Chapter 15: ราเวนการ์ ผู้นำแห่งหายนะ 2
มันสวมเสื้อคลุมดำขาดรุ่งริ่ง ใบหน้าของมันน่าสยดสยองจนไม่ว่าใครเห็นก็คงจะหวาดผวา
ในตอนที่พวกเขาสบตากัน ริมฝีปากของมันก็เผยรอยยิ้มที่ขาดความปิติและไปในทางที่วิกลจริตมากกว่า—ความเบิกบานอันบิดเบี้ยวเกิดขึ้นจากความบ้าคลั่งที่คงจะสร้างบาดแผลในใจให้ใครก็ตามที่ได้เห็นมัน มันคือรอยยิ้มที่สามารถแช่แข็งจิตใจที่มีชีวิตชีวาที่สุดและดับความหวังที่สดใสที่สุดได้
นี่คือราเวนการ์ ผู้นำแห่งหายนะ มันแผ่กลิ่นอายทรงพลังที่อัดแน่นไปด้วยความมุ่งร้ายและกำไม้กวาดกับจอบเอาไว้ในมือที่เป็นตะปุ่มตะป่ำของมัน
ผู้คนเล่าขานกันว่าพลังของราเวนการ์จะทำให้เหล่าผู้ที่หวาดกลัวมันเป็นอัมพาตได้ นอกจากนี้ยังมีลือกันว่าแค่โดนเจ้าสิ่งมีชีวิตนี้สัมผัสก็สามารถลดทอนอายุขัยของคนผู้นั้นได้
“นี่ข้าทำเจ้าตกใจรึเปล่า!?” เสียงของราเวนการ์เล็ดลอดผ่านอากาศ ด้วยความมั่นใจในสันนิษฐานของมันที่ว่าวัลตกตะลึงอยู่
ด้วยหน้าตาที่อัปลักษณ์ และการพบเจอราเวนการ์อย่างเหนือความคาดหมายก็สามารถทำให้หัวใจเต้นระรัวด้วยความกลัวได้แล้ว ซึ่งนี่คือสาเหตุที่ราเวนการ์เชื่อว่าผลลัพธ์นี้จะได้ผลกับวัลเช่นกันและคาดหวังให้เขาเป็นอัมพาตเพราะความกลัว
อย่างไรก็ตาม สิ่งที่มันไม่รู้ก็คือวัลเป็นคนที่ด้านชาทางความรู้สึก ซึ่งมันคอยขัดขวางเขาจากการได้รู้สึกกลัวหรือเจ็บปวด แม้ว่าเล่ห์เหลี่ยมเช่นนี้จะทำให้คนอื่นกลัวได้ แต่มันไม่ได้ผลกับวัลเลย!
‘ไม่เลยสักนิด แกทำอะไรไม่ได้เลย แต่ฉันจะเผยไต๋ให้รู้ไปทำไมล่ะ?’
วัลยังคงเงียบอยู่ ร่างกายของเขาไม่สะทกสะท้าน สีหน้าของเขาไม่เปลี่ยนแปลง และสิ่งนี้ก็ทำให้มันเชื่อว่ามันทำให้วัลตกใจได้สำเร็จจริงๆ
“ดูเหมือนความกลัวจะทำให้เจ้าพูดไม่ออกสินะ มันถึงเวลาที่จะช่วงชิงวิญญาณของเจ้าแล้ว!” ราเวนการ์พูดอย่างชั่วร้าย เสียงกระซิบอันเย็นยะเยือกของมันได้ทำลายความเงียบอันน่ากดดัน
ด้วยการเคลื่อนไหวที่รวดเร็ว มันเหวี่ยงไม้กวาดเข้าใส่วัล
ฟิ้วว!
ส่วนปลายไม้กวาดที่แหลมคมส่งเสียงหวีดผ่านอากาศ กำลังจะไปถึงตัววัลแล้ว
อย่างไรก็ตาม ราเวนการ์ก็ต้องตกใจ วัลที่ควรจะเคลื่อนไหวไม่ได้ จู่ๆ ก็ยกมือขึ้นมา เลือดปะทุจากฝ่ามือของเขา ห่อหุ้มไม้กวาดเอาไว้และปิดกั้นการเคลื่อนไหวของมัน
“ตาข้าล่ะ” วัลโต้ตอบและย้อนทิศทางของไม้กวาดที่ถูกห่อหุ้มด้วยเลือดกลับไปหาราเวนการ์
ราเวนการ์ไม่ได้พยายามที่จะหลบเลย ไม้กวาดพุ่งผ่านมันไป มันเป็นสิ่งมีชีวิตประเภทภูตผีที่ซึ่งความเสียหายทางกายภาพทำอะไรมันไม่ได้ แต่มันก็ยังสามารถได้รับผลกระทบทางจิตใจได้อยู่
ดวงตาของมันเบิกกว้างเหมือนจานกลม และจ้องมองวัลอย่างไม่เชื่อเสียตา “เจ้าเคลื่อนไหวในตอนที่ข้าปรากฏกายได้ยังไงกัน?”
รอยยิ้มของวัลทั้งอวดดีและเต็มไปด้วยความมั่นใจในขณะที่เขาตอบ “เล่ห์เหลี่ยมของราเวนการ์ทำอะไรข้าไม่ได้หรอก เพราะข้าขาดความสามารถในการรู้สึกกลัว”
ราเวนการ์ตอบกลับอย่างดุดัน “ถ้างั้นข้าจะจัดการเจ้าให้ตายและมาดูกันว่าเจ้าไร้ซึ่งความกลัวจริงๆ รึเปล่า”
วัลรู้ว่าราเวนการ์นั้นไม่ได้แข็งแกร่งกว่าหรือว่องไวกว่าเขา ถ้ามันมีดีจริง มันก็คงจะไม่หันมาใช้เล่ห์กลโง่ๆ แต่ว่าเขาก็ยังไม่มีวิธีจัดการกับมันอยู่ดี
ดังนั้นเขาจึงตอบสนองกลับไปง่ายๆ ด้วยการโชว์นิ้วกลางใส่ราเวนการ์ทั้งสองมือ
“ใครมันจะไปยืนนิ่งเป็นท่อนไม้ให้แกฆ่าล่ะวะ?”
หลังพูดจบ วัลก็เผ่นแนบ ราเวนการ์เองก็ไล่กรวดเขาไป
แต่ว่าความเร็วของวัลนั้นสูงกว่าขาดลอย ร่างที่ใหญ่โตของมันไม่สามารถตามทันได้
วัลวิ่งทะยานผ่านถนนอันคดเคี้ยวของเมืองชาโด้วฟอล มุ่งหน้าเข้าสู่ป่าราตรีนิรันดร์ โดยที่เขาจะไม่ลดความเร็วลงจนกว่าเขาจะไปถึงทางเข้าของฐานที่มั่นไอรอนสไปร์
ด้วยการเหลือบมองผ่านช่วงไหล่ของเขา วัลไม่เห็นร่องรอยของราเวนการ์แล้ว เสียงเฮ้อด้วยความโล่งอกเล็ดลอดออกมาจากริมฝีปากของเขา เขาใช้หลังมือปาดเหงื่อที่หน้าผาก เขาไม่มีวิธีที่จะทำอันตรายกับราเวนการ์ ที่ซึ่งมีภูมิคุ้มกันทุกอย่างนอกจากการโจมตีด้วยพลังศักดิ์สิทธิ์และพลังวิญญาณ
ดังนั้น การหนีจึงเป็นตัวเลือกที่ดีที่สุดจริงๆ
มันอาจจะดูขี้ขลาด แต่วัลให้ความสำคัญกับชีวิตมากกว่าศักดิ์ศรี ถึงยังไง ตราบใดที่เขามีชีวิตอยู่ เขาก็จะได้โอกาสในการแก้แค้น แต่ถ้าเขาตาย ทุกสิ่งที่ทำมาก็จะต้องสูญเปล่า!