นักรบพันธุ์ผสม บทที่ 365 - ส่งมอบภารกิจ
แผนการของเดวิดประสบผลสำเร็จมากกว่าที่คาดเอาไว้ เดิมเขาคิดว่าจะสามารถไล่คนออกไปได้สักครึ่งหนึ่งก็เพียงพอแล้ว แต่กลายเป็นว่าห้องโถงใหญ่แทบจะกลายเป็นไร้ผู้คน เจ้าหน้าที่หลังเคาน์เตอร์ผู้ไม่สามารถทิ้งหน้าที่ของตัวเองออกไปได้กำลังเอามือปิดจมูกทำหน้าเหยเกแบบเกินจะทน ใช้มือเดียวกดทำเรื่องลงทะเบียนรับส่งภารกิจอย่างไม่มีความสุขมากนัก
เดวิดเลือกเดินเข้าไปต่อคิวตรงเคาน์เตอร์ที่ว่างอยู่ด้วยใบหน้าอันไร้เดียงสา ไม่สนใจกับสายตาอาฆาตแค้นที่ถูกส่งมองเข้ามาจากทั่วทิศ เขายืนรออยู่อย่างสงบเสงี่ยมเจียมตัวเป็นที่สุด ก้มหน้าทำเหมือนกำลังมีเรื่องที่ต้องกำลังครุ่นคิดอยู่เล็กน้อย
ในที่สุดก็ถึงคิวของเดวิด เขาขยับเท้าเข้าไปที่หน้าเคาน์เตอร์ พร้อมกับเปิดหน้าต่างโฮโลแกรมของตัวเองขึ้นมาอย่างว่องไว
“อืม? ผมมาส่งภารกิจครับ”
เจ้าหน้าที่หลังเคาน์เตอร์เงยหน้ามองเดวิดด้วยใบหน้าที่ยังมีมือบีบจมูกอยู่ สายตาที่มองจ้องเข้ามาช่างน่าพิศวงเป็นอย่างยิ่ง มันมีทั้งความโกรธแค้นเกลียดชัง ความเหยียดหยามสมเพช และความเบื่อหน่ายระอา ที่น่าแปลกไปยิ่งกว่านั้น ไม่ใช่เขาแค่เพียงคนเดียวเท่านั้น สายตาของเจ้าหน้าที่เคาน์เตอร์ใกล้ ๆ ก็มองมาที่เดวิดด้วยสายตาแบบเดียวกันทั้งสิ้น
เจ้าหน้าที่ชุดนี้ไม่ใช่ชุดเดิมกับตอนที่เดวิดมารับภารกิจ ถือว่าเป็นโชคดีของเขา แม้จะใช้ใบหน้าปลอมมาส่งภารกิจก็ไม่เป็นที่ผิดสังเกต เพราะไม่มีใครจำได้ว่าคนที่มารับภารกิจไปมีรูปร่างหน้าตาแบบไหน มันช่วยลดความยุ่งยาก และจะไม่ทำให้เดวิดต้องอับอายอย่างนี้ต่อไปนานนัก
“ขอดูเอกสารมอบหมายภารกิจด้วย” เจ้าหน้าที่เอ่ยปากออกมาด้วยเสียงที่อู้อี้เล็กน้อย จมูกยังถูกบีบแน่นอยู่ ใบหน้าเริ่มมีสีเขียวเริ่มจากการขาดอากาศหายใจแล้ว แต่ดูเหมือนว่าเขาจะยังไม่กล้าสูดอากาศในตอนนี้เข้าไป ดูเหมือนว่าอำนาจการทำลายล้างที่เดวิดปล่อยออกมาจะสูงส่งเกินกว่าที่ตัวเองคิดเอาไว้บ้าง
ด้วยแววตาที่ใสซื่อ เดวิดหยิบเอกสารโฮโลแกรมออกมายื่นส่งให้เจ้าหน้าที่คนนั้น ก่อนจะยืนรอด้วยใบหน้าที่มีรอยยิ้มบาง ๆ
เจ้าหน้าที่หนุ่มคนนั้นนำเอกสารโฮโลแกรมไปสแกนเข้าระบบ ก่อนจะเอ่ยถามออกมาหลังจากอ่านรายละเอียดในหน้าต่างที่เด้งขึ้นมา
“เซรั่ม 3 ขวด! ได้โปรดส่งหลักฐานด้วยครับ” ใบหน้าของเจ้าหน้าที่คนนั้นเริ่มกลายเป็นสีม่วงแล้ว แต่น้ำเสียงฟังดูเรียบร้อยอ่อนโยนขึ้น
“โอ้! ลืมไปเลย รอเดี๋ยวนะครับ” เดวิดอุทานออกมา ตบมือไปทั่วร่างกายเพื่อค้นหาว่าตัวเองเก็บขวดเซรั่มเอาไว้ที่กระเป๋าไหน ก่อนจะล้วงหยิบขวดเซรั่มพันธุกรรมพื้นฐานความบริสุทธิ์ต่ำออกมา 3 ขวดออกมาจากกระเป๋ากางเกง และวางพวกมันเอาไว้บนเคาน์เตอร์อย่างระมัดระวัง
“นี่ครับ! เซรั่มตามเงื่อนไขที่ระบุเอาไว้” เขาเอ่ยออกมาเสียงเบา ๆ
ทันทีที่เจ้าหน้าที่หนุ่มหยิบขวดเซรั่มทั้ง 3 ไปอ่านฉลาก สายตาและสีหน้าที่เคยแสดงอาการดูถูกเหยียดหยามก็หายไปทันที มือถูกปล่อยออกมาจากจมูกอย่างไม่รู้ตัว สายตาที่เบิกกว้างถูกมองลงไปตรวจสอบหน้าจอที่แสดงรายละเอียดของภารกิจอีกครั้ง หลังจากคราวแรกเขาอ่านผ่าน ๆ ว่าเป็นการผลิตเซรั่มเท่านั้น ไม่ได้สังเกตว่ามันเป็นเซรั่มอะไร?
นักพันธุศาสตร์! เจ้าเด็กตัวเหม็นนี่ทำภารกิจของนักพันธุศาสตร์อย่างนั้นหรือ? แล้วทำสำเร็จด้วย เซรั่มพันธุกรรมพื้นฐาน 3 ชนิดในมือคือหลักฐานยืนยัน ต่อให้กลิ่นเหม็นกว่านี้ก็รับได้ วันนี้ถือว่าเป็นโชคดีของเขามากแล้ว มันไม่ได้มีโอกาสมากนักที่จะได้พบหน้ากับนักพันธุศาสตร์ พวกเขาจะไม่ค่อยออกมาจากห้องทดลองของตัวเองมากนัก นี่เป็นโอกาสดีที่ไม่ควรจะปล่อยให้หลุดมือไป
ชายหนุ่มที่ทำหน้าที่อยู่หลังเคาน์เตอร์รีบหยิบกล่องในลิ้นชักออกมาเก็บขวดเซรั่มทั้ง 3 เข้าไป ก่อนจะสแกนหมายเลขภารกิจและหมายเลขกล่องหลักฐานเข้าระบบ
“เรียบร้อยครับ การรับหลักฐานและลงทะเบียนเพื่อขอจบภารกิจดำเนินการเรียบร้อยแล้ว หลังจากนี้เจ้าหน้าที่จะตรวจสอบหลักฐานและยืนยันผลกลับไปในเวลาไม่นานนักครับ”
สีหน้าและน้ำเสียงของเจ้าหน้าที่หนุ่มในตอนนี้เต็มไปด้วยความเคารพ เดวิดพยักหน้ารับรู้ด้วยรอยยิ้ม แต่ตอนที่เขาเพิ่งหันหน้ากลับเพื่อจะเดินจากไป เสียงของเจ้าหน้าที่คนนั้นก็ดังต่อออกมาเบา ๆ
“ขอโทษที่รบกวนนะครับ! ไม่ทราบว่าผมจะขอทราบช่องทางติดต่อเอาไว้ได้หรือไม่? ผมอยากจะขอร้องให้ท่านช่วยผลิตเซรั่มพันธุกรรมสักหน่อย ผมขออนุญาตส่งรายละเอียดของเซรั่มที่ต้องการไปให้ล่วงหน้า ถ้าท่านสะดวกและมีเวลาว่าง รบกวนช่วยผลิตมันให้กับผมหน่อย” ชายหนุ่มคนนี้ไม่ยอมปล่อยโอกาสดีอย่างนี้ไปจริง ๆ เขารีบกล่าวความต้องการของตัวเองออกมาทันที
คิ้วของเดวิดเลิกขึ้นอย่างประหลาดใจ ก่อนที่ดวงตาจะหรี่ลงเล็กน้อยเมื่อเข้าใจความหมายในคำพูดนั้น ดูเหมือนว่านักพันธุศาสตร์จะหายากและได้รับความเคารพเป็นอย่างสูงจริง ๆ เขาหมุนตัวกลับและเปิดหน้าต่างโฮโลแกรมออกมาเพื่อส่งช่องทางการติดต่อให้กับอีกฝ่าย เมื่อทุกอย่างเสร็จสิ้นแล้ว เดวิดก็รีบหมุนตัวเดินออกไปอย่างรวดเร็ว ถ้าอยู่ตรงนั้นนานกว่านี้อีกสักครู่ เจ้าหน้าที่คนอื่น ๆ ที่จ้องมาอย่างตื่นตะลึงคงจะเอ่ยปากขอในแบบเดียวกันอีกแน่ เขายังไม่อยากจะติดต่อกับคนอื่นมากนัก เดวิดยังไม่ได้เป็นนักพันธุศาสตร์จริง ๆ เสียด้วยซ้ำ
ก่อนที่จะเดินพ้นจากประตูของห้องโถงออกไป เขาชะงักเท้าตัวเองให้ช้าลงเล็กน้อย ก่อนจะเปิดประสาทการรับกลิ่นให้ใช้งานได้อีกครั้ง แล้วลองสูดลมหายใจเข้าปอด ใบหน้าของเดวิดกลายเป็นเขียวคล้ำขึ้นมาทันตาเห็น “ให้ตายสิ! นี่ฉันทำอะไรลงไป ดีนะที่ไม่มีใครตาย”
หลังจากพึมพำจบ เขาก็รีบเร่งฝีเท้าออกจากโถงภารกิจด้วยความละอายใจทันที และเป้าหมายเดียวของเดวิดในตอนนี้คือห้องพักของตัวเอง เขากำลังต้องการการพักผ่อนอย่างเร่งด่วน การประลองระหว่างชั้นเรียนกำลังจะเกิดขึ้นในอีกไม่กี่วันข้างหน้าแล้ว การฟื้นฟูตัวเองให้กลับมาอยู่ในสภาพที่สมบูรณ์เป็นเรื่องจำเป็นมาก ‘หาอะไรกินก่อน แล้วนอนแบบยาว ๆ สัก 2-3 วันน่าจะพอ’ นี่คือสิ่งที่เดวิดคิดเอาไว้ในหัวของตัวเอง
.........................
ตรงกลางสนามฝึกซ้อมขนาดใหญ่ นักเรียนเกือบ 50 คนกำลังเข้าแถวเรียงกันเป็นหน้ากระดานยาวอย่างมีระเบียบ และมีนักเรียนอีก 4 คนยืนเข้าแถวแยกออกมาต่างหากอยู่ด้านหน้าของแถวยาวนั้น
ส่วนที่ยืนเด่นเป็นสง่าหันใบหน้าที่เรียบเฉยเข้าหานักเรียนทั้งหมด ครูฝึกเอลล่า! วันนี้เธอแต่งกายอยู่ในชุดที่แตกต่างไปจากปกติไม่น้อย ชุดเดรสยาวรัดรูปทำให้ครูฝึกสาวดูสวยงามกว่าเดิมมากขึ้นไปอีก รอยผ่าด้านข้างที่แยกสูงขึ้นไปจนเกือบจะถึงเอว เผยให้เห็นขาที่เรียวยาวและขาวราวกับน้ำนมแบบรำไรยั่วยวน ยิ่งเมื่อเธอยืนอยู่บนรองเท้าส้นสูง ช่วงขาที่ยาวและกล้ามเนื้อที่รัดกระชับนั่นยิ่งทำให้ดูสง่างามเกินคำจะบรรยายจริง ๆ
แต่ไม่มีนักเรียนคนไหนกล้าเงยหน้าขึ้นมาสาวสวยอย่างชื่นชมเลยแม้แต่น้อย บรรยากาศในสนามฝึกซ้อมแห่งนี้กำลังตึงเครียดเป็นอย่างมา ริมฝีปากอวบอิ่มของครูฝึกเอลล่าเริ่มถูกเม้มติดกันแน่น แววตาเริ่มบ่งบอกว่าเธอกำลังจะหมดความอดทนแล้ว
ครูฝึกสาวขยับตัวในที่สุด เธอก้าวเท้าออกไปด้านหน้าสั้น ๆ และกำลังจะขยับปากเพื่อจะประกาศข้อความที่ตัวเองได้ตัดสินใจแล้วออกไป เป็นจังหวะเดียวกันที่เสียงเครื่องยนต์ของอุปกรณ์ชุดสกายวอคเกอร์ดังคำรามแว่วมาเข้าหู ทำให้ครูฝึกเอลล่าชะงักคำพูดของตัวเองลง และหันมองจ้องไปยังทิศทางที่เสียงนั้นดังออกมา
จุดดำเล็ก ๆ กำลังขยายใหญ่ขึ้นอย่างรวดเร็ว เด็กหนุ่มคนหนึ่งกำลังพุ่งทะยานเข้ามาด้วยชุดสกายวอคเกอร์ด้วยความเร็วสูง เสียงเครื่องยนต์บ่งบอกว่ามันกำลังทำงานอย่างเต็มกำลัง ไอพ่นขนาดใหญ่พุ่งทิ้งร่องรอยอยู่กลางอากาศเป็นสาย และหลังจากนั้นเพียงไม่กี่วินาที เด็กหนุ่มคนนั้นก็ร่อนลงบนพื้นสนามฝึกซ้อมจนเกิดเสียงดังเล็กน้อย หลังจากจัดแต่งทรงผมและเสื้อผ้าให้เรียบร้อยแบบลวก ๆ เขาก็รีบวิ่งเข้ามายืนเข้าแถวต่อจากนักเรียนทั้ง 4 คนที่ยืนอยู่ด้านหน้าทันที
“ผมขอโทษที่มาสายครับครูฝึก!” ทันทีที่จัดตำแหน่งท่าทางการยืนของตัวเองได้เรียบร้อย เด็กหนุ่มคนนั้นก็ก้มหัวลงต่ำ และเอ่ยคำขอโทษเสียงดังฟังชัดออกมา
สีหน้าของนักเรียนทั้งหมดเริ่มเปลี่ยนแปลงไปแล้ว แม้ว่ามันจะแสดงความรู้สึกที่แตกต่างกันไป แต่ส่วนใหญ่รู้สึกสมเพชเด็กหนุ่มที่กล้ามาสายคนนั้น ครูฝึกเอลล่าไม่ใช่คนใจดี และเกลียดคนที่ไม่ตรงต่อเวลาเป็นอย่างมาก เมื่อคิดถึงบทลงโทษที่เธอใช้ในคราวที่ผ่าน ๆ มา นักเรียนทุกคนก็รู้สึกเสียวสันหลังเป็นอย่างยิ่ง....