ตอนที่แล้วบทที่ 107 ข้ายอดยเยี่ยมเกินไป
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปบทที่ 109 กลยุทธ์สายการบินอู๋จิ๋

บทที่ 108 การประเมินมืออาชีพเริ่มต้นขึ้น


ปฏิทินพันธมิตร วันที่ 1 เดือนมกราคม ปี 178 เวลา 7 นาฬิกา

ในตงหวง สนามสอบแห่งสนามประลองของเมืองหลวงโบราณ ในที่สุดประตูก็เปิดออก ผู้เข้าร่วมวิ่งเข้ามาอย่างครึกโครม

ฉากเต็มไปด้วยความกระตือรือร้น ผู้คนส่วนใหญ่ที่เข้าร่วมยังอายุน้อย และยังมีชายวัยกลางคนบางส่วนที่มาลองดูเพื่อความฝันของพวกเขา

“อ่า…” ในขณะนั้นเอง ลูกพี่ลูกน้องทรงผมบัซคัตก็มองไปที่ซืออวี๋ผู้ที่จากไปและรู้สึกคันในใจของเขา

มันช่างน่าเสียดายอย่างแท้จริง

พวกเขาไม่ได้อยู่ในสนามสอบเดียวกับซืออวี๋ พวกเขาอาจำม่สามารถดูฉากที่หนอนไหมเขียวของซืออวี๋แสดงออกมาและทำให้ผู้คุมสอบตกตะลึงได้

เขารู้สึกว่าเขาเสียเงินไป 100 ล้านหยวน

ในขณะนี้ ซืออวี๋มองไปที่เลขสนามสอบที่แสดงอยู่บนตั๋วและเดินตามฝูงชนกับป้าย

“ความรู้สึกนี้คล้ายกับการสอบเข้ามหาวิทยาลัยอย่างแท้จริง…”

“น่าเสียดาย นอกเหนือจากการสอบข้อเขียนแล้ว เราพร้อมมากในคราวนี้!”

ซืออวี๋หัวเราะอย่างบางเบา

สนามประลองทะเลสาบดอกบัว สนามสอบหมายเลข 10

ในไม่ช้า ซืออวี๋ก็มาถึง

กล่าวตามตรง เขารู้สึกว่ามีบางอย่างผิดปกติ เนื่องจากมันไม่ใช่หมายเลขที่ 11 เรื่องนี้น่าสนใจเล็กน้อย เลขนำโชคนี้หายไปแล้วเช่นนั้นเหรอ?

การสอบพื้นฐานเป็นการทดสอบพร้อมกันที่สนามสอบหลายแห่ง มีเพียงวิธีนี้เท่านั้นที่จะทำให้ผู้เข้าร่วมรับประกันได้ว่าพวกเขาจะทำการสอบพื้นฐานเสร็จในเวลาอันสั้น

ในตอนเช้าเป็นการสอบพื้นฐานภาคสนาม และตอนบ่ายเป็นการสอบข้อเขียนภายในตัวอาคาร ประสิทธิภาพค่อนข้างสูง

ในเวลาอันสั้น เขาสามารถทำได้สองการทดสอบ ยิ่งกว่านั้น เนื้อหาของการสอบข้อเขียนล้วนถูกตัดสินโดยเครื่องจักร และผลลัพธ์ก็จะถูกประกาศในวันถัดไป

ในวันประกาศผล ผู้เข้าร่วมจะได้พักหนึ่งวัน จากนั้นก็จะเป็นการสอบครั้งที่สาม!

ในเวลานี้ ซืออวี๋และผู้เข้าร่วมอีก 79 คนยืนอยู่บริเวณโดยรอบสนามสอบหมายเลข 10 ซึ่งมีโต๊ะทดสอบขนาดใหญ่

เครื่องตรวจับนี้ไม่ได้สร้างขึ้นมาที่นี่โดยตรง ทว่ามันถูกขนส่งมาที่นี่ มันคล้ายกับเวทีมวยมาก ทว่ามันใหญ่กว่า มันสูงน้อยกว่าหนึ่งเมตร ทว่ามีความยาวและความกว้างสิบเมตร มันคือเครื่องตรวจจับพลังงานซึ่งมีความแม่นยำสูง

เมื่อยืนอยู่บนนั้น ไม่เพียงแค่มันจะตรวจจับข้อมูลพลังงานของสัตว์อสูรเท่านั้น ทว่ายังรวมถึงเผ่าพันธุ์ ความสูง น้ำหนัก การพัฒนาทางร่างกาย และอายุของสัตว์อสูรอีกเช่นเดียวกัน

ในตอนนี้ มีโต๊ะสามตัววางอยู่ข้างในซึ่งหันหน้าเข้าโต๊ะทดสอบ ด้านหลังโต๊ะทดสอบ หญิงสาวคนหนึ่งกำลังควบคุมคอมพิวเตอร์เพียงลำพัง และชายสองคนกำลังอ่านข้อมูลด้วยสีหน้าอันสงบ

“การประเมินมืออาชีพอีกครั้งหนึ่ง” ผู้คุมสอบหญิงเงยหน้าขึ้นมองผู้เข้าร่วมที่เกือบมาถึงด้านนอกสนามสอบและถอนหายใจออกมา

ทุกปีจะมีทั้งคนที่มีความสุขและคนที่เสียใจ ข้าสงสัยว่าคนจะฝึกฝนหนักมากเกินไปไหมในปีนี้…

“ข้าสงสัยเล็กน้อยเกี่ยวกับคุณภาพของผู้เข้าร่วมปีนี้”

“ไม่จำเป็นต้องมากความ คุณภาพดีขึ้นทุกปี”

ผู้คุมสอบชายอีกสองคนหัวเราะอย่างบางเบา

พวกเขาทุกคนเป็นนักฝึกสัตว์อสูรมืออาชีพของสมาคมนักฝึกสัตว์อสูรในเมืองหลวงโบราณ ทุกปี ผู้คุมสอบระดับพื้นฐานจะถูกสุ่มย้ายมาจากนักฝึกสัตว์อสูรมืออาชีพ

แม้ว่ามันจะเพียงแค่ไม่กี่วัน แต่การดูแลก็ดีมาก

ในเวลานี้ เมื่อเห็นว่าถึงเวลาแล้ว ผู้คุมสอบหญิงวัยกลางคนในชุดกระโปรงสีดำได้ยืนขึ้นและกล่าวว่า “เาล่ะ เงียบได้แล้ว”

