Chapter 19: แต้มความบ้าคลั่งลูกใหญ่!
ใบหน้าที่หล่อเหลาของวัลนั้นไม่ธรรมดา แม้ว่าเขาจะเป็นหนุ่มแล้ว แต่ความน่าดึงดูดของเขาก็ยังคงชัดเจน ออเรเลียได้เกิดความปรารถนาอันแรงกล้าอยากที่จะครอบครองเขาขึ้นมา เธอต้องการจะลิ้มลองเขา แต่เรื่องพวกนี้มันเป็นไปไม่ได้ระหว่างพี่น้องด้วยกันเอง ดังนั้นเธอจึงพยายามจะฝืนมัน และในท้ายที่สุด เป้าหมายของเธอก็ล้มเหลวและถูกถีบส่งออกจากบ้านไป
วัลคิดว่าเรื่องนี้ควรจะจบไปตั้งแต่ตอนนั้นแล้ว แต่ดูเหมือนว่าเธอจะมีความหลงใหลแปลกๆ ในตัวเขา บางทีมันอาจเป็นเพราะเขาน่าดึงดูดเกินไป แม้ว่าครั้งล่าสุดที่พวกเขาพบกันมันจะผ่านมาหลายปีแล้ว แต่เธอก็ยังอยากจะมีอะไรกับเขาที่เป็นน้องชายของตัวเอง!
เขารู้สึกรังเกียจเธอมากจนเขาไม่ได้ยั้งมือเลยในขณะที่ทำร้ายเธอ เขากระแทกศีรษะของเธอเข้ากับกำแพงซ้ำแล้วซ้ำเล่าอย่างรุนแรง
ตอนนี้เธอเกือบจะหมดสติไปแล้ว ในเมื่อเขาก็ไม่ได้ต่างอะไรไปจากเซ็กทอยในสายตาของเธอ เขาก็เลยปฏิบัติกับเธอเหมือนกับของที่พังแล้วที่ซึ่งจำเป็นต้องทุบตีเพื่อซ่อมแซม!
แต้มความบ้าคลั่ง +50!
สิ่งที่เขาทำอยู่นั้นดูเหมือนจะบ้ามากจริงๆ
ดังนั้น เขาจึงได้รับรางวัลจากระบบเป็นแต้มความบ้าคลั่งจำนวนมาก!
ยอดเยี่ยม!
ในขณะที่เขากำลังจะกระแทกศีรษะของเธอเข้ากับกำแพงอีกครั้ง เสียงที่เย็นชาก็ดังขึ้นจากด้านหลังเขา
“หยุดนะ!”
การขัดจังหวะอย่างกะทันหันนี้เป็นใครไปไม่ได้นอกจากโจชัว ความวุ่นวายได้ดึงดูดความสนใจของเขา และเขาก็ต้องทึ่งและตกตะลึงกับการได้เห็นลูกของตัวเองโดนทำร้ายอย่างไม่สามารถทำอะไรได้
มันช่างเป็นเรื่องที่ไม่น่าอภิรมย์จริงๆ โดยเฉพาะการที่วัลเอาชนะพี่สาวของเขาได้โดยไม่ต้องใช้ความพยายามอะไรเลย สุดท้ายแล้วมันก็ได้ย้ำเตือนเขาอีกครั้งว่าคนที่เขาตัดสินใจทิ้งไปเพราะแผนการร้ายของไอ้ระยำคนหนึ่งนั้นเป็นมากกว่าที่เขาคิดเอาไว้มาก
เมื่อได้เห็นภาพของท่านพ่อ ออเรเลียรู้สึกเหมือนกับเธอได้พบผู้ช่วยเหลือ
“ท่านพ่อ! ช่วยข้าด้วย! น้องชาย...น้องชายกำลังจะฆ่าข้า!” ออเรเลียตัวสั่น น้ำเสียงของเธอดังก้องไปทั่วโถงทางเดิน
“ไร้สาระ!” วัลพูด สายตาของเขาลุกโชนไปด้วยความดูถูกสำหรับการหลอกลวงของเธอ “ข้าแค่สอนบทเรียนดัดนิสัยเจ้าเฉยๆ เอง!”
วัลเกลียดการถูกหลอก ใครก็ตามที่กล้ากล่าวหาผิดๆ เพื่อทำลายเขาจะต้องพบกับชะตากรรมที่โหดร้ายเช่นเดียวกัน ถ้าอีกฝ่ายอ่อนแอกว่าเขา ก็จะถูกกำจัดในทันที และถ้าบังเอิญแข็งแกร่งกว่า พวกเขาก็จะถูกล่าหลังจากที่เขาแข็งแกร่งกว่าพวกเขา และในท้ายที่สุด พวกเขาก็จะพบความพินาศด้วยเงื้อมมือของเขา!
ออเรเลียกล้าพล่ามคำโกหกออกมาต่อหน้าเขา และเขาก็ไม่มีความตั้งใจที่จะปล่อยให้การกล่าวหานี้ผ่านไปโดยไร้ซึ่งผลที่ตามมา!
ในขณะเดียวกัน ทั้งพ่อและลูกสาวต่างก็ตกใจกับคำพูดของเขา ไอ้บ้าที่ไหนมันใช้กำลังรุนแรงแบบนี้เพื่อให้บทเรียนกัน!!!?
‘เขาเสียสติไปแล้ว’
ความคิดเดียวกันนี้ได้สะท้อนอยู่ในใจของทั้งออเรเลียและโจชัวที่ตอบสนองต่อคำกล่าวอันโหดร้ายของเขา
ในที่สุดพวกเขาก็เข้าใจแล้วว่าคนที่อยู่ตรงนี้ก็คือคนบ้าคนหนึ่ง!
แต้มความบ้าคลั่ง +40!
“หลับฝันดีนะ พี่สาว”
เมื่อพูดจบ เพื่อเป็นการปิดฉากวัลก็ได้เหวี่ยงร่างกายที่บอบบางของออเรเลียเข้าใส่กำแพงหินของระเบียงทางเดินอย่างไร้ความปรานี
ตุ๊บ!
แรงกระแทกทำให้เกิดรอยแตกอันน่าขนลุกซึ่งดังก้องไปทั่วโถงทางเดินในขณะที่กะโหลกของเธอนั้นได้พบเจอกับพื้นผิวที่ไม่น่าให้อภัย ดอกไม้สีแดงฉานเบ่งบานจากหลังศีรษะของเธอ และไหลย้อยลงมาจากผมสีทองจนไปเปื้อนชุดเดรสสีขาวของเธอเกิดเป็นรอยจ้ำสีแดงไม่น่ามอง
ใบหน้าที่หน้าตื่นตาของเธอบิดเบี้ยวไปด้วยความเจ็บปวดและความตกใจในทันที ดวงตาที่เคยใสซื่อของเธอปกคลุมด้วยหมอก และประกายในดวงตาก็ดับไปแทบจะทันที
สติสัมปชัญญะเฮือกสุดท้ายของเธอได้จากไปแล้ว และขาของเธอก็ไถลลงตามน้ำหนักของเธอ และผลก็คือ เธอล้มฟุบไปกับพื้นหิน เธอเหมือนกับตุ๊กตาเคลือบแสนงดงามที่พังทลายด้วยความจริงอันโหดร้าย
เธอนอนอยู่ตรงนั้น ฟุบลงไปกับพื้นหินเย็นยะเยือกไม่ไหวติง
เมื่อเห็นสภาพเช่นนี้ของเธอ โจชัวรู้สึกใจไม่ดี
เธอตายรึเปล่า?
เขาฆ่าเธอรึเปล่า?
“นี่เจ้า...เจ้าทำอะไรลงไป?” โจชัวพูดตะกุกตะกัก สีหน้าของเขาเต็มไปด้วยความตกใจและความไม่เชื่อ
“ใจเย็นก่อนครับ ข้ายั้งมือแล้ว เธอไม่ตายหรอก” วัลตอบกลับอย่างเฉยเมย
“มันดูเหมือนจะไม่ใช่แบบนั้นเลยนะ เจ้าลูกบ้า!”
โจชัวเดินผ่านวัล และก้มลงไปตรวจสอบสภาพของออเรเลีย
เมื่อสัมผัสได้ถึงลมหายใจที่รวยรินของเธอเขาก็โล่งอก และหันกลับไปหาวัล
“เธอเป็นพี่สาวของเจ้านะ ทำไมเจ้าถึงใจร้ายกับเธอขนาดนี้?” โจชัวพูดหลังจากประเมินสถานการณ์อย่างยากลำบาก
เขาไม่ชอบออเรเลีย แต่นั่นก็ไม่ได้หมายความว่าเขายินดีกับการที่เห็นเธอตายหรือถูกน้องชายของตัวเองฆ่าต่อหน้าเขา ถึงยังไง เธอก็เป็นของขวัญชิ้นสุดท้ายที่ภรรยาคนแรกทิ้งเอาไว้ให้! แล้วเขาจะทนมองเธอตายไปเฉยๆ ได้ยังไงกัน?
“นี่ท่านพ่อไม่รู้เรื่องเลยหรอครับ?” วัลถามกลับ ความรำคาญแฝงอยู่ในน้ำเสียงของเขา
ด้วยความสามารถของโจชัวแล้ว ไม่มีทางที่เขาจะไม่รับรู้ถึงสิ่งที่เกิดขึ้นในโถงทางเดินจากห้องทำงานของเขา
ดังนั้น เขาก็น่าจะรู้ว่าออเรเลียเป็นฝ่ายทำผิดก่อน
ความปรารถนาที่น่าอับอายของเธอที่อยากจะหลับนอนกับน้องชายของตัวเองนั้นเป็นเรื่องที่น่ารังเกียจอย่างไม่สามารถปฏิเสธได้ และการที่เธอเข้าคุกคามวัลในตอนที่เธอเธอไม่ได้ดั่งใจนั้นก็เป็นเรื่องที่ไม่พึงประสงค์
วัลแค่ป้องกันตัวเอง
โจชัวมีเหตุผลพอที่จะรับรู้ว่าวัลไม่ได้เป็นคนเริ่มในสถานการณ์นี้ ก็แค่ลูกสาวของเขาเป็นฝ่ายทำผิดและถูกทำโทษอย่างทันท่วงที เธอเป็นคนร้องขอและเธอก็สมควรได้รับมัน
ด้วยการตัดสินใจที่จะมองเหตุการณ์อันโชคร้ายนี้เป็นความผิดปกติ โจชัวก็แนะนำ “ครั้งหน้า ถ้ามีเรื่องแบบนี้เกิดขึ้นอีกให้มารายงานข้าก่อน อย่าลงไม้ลงมือกับพี่น้องของเจ้า”
เขากลัวจริงๆ ว่าเจ้าลูกบ้าคนนี้จะฆ่าพี่น้องของตัวเองแค่เพราะพวกเขาสร้างความขุ่นเคืองให้เขา
วัลตอบกลับอย่างไม่สนใจ “เอาที่ท่านพ่อสบายใจเลยครับ”
น้ำเสียงของเขาฟังดูเป็นการยอมรับไปให้จบๆ ซึ่งมันก็ได้เน้นย้ำถึงความขุ่นเคืองที่ฝังรากลึกอยู่ในสายสัมพันธ์ครอบครัวของพวกเขา
หลังจากนั้น วัลก็เดินจากไป
“ผู้พิทักษ์เงา” โจชัวเรียกและข้ารับใช้ในชุดดำก็ปรากฏตัวขึ้นรอบกายเขาในทันที “รักษาอาการบาดเจ็บของเธอและส่งเธอกลับไปที่เขตชั้นใน และทำให้เธอเข้าใจด้วยว่าเธอจะไม่ได้กลับมาบ้านในช่วงที่วัลอยู่ที่นี่”
ผู้พิทักษ์เงาที่ได้รับการฝึกฝนมาอย่างดี ได้ตอบกลับเป็นเสียงเดียวกันในทันที “ตามประสงค์ครับ ท่านโจชัว”
ในขณะเดียวกัน วัลก็ได้กลับมายังที่พำนักอันเงียบสงบของเขาและตัดสินใจที่จะนำแต้มความบ้าคลั่ง 100 แต้มที่เขารวบรวมมาได้ไปใช้ให้เกิดประโยชน์
นิ้วของเขาขยับในอากาศในขณะที่เขาจัดการหน้าต่างระบบเพื่อแลกเปลี่ยนแต้มความบ้าคลั่งให้เป็นแต้มสถานะที่แสนสำคัญ
[ติ้ง! หักแต้มความบ้าคลั่ง 100 แต้ม!]
[ขอแสดงความยินดีด้วย! ท่านได้รับแต้มสถานะ+1!]
[แต้มสถานะสามารถจัดสรรให้กับค่าสถานะใดก็ได้ตามที่ท่านเลือกผ่านหน้าต่างระบบ]
วัลลูบคางในขณะที่ใช้ความคิด
‘ฉันควรจะจัดสรรทรัพยากรที่สำคัญนี้ให้กับอะไรดีนะ?’
‘เอาเป็นความอดทนละกัน!’
ถ้าจะถามว่าทำไมก็คงตอบได้ง่ายๆ ด้วยการเดินทางย้อนความทรงจำสั้นๆ
ความทรงจำอันน่าสยดสยองจากการปะทะกับสัตว์ร้ายราเวนการ์ที่พึ่งเกิดขึ้นไม่นานนั้นยังคงสดใหม่ในหัวของเขาอยู่
เจ้าสัตว์ร้ายนั้นเห็นได้ชัดว่าการโจมตีทางกายภาพและความสามารถทางสายเลือดของเขาไม่เป็นผลกับมัน ทำให้วัลต้องรีบหนีกลับมายังพื้นที่ปลอดภัยอย่างฐานที่มั่นไอรอนสไปร์ ถ้าเขากล้าที่จะปะทะในการต่อสู้ที่ไร้ประโยชน์ และผลาญพละกำลังของตัวเองโดยที่ทำความเสียหายอะไรไม่ได้เลย เขาก็คงจะใช้เวลาในการหลบหนีมากเกินไปและต้องยอมจำนนต่อชะตากรรมของเขาอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ การตัดสินใจที่เขาเลือกไปนั้นอาจจะดูรีบร้อน แต่มันก็เป็นทางเลือกที่ดีที่สุดอย่างไม่ต้องสงสัย
การถูกไล่ล่าที่เต็มไปด้วยอันตรายนั้นยังคงตราตรึงอยู่ในใจของเขา ลมหายใจที่ปล่อยออกมาแต่ละครั้งเหมือนการต่อสู้กับตัวเอง หัวใจของเขาเต้นระรัวเป็นจังหวะระทึกอยู่ในอก ขาของเขาถูกถ่วงน้ำหนักด้วยโซ่ที่มองไม่เห็นเพื่อคอยฉุดเขาให้ล้มลงในขณะที่เขาฝืนลากสังขารของตัวเองไปยังฐานที่มั่น
ในตอนที่เขามาถึงประตูอันยิ่งใหญ่ของฐานที่มั่น เขาก็เหมือนกับใช้พลังเฮือกสุดท้ายหมดพอดีและทรุดลงไปด้วยความเหนื่อยล้า และในตอนนี้ ที่เขายังลืมตาตื่นได้นั้นก็ด้วยพลังใจที่น่าทึ่งของเขาล้วนๆ
การเผชิญหน้าครั้งนี้ได้ทำหน้าที่เป็นตัวกระตุ้น มันแสดงให้เขาเห็นความจริงอันโหดร้ายของโลกเอลดริชที่ซึ่งความสามารถในการยืนหยัดอดทนให้อยู่ได้นานกว่านั้นสำคัญพอๆ กับพลังและความว่องไว ดังนั้น เขาจึงเลือกใช้แต้มที่เขาได้รับมาอย่างยากลำบากไปกับความอดทน มันคือการตัดสินใจเชิงกลยุทธ์ที่หล่อหลอมมาจากบทเรียนที่ได้รับจากการเผชิญหน้าในอดีตและสัญชาตญาณในการเอาตัวรอดดั้งเดิมที่ฝังลึกอยู่ในตัวเขา
[ค่าสถานะหนึ่งแต้มได้ถูกใช้]
[แถบความอดทนของท่านได้เพิ่มขึ้นเป็น 11 แต้ม!]