ตอนที่แล้วบทที่ 74 : ภารกิจปกป้อง (3-1)
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปบทที่ 76 : ภารกิจปกป้อง (4-1)

บทที่ 75 : ภารกิจปกป้อง (3-2)


ติดตามเป็นกำลังใจให้ผู้แปลได้ที่แฟนเพจ:BamแปลNiyay

บทที่ 75 : ภารกิจปกป้อง (3-2)

"ขึ้นอยู่กับเวลาแล้ว"

แม้ว่าพวกเขาจะดูเหมือนไม่ได้รับบาดเจ็บ แต่ทั้งอารอนและเจนน่าก็ใกล้จะไม่ไหวแล้ว

พวกเขาขาดออกซิเจน และบริเวณโดยรอบยังกลายเป็นไฟนรกอีกด้วย แม้ว่าทักษะต้านทานเปลวไฟจะช่วยเพิ่มความต้านทานต่อไฟของเรา แต่ก็ไม่ได้คุ้มกันโดยสมบูรณ์ ที่เลวร้ายกว่านั้น ฝนที่ตกลงมาทำให้การเคลื่อนไหวลำบากมากยิ่งขึ้น

“ตอนนี้ก็ถึงเวลาสำหรับเวทย์ระดับ 2 แล้ว”

ออลก้าพยักหน้า ผิวของเธอซีดลงอย่างเห็นได้ชัด

ยามานาขวดแรกเกือบจะหมดลงแล้ว

ขณะที่ฉันฉีกแขนของก็อบลินที่ถือดาบพุ่งเข้ามา ฉันก็ตะโกนว่า

“เจนน่า อารอน! เมื่อออลก้าปล่อยคาถาในครั้งนี้ เราจะพุ่งตรงไปที่แม่น้ำ อย่าหยุดวิ่ง วิ่งต่อไปให้สุดเลย!”

"รับทราบ!"

ออลก้าเริ่มร่ายมนตร์โดยเธอดื่มยามานาหมดในอึกเดียว

ฉันจับขวดแก้วยาขวดเปล่าไว้แน่นแล้วขว้างมันใส่หน้าก็อบลินที่ยืนอยู่ตรงหน้าฉัน

ปัง!

“กุ้ย!”

ก็อบลินจับใบหน้าของมัน กรีดร้องด้วยความเจ็บปวด ฉันรีบดึงมันเข้ามาและโยนไว้ตรงหน้าออลก้า

ฉึก ฉึก ฉึก!

ก็อบลินตัวนี้กลายเป็นโล่รับกระสุนหน้าไม้ที่พุ่งเข้ามาอย่างไม่หยุดยั้งก่อนที่จะทรุดตัวลง

“40 วินาที”

"หมอบ!"

"รับทราบ!"

【แผดเผา!】

เปลวไฟที่ก่อนหน้านี้อยู่รอบๆตัวออลก้า ตอนนี้พุ่งไปข้างหน้าเป็นเส้นตรง

ฉันรีบทรุดตัวลงกับพื้น รู้สึกถึงเสียงโลหะดังกึกๆ ขณะที่โคลนขมเข้ามาในปากของฉัน

【อิคไนท์!】

บูม!

เม็ดฝนนับไม่ถ้วนหลั่งไหลลงมาพร้อมๆ กัน ราวกับว่าแต่ละเม็ดนั้นมีพลังหมัดทุบลงมา ฝนเริ่มกลืนกินฉันตั้งแต่หัวจรดเท้า ในขณะที่เสียงกรีดร้องอันเจ็บปวดของก็อบลินก็สะท้อนดังกึกก้องท่ามกลางความวุ่นวาย

ฉันลุกขึ้นยืนและพ่นโคลนออกมาจากปาก รู้สึกได้เลยว่าออลก้าเริ่มไม่ไหว เธอโซเซด้วยความเหนื่อยล้า

ฉันเก็บดาบของฉันเข้าฝักและยึดโล่ไว้ที่หลัง ฉันยกออลก้าขึ้นด้วยมือทั้งสองข้างพยุงเธอไว้

"นี่คือ…"

“อย่าพูดอะไรออกมา”

ออลก้าพยักหน้าช้าๆ จากนั้นก็ทิ้งร่างกายของเธอลงมาที่ฉัน

“เจนน่า อารอน อยู่เข้างฉัน วิ่งไปทางแม่น้ำกันเถอะ!”

"รับทราบ!"

พวกเราก็วิ่งผ่านร่างก็อบลินที่ไร้ชีวิต

ขณะที่ฉันอุ้มออลก้าฉันก็ไม่สามารถถืออาวุธได้ เจนน่าและอารอนวิ่งไปข้างหน้าคนหนึ่งยิงธนูและอีกคนหนึ่งแทงหอกจากทั้งสองข้าง

เสียงแม่น้ำที่ไหลเชี่ยวดังเข้ามาใกล้มากขึ้น

ฝูงก็อบลินก็ค่อยๆ ถอยทัพออกไป

แม้ว่าพวกมันจะจ้องมองเราจากระยะไกล กัดฟันและพยายามข่มขู่เราแต่พวกมันไม่ได้ตามเรามา ความสนใจของพวกมันเปลี่ยนไปสู่การไปที่กำแพงเมืองทางตอนเหนือ

“เราผ่านมันไปได้”

“ฮู้ว ใกล้แล้ว ฉันคิดว่าเราทำเสร็จแล้วนะ!”

ฟากหนึ่งของแม่น้ำมีต้นไม้สูงตระหง่านยืนต้นอยู่ เราใช้มันเป็นที่หลบฝน

เจนน่าและอารอนหาที่หลบภัยใต้ร่มเงาของมันและนั่งลง

ฉันค่อยๆ วางออลก้าลง สายตาของเธอดูเหมือนกำลังค้อนใส่ฉัน

“ฉันอยากให้นายอ่อนโยนมากกว่านี้”

“ขอโทษด้วย สถานการณ์ไม่เอื้ออำนวยให้ทำ”

ฉันหัวเราะแล้วตอบ

“ใช้เวลาพักก่อนและดื่มยารักษาแผลไฟไหม้กันก่อนเถอะ แต่จำไว้ว่าเรามีเพียงหนึ่งขวด ดังนั้นอย่าใช้มันทั้งหมดในคราวเดียว”

“เข้าใจแล้ว..โอ้โห นี่มันค่อนข้างทรงพลังเลยนะ”

เจนน่าขมวดคิ้วขณะที่เธอกลืนยาลงไปและแตะตัวเบาๆ บนผิวสีน้ำตาลของเธอ อารอนเองก็ทำตาม หลังจากจิบแล้ว ฉันก็ทาลงบนรอยไหม้ของฉัน ความรู้สึกซาบซ่านแล่นไปทั่วทั้งร่างกาย

ฉันก้าวออกไปนอกต้นไม้

มองดูทางเหนือของเมือง

แม้จะอยู่ห่างไกล แต่ฉันก็เพ่งสายตาเพื่อมองเห็นสถานการณ์ที่ดำเนินอยู่

บันไดหอคอยหลายสิบอันเกาะติดกับกำแพงเมืองและก็อบลินมากมายต่างกำลังปีนขึ้นไปด้านบน ลูกธนูถูกยิงไขว้กันระหว่างชั้นบนและชั้นล่างของกำแพง และเมื่อก็อบลินส่วนใหญ่มาถึงด้านบน พวกมันก็ดิ่งลงสู่ความตายทันที การป้องกันภายนอกยังไม่ถูกทำลาย ดูเหมือนกลุ่มของอีดิสจะทำได้ดี

ส่วนเหตุผลที่เราออกมากันก็เพราะแม่น้ำ

ฝนตกลงมาอย่างไม่ขาดสายทำให้แม่น้ำซัดแรงขึ้น เขื่อนขนาดใหญ่ทอดข้ามแม่น้ำอยู่ระหว่างต้นน้ำและปลายน้ำ โครงสร้างหินของมันแม้แข็งแกร่งหนาแน่น แต่ก็มีรูพออากาศเล็ดลอดออกไปได้ ห่างออกไปจากแม่น้ำก็มีป่าที่แผ่กิ่งก้านสาขา

ก่อนหน้านี้ เราตรวจสอบสถานที่นี้ไปแล้วบนชั้น 7 ว่ามันมีซากปรักหักพังของเขื่อน

มันไม่ใช่การพังตามธรรมชาติ มีสัญญาณบ่งบอกถึงบางสิ่งที่ทำลายมันอย่างรุนแรง เช่น อิฐที่กระจัดกระจายและกองดินที่พลิกคว่ำ มันบ่งบอกว่าพวกก็อบลินได้คาดการณ์ว่ากำลังเสริมจะมาถึง พวกมันจึงจงใจทำลายมันทิ้ง

“น่าแปลก”

ทั้งเมืองในชั้น 5 และเขื่อนที่ชั้น 7 ต่างอยู่ในสภาพทรุดโทรมอย่างน่าสังเวช

ก็อบลินไม่มีทั้งฝีมือและความแข็งแกร่งในการทำลายกำแพงเมืองและอาคารต่างๆ ให้พังสิ้นซากได้เลย อย่างดีที่สุด พวกมันก็ทำได้แค่ประกอบหอคอยล้อเลื่อนเพื่อปีนกำแพงเท่านั้น

แต่ยังไงเรื่อพวกนี้มันก็ไม่สำคัญหรอก!

“นายไปทำอะไรอยู่ข้างนอกนั่น? ตัวเปียกไปหมดแล้ว เข้ามาหลบข้างในก่อนสิ”

"…อืม"

"หรือว่ามีอะไร?"

“ออกมาเถอะ ดูเหมือนแขกของเราจะมากันแล้ว”

เสียงฝีเท้าดังมาจากที่ไหนสักแห่ง

“ฉันอยากพักนานกว่านี้สักหน่อย”

เจนน่าบ่นเมื่อเธอเดินออกมาจากหลังต้นไม้

อารอนตามหลัง ออลก้าเองก็ดื่มยามานาประมาณหนึ่งในสามของเธอและยืนรวมกับพวกเรา

“เราจะรอจนกว่ากำลังเสริมจะมาถึง พวกมันคงจะพยายามพังเขื่อน เราต้องหยุดมันทุกวิถีทาง”

"รับทราบ"

ท่ามกลางสายฝน ศัตรูก็เผยตัวออกมา

ไม่เหมือนกับกลุ่มก็อบลินกลุ่มก่อนๆ ที่เราเคยเจอ พวกนี้มุ่งเป้าไปที่เขื่อน ฉันมองดูพวกมันผ่านม่านเม็ดฝน

[ก็อบลิน Lv.9 x 19]

พวกมันติดอาวุธและเตรียมพร้อมเหมือนกองกำลังพิเศษชั้นยอด

สวมชุดเกราะเหล็กและถืออาวุธ บางตัวถึงกับกวัดแกว่งและค้อน เพื่อค้นหาจุดอ่อนที่เหมาะแก่การทำให้เขื่อนพัง

และแล้ว…

ตึง ตึง ตึง!

แต่ละก้าวนั้นส่งแรงสั่นสะเทือนสะท้อนผ่านพื้นดิน

ด้วยความสูงประมาณ 3 เมตร 50 เซนติเมตร ทำให้ก็อบลินที่อยู่ด้านข้างดูตัวเล็กเหมือนหนู

ร่างกายที่มีกล้ามเนื้อแน่นกระเพื่อมอยู่ใต้ผิวหนังสีเขียวซีด มันสวมชุดเกราะที่แข็งแกร่งซึ่งปกป้องจุดที่เปราะบางของมัน มันดึงค้อนเหล็กขนาดมหึมาในมือขวา

“ฉันว่าแล้วต้องเป็นแก”

สิ่งมีชีวิตนั้นส่งเสียงคำรามดังก้อง

“กร๊าก!”

[โอเกอร์ Lv.23]

ติดตามเป็นกำลังใจให้ผู้แปลได้ที่แฟนเพจ:BamแปลNiyay

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด