้เพื่อรวบรวมทรัพยากรมากขึ้นและเสริมความร่ำรวยให้แก่คลังของพวกเขา
“ผู้เข้าร่วมทุกคนที่เข้าร่วมในการสอบเอาชีวิตรอดถิ่นทุรกันดารจะมีสามภารกิจ เพื่อผ่านการสอบต้องทำภารกิจให้สำเร็จอย่างน้อยสองภารกิจในเวลาสามวันแห่งการเอาชีวิตรอด”
“ความยากนั้นใกล้เคียงกัน”
แม้ว่าซืออวี๋รู้สึกว่าเขาสามารถทำพวกมันได้สำเร็จได้ แต่หากเป็นผู้เข้าร่วมธรรมดาคนอื่นที่มีอสูรกินเหล็ก เขาจะะต้องล้มเหลวอย่างแน่นอน
เว้นเสียแต่ว่าสัตว์อสูรตัวอื่นของผู้เข้าร่วมคนนี้จะแก้ทางทั้งสามภารกิจเหล่านี้
ตัวอย่างเช่น หากสัตว์อสูรตัวแรกคืออสูรกินเหล็กและสัตว์อสูรตัวที่สองคือสุดยอดหนูบิน ภารกิจทั้งสามจะสำเร็จโดยตรง คลื่นพลังจิตจำกัดการบินของนกกระจอกวายุ และประเภทพลังจิตก็แก้ทางภาพมายาของดอกไม้หลวงหลอก ทักษะโคลนก็สามารถใช้เพื่อไปเอาทรัพยากรได้
แน่นอนว่าสถานการณ์เช่นนี้ยังคงเป็นส่วนน้อย
ผู้เข้าร่วมส่วนใหญ่ แม้ว่าพวกเขาจะมีสัตว์อสูรตัวที่สอง แต่พวกเขาก็มีสัตว์อสูรแค่ประเภทเดียว
ท้ายที่สุด นักฝึกสัตว์อสูรที่มีธาตุโลหะจะไม่ทำสัญญากับสัตว์อสูรธาตไฟ
ดังนั้นนี่จึงเป็นเหตุผลว่าทำไมจึงมีเพียงไม่กี่คนที่ผ่านการประเมินมืออาชีพในเมืองหลวงโบราณในแต่ละปี
การผ่านการสอบเอาชีวิตรอดถิ่นทุรกันดาร เงื่อนไขแรก เอาชีวิตรอดสามวันบนเกาะทดสอบ เงื่อนไขที่สอง ทำสองภารกิจให้สำเร็จภายในสามวัน
ผู้เข้าทำสำเร็จทั้งสองเงื่อนไขจะกลายเป็นนักฝึกสัตว์สูรมืออาชีพอย่างเป็นทางการ
สำหรับผู้ที่ทำไม่สำเร็จ นั่นไม่ใช่เรื่องเป็นไปไม่ได้ ท้ายที่สุด มีความบังเอิญหลายอย่างในระหว่างการประเมินมืออาชีพ ไม่ใช่ผู้เข้าร่วมทุกคนที่จะสามารถค้นหาเป้าหมายการล่าได้อย่างรวดเร็ว
ในระหว่างการสอบเอาชีวิตรอดถิ่นทุรกันดาร ผู้เข้าร่วมจะได้รับหนึ่งแต้มสำหรับการล่าสัตว์อสูรระดับเหนือธรรมชาติหนึ่งตัว โดยไม่คำนึงถึงประเภทของสัตว์อสูร ท้ายที่สุด หลังจากสามวัน นักฝึกสัตว์อสูรที่ทำภารกิจไม่สำเร็จก็จะถูกจัดอันดับตามแต้ม ในเวลานั้น นักฝึกสัตว์อสูรที่มีแต้มสูงสุด 5% จะสามารถกลายเป็นนักฝึกสัตว์อสูรมืออาชีพได้เช่นเดียวกับผู้เข้าร่วมที่ทำภารกิจสำเร็จ
ทุกปี ในบรรดาผู้เข้าร่วมเกือบหมื่นคนในเมืองหลวงโบราณ มีเพียงไม่กี่ร้อยคนเท่านั้นที่จะกลายเป็นนักฝึกสัตว์อสูรมืออาชีพ
ปริมาณนั้นมากยิ่งกว่าเมืองชั้นสองหลายเท่า เช่น การประเมินมืออาชีพในเมืองทุ่งน้ำแข็ง
สำหรับการต่อสู้จัดอันดับสุดท้าย มันเป้นส่วนเสริม ลักษณะของการต่อสู้ค้ลายกับการแข่งขัน มันเป็นการให้ผู้เข้าร่วมที่ผ่านการสอบที่สามได้แสดงความแข็งแกร่งเฉพาะตัวของพวกเขา เมื่อถึงเวลานั้น คนดูจะมหาศาล
การต่อสู้จัดอันดับสุดท้ายนี้ยังช่วยให้มหาวิทยาลัยหลักและบริษัทเข้าใจความแข็งแกร่งที่แท้จริงของกลุ่มมืออาชีพหน้าใหม่นี้
“ไปรวมกันที่สนามบินที่สองในเมืองหลวงโบราณในวันพรุ่งนี้ตอน 7 นาฬิกาเหรอ?”
หลังจากที่ซืออวี๋ยืนยันจุดรวมตัวและเวลาสำหรับวันพรุ่งนี้ เขาจึงตัดสินใจที่จะเลือกทำเช่นเดิมอีกครั้ง
ระยะทางยังคงไม่ใกล้ ทำไมเขาไม่ค้างคืนที่นั่นในวันนี้ล่ะ?
เหตุผลที่พวกเขาให้วันหยุดหนึ่งวันแก่ผู้เข้าร่วมไม่ใช่เพื่อให้ผู้เข้าร่วมพักผ่อน ทว่าเพื่อให้ผู้เข้าร่วมได้เตรียมทรัพยากรอย่างรวดเร็วตามภารกิจการสอบและวางแผน อย่างไรก็ตาม ซืออวี๋ไม่ต้องเตรียมอะไรเลย ดังนั้นเขาจึงผ่อนคลายมากเป็นพิเศษ…
…
“พวกเขาทุกคนอยู่ที่นี่”
เมื่อซืออวี๋ออกมา เจ็ดยอดนักโบราณก็กำลังเล่นกับลูกอสูรกินเหล็กที่ถูกส่งมาจากฐานเพาะพันธุ์ไผ่เหล็ก
เมื่อพวกเขาเห็นซืออวี๋ออกมา พวกเขาก็เอ่ยถามทันทีว่า “ภารกิจการสอบออกมาหรือยัง? มันคืออะไร?”
“นกกระจอกวายุ ดอกไม้หลวงหลอก ทรัพยากรระดับสอง” ซืออวี๋กล่าวออกมาอย่างสบาย
เจ็ดยอดนักโบราณคดีพยักหน้าและไม่ได้กล่าวสิ่งใด ท้ายที่สุด พวกเขาล้วนเป็นผู้เข้าร่วมที่ผ่านการประเมินมืออาชีพมาแล้ว
เขารู้ว่าภารกิจการสอบแก้ทางสัตว์อสูรธรรมดา ทว่าพวกมันไม่สามารถยับยั้งอสูรกินเหล็กน้อยของซืออวี๋ซึ่งเทียบได้กับลูกสัตว์อสูรเผ่าพันธุ์ระดับราชันย์ได้เลย
ซืออวี๋จะผ่านการสอบนี้ได้อย่างง่ายดายแน่นอน แม้ว่าเขาจะทำภารกิจไม่สำเร็จ แต่การให้อสูรกินเหล็กน้อยเอาชนะสัตว์อสูรจำนวนมากก็ไม่ใช่เรื่องยากเลย เขาสามารถเลือกได้ว่าจะกำจัดสัตว์อสูรระดับเหนือธรรมชาติเพื่อรับแต้มได้
อย่างไรก็ตาม สิ่งที่ทำให้เจ็ดยอดนักโบราณคดีกังวลก็คือเมื่อพวกเขาเอ่ยถามซืออวี๋ว่าสัตว์อสูรตัวที่สองของเขาคืออะไร เขาก็บอกว่ามันคือหนอนไหมเขียว
หนอนไหมเขียวที่ยังไม่ได้วิวัฒนาการ!
นี่อึดอัดมาก นี่ไม่ได้หมายความว่าซืออวี๋จะต้องต่อสู้ด้วยสัตวือสูรเพียงตัวเดียวตลอดทั้งการสอบหรอกเหรอ? รวมถึงการต่อสู้จัดอันดับสุดท้าย…
“เจ้ากำลังทำอะไรเหรอ?”
ในขณะนี้ เมื่อเขาเห็นว่าซืออวี๋เดินมาพร้อมกับกระเป๋า เจิ้งอิ๋งเจียก็เอ่ยถามด้วยความสงสัย “อย่าบอกนะว่าเจ้ากำลังจะหาที่พักใกล้กับสนามสอบ?”
“นั่นคือแผนของข้า” ซืออวี๋หัวเราะอย่างบางเบา
ไม่มีใครคาดคิดว่าซืออวี๋จะติดการนอนใกล้สนามสอบ เขาไม่ต้องการตื่นเช้าเลยอย่างแท้จริง
นิสัยเช่นนี้… หากเขาเข้าสู่สงคราม เขาจะไม่วิ่งไปที่ทางเข้าค่ายศัตรูเพื่อนอนหลับในตอนกลางคืนหรอกเหรอ?
เมื่อกล่าวถึงเรื่องนี้ มีปัฯหาใหญ่เกี่ยวกับวิถีชีวิตของซืออวี๋!
เขาออกมาตอนใกล้จะถึงเที่ยง มันเป็นเช่นเดียวกันในก่อนหน้านี้ ซืออวี๋ทำอะไรตอนกลางคืนเหรอ?
ทำสมาธิจนดึกเหรอ?
ซืออวี๋ไม่มีทางเลือก เขาจำเป็นต้องนอนให้มากขึ้นเมื่อเขาโตขึ้น…
“เจ้าอยากให้ข้าไปส่งไหม?” หลินหยูเอ้อกล่าวออกมา
ซืออวี๋ : “ไม่เป็นไร ข้าจะไปเอง”
เนื่องจากเขาไม่คุ้นเคยกับเจ็ดยอดนักโบราณคดีมากเท่ากับที่เขาคุ้นเคยกับรุ่นพี่แพนด้า เขาจึงไม่รบกวนพวกเขา
เมื่อกล่าวถึงเรื่องนี้ รุ่นพี่แพนด้าไปที่ไหนแต่เช้าล่ะ?
อย่างไรก็ตาม นั่นไม่สำคัญ หลังจากคุยกับเจิ้งอิ๋งเจียแล้ว ซืออวี๋ก็ออกจากสถาบันวิจัยไปอย่างเยือกเย็น
ในขณะเดียวกัน อีเลฟเว่นขนาดพกพาก็คลานออกมาจากกระเป๋าของซืออวี๋ บักกี้ก็โผล่หัวของมันออกมา
ต่อไปก็คือการสอบเอาชีวิตรอดถิ่นทุรกันดาร ซืออวี๋ตัดสินใจที่จะปล่อยให้พวกมันคุ้มกันเขานับตั้งแต่นี้เป็นต้นไป มีเพียงวิธีนี้ ซืออวี๋ถึงจะรู้สึกปลอดภัย
ซืออวี๋รู้สึกว่าเพียงแค่การไร้ตัวตนนั้นยังไม่พอ!
“ข้าลืมถามปรมจารย์หลินไปเลย พลังต่อสู้ของนักฝึกกสัตว์อสูรจะแข็งแกร่งมากเพียงใดเมื่อหลอมรวมเข้ากับการเคลือบแข็งขั้นเหนือธรรมชาติของอสูรกินเหล็ก?”
ทันทีที่ซืออวี๋ออกมา เขาก็ตกอยู่ในห้วงความคิดลึก หากอีเลฟเว่นเคลือบแข็งทั้งร่างกายของเขา ซืออวี๋จะสามารถเอาชนะสัตว์อสูรดุร้ายระดับเหนือธรรมชาติได้ด้วยหนึ่งหมัดไหม?
แม้ว่าเขาจะถูกทุบตีอย่างหนักในครั้งที่ผ่านมา แต่ซืออวี๋ก็ยังคงมีความฝันในศิลปะการต่อสู้…
…
สนามบินที่สองของเมืองหลวงโบราณ
ที่นี่มีพื้นที่ค่อนข้างเล็กเมื่อเทียบกับสนามบินแรก และมันก็ไม่ค่อยเปิด หลังจากเปิดให้บริการแล้ว ทุกเที่ยวบินของมันก็คือการบินสำหรับธุรกิจขนาดใหญ่
ตัวอย่างเช่น มหาวิทยาลัยเมืองหลวงโบราณต้องการส่งนักศึกษากลุ่มหนึ่งไปยังเมืองหลวงเพื่อแลกเปลี่ยนและเรียนรู้ หรือกองทัพนักฝึกสัตว์อสูรในเมืองหลวงโบราณต้องการไปยังสถานที่แห่งหนึ่งเพื่อทำภารกิจ ในเวลานี้ สนามบินที่สองใกล้จะเปิดแล้ว
เมื่อซืออวี๋มาถึง นั่นก็เที่ยงแล้ว สนามบินยังคงปิดอยู่ เขาเริ่มมองหาร้านอาหาร
ในห้องส่วนตัวของร้านอาหาร ซืออวี๋ได้ติดต่อกับปรมจารย์หลิน
“ซืออวี๋ การประเมินราบรื่นไหม?”
“ใกล้จะถึงเวลาสำหรับการสอบที่สามแล้วใช่ไหม?”
ในอีกด้านหนึ่ง เสียงหัวเราะของปรมจารย์หลินดังออกมา
“ใช่แล้ว ขอบคุณมาก การสอบที่สามไม่มีปัญหาอย่างแน่นอน” ซืออวี๋กล่าวออกมา
ส่วนที่ยากที่สุดของการสอบเอาชีวิตรอดถิ่นทุรกันดารก็คือสัตว์อสูรไม่สามารถฟื้นฟูพละกำลังของพวกมันได้ทันเวลา อย่างไรก็ตาม การประเมินมืออาชีพมีมนุษยธรรมมาก มันไม่ได้กีดกันความมั่งคั่งของนักฝึกสัตว์อสูรจากความแข็งแกร่งของพวกเขา มันอนุญาตให้นักฝึกสัตว์อสูรนำอาหารเสริม ยา และแม้กระทั่งคริสตัลพลังงานมาฟื้นฟูพละกำลังได้
โดยธรรมชาติแล้ว คนเช่นซืออวี๋ได้เตรียมพวกมันไว้เป็นกอง
ในบรรดาพวกมัน คริสตัลพลังงานถูกมอบให้มาโดยปรมจารย์หลินเมื่อเขาติดต่อกับศูนย์ฝึกศิลาไผ่ก่อนที่เขาจะออกจากเขตผิงเฉิง พวกมันเพียงพอสำหรับอีเลฟเว่นที่จะใช้เป็นเวลาหนึ่งเดือน
“ข้าต้องการถามเจ้าว่าอสูรกินเหล็กควรร่วมมือกับนักฝึกสัตว์อสูรยังไงหลังจากเชี่ยวชาญการเคลือบแข็งขั้นเหนือธรรมชาติ”
“เพียงแค่ใช้สารเคลือบแข็งกับนักฝึกสัตว์อสูรผ่านการสัมผัสเหรอ? จไม่มีอันตรายใช่ไหม?”
ซืออวี๋กำลังรอคำตอบ ทว่าอีกด้านหนึ่งกลับเงียบ
“สัญญาณไม่ดีเหรอ?”
“แปลก… ได้ยินไหม?”
หลินฮงเหนียน : บัดซ*
เขากำลังคิดว่าทำไมซืออวี๋ถึงเอ่ยถามถึงเรื่องนี้
หลินฮงเหนียนกล่าวว่า “อย่าบอกข้านะว่าความเชี่ยวชาญของอีเลฟเว่นถึงขั้นเหนือธรรมชาติแล้ว…”
อย่ามาล้อเล่น!
เพิ่งผ่านมาครึ่งปีนับตั้งแต่ทำสัญญา! ยิ่งกว่านั้น อีเลฟเว่นยังไม่ปลุกการเคลือบแข็งเลยในตอนที่ทำสัญญา!
“ใช่แล้ว เจ้าจะเชื่อไหมหากข้ากล่าวเช่นนี้?” ซืออวี๋ยิ้มออกมา
“ข้าเชื่อเจ้า” ปรมจารย์หลินฮงเหนียนส่ายหัวของเขา
“ความสามารถนี้สามารถใช้กับนักฝึกสัตว์อสูรได้จริง และจะไม่ส่งผลกระทบต่อนักฝึกสัตว์อสูร ทว่านั่นขึ้นอยู่กับการสัมผัส หากนักฝึกสัตว์อสูรและอสูรกินเหล็กไม่ได้สัมผัสกัน สารเคลือบแข็งจะหายไปโดยอัตโนมัติ ดังนั้นกลยุทธ์นี้จึงไม่ดีมากนัก โดยทั่วไปแล้ว ความสามารถนี้ใช้เฉพาะในตอนที่นักฝึกสัตว์อสูรเผชิญหน้ากับการโจมตีระยะไกลที่ทรงพลังเท่านั้นและไม่สามารถหลบได้”
“กล่าวโดยย่อแล้ว มันไม่มีประโยชน์เลย เมื่อเทียบกับฝากชีวิตไว้กับความสามารถนี้แล้ว การฝากชีวิตไว้กับสัตว์อสูรที่ว่องไวและสามารถสร้างโล่ได้จะดีกว่า” ปรมจารย์หลินฮงเหนียนให้คำแนะนำแก่เขา “อสูรกินเหล็กไม่เหมาะที่จะเป็นผู้คุ้มกันเลย”
การเคลือบแข็งขั้นเหนือธรรมชาติ มันไม่ดีเลย! ปรมจารย์หลินได้สัมผัสอย่างลึกซึ้งในทุกด้านแล้ว
“ตกลง” ซืออวี๋เพียงแค่อยากหายสงสัย
เขาไม่สามารถรักษาอาคิเกราะไว้ในร่างกายมนุษย์ได้เป็นเวลานานเพื่อที่จะได้กลายเป็นไอร่อนแมน…
นั่นน่าเบื่อมาก
ทักษะระดับต่ำ ไร้ประโยชน์! เขาลงทุนไปเยอะมาก
เดี๋ยวก่อน… ดูเหมือนว่าจะมีขั้นสูงสุดรอคอยอยู่ใช่ไหม?
“ข้าไม่มีอะไรแล้ว ถ้าเช่นนั้นข้าจะไม่รบกวนเจ้าแล้ว” หลังจากที่ซืออวี๋กล่าวกับปรมจารย์หลิน ทั้งสองฝ่ายก็ว่างสาย
ในไม่ช้า ซืออวี๋ก็ออกมาจากร้านอาหาร หาพื้นที่ว่าง และหายตัวไปจากโลก
เขาต้องการที่จะฉีกข้อสอบและผ่อนคลาย เขาต้องการเตรียมตัวำสหรับการสอบเอาชีวิตรอดถิ่นทุรกันดารในวันพรุ่งนี้ อย่างไรก็ตาม มีสิ่งหนึ่งที่แน่นอนก็คือเนื้อหาของการสอบข้อเขียนนั้นบันทึกความรู้ในการเอาชีวิตรอดไว้เยอะมาก หากเขารู้พวกมันทั้งหมด ความสามารถในการเอาชีวิตรอดในถิ่นทุรกันดารของเขาก็จะต้องเหนือกว่าคนอื่นอย่างแน่นอน
การไม่ฉีกมันจะดีกว่ามาก ให้อีเลฟเว่นและบักกี้อ่านอีกครั้ง แม้ว่าพวกมันจะสามารถบดขยี้การสอบด้วยความแข็งแกร่งของพวกมันก็ตาม แต่ใครจะรู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้น?
…
วันที่ 3 เดือนมกราคม
เวลาผ่านไปอย่างรวดเร็ว
ในชั่วพริบตาก็ถึงวันสอบเอาชีวิตรอดถิ่นทุรกันดาร
ผู้เข้าร่วมมากกว่า 6,000 คนรวมตัวกันนอกสนามบินที่สอง ห่างออกไปไม่ไกล มีคนดูมากมาย
นอกจากนี้ สื่อของสถานีโทรทัศน์เมืองหลวงโบราณก็ยังค้นหาผู้เข้าร่วมที่มีชื่อเสียงอย่างบ้าคลั่งและต้องการสัมภาษณ์พวกเขา
อย่างไรก็ตาม มีคนจำนวนมากเกินไปและหาพวกเขาได้ยากเกินไป
สำหรับผู้เข้าร่วมเช่นหยินเจิ้งฟาน จางเฉียนอี๋ เหมียวเซียวตง ซืออวี๋ และหยูซูผู้ที่สร้างชื่อเสียงให้กับตัวเองเล็กนอยในการสอบพื้นฐาน นักข่าวไม่สามารถตามหาพวกเขาได้เลย
ในท้ายที่สุด นักข่าวก็ทำได้เพียงแค่เลือกผู้เข้าร่วมเพียงไม่กี่คนที่มีลักษณะพอใช้ได้เพื่อสัมภาษณ์ โดยหวังว่าพวกเขาจะบังเอิญแบ่งปันภารกิจการสอบของพวกเขา
เวลา 7 นาฬิกา
ประตูสนามบินที่สองถูกเปิดออก ภายใต้การนำทางของทหารแห่งกองทัพนักฝึกสัตว์อสูร ผู้เข้าร่วมได้เข้าไปเป็นกลุ่ม พวกเขายืนอยู่ในขบวนขนาดใหญ่
เมื่อมีคนมากขึ้น ทุกคนจึงดูไร้ตัวตนมาก ซืออวี๋ยืนอยู่ท่ามกลางฝูงชน และรอคอยการเตรียมการของคณะกรรมการอย่างเงียบงันเช่นเดียวกับคนอื่น
ในไม่ช้า ภายใต้การนำทางของผู้คุมสอบและทหารที่รักษาความสงบ ผู้เข้าร่วมนับ 6,000 คนก็ขึ้นเครื่องบินขนาดใหญ่ 6 ลำ
“บัดซ* เครื่องบินลำเดียวรองรับคนได้นับพันคน ข้าสงสัยว่ามันเผ่าพันธุ์ระดับอะไร อย่างน้อยมันต้องเป็นเผ่าพันธุ์ระดับผู้บัญชาการขั้นสูง”
ผู้เข้าร่วมคนหนึ่งอุทานทันทีหลังจากขึ้นไป
ทว่าในไม่ช้า เขาก็ได้รับสายตาดูถูกเหยียดหยามจากผู้เข้าร่วมคนอื่น
ดูสีหน้าอันไร้เดียงสานี้สิ
“มีคำตอบ…” ซืออวี๋ยิ้มหลังจากลุกจากที่นั่ง
เขาไม่รู้ว่าใครแข็งแกร่งกว่ากันระหว่างนักฝึกสัตว์อสูรโบราณและนักฝึกสัตว์อสูรยุคใหม่
อย่างไรก็ตาม เขารู้ว่านักฝึกสัตว์อสูรยุคใหม่ต้องสะดวกสบายยิ่งกว่าสมัยโบราณ ประสบการณ์นี้เกิดจากชีวิตจักรกลที่มีคริสตัลเทคโนโลยี
คอมพิวเตอร์ โทรศัพท์ รถยนต์ และเครื่องบิน สมับโราณไม่มีของเช่นนี้ใช่ไหม?
