บทที่ 53 : การต่อสู้ด้วยคาถาลวงตาเป็นการต่อสู้ที่น่าอึดอัดใจยิ่ง
บทที่ 53 : การต่อสู้ด้วยคาถาลวงตาเป็นการต่อสู้ที่น่าอึดอัดใจยิ่ง
ทายูยะผู้มีผิวสีเข้ม ผมยาวสีชมพูแดงได้กระจัดกระจายแบบไปทั่ว และมีอักขระปิดผนึกด้วยมนต์สะกดสีดำอยู่ทั่วร่างกายของเธอ ที่ยืนอยู่ข้างเธอคือสัตว์อัญเชิญรูปร่างคล้ายมนุษย์ขนาดใหญ่สามตัว
“ยัยแก่ นี่แหละคือจุดจบของแกแล้ว”
ทายูยะในรูปแบบสภาวะอักระสภาวะขั้นสองได้ทำลายจักระทั้งหมดของเธอออก โดยถือขลุ่ยอยู่ในมือและเล่นมันไป
เสียงขลุ่ยที่ดังกระหึ่ม สัตว์อัญเชิญรูปร่างคล้ายมนุษย์ทั้งสามตัวที่อยู่ด้านหลังทายูยะกำลังพ่นควันสีซีดขนาดใหญ่ราวกับว่ามีวิญญาณออกมาจากปากของพวกมัน
คาถาลวงตาระดับ B!
“เธอเองก็เป็นนินจาระดับเดียวกับฉันเหรอ?” คุเรไนตกอยู่ในภวังค์ คิ้วของเธอขมวดเล็กน้อย จักระโผล่ออกมาจากปลายนิ้วของเธอ และเธอก็แตะเบาๆ บนท้องแบนราบของเธอ
ในเวลาเดียวกัน สสารคล้ายวิญญาณชิ้นใหญ่ก็พ่นออกมาจากสัตว์อัญเชิญรูปทรงคล้ายมนุษย์ทั้งสามตัว ซึ่งทั้งหมดนี้หายไปจากอากาศ
มันต้องเป็นคาถาลวงตาระดับ B แน่นอน
คุเรไนสามารถจัดการกับมันได้ เพราะเธอเป็นโจนินพิเศษที่เชี่ยวชาญด้านคาถาลวงตา
“ยัยผู้หญิงตัวปัญหา [ขลุ่ยปีศาจ · ระบำปีศาจ]!” ใบหน้าของทายูยะเปลี่ยนไปเล็กน้อย แต่เธอยังคงเล่นขลุ่ยในมือต่อไป จักระลอยออกไปขณะที่โน้ตดนตรียังคงบรรเลง มันได้ลอยเข้าไปในหัวของสัตว์อัญเชิญรูปทรงคล้ายมนุษย์ทั้งสามตัว
"[คาถาปีศาจลวงตา: พันธนาการหมู่ไม้มรณะ]" มือสีขาวเล็กๆ ของคุเรไนประสานอิน และพื้นที่โดยรอบบิดเบี้ยว ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่
*บูม*
เถาวัลย์จำนวนนับไม่ถ้วนผุดขึ้นมาจากพื้นดิน ทำให้ทายูยะและสัตว์อัญเชิญทั้งสามโดนเกี่ยวพันและในที่สุดเถาวัลย์ทั้งหมดก็กลายเป็นต้นไม้ใหญ่
"นี่มันอะไรกัน?" หัวใจของทายูยะสั่นไหว ดวงตาของเธอมีสัญญาณของความกลัว แม้จะมีพละกำลังมากมาย แต่เธอก็ไม่สามารถหลุดพ้นจากต้นไม้นี้ไปได้
'คาถาลวงตาเหรอ?'
'ยัยหญิงแก่คนนี้เป็นนินจาที่ใช้คาถาลวงตา!'
“เธอประเมินฉันต่ำเกินไปแล้ว” คุเรไนออกมาจากยอดต้นไม้ ถือคุไนไว้ในมือแล้วฟันไปที่คอของทายูยะ
ทันใดนั้น ทายูยะก็ปล่อยพลังแห่งคำสาปผนึกออกมาจนหมด มีเขาสีขาวที่ลักษณะเหมือนวิญญาณสองตัวโผล่ออกมาจากหัวของเธอ จักระทั่วร่างกายเริ่มเปลี่ยนไป และสะเก็ดขนาดใหญ่ก็ลอยออกมาจากขลุ่ย
เมื่อพลังงานปรากฏออกมา ต้นไม้ก็หายไปอย่างสมบูรณ์
“จักระของผู้หญิงคนนี้ค่อนข้างแปลก” ใบหน้าของคุเรไนดูเคร่งเครียดขึ้น เธอสามารถรับรู้ถึงการเปลี่นแปลงของทายูยะได้ จักระที่เปลี่ยนแปลงไปนั้นทำให้พลังชีวิตของอีกฝ่ายนั้นอ่อนแอ
เธอเคยรู้สึกแบบนี้มาหนึ่งครั้ง
เหมือนกับตอนที่เธอพบซาโตรุเมื่อนานมาแล้ว เธอรู้สึกถึงจักระนี้ มันเหมือนกับพลังชีวิต
"[คาถาลวงตา ∙ วิชากลีบดอกไม้หลบหลีก]" คุเรไนผนึกอย่างรวดเร็ว เธอรู้สึกว่าถ้าเธอฝืนสู้ต่อไปนานๆ อาจมีสิ่งเลวร้ายเกิดขึ้น เธอจึงวางแผนจะฆ่าทายูยะด้วยการโจมตีเพียงครั้งเดียว
“ยัยผู้หญิงโง่เขลา แกบังคับให้ฉันปล่อยผนึกคำสาปออกมา ดังนั้นฉันจะแสดงพลังที่ท่านโอโรจิมารุมอบให้ฉันเอง!” ทายูยะเงยหน้าขึ้นเล็กน้อยแล้วยิ้มอย่างบ้าคลั่ง
เธอกำลังเล่นขลุ่ยอยู่ในมือ ขณะที่เธอกำลังจะใช้วิชาที่แข็งแกร่งกว่าเดิมนั้นเอง…
*ชุ้บ*
ซาโตรุปรากฏตัวออกมาจากอากาศ
“ยังเล่นกันไม่พอเหรอ?” ซาโตรุมองลงไปที่ทายูยะ
“ยางิว ซาโตรุ!” ทายูยะขยับรูม่านตาของเธอ เมื่อมองไปที่ซาโตรุที่อยู่ตรงหน้า ความรู้สึกตื่นตระหนกปรากฏขึ้นในดวงตาของเธอ
ตอนนี้ซาโตรุปรากฏตัวที่นี่ นั่นก็หมายความว่าคนอื่นๆ ถูกจัดการไปหมดแล้ว!
"โจมตี!" ทายูยะควบคุมสัตว์อัญเชิญ และพวกมันก็โจมตีซาโตรุพร้อมกันด้วยการปิดล้อม
“หน้าตาเธอน่ารักดี อย่าหาว่าฉันมือหนักล่ะ” ซาโตรุดูดอมยิ้มเบาๆ แล้วเอามือล้วงกระเป๋าและเผยรอยยิ้มเล็กน้อย
ซาโตรุหายไปจากที่นั่นทันที
สักครู่ต่อมา
แขนซ้ายของทายูยะหายไป มีรูปรากฏขึ้นที่ท้องของเธอ เธอล้มลงกับพื้นและมีเลือดออกทั่วตัวและอยู่ในอาการสาหัสทันที
สัตว์อัญเชิญที่มีรูปร่างเหมือนมนุษย์ทั้งสามตัวก็กลายเป็นเนื้อบดชิ้นใหญ่ เลือดสีแดงเข้มกระจัดกระจายไปทั่วราวกับฝนที่กำลังตกหนัก
ตายทันที
ซาโตรุร่อนลงบนพื้น เอาอมยิ้มชี้ไปที่คุเรไนแล้วพูดว่า "คุเรไนจัง อย่าลืมของรางวัลนะ"
คุเรไนกระพริบตาปริบๆ และพูดออกมาเสียงเบา “ความแข็งแกร่งของนาย… ยังคงน่ารังเกียจเหมือนเดิมไม่มีผิด”
เธอและทายูยะผลัดกันรับผลัดกันสู้มาตลอด แต่หลังจากที่ซาโตรุปรากฏตัวขึ้น เขาก็จัดการทายูยะได้ในไม่กี่วินาที
ความแข็งแกร่งของซาโตรุมันเกินไปแล้ว!
“อย่าใช้คาถาลวงตาแบบนั้นอีกนะ พอดูอยู่ข้างนอกมันก็รู้สึกอายแทนเลย” ซาโตรุหัวเราะเบาๆ
คุเรไนและทายูยะ ถึงแม้พวกเธอจะใช้คาถาลวงตาเผชิญหน้ากัน แต่ในสายตาของคนอื่นๆ จะเห็นว่าพวกเธอกำลังจ้องมองหน้ากันเฉยๆ
ไม่มีใครเคลื่อนที่ไปไหน
มันจึงดูน่าอึดอัดใจมาก
คุเรไนอ้าปากค้าง หันหน้าแสร้งทำเป็นไม่พอใจและพูดด้วยสีหน้าโกรธเคืองว่า "นายก็ไปสอนลูกศิษย์ของนายให้ดีเถอะ ตอนที่ฉันยังเป็นเด็กไม่มีใครสอนฉันสักหน่อย ฉันมีแต่ต้องพึ่งพาตัวเองเท่านั้น"
เธอแค่แกล้งทำเป็นไม่พอใจ เพราะตอนที่ซาโตรุสอนหน่วยเจ็ด เขาพูดย้ำว่าไม่ให้เธอแอบฟัง
ซาโตรุยิ้มบางๆ “ดิ้นรนจากจุดที่ต่ำสุด แล้ววันหนึ่งเธอก็จะโผล่พ้นมันขึ้นมาได้เอง”
ตาของคุเรไนกระตุกเล็กน้อย ราวกับว่ามีอากาศสีดำออกมาจากด้านหลังเธอ เธอค่อยๆ กำหมัดเล็กๆ ของเธอ
ดิ้นรนจากจุดที่ต่ำสุดงั้นเหรอ?
ซาโตรุชักเริ่มทำตัวน่าหงุดหงิดมากขึ้นทุกวันแล้วนะ!
คุเรไนระงับความโกรธในใจ และค่อยๆ ง้างหมัดของเธอออก
“อ๋อ จะว่าไปเมื่อครู่ฉันก็เห็นว่ามีอาจารย์ไร้ยางอายคนหนึ่งเอาเงินที่นักเรียนหามาอย่างยากลำบากไปจากพวกเขาด้วยแหละ” คุเรไนยิ้มออกมาอย่างแผ่วเบา
เกรงว่าจะมีแต่ซาโตรุเท่านั้นที่ไถเงินจากลูกศิษย์ตัวเอง ใช่ไหม?
“อย่าอิจฉาไปเลยน่า เดี๋ยวฉันก็จะล้วงกระเป๋าเงินของเธอให้หมดเหมือนกัน” ซาโตรุพูดเสียงเบา “ฉันต้องไปความสะอาดสนามรบอีก เธอที่อ่อนแอเกินไปก็นั่งดูที่นี่ไปก่อนนะ”
ทันทีที่สิ้นเสียง ซาโตรุก็หายไป
“ใคร…ใครอิจฉากัน!” ใบหน้าที่สวยงามของคุเรไนมีสีแดงระเรื่อ แววตาของเธอเผยความรู้สึกเขินอายออกมา
จะล้วงกระเป๋าเงินของฉันให้หมดเหรอ?
นี่มันคำพูดบ้าบออะไรกันเนี่ย?
“ฮึ่ม ฉันเกลียดซาโตรุที่สุด” คุเรไนตะคอกออกมาด้วยความโกรธ
หลังจากที่ซาโตรุเข้าร่วมสนามรบ ศัตรูทั้งหมดที่เขาพบจะถูกสังหารทันที
ไม่ว่าจะเป็นนินจาจากหมู่บ้านซึนะหรือโอโตะ ศัตรูทั้งหมดก็ไม่อาจทัดเทียมเขาได้
ในบรรดาศัตรูสามร้อยยี่สิบคน ส่วนใหญ่จะเป็นเกะนินและจูนิน มีโจนินระดับสูงเพียงไม่กี่คนเท่านั้น
โจนินระดับสูงที่มีเพียงคนเดียวคือกาอาระ
ดังนั้นในสายตาของซาโตรุ ศัตรูกลุ่มนี้จึงเป็นเพียงเศษสวะ
“โอ้…น่าทึ่งมาก!”
“ความเร็วของซาโตรุเร็วมาก ฉันไม่เคยเห็นวิชาการเคลื่อนไหวที่เร็วขนาดนี้มาก่อนเลย!”
“กระทั่งคุไนก็แตะผิวของซาโตรุไม่ได้ นี่ใช่ขีดจำกัดสายเลือดของเขาหรือเปล่า?”
"นินจากระหายเลือด – ยางิว ซาโตรุ!"
นินจาทั้งหมดที่อยู่ตรงนั้นต่างตกตะลึง พวกเขาดูเหมือนเห็นผีหรือปีศาจ พวกเขาจ้องมองไปที่ซาโตรุที่กำลังกวาดล้างศัตรูทั้งหมดไปอย่างว่างเปล่า
พวกนินจาในหมู่บ้านโคโนฮะนั้นลำบากกันมากในการสกัดกั้นศัตรู
แต่กับซาโตรุ ศัตรูเหล่านี้ก็เหมือนกับเด็กๆ ที่กำลังถูกรังแก
ซาโตรุต่อสู้กับศัตรูเหมือนผู้ใหญ่ที่รังแกเด็ก
ทั้งเรียบนิ่งและสงบ สบายๆ คล้ายไม่ได้กังวลสิ่งใด
ในเวลาเพียงสามนาที ศัตรูทั้งหมดสามร้อยยี่สิบคนได้ถูกสังหาร