บทที่ 48 : ซาโตรุถูกผนึกงั้นเหรอ?
บทที่ 48 : ซาโตรุถูกผนึกงั้นเหรอ?
*บูม*
พื้นดินสั่นสะเทือนอย่างรุนแรง และเสาหลายต้นที่เกิดจากผลึกสีชมพูปนแดงลอยขึ้นมาจากพื้นดิน กลายเป็นกรงเพื่อผนึกซาโตรุไว้ข้างใน
"ขังกันงั้นเหรอ?" ซาโตรุถืออมยิ้มไว้ในปาก ล้วงมือในกระเป๋ากางเกงแล้วมองผ่านแว่นกันแดดตรงไปที่กรงผลึก อักขระสีดำขนาดใหญ่ปรากฏขึ้นบนพื้นผิวของเสา ซึ่งดูเหมือนมันจะเป็นคาถาที่ใช้ในการผนึก
ทุกคนในกลุ่มผู้ชมต่างตกตะลึง
“นี่คือของขวัญที่ฉันใช้เวลาเตรียมการให้นายตั้งหนึ่งชั่วโมงเลยนะ” กุเร็นมองไปที่ซาโตรุในกรงและยิ้มอย่างเย็นชา จากนั้นจึงประสานอินด้วยมือทั้งสองข้าง ก่อนจะกระแทกมือลงกับพื้น
"[คาถาผลึก·เสามรกตหกเหลี่ยม]"
หมอกสีชมพูปกคลุมทั่วทั้งสนาม และผลึกหกเหลี่ยมขนาดใหญ่ก็ปรากฏออกมาจากอากาศเพื่อคลอบคลุมบริเวณที่ซาโตรุอยู่
พื้นผิวผลึกมีจักระหนาแน่นอย่างอัศจรรย์ มันเป็นคาถาที่แข็งแกร่งที่สุดของกุเร็น อีกทั้งยังสามารถดักจับสามหางได้ชั่วคราวอีกด้วย
“ผนึกทั้งสองนี้สามารถผนึกจักระของนายไว้ได้ แต่มันอาจจะดูจุกจิกไปหน่อยที่เอามาใช้กับมนุษย์แบบนี้” กุเร็นหอบหายใจแรงๆ และมองดูซาโตรุที่ถูกผนึกไว้ด้วยสายตาเย็นชา
“แต่เพราะนายคือยางิว ซาโตรุ ก็อย่าหาว่าฉันว่าใจร้ายแล้วกันนะ”
หลังจากที่เธอใช้ผนึกทั้งสองนี้ เธอก็ได้ใช้จักระไปจำนวนมหาศาล
“ซาโตรุ!” คุเรไนมองไปไกลๆ เห็นซาโตรุอยู่ในผลึกหกเหลี่ยม ดวงตาสีแดงสดราวกับอัญมณีของเธอบ่งบอกถึงความกังวล
“เป้าหมายของเธอคือซาโตรุงั้นเหรอ?” คุเรไนดึงคุไนออกมาและกำลังจะโจมตีกุเร็น
“อย่าขยับ ถ้าขยับเด็กนี้ตายแน่” กุเร็นกอดซากุระด้วยมือข้างหนึ่ง และอีกมือหนึ่งวางบนคอของซากุระ
“เธอมาตั้งแต่เมื่อไหร่กัน!” ซาสึเกะตกตะลึง เขาใช้เนตรวงแหวนตลอดเวลา แต่เขากลับไม่สามารถมองเห็นการเคลื่อนไหวของกุเร็นได้อย่างชัดเจนเลยด้วยซ้ำ
“ซากุระจัง บ้าเอ้ย ปล่อยซากุระจังนะ!” ผิวของนารูโตะเริ่มเปลี่ยนไป และเขากำลังจะใช้คาถาร่างแยกโดยกำลังจะเอามือขึ้นมา
“ใจเย็นๆ อยากให้เด็กผู้หญิงคนนี้ตายเหรอ?”
กุเร็นเจาะลำคอของซากุระด้วยคุไนที่แหลมคม เลือดสีแดงสดได้ไหลลงมาจนถึงพื้น
"บ้าเอ๊ย!" นารูโตะกัดฟัน รีบปล่อยมือและจ้องกุเร็นด้วยสายตาที่โกรธแค้น
ใบหน้าของซากุระซีดเซียว เธอรู้สึกเจ็บที่คอและดวงตาก็เต็มไปด้วยความกลัว แต่ในที่สุดก็รวบรวมความกล้าและตะโกนออกไปอย่างกล้าหาญ
“คุเระ...อาจารย์คุเรไน ไม่ต้องเป็นห่วงหนู สิ่งสำคัญอันดับแรกคือการจัดการกับศัตรูก่อน”
"จิ้" คุเรไนหยุดชั่วคราวและขมวดคิ้วเล็กน้อย จ้องไปที่กุเร็นแล้วถามว่า "เธอเป็นนินจาจากหมู่บ้านโอโตะงั้นเหรอ? เป้าหมายของเธอคืออะไรกันแน่?"
“ยัยบ้าใครจะบอกแผนให้ศัตรูฟังกัน” เสียงหยาบคายได้ดังขึ้น
นินจาจากหมู่บ้านโอโตะสี่คนลงมาจากท้องฟ้าและแยกกันลงไปในสี่ทิศของผลึกหกเหลี่ยม จากนั้นพวกเขาก็สร้างผนึกใช้ในเวลาเดียวกัน
"[กำแพงเพลิงสี่ทิศ]"
กำแพงแสงทั้งสี่ปรากฏขึ้นมาปกคลุมผลึกขนาดใหญ่ ก่อตัวเป็นแนวกั้นขนาดใหญ่รอบๆ ซาโตรุโดยไม่มีช่องว่างใดๆ เหลืออยู่
ผนึกระดับสูงสองอัน และคาถาป้องกันระดับสูงอีกหนึ่ง
พวกเขาใช้ทรัพยากรไปมากมายและเริ่มวางแผนเมื่อเดือนที่แล้ว พวกเขาพยายามอย่างเต็มที่เพื่อดักจับซาโตรุให้หยุดอยู่ห้านาที
บนที่นั่งที่สูงที่สุด ฮิรุเซ็นมองลงไปที่เหล่านินจาจำนวนมากที่กำลังปะทะกัน จากนั้นมองไปที่ซาโตรุที่ถูกผนึกไว้ด้วยผนึกสองชั้น พร้อมกับแววตาที่เต็มไปด้วยความโกรธ
อาสึมะและชิกามารุนำคนอื่นๆ ออกจากสนามรบพร้อมกับบรรดาเกะนินแล้ว
หลังจากที่พวกเขาพาเกะนินไปที่ปลอดภัยแล้ว พวกเขาก็จะกลับมาร่วมที่สนามรบด้วย
นินจาในหมู่บ้านก็เข้าร่วมการต่อสู้ทันทีเพื่อหยุดการบุกรุกของนินจาหมู่บ้านโอโตะและหมู่บ้านสึนะ
“หมู่บ้านสึนะงั้นเหรอ? พวกมันกำลังพยายามสร้างสงครามที่ไร้สาระขึ้นอีกครั้งหรือไง?!”
ไดเมียวจากดินแดนแห่งไฟได้กระโดดลงไปที่เบื้องหน้าฮิรุเซ็น เขาถอดผ้าคลุมออกเผยให้เห็นใบหน้าที่ชั่วร้ายของเขา
โอโรจิมารุ!
“ฮ่าฮ่า…อาจารย์ซารุโทบิ ไม่ได้เจอคุณมานานมาก ยังคงไร้เดียงสาเช่นเดิมสินะ” โอโรจิมารุเลียมุมปากของเขา แววตาซีดสีทองที่เหมือนงูคู่นั้นมีความเสียดสีสะท้อนออกมา
สงครามได้เริ่มต้นขึ้นแล้ว และเขาไม่คิดว่าฮิรุเซ็นจะยังพูดคำพูดที่ดูอ่อนแอและไร้เดียงสาเช่นนี้ออกมาได้
“โอโรจิมารุ” ฮิรุเซ็นผงะเล็กน้อย และใบหน้าของเขาเหยเกทันทีที่เขาเห็นโอโรจิมารุ ภาพในอดีตพลันปรากฏขึ้นในใจของเขา
ในสมัยก่อน โอโรจิมารุเป็นนักเรียนคนโปรดของเขา แต่สุดท้ายโอโรจิมารุก็เดินไปในวิถีที่ผิด
“ถ้าไม่มีซาโตรุ ก็ไม่มีภัยคุกคาม แต่เผื่อไว้ก่อนแล้วกัน” โอโรจิมารุพูดเสียงแหบแห้ง
งูสี่ตัวเจาะออกมาจากพื้นดิน จากนั้นก็กลายเป็นร่างแยกของโอโรจิมารุ ร่างแยกทั้งหมดกระโดดกลับไปและตกลงไปในสี่ทิศทาง
"[กำแพงเพลิงสี่ทิศ]"
ร่างแยกทั้งหมดก่อตัวเป็นผนึกในเวลาเดียวกัน และกำแพงแสงทั้งสี่ก็ปรากฏขึ้นมาจากอากาศก่อตัวเป็นแนวกั้นล้อมรอบพวกมัน
“โอโรจิมารุ เธอยังไม่อาจละทิ้งความเกลียดชังในใจได้หรือ?” ฮิรุเซ็นสูบบุหรี่เพื่อระงับความโกรธในใจ และมองดูโอโรจิมารุอย่างสงบ
“อาจารย์ซารุโทบิ คุณน่ะแก่มากแล้ว” โอโรจิมารุเหลือบมองลงไปที่กาอาระที่ตอนนี้บริเวณโดยรอบเขาถูกปกคลุมไปด้วยทราย
ต้องใช้เวลาอีกสักพักก่อนที่ชูคาคุจะตื่นเต็มที่สินะ?
โอโรจิมารุมองย้อนกลับไปอีกครั้ง ก็เห็นซาโตรุที่ถูกผนึกด้วยผนึกผลึกระดับสูงสองชั้นพร้อมกำแพงคลุมอีกชั้นหนึ่ง
ตราบใดที่สามารถรั้งซาโตรุเอาไว้ได้ เขาก็สามารถทำลายหมู่บ้านได้สำเร็จ
เพราะเขายังมีไพ่ลับอยู่
คาถาอัญเชิญสัมภเวสีคืนชีพ!
“ดาบคุซานางิ” คอของโอโรจิมารุยาวขึ้น และด้วยดาบอันแหลมคมในปากของเขา มันก็ฟันลงไปอย่างโหดหี้ยมเข้าไปที่คอของฮิรุเซ็น
ในเวลาเดียวกันอีก ณ พื้นที่หนึ่ง
“คิบะ ชิโนะ พาฮินาตะไปจากที่นี่ซะ” คุเรไนถือคุไนไว้ในมือ จ้องมองไปที่กุเร็นอย่างเย็นชา
ซาโตรุถูกผนึก โฮคาเงะรุ่นที่ 3 ถูกโอโรจิมารุโจมตี และมีนินจาจำนวนมากบุกรุกเข้ามาในหมู่บ้าน
กาอาระบนสนามดูเหมือนกำลังจะปล่อยพลังอันน่าสะพรึงกลัวออกมา
ซากุระก็ถูกจับเป็นตัวประกันเช่นกัน
และโจนินระดับสูงจำนวนมาก เช่นคาคาชิและคนอื่นๆ ยังคงติดภารกิจอยู่
ตอนนี้ฉันควรทำยังไงดี?
"แต่..." ใบหน้าของคิบะเครียดมากขึ้น เขาเหลือบมองโฮคาเงะรุ่นที่ 3 จากนั้นจึงมองไปที่ซาโตรุที่อยู่ในผนึก และมองไปที่ซากุระที่ถูกจับเป็นตัวประกัน
คำพูดของคิบะได้หยุดลงทันที แม้ว่าเขาจะหยิ่งผยองและมักจะมีท่าทีที่แข็งกร้าวเสมอ แต่สถานการณ์นี้เขาก็เข้าใจว่าการอยู่ที่นี่ต่อไปรังแต่จะกลายเป็นภาระให้กับบรรดาโจนิน
“อาจารย์คุเรไน ไอ้โง่งี่เง่านารูโตะ ผมขอฝากด้วยนะ” คิบะอุ้มฮินาตะขึ้นมา กอดอากามารุเพื่อนรักของเขา แล้วหันหลังแล้ววิ่งหนีไปอย่างรวดเร็ว
หลังจากการต่อสู้กับนารูโตะ เขาก็ยอมรับว่านารูโตะเป็นคู่ต่อสู้ของเขาได้
ชิโนะเองก็เดินตามไปอย่างรวดเร็ว
“แกปล่อยซากุระจังเดี๋ยวนี้ ไม่งั้นฉันจะทุบแกให้แหลกเป็นชิ้นๆ เอง!” นารูโตะโกรธมาก ดวงตาสีฟ้าของเขากลายเป็นรูม่านตาจิ้งจอกสีแดง และทั่วทั้งร่างกายเผยให้เห็นจักระสีแดงเข้ม
“เธอคือร่างสถิตย์ของจิ้งจอกปีศาจสินะ? ฉันเองอยากลองทดสอบดูว่าเธอเร็วกว่าหรือฉันเร็วกว่ากันแน่?” กุเร็นถือคุไนไว้ในมือ แทงเข้าไปในผิวหนังของซากุระอีกเล็กน้อย พร้อมทั้งมองลงไปที่นารูโตะอย่างไม่แยแส
“ร่างสถิตย์ของจิ้งจอกปีศาจ?” นารูโตะหยุดการโจมตีและหลังจากได้ยินคำว่า 'ร่างสถิตย์ของจิ้งจอกปีศาจ' เขาก็ตอบโต้ด้วยความโกรธ "ฉันน่ะคืออุซึมากิ นารูโตะ และคือคนที่จะเป็นโฮคาเงะในอนาคตต่างหาก!"
“ไม่ต้องห่วงฉัน นินจาต้องให้ความสำคัญของภารกิจก่อน” ซากุระก้มหน้าลง ร่างกายอันบอบบางของเธอสั่นเทาเพราะความกลัว
เพราะฉันเอง อาจารย์คุเรไนจึงทำอะไรไม่ได้ และเสียเวลาไปมากขนาดนี้
บางทีที่อาจารย์ซาโตรุอาจจะทำลายผนึกไม่ได้ก็เพราะเธอใช่ไหม?
เธอจำได้ที่โรงเรียนเคยสอนไว้ว่า
นินจาควรจัดลำดับความสำคัญของภารกิจ และเมื่อนินจาถูกจับเป็นตัวประกัน พวกเขาก็ไม่มีค่าอะไรเลย
เธอจำได้ว่าประโยคนี้เป็นคำสอนของคุณปู่จอมเผด็จผู้มีร่างกายเต็มไปด้วยผ้าพันแผล
ซากุระมองคุไนอันแหลมคมบนคอของเธอด้วยความกลัว จากนั้นมองไปที่ทุกคนในทีมที่เจ็ด เธอยิ้มแล้วพูดว่า "ขอบคุณมาก"
ขอโทษนะคะอาจารย์ซาโตรุ
ซากุระกัดริมฝีปากและกระแทกคอไปทางคุไนโดยตั้งใจจะฆ่าตัวตาย เธอมันไม่มีคุณค่าอะไรเลยเพราะถูกจับเป็นตัวประกัน
"ยุ่งยากแล้วสิ" เสียงหัวเราะดังขึ้น
ทันทีที่คำพูดนี้ออกมา ทุกคนในกลุ่มก็ตกใจเล็กน้อย พวกเขามองไปที่ซาโตรุที่อยู่ในผนึกหลายชั้น
ซาโตรุยกมือขึ้น เคาะไปที่ผลึกแล้วใช้อมยิ้มชี้ไปที่กุเร็น และพูดด้วยสีหน้ารังเกียจว่า "ไม่มีระบบป้องกันเสียงให้ด้วยเหรอ? ระวังโดนฉันเอ็ดเอานะ"