Chapter 18: นักล่า ออเรเลีย!
หลังจากก้าวออกมาจากห้องทำงาน วัลก็เดินไปตามโถงทางเดินยาวที่ซึ่งเขาได้เจอกับคนที่คาดไม่ถึง
คนที่ยืนอยู่ข้างๆ ก็คือพี่สาวของเขา ออเรเลีย วี ไวท์มอร์
ดวงตาที่เหมือนกวาง ขนตาหนา ริมฝีปากสีแดงสดและผมสีทองที่เข้ากับโครงหน้าของเธออย่างสมบูรณ์แบบ และผิวของเธอก็เนียนไร้ที่ติราวกับเครื่องเคลือบดินเผา ไร้ซึ่งตำหนิใดๆ
เธอสวมชุดเดรสสีขาวที่เผยให้เห็นเรียวขาข้างหนึ่งยาวไปถึงเข่าอย่างมีรสนิยมและเน้นย้ำเรือนร่างที่ไร้ที่ติดของเธอ และเมื่อเธอได้อาบแสงอาทิตย์ที่ส่องผ่านหน้าต่างเข้ามานั้น ก็ทำให้ภาพของเธอนั้นไม่ต่างอะไรไปจากเทพธิดาศักดิ์สิทธิ์
ภาพของเธอคงทำให้หลากหลายคนต้องใจสั่น แต่วัลรู้สึกได้แค่ความรังเกียจ
‘ยัยวิตถารมาทำอะไรแถวนี้เนี่ย?’
อารมณ์ดีๆ ของวัลถูกทำลายลงเมื่อเขาถูกพี่สาวขวางทางเอาไว้
“อรุณสวัสดิ์ เจ้าน้องชาย” เธอทักทายเขาอย่างอ่อนหวาน รอยยิ้มของเธอสดสาวเหมือนดวงอาทิตย์ยามเช้า
หางตาของวัลกระตุก เมื่อได้ยินเสียงหวานๆ ของเธอ
“กลับมาทำไม? แล้วใครเป็นคนอนุญาต?” เขาถาม น้ำเสียงของเขาเย็นชาและฟังดูไม่ต้อนรับ
เมื่อหลายปีก่อน ออเรเลียได้ทำความผิดที่ไม่สามารถให้อภัยได้กับวัล เธอทรยศความเชื่อใจอันน้อยนิดที่เขาเคยมีให้เธอเพราะเธอเป็นพี่สาวที่เลวร้ายที่สุดเท่าที่เขาจะมีได้
ความผิดที่เธอกระทำนั้นไม่สามารถให้อภัยได้
สำหรับสิ่งที่เธอทำลงไป เธอได้ถูกเนรเทศออกจากป้อมปราการไอรอนสไปร์ และถูกลิดรอนสิทธิทั้งหมดที่เคยได้จากการเป็นลูกสาวเพียงคนเดียวของหัวหน้าตระกูลไวท์มอร์ พร้อมทั้งถูกบังคับให้ต้องทนกับการดูถูกจากการเป็นคนที่ถูกขับไล่ เธอถูกทิ้งให้อยู่ในความดูแลของเขตด้านนอก พื้นที่ที่เป็นที่รู้กันว่ามีสภาพความเป็นอยู่ที่โหดร้ายและมีอาชญากรรมเกิดขึ้นบ่อยๆ ช่วงเวลานั้นคือฝันร้ายที่มีจริง และเป็นการต่อสู้เพื่อการเอาตัวรอดสำหรับเธอ
แต่วันวานที่เลวร้ายของเธอก็อยู่ได้ไม่นานนัก
โจชัวได้มองข้ามความผิดของเธอและให้ความช่วยเหลือ เธอเป็นลูกสาวเพียงคนเดียวของเขา เขาไม่สามารถทนเห็นเธอทุกข์ทรมานได้
เขาไม่ชอบเธอ แต่ก็ยังรักเธอ และความรักที่เขามีให้เธอก็ทำให้เขาจัดการให้เธอได้ไปอยู่ที่เขตแดนชั้นในของอาณาจักร ที่ซึ่งมีสภาพความเป็นอยู่ดีกว่าอย่างเห็นได้ชัด และเป็นที่ที่อย่างน้อยเธอก็สามารถรักษาเกียรติของตัวเองเอาไว้ได้
แต่ก็มาพร้อมกับเงื่อนไขเพียงอย่างเดียวของเขา ออเรเลียจะไม่มีวันได้กลับมายังฐานที่มั่นไอรอนสไปร์เว้นเสียแต่ว่าวัลยอมยกโทษให้เธอ มันคือเงื่อนไขที่ยุติธรรมเมื่อเทียบกับน้ำหนักความผิดของเธอ และออเรเลียก็ไม่มีทางเลือกนอกจากยอมรับมัน
มันเป็นเรื่องแปลกจริงๆ ที่เห็นเธออยู่ที่นี่เพราะวัลไม่ได้ยกโทษให้เธอ!
“ข้าจำไม่เห็นได้เลยว่าต้องได้รับอนุญาตจากใครก่อนถึงจะกลับมาที่บ้านได้” เธอเถียงอย่างเย่อหยิ่ง
“ในวันนั้นข้าคิดว่าข้าบอกไปชัดเจนแล้วนะว่าห้ามเจ้าเหยียบเข้ามาในบ้านหลังนี้ตราบใดที่ข้ายังอยู่ที่นี่ เจ้าลืมไปแล้วรึไง? หรือนี่คือเหตุผลที่เจ้าทำตัวแบบนี้? จะให้ข้าสอนความประพฤติให้เจ้าใหม่ดีไหม?” วัลจ้องเธออย่างเย็นชา
พวกคนที่รู้จักขุนศึกคลั่ง “วัลผู้ไร้ความรู้สึก” นั้นรู้ดีว่าเมื่อไหร่ก็ตามที่เขามองใครสักคนเช่นนี้ มันหมายความได้แค่หนึ่งในสองตัวเลือกต่อไปนี้
เขากำลังจะทำร้ายคนๆ นั้นหรือไม่ก็ฆ่า!!!
“เจ้าจะยังสอนบทเรียนให้ข้าได้อยู่หรอ? ข้าเป็นผู้ใช้สายเลือดส่วนเจ้าเป็นแค่พวกปกติ ท่านพ่อน่าจะให้ความสำคัญกับข้ามากกว่าเจ้านะ” ออเรเลียขู่วัล
โจชัวมีภรรยาสองคน
ภรรยาคนที่สองของเขาให้กำเนิดวัลก่อนที่จะหนีไป ส่วนภรรยาคนแรกได้ให้กำเนิดลูกสองคน
หนึ่งในนั้นก็คือออเรเลีย
หลังจากคลอดเธอ ภรรยาคนแรกของโจชัวก็ตายไป ดังนั้นจึงเป็นธรรมดาที่เขาจะไม่ชอบออเรเลีย เพราะคิดว่าเธอคือสาเหตุการตายของภรรยาคนแรก แต่เขาก็ไม่กล้าทำผิดกับเธอหรือทิ้งเธอเพราะเธอเป็นของขวัญชิ้นสุดท้ายที่ภรรยาผู้ตายไปฝากไว้ให้เขา
วัลตอบอย่างไม่สนใจ “นั่นก็อาจจะจริง แต่การนำเจ้ามาอ้างก็คงจะไม่ได้มีผลอะไรกับพวกคนใช้และคนในตระกูลของเรานักหรอก อย่าลืมสิว่าเจ้าไม่ได้รับการต้อนรับที่นี่ ไม่ว่าจะเป็นคนในครอบครัวของเราหรือคนใช้ก็ตาม บางทีข้าน่าจะลองไปฟ้องพวกเขาว่าเจ้ากำลังรบกวนข้าแล้วมาดูกันว่าจะเกิดอะไรขึ้น”
ออเรเลียแสร้งทำเป็นใสซื่อแล้วพูดขึ้น “อย่าใจร้ายนักสิ หลังจากได้ยินเรื่องที่เจ้าถูกมอบหมายให้ไปที่ชายแดนเหนือข้าก็รีบตรงมาที่นี่เพื่อช่วยเจ้าเลยนะ เจ้าจะเสียใจนะถ้าไม่ฟังข้อเสนอของข้า”
“เจ้าจะช่วยข้ายังไงในเมื่อเจ้านั่นล่ะที่เป็นสาเหตุให้ข้าถูกส่งไปที่ชายแดนเหนือ?” วัลเถียง
“ในช่วงที่ข้าอยู่ในเมืองหลวง ข้าก็ได้สร้าง...เส้นสายขึ้นมานิดหน่อย” ออเรเลียเริ่มอธิบาย น้ำเสียงของเธอหวานเหมือนน้ำตาลจนทำให้วัลรังเกียจ “ข้าสามารถใช้เส้นสายพวกนี้เพื่อให้เจ้าได้ไปอยู่หน่วยพลาธิการทางชายแดนเหนือได้นะ เจ้าไม่คิดว่ามันปลอดภัยกว่าไปอยู่แนวหน้าหรอ?”
เธอเป็นคนที่มีดีแค่หน้าตา มันค่อนข้างเห็นได้ชัดว่าเธอสร้างเส้นสายพวกนี้ขึ้นมาได้อย่างไร
วัลยิ่งรู้สึกรังเกียจเธอ ผู้หญิงคนนี้ขาดศีลธรรม และเขาก็อยากจะตบเธอให้สูญเสียความทรงจำไปซะ แต่เขาก็ยับยั้งตัวเองเอาไว้
“แล้วเจ้าต้องการอะไรแลกเปลี่ยนล่ะ?” วัลถามด้วยน้ำเสียงที่มีความสงสัย
“นั่นก็คือ” เธอตอบ
สิ่งที่เธอพูดต่อจากนี้สร้างความตกใจและความน่ากลัวพอๆ กัน
“น้องชาย เจ้าต้องมามีอะไรกับข้า” เธอพูดด้วยน้ำเสียงที่เป็นธรรมดามากสำหรับคำขอเช่นนี้
เธอต้องการจะมีอะไรกับน้องชายของตัวเอง!
ซึ่งวัลก็ตอบกลับไปตรง ๆ “ข้าไม่ได้มีรสนิยมแบบนั้น และข้าก็ไม่มีวันเอาแท่งของเข้าไปใส่ในรูที่โดนบุกรุกมานับครั้งไม่ถ้วนหรอก ใครจะไปรู้ว่าเจ้าติดโรคอะไรมาบ้าง”
ความโกรธของออเรเลียปะทุขึ้นจากการปฏิเสธที่ขวานผ่าซากของเขา “เจ้าขยะ นี่เจ้ากล้าดูถูกข้าหรอ? แบบนี้ข้าคงต้องสอนบทเรียนให้เจ้าแทนท่านพ่อเพื่อที่เจ้าจะได้หัดรู้จักเคารพพี่ของตัวเองซะแล้ว!”
ด้วยการเคลื่อนไหวเพียงจังหวะเดียว เธอก็ย่นระยะระหว่างพวกเขาในทันทีและด้วยความเร็วชั่วพริบตาเธอก็พยายามจะทำร้ายเขา
สำหรับคนธรรมดาแล้ว การโจมตีของเธอนั้นทั้งรวดเร็วและรุนแรงจนพวกเขาคงจะไม่สามารถตามทันได้
ซึ่งมันก็หมายความว่าการจะโดนทำร้ายนั้นคือสิ่งที่ไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้!
อย่างไรก็ตาม สำหรับวัลนั้น มันเหมือนกับภาพสโลวโมชั่น เขาสามารถมองเห็นมันได้ตั้งแต่ไกลๆ แล้ว
ด้วยการหลบออกด้านข้างอย่างสบายๆ เขาก็มองเธอสะดุดและพุ่งเข้าใส่พื้นที่ว่างเปล่า พร้อมกับเสียการทรงตัวในระหว่างนั้น
จากนั้นวัลก็ใช้ประโยชน์จากการเสียการทรงตัวของเธอทำการตอบโต้กลับอย่างไม่ยั้งมือ
เขาจับหน้าของเธอแล้วเอาศีรษะของเธอโขกเข้ากับกำแพงอย่างรุนแรง!
อั๊ก!
เธอส่งเสียงครวญครางในขณะที่เธอถูกกระแทกกับกำแพง แรงกระแทกทำให้หน้าของเธอบิดเบี้ยว
ในตอนที่ทัศนวิสัยของเธอเริ่มกลับมาชัดขึ้น เธอก็ได้ยินเข้าพูดสิ่งที่ทำให้เธอเย็นวาบไปถึงสันหลัง
“เจ้านั่นล่ะที่หลงผิดและจำเป็นต้องได้รับบทเรียน” วัลพูดอย่างเย็นชา “ในโลกนี้มีแค่คนที่แข็งแกร่งเท่านั้นที่มีสิทธิ์สอนบทเรียนให้คนอื่น เพราะฉะนั้นข้าจะสอนเจ้าเองว่าการเคารพผู้แข็งแกร่งมันหมายความว่ายังไง!”
เมื่อได้ยินเช่นนี้สภาพของเธอก็แสดงถึงความกลัวและความตกใจ ออเรเลียรีบอ้อนวอนอย่างรวดเร็ว “ข้าขอโทษ!”
แต่สีหน้าของวัลก็ยังคงแข็งทื่อ เขาไม่ประทับใจกับคำขอโทษของเธอ
“เจ้าคิดว่าแค่พูดขอโทษแล้วจะจบหรอ? ไม่มีทางหรอก มันไม่ช่วยอะไรเลย ข้านึกว่าเจ้าจะเปลี่ยนไปแล้ว แต่เห็นๆ เลยว่าไม่ใช่ เห็นได้ชัดว่าเจ้าลืมบทเรียนที่ข้าเคยสอนในตอนที่เจ้าเคยพยายามข่มขืนข้า แต่ไม่ต้องห่วงนะ ข้าจะช่วยดึงบทเรียนนั้นกลับมาจากความทรงจำให้เอง พี่สาวของข้า เพราะฉะนั้นช่วยทำหัวให้ว่างๆ ล่ะ”
ก่อนที่เธอจะได้เถียง ศีรษะของเธอก็กระแทกเข้ากับกำแพงอย่างแรงซ้ำแล้วซ้ำเล่า!
ตึง!
ตึง!
ตึง!
กรี๊ดดด!
ในขณะที่วัลเอาศีรษะของเธอกระแทกเข้ากับกำแพงอย่างไม่หยุดหย่อน เธอก็รู้สึกเหมือนกับว่าเขาจะฆ่าเธอจริงๆ!
เธอร้องไห้ เสียงครวญครางจากความหวาดกลัวของเธอคล้ายกับเสียงหมูที่กำลังจะถูกเชือด มันดังก้องไปทั่วทางเดินในขณะที่เลือดไหลลงมาอาบหน้าของเธอ
“ไว้ชีวิตข้าเถอะ!” เธอร้องขอในขณะที่ตัวสั่นเหมือนกระต่าย
สิ่งที่วัลเกลียดที่สุดก็คือนักข่มขืน และเธอก็ได้เปิดเผยตัวเองไปแล้วเมื่อหลายปีก่อนในตอนที่เธอพยายามข่มขืนเขา
ในตอนนั้นเขายังอายุไม่ได้มากเท่าไหร่ แต่เธอก็ยังกล้าแตะต้องเขา ซึ่งมันก็ทำให้ธาตุแท้ของเธอชัดเจนสำหรับเขา แม้ว่าเธอจะมีใบหน้าของนางฟ้า แต่จิตใจของเธอนั้นคือปีศาจ
เขายังเด็กแต่ก็ไม่ได้หมายความว่าเขาจะไม่มีวิธีปกป้องตัวเอง
ด้วยการใช้ประสบการณ์ในชีวิตก่อนและการออกแรงเพียงเล็กน้อยจากที่เขาได้ฝึกฝนมาหลายปี เขาก็สามารถทำลายแผนการชั่วร้ายของเธอได้อย่างง่ายดาย
เขาฝึกมาตั้งแต่ตอนที่เขาอายุได้ 2 ขวบ และในตอนนั้นเขาก็อายุ 9 ขวบ เขาแข็งแกร่งกว่าทุกคนที่อายุเท่ากับเขา และออเรเลียก็ไม่ได้แก่กว่าเขามาก ดังนั้นเขาจึงสามารถพลิกสถานการณ์ได้
หลังจากทำลายแผนการของเธอ เขาก็ตอบโต้ด้วยการลงโทษเธอสำหรับพฤติกรรมที่น่ารังเกียจและขยะแขยงของเธอ แต่เขาก็ได้ละเว้นชีวิตที่น่ารังเกียจของเธอเอาไว้เพราะการฆ่าเธอจะทำให้เขาซวย ถึงยังไงเขาก็จำเป็นต้องใช้ชีวิตภายใต้ร่มเงาของพ่อเขาจนกว่าจะได้รับพลังที่จะใช้ปกป้องตัวเองได้ ดังนั้นแล้วเขาไม่สามารถทำเรื่องที่จะทำให้เขาถูกไล่ออกจากตระกูลไวท์มอร์และป้อมปราการไอรอนสไปร์ได้ อัตราการอยู่รอดของพวกปกติที่ใช้ชีวิตโดยไร้ซึ่งการคุ้มครองจากฐานที่มั่นนั้นต่ำเตี้ยเรี่ยดิน สัญชาตญาณของเขาไม่ยอมให้เขาสละตัวเองเพื่อการแก้แค้นที่เขาสามารถทำเมื่อไหร่ก็ได้ ถึงยังไงการบดขยี้เธอเหมือนกับมดก็ไม่ใช่งานที่ยากเลย!
แต่ตอนนี้เขาเป็นผู้ใช้สายเลือดแล้ว เขาไม่จำเป็นต้องทนกับพฤติกรรมที่น่ารังเกียจของเธอ
อย่าคิดที่จะอ้อนวอนเลย!
เขาจะไม่แสดงความเมตตาให้กับสิ่งมีชีวิตที่น่ารังเกียจอย่างเธอ!
“แน่นอนพี่สาว ข้าจะไว้ชีวิตพี่ ทั้งหมดที่ข้าต้องการก็คือการให้เจ้าได้อยู่ยาวๆ และมีชีวิตที่น่าอดสู” วัลพูดอย่างไร้อารมณ์และเริ่มกระแทกต่อ!