ในด้านของพรสวรรค์ ช่างกลเหล่านั้นอาจไม่ด้อยไปกว่านักฝึกสัตว์อสูรที่เชี่ยวชาญวิธีการบ่มเพาะพิเศษในสมัยโบราณเลย
อันที่จริง ชีวิตจักรกลเหล่านี้สามารถทะลุผ่านชั้นบรรยากาศและพาผู้คนไปยังดวงจันทร์ได้
เมื่อเทียบกันแล้ว แม้กระทั่งในยุคเทพนิยาย ไม่ใช่สัตว์อสูรเทพนิยายทุกตัวที่จะสามารถทะลวงผ่านพันธนาการของดาวเคราะห์สีน้ำเงินได้ใช่ไหม?
และในตอนนี้ การดัดแปลงพิเศษ รูปแบบชีวิตจักรกลเทพนิยายสามารถทำมันได้ มันกลายเป็นอาวุธต้องห้ามของประเทศอย่างสมบูรณ์ ยับยั้งสัตว์อสูรโทเท็มและประเทศอื่นจากระยะไกล
“เฮ้อ…”
การขนส่งทางอากาศแบ่งออกเป็นสามระดับ เห็นได้ชัดว่ามันเป็นรูปแบบชีวิตจักรกลซึ่งคล้ายกับเครื่องบิน หลังจากซืออวี๋ขึ้นมา เขาก็นั่งลงอย่างสบายใจ ข้างเขาเป็นเด็กที่ดูประหม่ามาก
เขาถอนหายใจ ทำให้ซืออวี๋รู้สึกหดหู่เล็กน้อย
เเนื่องจากเขามาถึงจุดนี้แล้ว เขาควรจะมีความสุขมากกว่านี้
“เจ้าถอนหายใจเพื่ออะไรเหรอ?” แม้ว่าซืออวี๋จะไม่รู้จักเขา แต่ซืออวี๋ก็ตัดสินใจที่จะสั่งสอนเขาด้วยความคิดที่จะช่วยเหลือผู้อื่น
“ปะ-ประหม่า” เด็กชายกล่าวออกมา
“จ้าได้ยินมาว่าสนามสอบค่อนข้างอันตราย…”
“มันค่อนข้างอันตรายเลย…”
“ใช่แล้ว ต้นไม้เยือกแข็งของข้ามีค่าพลังงานเพียง 1,300 คะแนนในการสอบพื้นฐาน ข้าสงสัยว่ามันจะพอไหม?” เด็กชายกล่าวอย่างถ่อมตัว
ซืออวี๋ : “?”
ซืออวี๋หันหัวและไม่ยุ่งเกี่ยวกับธุระของคนอื่นอีกต่อไป
เด็กชายผู้นี้เพียงแค่อยากอวดผลงานของเขาใช่ไหม?
1,300 คะแนน ต้นไม้เยือกแข็งเผ่าพันธุ์ระดับผู้บัญชาการขั้นต่ำ เขาไม่คิดว่าเขาจะทำลายทุกสิ่งในถิ่นทุรกันดารหรอกเหรอ? เจ้าประหม่าเพื่ออะไรกัน!
ผู้เข้าร่วมที่มีค่าพลังงานประมาณ 500 คะแนนยังไม่ได้กล่าวอะไรที่หดหู่เช่นนี้เลย
“แล้วเจ้าล่ะ?” เขารีบถามผลลัพธ์ของซืออวี๋ซึ่งยืนยันการคาดเดาของซืออวี๋ได้มากยิ่งขึ้น
“เดาสิ” ซืออวี๋กล่าวด้วยรอยยิ้ม
“ซิ…”
“ซิ…”
“พวกเจ้าได้ยินข้าไหม?”
ในขระนี้ เสียงที่ทุ้มและแหบห้าวดังมาจากภายในเครื่องบิน
มันเป็นเสียงของจักรกล คนที่กล่าวออกมาไม่ควรจะอยู่บนเครื่องบิน
“ข้าเป็นผู้รับผิดชอบหลักของการประเมินมืออาชีพนี้”
“อย่างแรก ขอแสดงความยินดีกับการผ่านสองการสอบแรกให้สำเร็จ”
“อย่างไรก็ตาม การสอบที่สามเป็นกุญแจสำคัญในการประเมินมืออาชีพ ข้าไม่รู้ว่าพวกเจ้าพร้อมไหม ทว่าสายเกินไปแล้วที่จะเสียใจ”
“ต่อไป พวกเจ้าทุกคนจะถูกส่งไปยังเกาะทดสอบเพื่อรับการสอบเอาชีวิตรอดสามวัน พวกเจ้าโชคดีมากอย่างแท้จริง ในเวลาเดียวกัน มีทรัพยากรหายากจำนวนมากบนเกาะซึ่งมีเกือบทุกหนแห่ง มีแม้กระทั่งทรัพยากรประเภทมิติและมังกรที่หาได้ยาก พวกเจ้ามีโอกาสมากมายที่จะใช้ทรัพยากรพวกนี้เพื่อเสริมพลังตัวเอง”
“สิ่งที่ข้าต้องการเตือนพวกเจ้าในตอนนี้ก็คือการประเมินมืออาชีพนั้นส่งเสริมการแข่งขัน หากผู้เข้าร่วมสองคนค้นพบทรัพยากรพร้อมกัน ตราบใดที่ไม่ทำให้นักฝึกสัตว์อสูรเกิดการบาดเจ็บ พวกเจ้าก็สามารถแข่งขันกันเพื่อสิทธิ์ในการเป็นเจ้าของด้วยวิธีไหนก็ได้ ไม่ว่าจะเป็นการต่อสู้หรือการแบ่งกันอย่างเท่าเทียมกัน ทั้งหมดขึ้นอยู่กับพวกเจ้า”
“แน่นอน นี่เป็นเพียงผลประโยชน์เสริมสำหรับการประเมินมืออาชีพ สิ่งที่สำคัญที่สุดสำหรับพวกเจ้าก็คือการทำภารกิจการสอบให้สำเร็จและเอาชีวิตรอด”
“ในระหว่างการสอบ โปรดให้ความสำคัญกับความปลอดภัยของพวกเจ้า หากพวกเจ้าพบอันตราย พวกเจ้าสามารถขอความช่วยเหลือจากผู้เข้าร่วมคนอื่นหืรอยอมแพ้ในการสอบ แม้ว่าการประเมินมืออาชีพจะส่งเสริมการแข่งขัน แต่ก็ส่งเสริมความช่วยเหลือซึ่งกันและกัน อย่างไรก็ตาม โปรดจำไว้ว่าไม่ว่าจะเป็นการล่าสัตว์อสูรดุร้ายหรือการทำภารกิจให้สำเร็จ พวกเจ้าจะได้รับอนุญาตให้ทำมันด้วยได้ด้วยความแข็งแกร่งของพวกเจ้าเท่านั้น ผลงานของทีมนั้นไร้ประโยชน์ คณะกรรมการจะจับตาดูพวกเจ้าตลอดเวลา”
เสียงที่ไม่คุ้นเคยดังก้องอยู่ในหูของผู้เข้าร่วมทุกคนผ่านเครื่องบินเป็นเวลานาน
ไม่เพียงแค่มันจะกระตุ้นให้ผู้เข้าร่วมช่วยเหลือกันเมื่อตกอยู่ในอันตรายเท่านั้น แต่มันยังส่งเสริมการแข่งขันเมื่อพบทรัพยากรเช่นกัน?
ซืออวี๋แตะคางของเขา เขาไม่ได้กังวลเกี่ยวกับเรื่องนี้เลย ทว่าเขาได้ยินว่ามีทรัพยากรมิติเหรอ?
นี่ดีเกินไปแล้ว
ท้ายที่สุด ทรัพยากรประเภทมิติเช่นผลไม้คริสตัลมิติก็มีราคาสูงถึง 500,000 หยวนต่อลูก
ทรัพยากรธาตุมิติมีค่าไม่ต่ำกว่าหกหลัก กล่าวอีกนัยหนึ่ง มันมีค่าเท่ากับถั่วเซียนหลายเม็ด เขาต้องทำงานหนัก
นอกเหนือจากการแข่งขันเพื่ออันดับที่สูงขึ้นในระหว่างการต่อสู้จัดอันดับ เขาไม่สามารถละทิ้งทรัพยากรได้เลยในเวลานี้ แม้ว่าเขาจะไม่ได้เอาพวกมันไป แต่สัตว์อสูรดุร้ายบนเกาะก็จะเอาพวกมันไปอยู่ดี นั่นคงจะเปล่าประโยชน์มาก
“เรากำลังจะถึงจุดหมายในอีกสามนาที…”
ในเครื่องบิน ขณะที่ผู้เข้าร่วมกำลังคิดอย่างเงียบเชียบเกี่ยวกับคำกล่าวของผู้รับผิดชอบหลักก็ได้มีเสียงหนึ่งดังออกมาจากเครื่องบิน
ในขณะนี้ เครื่องบินได้เริ่มขึ้นบินแล้ว เกาะทดสอบอยู่นอกเมืองหลวงโบราณ มันไม่ไกลมากนัก ด้วยความเร็วสูงสุดของเครื่องบินนี้ มันสามารถไปถึงจุดหมายไดในเวลาไม่กี่นาที
มันไม่สั่นเลยแม้แต่น้อย ในขณะที่ทุกคนตกอยู่ในความงุนงง เสียงอิเล็กทรอนิกส์ก็ดังมาจากเครื่องบิน
“ถึงจุดหมายแล้ว… โปรดทำตามคำแนะนำและมุ่งหน้าไปยังทางออกเครื่องบินอย่างเป็นระเบียบ…”
ผ่านไปสักพักหนึ่ง
นอกเมืองหลวงโบราณ เหนือเกาะขนาดใหญ่ที่มีขนาดเท่ากับเมือง มีจุดสีดำจำนวนนับไม่ถ้วนตกลงมา!
เครื่องบินขนาดใหญ่หกลำลอยอยู่เหนือท้องฟ้าสีคราม ร่างต่างๆ เดินออกมาจากเครื่องบินทีละคนและค่อยๆ ร่อยลงสู่จุดต่างๆ บนเกาะทดสอบ!
มันไม่ใช่การกระโดดร่ม ทว่าแสงสีฟ้าได้กระจายไปทั่วผู้เข้าร่วมทุกคน
พลังจิต!
หากสังเกตอย่างละเอียด พวกเขาจะพบว่าสูงขึ้นไปบนท้องฟ้า ในเทเลเมฆสีขาว มีดวงตาขนาดใหญ่ที่กว้างนับร้อยเมตรกำลังมองลงมาอย่างเงียบสงบ
ดวงตาเป็นประกายด้วยแสงสีฟ้า
มันใช้พลังจิตของมันเพื่อโยนผู้เข้าร่วมทุกคนลงมาจากท้องฟ้าไปยังตำแหน่งที่ถูกกำหนดไว้
[ชื่อ] : เนตรแห่งนภา
[คุณสมบัติ] : จักรกล จิตวิญญาณ
[ระดับเผ่าพันธุ์] : ราชันย์ขั้นกลาง
[ทักษะเผ่าพันธุ์] : พลังจิต เนตรสวรรค์ การปราบปราม
[หมายเหตุ] : มันเป็นชีวิตจักรกลประดิษฐ์ มันมีความสามารถในการวิเคราะห์และพลังจิตที่ทรงพลังยิ่งกว่าสุดยอดคอมพิวเตอร์
แม้ว่าการประเมินมืออาชีพในเมืองหลวงโบราณจะเข้มงวดและเข้มข้นที่สุด แต่ในขณะเดียวกัน ทรัพยากรที่ลงทุนในการประเมินมืออาชีพที่จัดโดยเมืองชั้นหนึ่งก็ไม่ใช่สิ่งที่เมืองชั้นสองเหล่านั้นจะเทียบได้เลย นี่เป็นเหตุผลว่าทำไมการแข่งขันสำหรับการประเมินมืออาชีพในเมืองชั้นหนึ่งจึงรุนแรงมาก และยังมีคนมากมายที่เข้ามาท้าทายมัน
ร่างกายของเขาถูกห่อหุ้มด้วยพลังจิต ในขณะที่ซืออวี๋ลงมาจากท้องฟ้าอย่างเชื่องช้า เขาก็เงยหน้าขึ้นและมองไปที่ดวงตาขนาดใหญ่บนท้องฟ้า
“มันสูงเกินไป ข้าจับมันไม่ได้”
“ทว่าลืมไปเถอะ สุดยอดทักษะเนตรสวรรค์ไม่มีประโยชน์มากนัก มันไม่สามารถพัฒนาได้ ดังนั้นมันจึงด้อยกว่าสุดยอดการมองเห็นขั้นสูงสุดมาก”
…
ชื่อเดิมของเกาะทดสอบไม่ใช่สิ่งสำคัญอีกต่อไป หลังจากที่สมาคมนักฝึกสัตว์อสูรได้เลือกมันเป็นสนามสอบการเอาชีวิตรอดถิ่นทุรกันดารสำหรับการประเมินมืออาชีพ ชื่อของสถานที่แห่งนี้ก็เป็นชื่อนี้มาโดยตลอด
เกาะมีขนาดใหญ่มาก และมีสัตว์อสูรดุร้ายมากกว่า 100,000 ตัวอยู่ทุกหนแห่งบนเกาะ อย่างไรก็ตาม ขนาดและความแข็งแกร่งของสัตว์อสูรดุร้ายนั้นอยู่ภายใต้การควบคุมของสมาคมนักฝึกสัตว์อสูรมาโดยคลอด ท้ายที่สุด ในฐานะสนามสอบของการประเมินมืออาชีพ ไม่ควรจะมีสัตว์อสูรระดับผู้บัญชาการ
ในเวลานี้ บนเกาะทดสอบ ในเมืองเขา ในภูเขาหิมะ ใต้ภูเขาไฟ ในป่า ข้างป่า… ในสถาพแวดล้อมที่ต่างๆ มีผู้เข้าร่วมที่ถูกโยนเข้าไปใกล้กับเป้าหมายการล่าของพวกเขาแล้ว
เนื่องจากเกาะนี้มีขนาดใหญ่ ผู้เข้าร่วมจึงไม่สามารถพบมันได้อย่างง่ายดายนักในเวลาอันสั้น
ป่าสนธยา
ซืออวี๋ควรจะลงที่นี่ ในเวลานี้ ซืออวี๋ต้องการสาปแช่ง
พวกเขาส่งเขาลงจุดที่ดีกว่านี้ไม่ได้เหรอ? ชายทะเลที่ขอบของเกาะนั้นดีมากเลย!
“อู๋!!”
“จิ๋!!!”
อีเลฟเว่นปีนขึ้นไปบนไหล่ของซืออวี๋ และบักกี้ก็ปีนขึ้นไปบนไหล่อีกข้างหนึ่งของซืออวี่ เอาล่ะ ไปกันเถอะ!
“ออกจากที่นี่ก่อน” ซืออวี๋กล่าวออกมา ไม่ว่าจะมีนกกระจอกวายุหรือดอกไม้หลวงหลอกอยู่ใกล้ๆ ไหม สถานที่แห่งนี้ก็ไม่น่าอภิรมณ์มากนัก
การที่จะออกจากที่นี่ก่อนนั้นดีกว่ามาก ภารกิจการสอบขึ้นอยู่กับโชคชะตา หากพวกเขาพบมัน พวกเขาก็จะล่ามัน หากพวกเขาไม่พบมัน ถ้าเช่นนั้นก็ลืมไปเถอะ ไม่ว่ายังไง แต้มจากสัตว์อสูรดุร้ายที่พวกเขาพบในตอนที่พวกเขารวบรวมทรัพยากรอื่นก็น่าจะเพียงพอสำหรับพวกเขาที่จะผ่านการสอบที่สาม
“อู๋!!” อีเลฟเว่นพยักหน้าอย่างแรง จากนั้นมันก็หันกลับไปและมองไปยังหลังต้นไม้อย่างกะทันหัน ใบไม้ร่วงหล่นลงมาพร้อมกับเสียงฉัวะ
ในวินาทีต่อมา ตั๊กแตนตำข้าวสูงหนึ่งเมตรที่มีดาบคู่อันแหลมคมกำลังเตรียมซุ่มโจมตีซืออวี๋และคนอื่นที่ตกลงมาจากท้องฟ้า
[ชื่อ] : ตั๊กแตนตำข้าวดาบใหญ่
[คุณสมบัติ] : แมลง
[ระดับเผ่าพันธุ์] : เหนือธรรมชาติขั้นกลาง
[ทักษะเผ่าพันธุ์] : ฟาดฟัน
พวกเขายอมรับว่าสัตว์อสูรดุร้ายระดับเหนือธรรมชาติมีอยู่ทุกหนแห่งบนเกาะ ทว่าสัตว์อสูรดุร้ายตัวนี้ดูเหมือนจะอยู่เพียงระดับปลุกตื่นขั้นสิบเท่านั้น มันไม่มีความหมายเลย ไม่มีแม้แต่แต้ม
อย่างไรก็ตาม การปราบปรามขั้นชำนาญนั้นมีประโยชน์มาก
“จิ๋—” ในขณะนี้ บักกี้กำลังจะดึงเหยื่อด้วยไหมหนอนในตอนที่ซืออวี๋ยื่นมือออกไปหยุดมัน
“ไปกันเถอะ”
สัตว์อสูรตัวนี้ไม่มีค่าอะไรเลย และมันก็ไม่ใช่ทารกโสม หลังจากเป็นลม ทารกโสมยังยังสามารถกินได้
อย่างไรก้ตาม ไม่มีสิ่งที่เรียกว่าสัตว์อสูรน่ารักเช่นทารกโสมในสถานที่เช่นนี้อย่างแน่นอน ในเกาะทดสอบแห่งนี้มีเพียงแค่สัตว์อสูรป่า สัตว์อสูรดุร้าย และสัตว์อสูรดุร้ายซึ่งมีการโจมตีที่รุนแรง!
หลังจากหันกลับมา ซืออวี๋ก็มองไปบนท้องฟ้าอีกครั้ง เมื่อกล่าวถึงเรื่องนี้แล้ว เนตรแห่งนภาสามารถบันทึกแต้มของผู้เข้าร่วมมากกว่า 6,000 คนได้อย่างแม่นยำเหรอ?
หากมันเทียบได้กับความสามารถในการวิเคราะห์ของสุดยอดคอมพิวเตอร์… บางทีมันอาจทำได้
…
“เอ่อ ทรัพยากรมีอยู่ทุกหนแห่งอย่างแท้จริง”
ในเวลานี้ ก่อนที่จะออกจากป่า ซืออวี๋ได้ค้นพบทรัพยากรธาตุมืดระดับสองที่ยังไม่โตเต็มวัย นั่นคือหญ้าแสงทมิฬ
กล่าวตามตรง อีเลฟเว่นค้นพบมัน สุดยอดการมองเห็นของอีเลฟเว่นสามารถมองเห็นการไหลของพลังงานและหลีกเลี่ยงการต่อสู้ที่ไร้ความหมายได้ การค้นหาทรัพยากรนั้นสะดวกสบายมาก!
“อู๋!” อย่างไรก็ตาม หลังจากการเตือนของอีเลฟเว่น ซืออวี๋จึงไม่รีบร้อนที่จะโจมตี นี่เป็นเพราะไม่เพียงแค่มีสัตว์อสูรระดับเหนือธรรมชาติอยู่ใกล้เท่นนั้น แต่ดูเหมือนว่าจะมีนักฝึกสัตว์อสูรคนอื่นคอยสอดแนมทรัพยากรนี้ด้วยเช่นกัน
“ฟ่ออ…”
บางทีมันอาจสัมผัสได้ว่ารูปแบบชีวิตได้เข้ามาในอาณาเขตของมันแล้ว สัตว์อสูรดุร้ายที่ถือว่าหญ้าแสงทมิฬเป็นของมันก็ไม่สามารถนิ่งเฉยได้อีกต่อไป งูหลามขนาดใหญ่ที่ปกคลุมไปด้วยลวดลายสีดำคลานไปรอบหญ้าแสงทมิฬอย่างเชื่องช้า ดวงตางูของมันเฝ้าสังเกตสภาพแวดล้อมอย่างละเอียด
นี่คือสัตว์อสูรดุร้ายประเภทงูระดับเหนือธรรมชาติธาตุมืด พลังต่อสู้ของมันไม่ต่ำอย่างแน่นอน เมื่อเห็นเช่นนี้ นักฝึกสัตว์อสูรที่อยู่อีกด้านหนึ่งก็ตั้งใจที่จะล่าถอยทันที
Fanpage : ผีเสื้อกลางคืน