บทที่ 121 จิตใจแหลกสลาย
ติดตามเป็นกำลังใจให้ผู้แปลได้ที่แฟนเพจ:BamแปลNiyay
บทที่ 121 จิตใจแหลกสลาย
“คุณคือสไปเดอร์แมนงั้นเหรอ?!”
ชายคนนั้นหันกลับมามองคนตรงหน้าและอุทานออกมาด้วยสีหน้าตื่นตะลึง
"ถูกต้องแล้วครับ ดูเหมือนชุดใหม่จะได้ผลแฮะ"
เมื่อเห็นคนรู้จักตัวตนของเขาตั้งแต่แวบแรก อารมณ์ไม่ดีของปีเตอร์จากการกระทำของกรีนก็อบลินก่อนหน้านี้ก็กลับกลายเป็นดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัด มุมริมฝีปากของเขาโค้งงอเป็นรอยยิ้มภายใต้หน้ากาก จากนั้นเขาก็พยักหน้ากลับไป
"ผมชื่อเอ็ดดี้ บร็อก ผมเป็นแฟนคลับของคุณเลยนะครับ ผมตามคุณมาตั้งแต่คุณปรากฏตัวครั้งแรกในนิวยอร์กเลย"
"ขอบคุณที่คอยติดตามนะ แต่ว่าคุณดูจะเอ่อ..."
ปีเตอร์เงยหน้าขึ้นมองชายตรงหน้า สภาพเขาดูไม่ดีเท่าไร ผมยุ่งเหยิงและหน้าดูคล้ายกับกำลังเผชิญปัญหา
“คุณดูอาการไม่ดีเลยนะ มีปัญหาอะไรหรือเปล่า?”
“พอดีผมเพิ่งเสียทั้งงานและผู้หญิงที่ผมรักไป ทั้งหมดเป็นเพราะเรื่องโง่ๆ ที่ผมทำ มันเป็นความผิดของผมเอง” เอ็ดดี้ตอบกลับด้วยรอยยิ้มขมขื่น
[คะแนนชื่อเสียงจากสไปเดอร์แมน +75]
แมงมุมหนุ่มยังเป็นเด็กอยู่เลย เมื่อเห็นสภาพของเอ็ดดี้ที่กำลังเครียด เขาเองก็รู้สึกกังวลแทน เขาลังเลอยู่สองสามวินาที ก่อนจะยืนนิ่งอยู่สักพักและพูดไปว่า "ผมรู้ว่ามันอาจจะไม่น่าเชื่อถือสักเท่าไร แต่เชื่อผมเถอะ เดี๋ยวทุกอย่างก็จะดีขึ้นเอง อย่าไปยึดติดกับอดีตเลย... ”
ขณะที่ปีเตอร์พูดเช่นนั้น ภาพของลุงเบนก็แวบเข้ามาในความคิดของเขา การตายของลุงเบนทำให้เขาและป้ารู้สึกโศกเศร้ายิ่ง แต่มันก็ช่วยเสริมสร้างศรัทธาแก่ปีเตอร์ให้ทำในสิ่งที่ถูกต้อง ในฐานะผู้ที่มีพลังพิเศษ
“ขอบคุณครับ” คำพูดของปีเตอร์ดูเหมือนจะมีผลต่อเอ็ดดี้อย่างมาก เขามองกลับไปที่จุดที่เกิดการระเบิดที่อยู่ข้างหลังเขาและพูดออกมาด้วยความกลัวว่า "คุณช่วยชีวิตผมไว้"
“ด้วยความยินดีครับ มันเป็นสิ่งที่ผมต้องทำอยู่แล้ว”
ไอ้แมงมุมหนุ่มตอบด้วยน้ำเสียงอ่อนน้อมพลางลูบไล้หน้าอกของเขา
ทันใดนั้น เสียงไซเรนแผ่วเบาก็ดังมาจากระยะไกล เสมือนมันกำลังเตือนปีเตอร์
"ได้เวลาที่ผมจะต้องไปแล้ว"
แม้ว่าเขาจะพยายามต่อสู้กับอาชญากรรม แต่ก็เห็นได้ชัดว่าสไปเดอร์แมนและตำรวจนิวยอร์กเข้ากันได้ไม่ค่อยดีนัก อาจเพราะว่าผู้บัญชาการตำรวจสเตซี่ไม่ค่อยชอบคนที่มีพลังเหนือมนุษย์แบบปีเตอร์ที่ไม่ค่อยสนใจกฎหมาย
“ผมหวังว่าคุณจะกลับมายืนได้และเริ่มต้นชีวิตใหม่อีกครั้งนะ ว่าแต่ก่อนหน้านี้คุณทำอะไรมาก่อนเหรอ?”
"เป็นนักข่าวน่ะ ผมเขียนบทความให้กับหนังสือพิมพ์ในฐานะนักข่าว"
“นักข่าวเป็นงานที่น่าชื่นชมมาก ผมเองก็สนุกกับการอ่านหนังสือพิมพ์อยู่เป็นประจำเลย ยกเว้นแค่กับหนังสือพิมพ์ไดอารี่บุคเกิล...”
ไม่ว่าใครก็รู้ว่าเขานั้นเกลียดหนังสือพิมพ์ไดอารี่บุคเกิลมากเพียงใด แทบทุกข่าวของหนังสือพิมพ์ไดอารี่บุคเกิลต้องมีข่าวพูดถึงเขาเสียๆ หายๆ อย่างน้อยหนึ่งอย่างตลอด ไม่ว่าจะเป็นเรื่องเล็กหรือเรื่องใหญ่ก็ตาม
เมื่อพูดถึงหนังสือพิมพ์ไดอารี่บุคเกิล สไปดี้ก็ดูไม่พอใจเล็กน้อย หลังจากนั้นเขาก็หันหน้าไปมองรถตำรวจที่ปรากฏขึ้นอยู่ตรงหัวมุมถนน เขาพยักหน้าให้เอ็ดดี้ ก่อนจะงอขาและกระโดดออกไป มือของเขาติดแน่นบนพื้นผิวเรียบของอาคาร และในชั่วพริบตาต่อมา เขาก็หายไปบนชั้นบนของอาคาร
"..."
เอ็ดดี้มองดูด้านหลังของไอ้แมงมุมที่หายไปอย่างเงียบๆ เอ็ดดี้ละสายตาและมองกลับไปที่เจ้าหน้าที่ตำรวจด้านหลังเขาที่กำลังควบคุมฝูงชน
เมื่อหันกลับมา เขาก็หายตัวไปในเงามืดไปแล้ว
...
ในร้านขายของเก่า ไรอันมองไปที่คะแนนบนหน้าจอระบบ
คะแนนไม่สูงนัก แต่เอ็ดดี้ที่ปรากฏตัวต่อหน้าไอ้แมงมุมยามนี้ก็เป็นเพียงคนธรรมดาเท่านั้น ส่วนสาเหตุน่ะเหรอ? ก็เพื่อใช้บทบาทของเอ็ดดี้ในการสร้างความประทับแก่สไปเดอร์แมนก่อน จากนั้นก็คงถึงเวลาเก็บเกี่ยวคะแนนให้มากขึ้นกว่านี้
ชายผู้ตกต่ำและกลายเป็นจอมวายร้าย ดูยังไงก็เหมือนบทภาพยนตร์สุดคลาสสิคเลยใช่ไหมล่ะ?
ขณะที่รวบรวมความคิดของเขาอย่างเงียบๆ หัวใจของไรอันก็แทบไม่ได้นึกถึงเรื่องไอ้แมงมุมเลย การปรากฏตัวของแอนเชี่ยนวันยังคงวนเวียนอยู่ในใจของเขา ราวกับมีหนามกำลังทิ่มแทงเขาอยู่ ด้วยเหตุนี้ ไรอันจึงหันความสนใจกลับไปที่ดีเฟนเดอร์สที่อยู่อีกด้านหนึ่ง
หลังจากอยู่ในอาการโคม่าหลายวัน แดนนี่ก็ก็ฟื้นขึ้นมาแล้ว
...
"แดนนี่ สรุปแล้วมันเกิดบ้าอะไรขึ้น?”
ภายในห้องพักผู้ป่วย เจสซิก้ามองไปยังไอรอนฟิสต์ที่นอนอยู่บนเตียงของโรงพยาบาลอย่างเงียบๆ เธออดไม่ได้ที่จะขมวดคิ้วและถามออกมา
“ใครกันที่ทำให้คุณบาดเจ็บได้ถึงขนาดนี้?”
เป็นเวลากว่าสิบชั่วโมงแล้วที่แดนนี่ฟื้นขึ้นมา แต่เขากลับยังคงเงียบแบบนั้นอยู่ตลอด
“บางทีเราคงอาจต้องให้เวลาเขาอีกสักหน่อย” ลุคเคจเปิดปากและมองไปที่ไอรอนฟิสต์บนเตียงในโรงพยาบาล
“ฉันให้เวลาเขามากพอแล้ว มากพอที่จะมองย้อนกลับไปตลอดชีวิตของเขาด้วยซ้ำ” เจสซิก้าพูดขึ้นมาอย่างไม่พอใจและจ้องกลับไปที่ลุค บุคลิกของเธอยังคงเป็นเช่นเดิม เธอไม่อาจทนต่อสภาพอันน่าสังเวชของแดนนี่ได้เลย "ถ้าเขายังคงปฏิเสธที่จะพูดแบบนี้ ฉันก็ไม่มีอะไรจะพูดแล้ว ถ้างั้นฉันก็ขอถอนตัวจากภารกิจนี้ พวกนายเชิญทนรอไอ้เจ้าลูกคนรวยนอนติดเตียงแสร้งทำตัวลึกลับแบบนี้ต่อไปเถอะ... "
เมื่อสังเกตเห็นสภาพอารมณ์อันปั่นป่วนของเจสซิก้า แมตต์ก็พูดขึ้นและแนะนำว่า "เราทุกคนได้เห็นสิ่งที่เกิดขึ้นกับแดนนี่แล้ว ดังนั้นสิ่งที่เกิดขึ้นต่อไปย่อมอาจเป็นอันตรายมากยิ่งขึ้น ตอนนี้เรายังไม่แน่ใจเลยว่าเรากำลังเผชิญหน้ากับใครอยู่นะ"
"แต่การไปที่อื่นยังไงก็ดีกว่ามานั่งจมปลักอยู่ที่นี่"
'พวกเขากำลังแตกแยกกันแล้ว'
นาตาชาฟังบทสนทนาของดีเฟนเดอร์สอย่างเงียบๆ เพื่อประเมินสถานการณ์ที่เกิดขึ้น
ในร้านขายของเก่า ไรอันลูบคางของเขาเล็กน้อย เขาแทบจะพูดอะไรไม่ออกเลย
เขาไม่ได้คิดเลยว่าการจัดการแดนนี่จะทำให้ "จิตใจของเขาแหลกสลาย" ไปเลย 'ฉันทุบตีเขาหนักเกินไปงั้นเหรอ?'
ไรอันคิดในใจอย่างเงียบๆ เขาไม่สามารถปล่อยให้ไอรอนฟิสต์เดี้ยงเช่นนี้ได้อย่างแน่นอน มิฉะนั้นแผนการของเขาจะดำเนินต่อไปได้ยังไงกัน? ขณะที่เขาคิด เขาก็พูดผ่านยิปมันในห้องของโรงพยาบาล
“แดนนี่ ถึงแม้ความพ่ายแพ้เป็นเรื่องยากที่จะยอมรับ แต่เธอลืมไปแล้วเหรอว่าทำไมเธอถึงเริ่มฝึกศิลปะการต่อสู้ที่คุนหลุนมาตั้งแต่แรก? ผู้ฝึกวิชายุทธ์จะตกอยู่ในความสิ้นหวังเพียงเพราะความพ่ายแพ้เล็กน้อยได้เช่นไร? นั่นน่ะหรือคือขีดจำกัดของไอรอนฟิสต์?”
ยิปมันกล่าวขึ้นมา เสียของเขาได้ทำให้ดวงตาของแดนนี่สั่นไหวเล็กน้อย
เมื่อมองลงไปยังแขนที่หัก จิตใจของเขาก็นึกถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในตรอกซอกซอยโดยไม่ได้ตั้งใจ หมัดของเขาได้ถูกอีกฝ่ายหักทิ้งลงไปด้วยความเจ็บปวดแสนสาหัส
[คะแนนชื่อเสียงจากแดนนี่ แรนด์ +500]
ความเจ็บปวดจากหว่างแขนของเขายังคงฝังลึกอยู่ในใจของไอรอนฟิสต์ ทำให้เขาไม่แม้แต่จะมีความกล้าเหลืออยู่
แต่ในช่วงเวลาแห่งความเงียบงัน ในที่สุดแดนนี่ก็พูดขึ้นมา
"พิฆาตไร้เทพ คนที่เอาชนะผมได้...ชื่อของเขาคือพิฆาตไร้เทพ”