นางมองทุกคนด้วยสายตาที่สง่างาม

“ข้าคือผู้คุมสอบหลักสำหรับการสอบพื้นฐานของพวกเจ้า จวงผิง ต่อไป ข้าจะรับผิดชอบการทดสอบพื้นฐานของพวกเจ้า การสอบนี้ง่ายมาก เมื่อเจ้าได้ยินชื่อของพวกเจ้า พวกเจ้าต้องไปที่โต๊ะทดสอบและอัญเชิญสัตว์อสูรของพวกเจ้าออกมา”

“ไม่มีการจัดอันดับสำหรับการสอบพื้นฐานนี้ พวกเจ้าสามารถผ่านได้อย่างง่ายดายหากผ่านมาตรฐาน ทว่าสัตว์อสูรของพวกเจ้าอาจส่งผลต่อคำถามในการสอบถิ่นทุรกันดารของพวกเจ้าตามเผ่าพันธุ์และคุณสมบัติของพวกมัน ดังนั้นหากจ้ามีสัตว์อสูรหลายตัว คิดให้ดีว่าพวกเจ้าควรอัญเชิญสัตว์อสูรตัวไหนออกมาก่อน”

“การสอบครั้งที่สามคือการสอบถิ่นทุรกันดาร ข้าเชื่อว่าพวกเจ้าเข้าใจเรื่องนี้อยู่แล้ว ในเวลานั้น พวกเจ้าจะถูกโยนเข้าไปในถิ่นทุรกันดาร จากนั้นพวกเข้าก็จะต้องเอาชีวิตรอดให้ได้ระยะหนึ่ง ในช่วงเวลาเอาชีวิตรอด ข้าจะมอบภารกิจการสอบให้แก่พวกเจ้าแต่ละคน ไม่ว่าจะเป็นการล่าสัตว์อสูรหรือแย่งชิงทรัพยากรบางอย่าง”

“ภารกิจที่ถูกมอบให้จะแก้ทางสัตว์อสูรที่พวกเจ้าส่งออกมาทำสอบ พวกเจ้าเข้าใจไหม?”

นักฝึกสัตว์อสูรที่เต็มไปด้วยความคาดหวังทั้ง 80 คนฟังอย่างเงียบสงบและพยักหน้าอย่างพร้อมเพรียงกัน

เขาเข้าใจแล้ว

ตัวอย่างเช่น หากเขาส่งอสูรจันทราธาตุไฟเข้าร่วมการสอบพื้นฐาน ในการสอบที่สาม ภารกิจจะให้เขารับมือกับสัตว์อสูรธาตุน้ำและหาทรัพยากรธาตุน้ำ

แม้ว่ามันจะยากมาก แต่สมาคมนักฝึกสัตว์อสูรก็ไม่ได้ซ่อนกฎนี้ พวกเขาเตือนผู้เข้าร่วมแบบผิวเผินโดยตรง

ผู้เข้าร่วมส่วนใหญ่ทำสัญญากับสัตว์อสูรสองตัว หากสัตว์อสูรทั้งสองตัวอยู่ระดับเหนือธรรมชาติ ในด้านหนึ่ง นี่เป็นการมอบสิทธิ์ให้ผู้เข้าร่วมเลือกประเภทภารกิจในการสอบครั้งที่สาม

ผู้เข้าร่วมสามารถใช้กฎนี้เพื่อทำให้การสอบครั้งที่สามง่ายขึ้นได้

ท้ายที่สุดด พวกเขาสามารถแก้ทางสัตว์อสูรได้หนึ่งตัว ทว่าพวกเขาจะแก้ทางสัตว์อสูรได้สองตัวเลยงั้นเหรอ?

แน่นอน สำหรับผู้เข้าร่วมที่ทำสัญญากับสัตว์อสูรหรึ่งตัวหรือมีสัตว์อสูรเพียงตัวเดียวที่อยู่ระดับเหนือธรรมชาติ กฎนี้ไม่ยุติธรรมเลย…

“ได้เวลาแล้ว เราจะเริ่มการสอบพื้นฐานแล้ว ผู้เข้าร่วมที่มีชื่อดังต่อไปนี้ ทำตามที่ข้าบอกได้แล้ว”

ทันทีที่ผู้คุมสอบจวงผิงกล่าวจบ ผู้คุมสอบชายที่ถือข้อมูลก็กระแอมในลำคอและเรียกชื่อ “หมายเลข 1439 เฮออวี๋”

ผู้เข้าร่วทคนแรกที่ถูกเรียกไปก็คือหญิงสาวผมหางม้าซึ่งอายุไม่ถึง 20 ปี เมื่อได้ยินชื่อของนาง หัวใจของนางก็เต้นระรัว นางยกมือขึ้นอย่างกระวนกระวายและตะโกนว่า “ข้ามาแล้ว!”

“ขึ้นมาทดสอบ” จวงผิงก็ถือข้อมูลเช่นเดียวกันและพยักหน้า

นางมองดูข้อมูลในมือของนาง ในนั้นมีรูปภาพ ชื่อ อายุ เพศ และตัวตนของหญิงสาวที่ชื่อเฮออวี๋…

ภายใต้ความสนใจของผู้เข้าร่วมทุกคน ผู้เข้าร่วมคนแรกเฮออวี๋วิ่งไปทางโต๊ะทดสอบ ทันทีที่นางก้าวขึ้นไปบนโต๊ะทดสอบ โต๊ะทดสอบก็สว่างขึ้นทันที ทำให้เด็กสาวตัวน้อยหวาดกลัว

ทว่าไม่นานนัก นางก็สงบอารมณ์ของตัวเองและมองไปที่ผู้คุมสอบอย่างระมัดระวัง

“เจ้าสามารถอัญเชิญสัตว์อสูรของเจ้าออกมาได้โดยตรงหลังจากขึ้นไป” จวงผิงกล่าวออกมา

“ตกลง” หญิงสาวพยักหน้าและสูดหายใจเข้าลึก ในวินาทีต่อมา ไม่ไกลจากด้านหน้าของนาง วงแหวนอัญเชิญขนาดใหญ่ที่เปล่งประกายพร้อมกับจุดแสงนับไม่ถ้วนราวกับแผนที่ดวงดาวก็ปรากฎขึ้นกลางอากาศ

ระลอกคลื่นซึ่งคล้ายกับน้ำปรากฎขึ้นบนวงแหวนอัญเชิญ สัตว์อสูรน้อยแสนน่ารักซึ่งมีร่างกายสีน้ำเงินคราม ดวงตาสีม่วง และรูปร่างหน้าตาคล้ายกับกระรอกบินได้ออกมาจากวงแหวนอัญเชิญ!

[ชื่อ] : สุดยอดหนูบิน

[คุณสมบัติ] : จิตวิญญาณ

[ระดับเผ่าพันธุ์] : เหนือธรรมชาติขั้นสูง

[ทักษะเผ่าพันธุ์] : ร่างโคลน บาร์เรีย คลื่นพลังจิต

มันเป็นสัตว์อสูรจิตวิญญาณที่แสนหายาก!

ในขณะที่ทุกคนมองไปที่สุดยอดหนูบิน ช่วงเวลาต่อมา เสียงอัตโนมัติของเครื่องตรวจจับก็ดังขึ้นมา

“ชื่อเผ่าพันธุ์ สุดยอดหนูบิน”

“ระดับเผ่าพันธุ์ ระดับเหนือธรรมชาติขั้นสูง”

“ระดับการเติบโต ระดับเหนือธรรมชาติ”

“ค่าพลังงาน 599 คะแนน”

หลังจากเสียงประกาศจบ หญิงสาวเฮออวี๋ก็หน้าแดงและกำหมัดแน่นอย่างตื่นเต้น ไม่เลวเลย!

ด่านล่าง มีคนน้อยนิดที่มีสีหน้าว่างเปล่า พวกเขาส่วนใหญ่แอบพยักหน้า เห็นได้ชัดว่าไม่ใช่ว่าทุกคนที่จะรู้ว่าค่านี้หมายถึงอะไร

ในขณะนี้ ผู้คุมสอบที่อยู่ตรงหน้าคอมพิวเตอร์ก็ได้รับข้อมูลอื่นของสุดยอดหนูบินเช่นเดียวกัน จากนั้นเขาก็อัปโหลดมัน ผู้คุมสอบที่เรียกชื่อก็เริ่มบันทึกข้อมูลลงในกระดาษ

สำหรับผู้คุมสอบจวงผิงแล้ว นางกล่าวเสริมว่า

“ค่าพลังงานแสดงถึงปริมาณพลังงานในร่างกายของสัตว์อสูร พลังงานในร่างกายของสัตว์อสูรในระดับปลุกตื่นคือ 100 คะแนน สำหรับมาตรฐานระดับเหนือธรรมชาติก็คือ 500 คะแนน ค่านี้กำหนดว่าสัตว์อสูรสามารถใช้ทักษะระดับสูงได้ไหม และมันใช้ทักษะได้หลายครั้งไหม พวกเจ้าสามารถใช้ค่าพลังงานเป็นตัวอ้างอิงเพื่อกำหนดความแข็งแกร่งของสัตว์อสูรของพวกเจ้าได้”

หลังจากที่ระดับการเติบโตของสัตว์อสูรถึงระดับเหนือธรรมชาติ มันไม่ได้ผ่านการเปลี่ยนแปลงหลายครั้งเช่นเดียวกับในระดับปลุกตื่น ความแข็งแกร่งของมันจะไม่ได้รับการเปลี่ยนแปลงเชิงคุณภาพ แต่มันก็จะสะสมอย่างเชื่องช้า

นี่เป็นเพราะสัตว์อสูรในระดับนี้ได้ผ่านระดับที่เติบโตอย่างรวดเร็วไปแล้ว ทักษะเผ่าพันธุ์ของพวกมันได้ถูกปลุกแล้ว

ต่อไป มีเพียงขั้นใหญ่ในระดับเหนือธรรมชาติ ไม่มีการแบ่งขั้นเล็กอีกต่อไป

สำหรับการเติบโตและการเปลี่ยนแปลงครั้งต่อไปของสัตว์อสูร นั่นคงต้องรอจนถึงระดับผู้บัญชาการ

ในระดับผู้บัญชาการ ความแข็งแกร่งของสัตว์อสูรจะมีการเปลี่ยนแปลงชิงคุณภาพค่อนข้างมาก สัตว์อสูรสามารถปลดปล่อยพลังงาน แข็งตัว และควบแน่นคริสตัลพลังงานได้ด้วยตัวพวกมันเอง!!

ในป่า สัตว์อสูรระดับผู้บัญชาการบางส่วนอาศัยวิธีนี้ในการเลี้ยงดูสมาชิกเผ่าพันธุ์ของพวกมัน ความแตกต่างในความแข็งแกร่งระหว่างกลุ่มที่มีสัตว์อสูรและกลุ่มที่ไม่มีสัตว์อสูรระดับผู้บัญชาการนั้นชัดเจนมาก!

“หมายเลข 1440 จินเฟย”

“ชื่อเผ่าพันธุ์ เสือดาวเงา”

“ระดับเผ่าพันธุ์ ระดับเหนือธรรมชาติขั้นสูง”

“ระดับการเติบโต ระดับเหนือธรรมชาติ”

“ค่าพลังงาน 761 คะแนน”

“หมายเลข 1441 จีหยวน”

“ชื่อเผ่าพันธุ์ เถาวัลย์รวมสายลม”

“ระดับเผ่าพันธุ์ ระดับเหนือธรรมชาติขั้นกลาง”

“ระดับการเติบโต ระดับเหนือธรรมชาติ”

“ค่าพลังงาน 524 คะแนน”

จากนั้นผู้เข้าร่วมจะถูกเรียกชื่อทีละคนและขึ้นไปทดสอบ

อย่างไรก็ตาม การสอบส่วนใหญ่ธรรมดามาก ไม่มีคะแนนที่สูงมากเป็นพิเศษเลย

จนกระทั่ง…

“หมายเลข 1461 เซียงซิง”

“ชื่อเผ่าพันธุ์ สิงโตอัสนี”

“ระดับเผ่าพันธุ์ ระดับผู้บัญชาการขั้นต่ำ”

“ระดับการเติบโต ระดับเหนือธรรมชาติ”

“ค่าพลังงาน 1,214 คะแนน”

ในตอนนี้ บรรยากาศอันเงียบสงบของการทดสอบพื้นฐานถูกทำลายลงโดยตรง

“บัดซ* มันมากกว่า 1,000 เหรอ???”

“บัดซ* มันเป็นสองเท่าของผีเสื้อคริสตัลดินของข้า…”

“มันไร้สาระมาก เผ่าพันธุ์ระดับผู้บัญชาการสุดยอดเกินไปแล้ว…”

ทุกคนมองไปที่ชายหนุ่มบนโต๊ะทดสอบและสิงโตอัสนีสีทองข้างเขา และพวกเขาทุกคนต่างก็ตกตะลึง

เผ่าพันธุ์ระดับผู้บัญชาการขั้นต่ำ สิงโตอัสนี!

ค่าพลังงานนี้ล้มสัตว์อสูรของผู้เข้าร่วมก่อนหน้านี้เกือบทุกคน!

“กรรร…” บนโต๊ะทดสอบ สิงโตอัสนีคำรามและมีความสุขกับความรู้สึกที่ตกเป็นเป้าสายตาพร้อมกับนักฝึกสัตว์อสูรของมัน

นักฝึกสัตว์อสูรผู้นี้ที่ชื่อว่าเซียงซิงมีสีหน้าสงบ ทว่าก็รู้สึกพึงพอใจอย่างผิดปกติในใจของเขา

เขาเป็นศูนย์กลางของความสนใจ!

“ไม่เลวเลย” สามผู้คุมสอบพยักหน้าอย่างเงียบเชียบต่อหน้าผู้เข้าร่วทคนแรกที่ทะลุหนึ่งพันคะแนน ทว่าพวกเขาไม่ได้กล่าวอะไรมากนัก

ในระดับเหนือธรรมชาติ พลังต่อสู้ของสัตว์อสูรคือเผ่าพันธุ์ ทักษะ และการฝึกฝนของสัตว์อสูร

ด้วยการฝึกฝนประจำวัน สัตว์อสูรสามารถเพิ่มขีดจำกัดสูงสุดของพลังงานได้อย่างเชื่องช้าและเพิ่มความเชี่ยวชาญทักษะของพวกมัน

ในบรรดาสัตว์อสูรระดับเหนือธรรมชาติ สัตว์อสูรที่มีเผ่าพันธุ์ระดับสูงนั้นได้เปรียบอย่างแน่นอน ขีดจำกัดสูงสุดพละกำลังของพวกมันนั้นสูงกว่าสัตว์อสูรเผ่าพันธุ์ระดับต่ำ เรื่องนี้ช่วยไม่ได้

เป็นเรื่องปกติที่สัตว์อสูรเผ่าพันธุ์ระดับสูงที่จะมีระดับพลังงานสูง

ทว่าเรื่องนี้ไม่ได้มีความหมายอะไรเลย

ตราบใดที่ความแตกต่างของพลังงานระหว่างสัตว์อสูรนั้นไม่มากเกินไป ความแตกต่างนี้อาจชดเชยได้

หากความเชี่ยวชาญทักษะของสัตว์อสูรไม่สูงมากนัก พวกมันไม่สามารถใช้ประโยชน์พลังงานของพวกมันได้อย่างแท้จริง

ในทางตรงกันข้าม หากสัตว์อสูรเผ่าพันธุ์ระดับต่ำได้ฝึกฝนหนึ่งทักษะจนถึงขีดสุดและสามารถระเบิดพลังงานทั้งหมดของมันได้ในทันที มันจะไม่อ่อนแอเลย

แม้ว่าระดับพลังงานของสัตว์อสูรจะสะท้อนถึงความแข็งแกร่งของสัตว์อสูรในจุดหนึ่ง แต่กุญแจสำคัญก็ยังคงเป็นประสิทธิภาพของทักษะ

ผู้คุมสอบทั้งสามคนนี้ล้วนเป็นนักฝึกสัตว์อสูรระดับสูง ดังนั้นพวกเขาย่อมไม่ตกตะลึงเท่ากับผู้เข้าร่วม

ในตอนนี้ ซืออวี๋เฝ้าดูฉากนี้อย่างเงียบสงบท่ามกลางผู้เข้าร่วม

ดูเหมือนว่าจะถึงตาของเขาในไม่ช้า?

เขาสงสัยว่าระดับพลังงานของอีเลฟวเ่นจะถึงระดับไหน…

แม้ว่าเผ่าพันธุ์ของมันจะไม่สูงมากนัก แต่ก็ไม่มีผู้เข้าร่วมคนไหนที่อัญเชิญสัตว์อสูรระดับเหนือธรรมชาติขั้นกลางที่มีค่าพลังงานสูงกว่า 700 คะแนนออกมาเลย อีเลฟเว่นนั้นไม่ธรรมดาอย่างเห็นได้ชัด…

น้ำพุศักดิ์สิทธิ์วิวัฒนาการไม่ใช่สิ่งเดียวที่ช่วยพัฒนาร่างกายของมัน ทว่าผลสะท้อนที่เกิดจากการทักษะเผ่าพันธุ์การเคลือบแข็งขั้นเหนือธรรมชาติและผลสะท้อนที่เกิดจากทักษะอื่นจำนวนมากก็สามารถเพิ่มขีดจำกัดสูงสุดของพลังงานของมันได้…

เขาสงสัยมาก

“หมายเลข 1,464 ซืออวี๋”

ในขณะที่ซืออวี๋คิดเกี่ยวกับเรื่องนี้ มันก็ถึงตาของเขาแล้ว

ในตอนนี้ ผู้เข้าร่วมคนแรกที่ทะลุค่าพลังงานหนึ่งพันคะแนนได้ปรากฎตัวออกมาแล้ว ผู้เข้าร่วมโดยรอบยังคงอยู่ในสถาะกระวนกระวาย

ต่อมา ซืออวี๋ก็ได้ขึ้นไปบนโต๊ะทดสอบ

ผู้คุมสอบชายไม่สนใจอะไรมากนัก เขาเพียงแค่มองซืออวี๋อย่างเงียบสงบและหมดความสนใจ

ซืออวี๋ผู้ที่สวมชุดแพนด้าแขนสั้นนั้นธรรมดาเกินไป เห็นได้ชัดว่าเขาไม่น่าประทับใจมากนัก

“สัตว์อสูรคืออสูรกินเหล็กใช่ไหม?”

มิฉะนั้น ชายหนุ่มคนไหนกันที่จะใส่ชุดแพนด้าแขนสั้น!

ในตอนนี้ ผู้เคุมสอบหญิงกำลังประเมินรูปลักษณ์ของซืออวี๋อยู่ในใจของนาง

“ในที่สุดก็มีผู้เข้าร่วที่หล่อ”

ซืออวี๋ขึ้นไปบนโต๊ะทดสอบภายใต้การจ้องมองของผู้คุมสอบทั้งสามคนและผู้เข้าร่วมโดยรอบของสนามสอบหมายเลข 10

“อัญเชิญสัตว์อสูรของเจ้า” ผู้คุมอสบจวงผิงกล่าวออกมา

บนโต๊ะทดสอบ ซืออวี๋พยักหน้า เขาตัดสินใจที่จะอัญเชิญอีเลฟเว่นออกมาก่อน

หนอนไหมเขียวระดับเหนือธรรมชาตินั้นไร้สาระมากเกินไป การไม่รบกวนทุกคนนั้นเป็นเรื่องดีกว่ามาก ถ่อมตัวเข้าไว้

“อีเลฟเว่น”

ซืออว๊๋สื่อสารกับอีเลฟเว่นผู้ที่รออยู่ในมิติฝึกสัตว์อสูรเป็นเวลานานแล้ว

ในช่วงเวลาต่อมา วงแหวนอัญเชิญสีเทาได้ปรากฎขึ้นตรงหน้าเขา

ภายใต้วงแหวนอัญเชิญ อีเลฟเว่นผู้ที่สูงหนึ่งเมตรก็ได้ปรากฎขึ้นบนโต๊ะทดสอบ

เห็นได้ชัดว่าอสูรกินเหล็กสูงหนึ่งเมตรนั้นยังไม่ได้โตเต็มวัย สายตาของมันแน่วแน่ในขณะที่มันยืนอย่างมั่นคง ขนสีขาวดำอันนุ่มนวลของมันปลิวไสวตามสายลม มันสมบูรณ์แบบมาก

“มันเป็นอสูรกินเหล็กจริงด้วย…”

อย่างไรก็ตาม แม้ว่ามันจะสมบูรณ์แบบ แต่เผ่าพันธุ์ของอสูรกินเหล็กนั้นก็เป็นไปตามการคาดการณ์ของผู้เข้าร่วมคนอื่น

คำใบ้จากชุดของซืออวี๋นั้นชัดเจนมากเกินไป!

อสูรกินเหล็กเผ่าพันธุ์ระดับเหนือธรรมชาติขั้นกลางไม่ได้มีพลังงานมากนัก แม้ว่าพวกมันจะอยู่ระดับเหนือธรรมชาติก็ตาม

ประมาณ 550?

ผู้เข้าร่วมต่างก็ได้ตัดสินใจ

แม้กระทั่งผู้คุมสอบทั้งสามคนก็มีสีหน้าอันเบื่อหน่ายหลังจากประเมิน

ในขณะนี้ เครื่องตรวจจับได้ประกาศพลังงานของอีเลฟเว่นโดยอัตโนมัติ…

“ชื่อเผ่าพันธุ์ อสูรกินเหล็ก”

“ระดับเผ่าพันธุ์ ระดับเหนือธรรมชาติขั้นกลาง”

“ระดับการเติบโต ระดับเหนือธรรมชาติ”

“ค่าพลังงาน 3,186 คะแนน!!”

ในเวลานี้ ทั้งสนามสอบตกอยู่ในความเงียบ

นัยน์ตาของทุกคนขยายกว้างเล็กน้อย ในบรรดาผู้คุมสอบชายสองคนที่รับผิดชอบในการบันทึกเสียง คนหนึ่ง มือนิ่งค้างอยู่บนคีร์บอร์ด ในขณะที่อีกคนหนึ่ง ปากกาได้กดลงบนกระดาษ

บริเวณโดยรอบมีเพียงแค่เสียงหอบหายใจ

3186??

แน่ใจเหรอว่าไม่ใช่ 586? ไม่ใช่ 1,186? แต่กลับเป็น 3,186?!

จำนวนนี้ไร้สาระเล็กน้อย!

ทุกคนที่นั่นไม่สามารถคาิดได้ชั่วขณะหนึ่ง

เสียงของเครื่องตรวจจับดังก้องอยู่ในหูของทุกคน และปากของพวกเขาก็อ้ากว้าง

นั่นเป็นไปได้ยังไงกัน!

เกิดอะไรขึ้น!

ต้องรู้ว่าค่าพลังงานของสัตว์อสูรเผ่าพันธุ์ระดับผู้บัญชาการตัวก่อนหน้านี้อยู่เพียงแค่ 1,214 คะแนนเท่านั้น!

ในเวลานี้ ผู้คุมสอบทั้งสามคนตกตะลึงยิ่งกว่าผู้เข้าร่วมเสียอีก

นี่เป็นเพราะพวกเขารู้ว่าโดยปกติแล้ว ขีดจำกัดสูงสุดของระดับพลังงานของสัตว์อสูรเผ่าพันธุ์ระดับผู้บัญชาการที่มีการเติบโตระดับเหนือธรรมชาตินั้นเพียงแค่ 3,000 คะแนนเท่านั้น…

ค่าพลังงานของอสูรกินเหล็กตัวนี้ไม่ใช่สิ่งที่สัตว์อสูรเผ่าพันธุ์ระดับเหนือธรรมชาติขั้นกลางควรมี!

ในทางตรงกันข้าม แม้ว่าจะเป็นเผ่าพันธุ์ระดับราชันย์ แต่หลังจากทะลวงเข้าสู่ระดับเหนือธรรมชาติ มันก็ต้องผ่านการฝึกฝนในระดับหนึ่งจึงจะไปถึงค่าพลังงานนี้ได้!

กล่าวโดยย่อแล้ว ค่านี้เป็นไปได้ยังไงกัน—นี่มันผิดหลักวิทยาศาสตร์มากเกินไป!

ผู้คุมสอบชายสองคนหยุดนิ่งชั่วขณะหนึ่ง

ผู้คุมสอบจวงผิงมองดูซืออวี๋ผู้ที่เงียบสงบและอสูรกินเหล็กน้อยบนโต๊ะทดสอบด้วยความไม่เชื่อ

พวกเขา… ไม่แปลกใจเลยงั้นเหรอ??

เป็นไปได้ไหมว่าเขาจะคาดหวังค่าพลังงานนี้ไว้แล้ว?

ผู้คุมสอบหลักนิ่งงัน ไม่สามารถเข้าใจอะไรได้เลย

“อายุยังไม่ถึงสองปีงั้นเหรอ?”

ในเวลาเดียวกัน ผู้คุมสอบชายรู้สึกงุนงงในขณะที่เขาดูข้อมูลรายละเอียดอื่นเกี่ยวกับอสูรกินเหล็กตัวนี้บนคอมพิวเตอร์ เขาตกตะลึงอีกครั้ง

บัดซ* มันต้องไร้สาระเช่นนี้เลยเหรอ? แม้ว่ามันจะเริ่มบ่มเพาะตั้งแต่ในท้องแม่ แต่มันก็ไม่ควรจะเป็นเช่นนี้ไม่ใช่เหรอ? ยิ่งกว่านั้น มันเป็นอสูรกินเหล็กที่มีชื่อเสียงด้านความเกียจคร้าน!

ในขณะนี้ หลังจากความเงียบสงบอย่างกะทันหันในสนามสอบหมายเลข 10 ไม่มีสัญญาณของการฟื้นตัวเลย

บริเวณโดยรอบสนามสอบ ไม่ว่าพวกเขาจะทำการทดสอบเสร็จแล้วหรือไม่ก็ตาม ทุกคนต่างก็เบิกตากว้าง

โดยเฉพาะอย่างยิ่งนักฝึกสัตว์อสูรที่ฝึกฝนสิงโตอัสนี เขามึนงงเล็กน้อยและรู้สึกตกตะลึง

ด้วยการเปรียบเทียบนี้ ทำไมเขาถึงรู้สึกว่าสิงโตอัสนีอ่อนแอล่ะ?

นี่เป็นอสูรกินเหล็กจริงเหรอ? ไม่ใช่ลูกสัตว์อสูรเผ่าพันธุ์ระดับราชันย์ที่สวมชุดอสูรกินเหล็กเหรอ?

“เสร็จหรือยัง?”

บนโต๊ะทดสอบ ซืออวี๋เอ่ยถามออกมา

อีเลฟเว่นยังคงดุร้าย…

“สะ… เสร็จแล้ว” ด้านล่าง ผู้คุมสอบหลักจวงผิงสูดหายใจเข้าลึกและพยายามจดจำรูปลักษณ์ของซืออวี๋

ในเวลาเดียวกัน นางก็ตัดสินใจว่าหลังจากข้อมูลการสอบพื้นฐานของซืออวี๋ถูกส่งออกไปแล้ว เขาก็น่าจะได้รับความสนใจอย่างมาก

นี่เป็นเป้าหมายของการสอบแรก เพื่อให้สมาคมนักฝึกสัตว์อสูรให้ความสนใจกับผู้เข้าร่วมที่มีศักยภาพล่วงหน้า!

ในขณะนี้ นางไม่คิดว่าเครื่องตรวจจับพังหรือว่าซืออวี๋โกง เนื่องจากเป็นไปไม่ได้เลยที่จะมีปัญหากับเครื่องตรวจจับ แม้ว่าสัตว์อสูรจะใช้ทักษะการเสริมพลัง แม้ว่าสัตว์อสูรจะใช้ทักษะการหดตัว แม้ว่าสภาพของสัตว์อสูรจะย่ำแย่มากเพียงใด เครื่องตรวจจับนี้ก็สามารถตรวจจับค่าพลังงานที่แท้จริงของสัตว์อสูรได้อย่างสมบูรณ์

เครื่องตรวจจับนี้ถูกสร้างขึ้นมาเป็นพิเศษสำหรับการประเมินมืออาชีพและได้ถูกดัดแปลงโดยช่างกลนับไม่ถ้วน… ดังนั้นค่าพลังงานนี้จึงน่าจะเป็นของจริง

ยิ่งกว่านั้น เมื่อพิจารณาถึงสีหน้าอันสงบของซืออวี๋และสัตว์อสูรของเขา ทุกคนจะเห็นได้ว่าค่าพลังงานนี้น่าจะเป็นค่าพลังงานที่แท้จริงของอสูรกินเหล็กตัวนี้!

เห็นได้ชัดว่านี่เป็นอสูรกินเหล็กที่มีเผ่าพันธุ์ระดับเหนือธรรมชาติขั้นกลาง ทว่ามันเทียบได้กับลูกสัตว์อสูรเผ่าพันธุ์ระดับราชันย์!!

ไร้สาระมาก!!!

หากไม่ใช่การกลายพันธุ์ทางเผ่าพันธุ์ ถ้าเช่นนั้นนักฝึกสัตว์อสูรที่ชื่อว่าซืออวี๋ผู้นี้คงจะลงทุนทรัพยากรมหาศาลให้กับอสูรกินเหล็กเพื่อเสริมสร้างศักยภาพของมันอย่างแน่นอน!!

นี่เป็นความเป็นไปได้เดียว

แม้ว่าจะเป็นเช่นนั้น แต่นักฝึกสัตว์อสูรผู้คุมสอบทั้งสามคนก็ยังคงไม่สามารถสงบสติอารมณ์ได้เป็นเวลานาน พวกเขาไม่วงบและเยือกเย็นเช่นเดียวกับก่อนหน้านี้ เนื่องจากเรื่องนี้ได้ทำลายความเข้าใจของพวกเขา

แม้กระทั่งหลินฮงเหนียน นักฝึกสัตว์อสูรที่เชี่ยวชาญด้านอสูรกินเหล็กก็ยังรู้สึกเสมอว่าอสูรกินเหล็กของซืออวี๋นั้นไร้สาระเกินไป… นับประสาอะไรกับคนเหล่านี้ แม้แต่หลังจากที่อสูรกินเหล็กของเขาวิวัฒนาการ เขาก็ยังคงรู้สึกว่ามันขาดบางสิ่งเมื่อเทียบกับอีเลฟเว่น…

“กลับมา อีเลฟเว่น” ในขณะนี้ ซืออวี๋เข้าใจค่าพลังงานของอีเลฟเว่นแล้ว

มันต่ำกว่าที่เขาจินตนาการไว้

ทว่านั่นก็ไม่เป็นไร

ท้ายที่สุด ความแข็งแกร่งแท้จริงของอีเลฟเว่นก็คือความเชี่ยวชาญทักษะที่สูง

ในด้านของพลังต่อสู้ สัตว์อสูรตัวอื่นอาจไม่จำเป็นต้องดีกว่าอีเลฟเว่น

“อู๋!”

อีเลฟเว่นพยักหน้าและกลับไปยังมิติฝึกสัตว์อสูร ในขณะเดียวกัน ซืออวี๋ก็เดินลงมา

ตามที่คาดไว้ หลังจากทดสอบระดับพลังงานของอีเลฟเว่นเสร็จ ซืออวี๋ก็เริ่มสงสัยเกี่ยวกับบักกี้อีกครั้ง…

หลังจากกลับมายังสถาบันวิจัย เขาก็เอ่ยถามว่ามีเครื่องจักรดังกล่าวในมหาวิทยาลัยเมืองหลวงโบราณไหม เขารู้สึกว่าควรจะมี!

“นี่คือบัตรข้อมูลของเจ้า ไปที่สนามสอบที่กำหนดไว้ในช่วงบ่ายเพื่อทำการสอบข้อเขียน”

หลังจากที่ซืออวี๋ลงมา ผู้คุมสอบชายที่รับผิดชอบด้านการบันทึกข้อมูลก็ได้มอบบัตรข้อมูลการทดสอบให้แก่ซืออวี๋ ในเวลาเดียวกัน เขาก็เงยหน้าขึ้นด้วยความสงสัยและประเมินซืออวี๋

เมืองทุ่งน้ำแข็ง เขตผิงเฉิง? นี่เป็นบ้านเกิดของซืออวี๋ตามข้อมูล มันค่อนข้างคุ้นเคยเพราะมีอสูรกินเหล็กอยู่ที่นั่น…

กล่าวโดยย่อแล้ว เขาต้องให้ความสนใจกับผู้เข้าร่วมสัตว์ประหลาดนี้ในอนาคต

“ขอบคุณมาก” ซืออวี๋หยิบบัตรข้อมูลการทดสอบ หลังจากดูแล้ว เขาก็เก็บมันใส่กระเป๋าและเดินมายังฝูงชน

ทันทีที่เขากลับมายังกลุ่มผู้เข้าร่วม ผู้เข้าร่วมนับสิบคนที่อยู่รอบตัวเขาก็ส่งเสียงดังในทันที!

“บัดซ* พี่ชาย เกิดอะไรขึ้นกับอสูรกินเหล็กของเจ้ากัน!!”

“3,186 มันปลอมใช่ไหม?”

“พี่ชาย ข้าขอข้อมูลติดต่อของเจ้าได้ไหม?”

“ข้าขอจับอสูรกินเหล็กของเจ้าได้ไหม?”

แม้กระทั่งผู้เข้าร่วมที่ฝึกฝนสิงโตอัสนีก่อนหน้านี้ก็ไม่รับการปฏิบัติเช่นนี้ หนังศีรษะของซืออวี๋ด้านชาในทันที จากนั้นเขาก็มองไปที่หญิงสาวสวมแว่นตาที่หน้าแดงซึ่งต้องการจับอสูรกินเหล็ก ความระมัดระวังของเขาเพิ่มขึ้นถึงขีดสุด

คนผู้นี้ไม่ได้มีพรสวรรค์การจำลองใช่ไหม? เขาปล่อยให้นางจับอีเลฟเว่นไม่ได้!

“เงียบ!!!”

ในขณะนี้ ผู้คุมสอบหลักจวงผิงมีสีหน้ามืดมน “ที่นี่ห้ามส่งเสียงดัง การละเมิดกฎจะถูกมองว่ายอมแพ้ในการทดสอบ การสื่อสารทั้งหมดต้องหยุดลง การทดสอบจะดำเนินต่อไป”

ผู้เข้าร่วมยิ้มด้วยความเขินอายหลังจากที่ผู้คุมสอบกล่าวออกมา จากนั้นผู้เข้าร่วมคนต่อไปก็ขึ้นโต๊ะทดสอบ

อันที่จริง เขาสามารถออกไปได้โดยตรหงลังจากทดสอบพื้นฐานเสร็จ

อย่างไรก็ตาม คนส่วนใหญ่ยังคงรอเพื่อดูว่าผลการทดสอบของคนอื่นเป็นยังไงด้วยความสงสัย

ในขณะนี้ ซืออวี๋สัมผัสได้ว่าทุกคนจ้องมองมาที่เขาและเงียบลง แม้ว่าเขาจะต้องการดูต่อ… เขาก็รู้สึกว่าการที่เขาจะอยู่ที่นี่นานไม่ใช่เรื่องดีนัก

ทำไมไม่กลับไปก่อนล่ะ?

ซืออวี๋ถอนตัวและจากไปโดยไม่มีใครรู้ตัว

ไม่นานนักหลังจากที่เขาจากไป ชายหนุ่มผมสั้นทั้งสองคนก็รีบไปที่สนามสอบหมายเลข 10

พวกเขาเงยหน้าขึ้นและค้นหาบางอย่างในฝูงชน ทว่าพวกเขาไม่พบอะไรเลย

ลูกพี่ลูกน้องทรงผมบัซคัตสะกิดผู้เข้าร่วมบางคนอย่างไม่ตั้งใจ

ผู้เข้าร่วมคนนี้หันกลับมาด้วยความสับสน

ลูกพี่ลูกน้องทรงผมบัซคัตกระซิบว่า “พี่ชาย หนอนไหมเขียวระดับเหนือธรรมชาติออกมาหรือยัง?”

“เจ้าประหลาดใจไหม?!” ลูกพี่ลูกน้องทรงผมสคูว์คัต

ผู้เข้าร่วมคนนี้ตกตะลึง บัดซ* เจ้าโง่สองคนนี้มาจากไหนกัน?

“เจ้าบ้าหรือเปล่า? หนอนไหมเขียวของเจ้าสามารถเข้าสู่ระดับเหนือธรรมชาติได้เหรอ?”

เขาหันกลับไปอย่างโชคร้าย เขายังไม่ได้ทำการทดสอบเลย ดังนั้นเขาจึงอยากเสียเวลาจัดการพวกโง่

“เจ้าด่าเราทำไมกัน?” ลูกพี่ลูกน้องทรงผมสคูว์คัตไม่พอใจในทันทีเมื่อเขาได้ยินเช่นนั้น

เขาถูกทุบตีโดยหนอนไหมเขียว ดังนั้นทำไมหนอนไหมเขียวจึงอยู่ระดับเหนือธรรมชาติไม่ได้กัน?

ไม่เพียงแค่มันจะอยู่ระดับเหนือธรรมชาติเท่านั้น แต่มันยังแข็งแกร่งมากอีกเช่นกัน ระดับพลังงานของมันต้องอย่างน้อย 666 คะแนน ไม่ต่ำกว่านี้อย่างแน่นอน

ในขณะนี้ พวกเขาสับสนมกา ลูกพี่ลูกน้องทั้งสองคนมองหน้ากันและรู้สึกว่านั่นแปกลมาก ซืออว๊๋ควรจะอยู่ที่สนามสอบนี้

ไม่เป็นไรหากพวกเขาหาซืออวี๋ไม่เจอ ทว่าทำไมผู้เข้าร่วมคนนี้ถึงไม่ได้ยินเกี่ยวกับซืออวี๋เลย?

ลูกพี่ลูกน้องทั้งสองเอ่ยถามผู้เข้าร่วมอีกคนหนึ่ง

ในคราวนี้ พวกเขาเลือกหญิงสาวที่ดูราวกับจะคุยด้วยง่าย ลูกพี่ลูกน้องทรงผมบัซคัตกล่าวว่า “คนสวย ก่อนหน้านี้มีผู้เข้าร่วมที่ชื่อว่าซืออวี๋อยู่ที่นี่ไหม?”

หญิงสาวผู้นี้หันกลับมาและตกตะลึงเล็กน้อย “เจ้ากำลังกล่าวถึงอสูรกินเหล็กตัวนั่น…”

“ใช่แล้ว มันคือนักฝึกสัตว์อสูรที่ใส่ชุดแพนด้าแขนสั้น!” ลูกพี่ลูกน้องทั้งสองคนกล่าวอย่างตื่นเต้น พวกเขาถามได้ถูกคนแล้ว

“เขาทำการทดสอบเสร็จแล้วเหรอ?”

หญิงสาวมองไปรอบตัวและกล่าวว่า “เสร็จแล้ว พวกเจ้ารู้จักเขาเหรอ?”

“เอ่อ…”

“ถ้าเช่นนั้นเจ้ามีข้อมูลติดต่อของหนุ่มหล่อคนนั้นไหม?? เขาจากไปเร็วเกินไป…”

“เขาทรงพลังมาก เขาบ่มเพาะอสูรกินเหล็กที่มีระดับพลังงานมากกว่า 3,000 คะแนนได้ยังไง…” หญิงสาวผู้นี้ไม่สามารถลืมได้ลงเลย

เอ่อ?

ลูกพี่ลูกน้องทั้งสองคนตกตะลึง อะไรกัน? อสูรกินเหล็กที่มีพลังงานมากกว่า 3,000 คะแนน?

“เจ้ากำลังกล่าวอะไรกัน?” พวกเขาเอ่ยถามออกมา

“พวกเจ้าไม่ได้รู้จักซืออวี๋หรอกเหรอ? ข้ากำลังกล่าวถึงอสูรกินเหล็กของเขา”

หัวใจของลูกพี่ลูกน้องทั้งสองคนเต้นไม่เป็นจังหวะ พวกเขารู้สึกว่ามีบางอย่างผิดปกติ

“สัตว์อสูรที่เขาฝึกไม่ใช่หนอนไหมเขียวเหรอ? หนอนไหมเขียวระดับเหนือธรรมชาติ เจ้าไม่เห็นมันเหรอ?”

ผู้เข้าร่วมหญิง : “???”

“อสูรกินเหล็กที่มีพลังงาน 3,000 คะแนน ทว่าหนอนไหมเขียวมาจากไหนกัน!” นางกลอกตาไปที่พวกเขาสองคนและกล่าวว่า “พวกเจ้ามีข้อมูลติดต่อของเขาไหม?”

ติ้งเหยาและจ้าวรุ่ยยิ้มอย่างเชื่องช้าและถอยกลับไป บัดซ* มีบางอย่างผิดปกติ

หนอนไหมเขียวระดับเหนือธรรมชาติของพวกเขาอยู่ที่ไหนกัน?!!!!

พวกเขาไม่ได้บอกว่าหนอนไหมเขียวจะทำให้ทุกคนตกตะลึงหรอกเหรอ!

อย่างไรก็ตาม เกิดอะไรขึ้นกับอสูรกินเหล็กที่มีพลังงานมากกว่า 3,000 คะแนนกัน? พวกเขาสองคนมีสีหน้าอันว่างเปล่า

ตอนเที่ยง

หลังจากออกจากสนามสอบทะเลสาบดอกบัวแล้ว ซืออวี๋ก็หาพื้นที่ว่างเพื่อทำราเมนเนื้อ

การสอบพื้นฐานเพิ่งจบลง และไม่มีใครมารบกวนเขา

อย่างไรก็ตาม มีคนส่งข้อความหาเขาเช่นเดียวกัน ตัวอย่างเช่น รุ่นพี่หลู่ รุ่นพี่สาวหูสัตว์ รุ่นพี่แพนด้า ปรมจารย์หลินฮงเหนียน และเจ็ดยอดนักโบราณคดีได้ส่งข้อความถึงเขาเมื่อวานนี้เพื่ออวยพรให้เขาประสบความสำเร็จ

โชคดี เขาไม่ได้โดดเดี่ยวเกินไปนัก…

“อู๋—” หลังจากกินและดื่มจนอิ่มแล้ว ซืออวี๋ก็ตกอยู่ในห้วงความคิดลึก

การสอบข้อเขียน ในที่สุดมันก็มาถึง!

ซืออวี๋รู้สึกประหม่าเล็กน้อย

“ทำไม… ข้าไม่ลองทำข้อสอบอีกสักหน่อยล่ะ?” ในห้องขนาดเล็ก แอร์ระเบิดความเย็นออกมา ซืออวี๋รู้สึกค่อนข้างสบาย เขารู้สึกว่าเขาว่างมาก… เขาหยิบ ‘ข้อสอบจำลองห้าปี’ ออกมาและดูคำถามอย่างตั้งใจ

[อินทรีหลังเขียวมีความเร็วในการบินสูงมาก และมีประสิทธิภาพค่อนข้างดีในการต่อสู้และการลาดตระเวน อินทรีหลังเขียวซึ่งเติบโตจนถึงระดับเหนือธรรมชาติและเชี่ยวชาญทักษะปีกสายลมขั้นช่ำชองจะเร็วเท่าไหร่?]

“...ง่ายมาก ข้ารู้คำตอบนี้ เลือกข้อ C”

Fanpage : ผีเสื้อกลางคืน

Link : https://www.facebook.com/translatemoth

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด