ตอนที่แล้ว บทที่ 112: การประชันอาวุธในอีกโลกหนึ่งได้เริ่มต้นขึ้นแล้ว!
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปบทที่ 114: เรียกร้อง 10 ล้านตำลึงตั้งแต่ต้น โลภมากนัก!

บทที่ 113: บัลลูนลมร้อนประสบความสำเร็จหรือความล้มเหลว?


ติดตามเป็นกำลังใจให้ผู้แปลได้ที่แฟนเพจ:BamแปลNiyay

บทที่ 113: บัลลูนลมร้อนประสบความสำเร็จหรือความล้มเหลว?

ในทางเหนือของเหอเป่ย บนลานกว้างของท่านอ๋อง

ลานนี้หรูหรามาก คู่ควรกับเกียรติของอ๋องแห่งเหอเป่ยทางเหนือผู้มีวีรบุรุษผู้ฝึกวรยุทธ์มากมายนับถือ สถานที่แห่งนี้ใช้สำหรับการวิจัยและผลิตสิ่งประดิษฐ์บนท้องฟ้าหรือที่รู้จักกันในนาม"บัลลูนลมร้อน"

นับตั้งแต่ได้รับวิธีการผลิตบัลลูนของหลินเป่ยฟาน อ๋องแห่งเหอเป่ยทางเหนือก็ได้รวบรวมช่างฝีมือที่มีทักษะมากมาย ลงทุนกำลังคนและทรัพยากรที่สำคัญในการพัฒนาบัลลูนขึ้นมา

หลังจากผ่านไปครึ่งเดือน ในที่สุดข่าวดีก็มาถึง

จูกัดผู้เป็นกุนซือแสดงความยินดีและกล่าวว่า “ขอแสดงความยินดีด้วยฝ่าบาท! ขอแสดงความยินดีด้วยฝ่าบาท! สิ่งประดิษฐ์แห่งสวรรค์ชิ้นแรกของเรา บัลลูนลมร้อนได้ถูกผลิตเรียบร้อยแล้ว อีกไม่นานเราก็จะสามารถทดสอบบินได้! ฝ่าบาท ท่านเข้าใกล้ความทะเยอทะยานอันยิ่งใหญ่ไปอีกขั้นแล้ว!”

“ขึ้นไปสู่สรวงสวรรค์ การบรรลุความเป็นอมตะอยู่ใกล้เพียงแค่เอื้อม!”

"ดี! ดีมาก!” อ๋องแห่งเหอเป่ยทางเหนือมีความสุขยิ่ง

เมื่อการพัฒนาบัลลูนลมร้อนประสบความสำเร็จ มันไม่เพียงแต่หมายถึงการก้าวเข้าใกล้บัลลังก์เท่านั้น แต่ยังหมายถึง...

การบรรลุสู่ความเป็นอมตะ!

บรรลุชีวิตอันนิรันดร์!

ผู้มีอำนาจคนใดก็ไม่อาจต้านทานความยั่วยวนของมันได้!

ดังนั้นท่านอ๋องแห่งเหอเป่ยทางเหนือจึงแทบรอไม่ไหวและกล่าวทันทีว่า “ราชสำนักได้ผลิตบัลลูนลมร้อนไปแล้ว 20 ลูก เวลาไม่เคยรอผู้ใด! เราจะทำการทดสอบการบินในวันพรุ่งนี้ เจ้าคิดว่าเช่นไรบ้าง?”

“ดีเลยพะยะค่ะฝ่าบาท! เช่นนั้นกระหม่อมจะส่งต่อรับสั่งของฝ่าบาทเอง!”

วันรุ่งขึ้น ท่านอ๋องพร้อมกับผู้ติดตามที่ไว้ใจได้ก็มาถึงลานกว้างตั้งแต่เช้าตรู่

เหล่าวีรบุรุษผู้ฝึกวรยุทธ์ที่เข้าร่วมกับท่านอ๋องก็มารวมตัวกันที่นี่เช่นกัน พวกเขากำลังเป็นสักขีพยานในการทดลองบินที่หาได้ยากและไม่ธรรมดานี้

ท่านอ๋องยืนอยู่ใต้บัลลูนลมร้อน จากนั้นจึงตะโกนออกมาว่า “นี่คือบัลลูนลมร้อนสินะ! ช่างน่าทึ่งยิ่งนักที่วัตถุที่ดูแปลกประหลาดเช่นนี้สามารถบินได้จริง!”

เหล่าวีรบุรุษผู้ฝึกวรยุทธ์ยิ้มและกล่าวว่า “ฝ่าบาท ถ้าไม่ใช่เพราะเรื่องนี้ถูกยืนยันมาก่อน ข้าก็คงไม่เชื่อว่าสิ่งนี้สามารถบินได้จริง! ต้องบอกได้เลยว่าหลินเป่ยฟานนั้นมีความสามารถโดยแท้ เขาเหมือนดั่งอัสสนีที่ร่วงหล่นลงมาจากสวรรค์สู่พื้นโลก น่าประหลาดใจนักที่เขาสามารถคิดค้นสิ่งประดิษฐ์นี้ขึ้นมไาด้!”

เมื่อได้ยินเช่นนี้ ท่านอ๋องก็พยักหน้าเห็นด้วยพร้อมรอยยิ้มที่แสนภาคภูมิใจ

ยามนี้หลินเป่ยฟานผู้เป็นขุนนางระดับสูงถือได้ว่าเป็นหนึ่งในคนของเขา

พอคนอื่นยกย่องหลินเป่ยฟาน มันก็รู้สึกราวกับว่าพวกเขากำลังยกย่องตัวเขาอยู่

“ทว่าฝ่าบาท กระหม่อมยังมีข้อกังวลบางประการ สิ่งนี้จะสามารถใช้บินได้จริงๆ หรือ?” ท่านอ๋องเองก็รู้สึกไม่ค่อยสบายใจเท่าไร

เพราะเขาไม่เคยเห็นมันบินด้วยตาตนเองมาก่อน เขาจึงรู้สึกไม่ค่อยมั่นใจ

จูกัดผู้เป็นกุนซือได้ยิ้มออกมาสกล่าวยืนยันอย่างมั่นใจ “ฝ่าบาท โปรดวางใจได้! สิ่งประดิษฐ์จากสวรรค์นี้เหมือนกับสิ่งที่ผลิตโดยราชสำนัก! วิธีการผลิตก็ถูกส่งมอบมาจากผู้เดียวกัน ดังนั้นมันย่อมไม่มีปัญหาในเรื่องการบินอย่างแน่นอน!”

ท่านอ๋องดีใจมากและตะโกนว่า “ดี! หากการบินทดสอบนี้ประสบความสำเร็จ พวกเจ้าทุกคนจะได้รับรางวัลอย่างงาม!”

“ขอบพระทัยฝ่าบาท!” ทุกคนในที่นี้ยิ้มออกมา

เมื่อบัลลูนเต็มไปด้วยลมร้อน มันก็ค่อยๆ ขยายออกเป็นทรงกลมขนาดใหญ่จนสูงถึงสามหรือสี่ชั้น ถึงจะยืนอยู่นอกลานกว้าง ก็สามารถมองเห็นมันได้อย่างชัดเจน จนมันไปดึงดูดความสนใจของผู้คนจำนวนมาก

ทว่าท่านอ๋องกลับไม่พยายามปกปิดมันเลย

ตอนนี้ท่านอ๋องและอาณาจักรทั้งหลายกำลังพยายามพัฒนาบัลลูนกัน

หากราชสำนักรู้เข้าแล้วจะทำอะไรพวกเขาได้?

เมื่อพวกเขาและอีกหลายคนต่างพยายามสร้างมันขึ้นมา ทางราชสำนักก็ทำได้เพียงจำใจยอมรับอย่างไม่เต็มใจเท่านั้น!

ยิ่งคิดเรื่องนี้มากเท่าไร เขาก็ยิ่งชื่นชมหลินเป่ยฟานที่อยู่ในเมืองหลวงมากขึ้นเท่านั้น

ด้วยแผนการของเขา มันก็ช่วยเขาแก้ปัญหาในอนาคตของเขาไปเสร็จสรรพ!

ช่างเป็นผู้มีพรสวรรค์อย่างแท้จริง!

ท่านอ๋องยืนอยู่ใต้บัลลูนที่กำลังขยายตัว ความทะเยอทะยานของเขาก็เพิ่มขึ้นตามขนาดของมันไปด้วย

“ครั้งนี้…เราจักประสบความสำเร็จและมุ่งสู่สรวงสวรรค์!”

ในยามนั้นเอง ทหารคนหนึ่งก็รายงานว่า “ฝ่าบาท บัลลูนพองตัวเต็มที่แล้ว เราสามารถดำเนินการทดสอบบินครั้งแรกได้แล้ว!”

นัยน์ตาของทุกคนเต็มไปด้วยความตื่นเต้น

“ฝ่าบาท ให้กระหม่อมขึ้นเป็นคนแรกเถิด!”

“ฝ่าบาท โปรดมอบหมายหน้าที่นี้ให้กระหม่อมด้วย!”

“ฝ่าบาท...”

เมื่อเห็นวีรบุรุษผู้ฝึกวรยุทธ์ นายพลและทหารมากหน้าต่างกระตือรือร้นอยากเป็นผู้ทดสอบ ท่านอ๋องก็หัวเราะออกมาจนเสียงดังสนั่น “เหล่าวีรบุรุษทั้งหลาย ไม่จำเป็นต้องแข่งขันกัน พวกท่านทุกคนสามารถไปลองได้ทั้งหมด! ว่าแต่ให้วีรบุรุษหนุ่มหลิวเป็นผู้ลองคนแรกดีหรือไม่?”

หลิวผู้นี้มีนามเต็มว่า หลิวเจิ้นหยุน เขาเป็นวีรบุรุษหนุ่มที่เพิ่งเข้าร่วมกลุ่มของท่านอ๋องแห่งเหอเป่ยทางเหนือ

เพราะเขาอายุน้อยกว่า 20 ปี เขาจึงเต็มไปด้วยความกระฉับกระเฉง อ่อนเยาว์และความหลงใหล เขากระตือรือร้นยิ่งที่จะได้ทำสิ่งยิ่งใหญ่ไปพร้อมกับท่านอ๋อง

การทำเช่นนี้ย่อมสามารถเอาใจและชนะใจอีกฝ่ายได้เป็นอย่างดี

ตามที่คาดไว้ เมื่อหลิวเจิ้นหยุนได้ยินว่าท่านอ๋องจะมอบโอกาสอันมีค่านี้ให้เขา เขาก็มีความสุขมากและกล่าวออกมาทันทีว่า “ขอบพระทัยฝ่าบาท! กระหม่อมพร้อมน้อมรับสั่งตามบัญชา!”

จากนั้นเขาก็กระโดดลงไปในตะกร้า เฝ้ารออย่างใจจดใจจ่อและรอให้บัลลูนลอยขึ้นไป

เมื่อเห็นเช่นนี้ คนอื่นๆ ก็ไม่สนใจที่จะแข่งขันอีกต่อไป เพราะพวกเขารู้ว่าอีกไม่นานตนก็จะมีโอกาส

ณ จุดนี้เอง บัลลูนเริ่มลอยสูงขึ้นอย่างเชื่องช้า ลอยอยู่เหนือพื้นดินประมาณหนึ่งเมตร

ทุกคนต่างเต็มไปด้วยความตื่นเต้น

“มันกำลังลอยออกไปแล้ว!”

“มันกำลังลอยจริงๆ ด้วย!”

“มันกำลังจะบินขึ้นไปสู่ห้วงสวรรค์!”

ท่านอ๋องแห่งเหอเป่ยทางเหนือเมื่อเห็นเช่นนั้นก็รู้สึกยินดียิ่ง “มันกำลังบินจริงด้วย! นี่สินะคือบัลลูนลมร้อน!”

ขณะที่พวกเขากำลังตะโกนออกมาด้วยความยินดี บัลลูนก็บินสูงขึ้นจากพื้นสามถึงสี่เมตรแล้ว

ทุกคนตื่นเต้นมากยิ่งขึ้นไปอีก

“มันสูงสามถึงสี่เมตรแล้ว สูงกว่ากำแพงเสียอีก!”

"จงบินสูงขึ้นไป!”

“บินทะลวงไปยังฟากฟ้า!”

ท่ามกลางความคาดหวังของทุกคน บัลลูนก็ยังคงเพิ่มระดับความสูงขึ้นอย่างเชื่องช้า

ยามนี้มันได้มีระดับความสูง 30 เมตรเหนือจากพื้นดินแล้ว

หากนับรวมความสูงจากจุดที่พวกเขาอยู่เทียบกับจุดอื่น ยามนี้มันก็กำลังบินสูง 50 เมตรเหนือนครจนสามารถมองเห็นโดยรอบได้ไหม

พวกเขามีความสุขและพากันเต้นรำทันที

ทางด้านล่าง ท่านอ๋องก็ตะโกนว่า “วีรบุรุษหนุ่มหลิน ข้างบนเป็นเช่นไรบ้าง?”

หลิวเจิ้นหยุนที่ยืนอยู่ในตะกร้าก็รู้สึกตื่นเต้นมาก เขาตอบออกมาว่า “ทุกอย่างเป็นไปด้วยดีฝ่าบาท โปรดวางใจได้!”

"ยอดเยี่ยม!" ท่านอ๋องหัวเราะออกมาสุดเสียง

"ขอแสดงความยินดีด้วยฝ่าบาท! ขอแสดงความยินดีด้วย!" จูกัดเหลียงกล่าวพร้อมโค้งคำนับและตะโกนเสียงดังสนั่น “การทดลองบินครั้งนี้ถือว่าประสบความสำเร็จ! ด้วยสิ่งประดิษฐ์ที่บินได้นี้ มันจะมีสิ่งใดเป็นอุปสรรคต่อเราอีก?”

"ขอแสดงความยินดีด้วยฝ่าบาท! ขอแสดงความยินดีด้วย!" ทุกคนต่างกล่าวออกมาอย่างพร้อมเพรียงกัน

“ฮ่าฮ่าฮ่า …”  ท่านอ๋องหัวเราะออกมาอย่างเต็มที่ เขาตระหนักได้เลยตนเข้าใกล้ความฝันมากถึงเพียงใด

แต่แล้วเสียง “ฟุ๊บ” ก็ดังขึ้น

บัลลูนได้หยุดอย่างไม่คาดคิดและเริ่มลอยลงมาอย่างเชื่องช้า

ท่านอ๋องดูสับสนและถามออกมาในทันทีว่า “เกิดอะไรขึ้นกัน?”

ทุกคนหันไปมองหัวหน้าช่างฝีมือที่รับผิดชอบในการสร้างบัลลูน

เมื่อเช็ดเหงื่อออกจากใบหน้าแล้ว ช่างฝีมือชราก็กล่าวอย่างกังวลว่า “ฝ่าบาท ดูเหมือนว่าตัวบรรจุลมในบัลลูนจะแตกออกแล้ว”

ท่านอ๋องถามเค้นไปอีก “ถ้ามันแตกแล้วจะเกิดสิ่งใดขึ้น?”

“ตามวิธีการผลิตบัลลูน มันอาศัยอากาศร้อนภายในเพื่อบินขึ้นสูงไป หากแตกออก อากาศก็จะรั่วไหลและทำให้ลมในบัลลูนมลายหายสิ้น หากไม่มีอากาศร้อน บัลลูนก็จะบินไม่ได้”

ขณะที่พวกเขาพูด บัลลูนก็ลอยลงมาอย่างเชื่องช้า ทุกคนมองไปที่มันอย่างนิ่งเงียบ

เมื่อมองดูมันอีกครั้ง พวกเขาก็พบหลุมปรากฏขึ้นบนบัลลูน

“ได้โปรดยกโทษให้เราด้วยขอรับฝ่าบาท!” ช่างฝีมือคุกเข่าลงทันทีด้วยตัวที่สั่นเทา

ใบหน้าของท่านอ๋องกลับกลายเป็นมืดมน

การทดลองบินครั้งแรกกลับมีสภาพออกมาเป็นเช่นนี้!

ยิ่งไปกว่านั้น มันยังเกิดขึ้นต่อหน้าทุกคนจนทำให้เขาต้องอับอาย

จูกัดผู้เป็นกุนซือได้รีบพูดขึ้นอย่างรวดเร็ว “ฝ่าบาท การทดลองบินครั้งแรกนี้ถือว่าประสบความสำเร็จแล้ว! การรั่วไหลของลมอาจเกิดจากการขาดประสบการณ์ของช่างฝีมือ ยังไงเสียมันก็เป็นพยายามครั้งแรกของพวกเขา! ให้โอกาสพวกเขามากขึ้นกว่านี้เถิด พวกเขาจะสามารถสร้างสิ่งประดิษฐ์ที่บินได้อย่างบัลลูนจนทำให้ท่านพอใจและพิชิตดินแดนอันกว้างใหญ่นี้ได้แน่!”

สีหน้าของทท่านอ๋องลันผ่อนคลายลงเล็กน้อย สิ่งที่อีกฝ่ายพูดถูก เขายังจำเป็นต้องพึ่งพาช่างฝีมือเหล่านี้ในการสร้างบัลลูนอยู่ดี

หากเขาลงโทษพวกเขาไป มันจะเป็นการทำร้ายตนเองเสียเปล่าๆ

เมื่อคิดได้เช่นนี้ ท่านอ๋องก็เผยรอยยิ้มที่อ่อนโยนออกมาและกล่าวว่า “ท่านกุนซือ เจ้าพูดถูก การสามารถสร้างบัลลูนขึ้นมาได้ก็ถือว่าประสบความสำเร็จมากแล้ว เพียงพบปัญหาเล็กน้อยระหว่างการสร้างเท่านั้น ช่างฝีมือทั้งหลาย โปรดลุกขึ้นก่อนเถิด พื้นดินที่นี่มันเย็นเกินไป!”

“ขอบพระทัยฝ่าบาท!” ช่างฝีมือทั้งประหลาดใจและโล่งใจ พวกเขารู้สึกยินดียิ่งที่รอดแล้ว

วีรบุรุษผู้ฝึกวรยุทธ์ที่ได้เป็นประจักษ์สักขีพยานก็พยักหน้ากันด้วยความชื่นชม

นี่สิคือท่านอ๋องผู้มีจิตใจเมตตาและมีคุณธรรม คิดถึงผู้น้อยกว่าตนเองตลอด!

นี่สิคือผู้ปกครองที่รู้แจ้ง สมกับที่พวกเขาสาบานว่าจะติดตามจนไปสู่ความตาย!

“ต่อไปนี้ข้าคงต้องลำบากพวกท่านช่างฝีมือทุกคนแล้ว!” ท่านอ๋องยิ้มอย่างอ่อนโยนและกล่าวไปว่า "โปรดจงมุ่งมั่นผลิตบัลลูนจำนวนมากโดยเร็ว! เมื่องานนี้เสร็จสิ้น ข้าจะมอบรางวัลอันมากมายมหาศาลและตำแหน่งให้พวกเจ้า ขอเพียงมันไม่มีปัญหาก็พอแล้ว!”

“ขอรับฝ่าบาท!” ใบหน้าของช่างฝีมือเต็มไปด้วยความสุข

ขณะเดียวกัน เจียงทางใต้

บัลลูนอีกลูกค่อยๆ ลอยขึ้นไป แต่มันก็ตกลงมาก่อนที่จะถึงความสูงสี่สิบถึงห้าสิบเมตร

กลุ่มคนด้านล่างมองมันด้วยความประหลาดใจ

ในหมู่พวกเขา ผู้ที่ยืนอยู่ตรงกลางค่อนข้างสง่างามและมีรูปร่างอ้วนท้วน

คนผู้นี้คือท่านอ๋องแห่งเจียงใต้ เขาจ้องไปที่บัลลูนที่ตกลงมาตรงหน้าด้วยดวงตาอันว่างเปล่า “สิ่งประดิษฐ์บินได้นี้ถือว่าประสบความสำเร็จหรือล้มเหลวกัน? มีผู้ใดบอกข้าได้บ้าง?”

หวังฟู่กุ้ยที่ร่วมทำการค้ากับหลินเป่ยฟานก็พูดขึ้นอย่างกล้าหาญ “ฝ่าบาท มันถือว่าประสบความสำเร็จขอรับ!”

ท่านอ๋องแห่งเจียงใต้หันศีรษะและถามว่า “ทำไมเจ้าถึงกล่าวเช่นนั้น?”

“ฝ่าบาท มันสามารถบินไปได้หลายสิบเมตร นั่นไม่ถือว่าสำเร็จหรือ? หากเรามองย้อนกลับไปในอดีต มีสิ่งประดิษฐ์ศักดิ์สิทธิ์ที่สามารถนำพาผู้คนขึ้นไปบนท้องฟ้าได้มากกว่าสิบเมตรหรือไม่? ไม่มีเลย!” หวังฝู่กุ้ยกล่าวพร้อมกับโค้งคำนับด้วยความเคารพ

“ดีมาก เจ้ากล่าวถูกต้องตรงประเด็น!” สีหน้าของท่านอ๋องแห่งเจียงใต้พลันสดใสขึ้นมา

“ตามวิธีการผลิตของบัลลูน มันมีข้อกำหนดที่เข้มงวดและผิดพลาดไม่ได้เป็นอันขาด! เป็นไปได้ว่าช่างฝีมือของเราขาดประสบการณ์ในการสร้างบัลลูน มันจึงเกิดปัญหาบางอย่าง หากเรามีเวลามากกว่านี้ มันก็ไม่มีปัญหาใดแล้ว!” หวังฝู่กุ้ยยังคงรายงานอย่างต่อเนื่อง

“ที่เจ้ากล่าวมามีเหตุผล เช่นนั้นก็สร้างบัลลูนต่อเถิด! สร้างสัก 50 ลูก...ไม่สิ 100 ลูก!” ท่านอ๋องแห่งเจียงใต้กล่าว

หวังฝู่กุ้ยถึงกับผงะตกใจ “ฝ่าบาท มันไม่มากเกินไปหน่อยหรือ? การทำเช่นนั้นย่อมต้องใช้เงินเป็นจำนวนมากเลยนะขอรับ!?”

ท่านอ๋องแห่งเจียงใต้ส่ายศีรษะไปมา “มันคือสิ่งจำเป็น! ราชสำนักได้สร้างไป 20 ลูกแล้ว ข้ากลับไม่มีมันสักลูกเดียว เช่นนั้นข้าจะต่อกรกับราชสำนักได้ยังไง? อีกสักพักพวกเขาอาจสร้างมันสี่สิบลูกหรือห้าสิบลูก! เพราะเช่นนั้นเราจึงต้องรีบสร้างบัลลูนลมร้อนหนึ่งร้อยลูกเพื่อแซงหน้าราชสำนักให้ได้!”

“ส่วนเรื่องเงิน…” ท่านอ๋องแห่งเจียงใต้กล่าวออกมาอย่างภาคภูมิใจ“ข้าดูเป็นคนที่ขาดแคลนเงินงั้นหรือ? สิ่งที่ข้ามีก็คือเงินเท่านั้น! จงรวบรวมช่างฝีมือจำนวนมากในทันที ต้องสร้างบัลลูนลมร้อนให้ได้ 100 ลูก!”

“ขอรับฝ่าบาท!”

ในยามนั้นเอง เจ้าเมืองและราชาของอาณาจักรอื่นๆ ก็ได้ทำการทดลองบินบัลลูนลมร้อนเป็นครั้งแรก ทว่าก็ไม่มีผู้ใดในหมู่พวกเขาสามารถบินได้เกิน 50 เมตรและมันก็ร่วงลงมาทันที

แต่พวกเขาทั้งหมดกลับคิดว่าตนเองประสบความสำเร็จ เชื่อมั่นว่ามันเกิดจากข้อผิดพลาดเล็กน้อยเท่านั้น อาจเพระามันเป็นเพียงการสร้างครั้งแรก มันย่อมเป็นเรื่องที่เข้าใจได้ ดังนั้นพวกเขาทั้งหมดจึงเพิ่มความพยายามในการผลิตบัลลูนลมร้อน โดยไม่มีผู้ใดคิดสงสัยเลย

สถานการณ์นี้ได้ไปถึงทางพระราชวังอย่างรวดเร็ว

จักรพรรดินียิ้มอย่างมีชัย “ตามที่หลินเป่ยฟานคาดการณ์ไว้ บัลลูนลมร้อนที่พวกเขาพัฒนาขึ้นล้วนมีปัญหาเกิดขึ้น พวกมันบินได้ไม่ถึง 20 จั้งด้วยซ้ำ! บัลลูนที่บินได้ไม่ถึง 20 จั้งจะมาสร้างปัญหาอะไรให้ข้าได้กัน?”

บัลลูนที่ไม่สามารถบินไปได้ถึง 20 จั้งก็เป็นเพียงโคมลอยที่สามารถยิงร่วงลงมาได้อย่างง่ายดาย หากมันบินได้ไม่สูงถึง 70-80 จั้ง มันก็ย่อมไม่เป็นปัญหาอะไรกับนางเลย

[หมายเหต 1 จั้ง = 3.3 เมตร]

ติดตามเป็นกำลังใจให้ผู้แปลได้ที่แฟนเพจ:BamแปลNiyay

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด