บทที่ 8 ทักษะตรวจจับการโกหก
บทที่ 8 ทักษะตรวจจับการโกหก
จีชอคพบว่าเป็นการยากที่จะพูดคุยกับแชโบล เนื่องจากเขาใช้ชีวิตมาทั้งชีวิตในฐานะพลเมืองเกาหลียากจนธรรมดาๆ เขาระงับสัญชาตญาณที่บอกให้เขาหุบปากและบังคับตัวเองให้พูด
“ว้าว… ขอบคุณสำหรับข้อเสนอ แต่ฉันอยากจะดูว่าเงื่อนไขของคุณคืออะไรก่อน”
“เอาล่ะ มาพูดถึงพวกมันกันดีกว่า”
แววตาของจองจีฮันเปลี่ยนไป และการแจ้งเตือนที่ทำให้จีชอคหนาวสั่นดังขึ้นพร้อมกันโดยบังเอิญ... เป็นเวลาที่เหมาะเจาะเกินไปเล็กน้อย จีชอคคิด
ติ้ง-
[จองจีฮันกำลังใช้ทักษะระดับสูง ???.]
[เขาพยายามยืนยันว่าคำพูดของคุณเชื่อถือได้หรือไม่]
[เปิดใช้งานทักษะหัวใจที่มั่นคงเพื่อต่อต้านทักษะ ??? ]
[ล้มเหลว!]
[ระดับของคุณต่ำเกินไป]
จีชอคสงสัยว่าทักษะนี้สามารถแยกแยะระหว่างความจริงและความเท็จได้หรือไม่ จองจีฮันคงมีทักษะที่มีค่าพอสมควร ในความเป็นจริงมันเป็นเรื่องมหัศจรรย์มากพออยู่แล้วที่จีชอคได้รับแจ้งผ่านข้อความของระบบ คนปกติไม่เคยรู้ด้วยซ้ำว่าคู่ต่อสู้กำลังใช้ทักษะการตรวจจับคำโกหก ต้องเป็นเพราะระบบเฉพาะของจีชอคซึ่งสามารถตรวจจับอารมณ์และสถานะของคู่ต่อสู้ได้
'ฉันไม่ควรโกหกอย่างแน่นอน'
จีชอคต้องได้สิ่งที่เขาต้องการดังนั้นเขาต้องบอกความจริงกับจองจีฮัน แต่เขากลับสงสัยจองจีฮันเปิดเผยไพ่เด็ดอะไรที่เขาซ่อนอยู่ในแขนเสื้อ
“ฉันเข้าใจว่าคุณกังวล แต่ฉันจะเสนอเงื่อนไขที่ดีที่สุดในสาขานี้ให้กับคุณ ฉันอยากรับคุณจริงๆ คุณอึม”
'เอาล่ะ ฉันต้องสงบสติอารมณ์ให้มากไว้'
“ฉันแน่ใจว่าคุณรู้อยู่แล้วว่าฉันค่อนข้างยากจนอย่างมาก” จีชอคพูดออกไปก่อนเพื่อตรวจสอบ
“ฉันรู้ว่าคุณอยากได้ค่าตอบแทนเยอะๆ” จองจีฮันตอบ
“ใช่ ฉันอยากจะมีรายได้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ คุณคิดอย่างไรกับความต้องการของฉัน” จีชอคถามกลับ
[จองจีฮันกำลังใช้ทักษะของเขา]
[คนที่มีความสามารถ จองจีฮันกำลังพยายามตัดสินว่าคุณกำลังพูดความจริงหรือไม่]
[เขายืนยันว่าคุณไม่ได้โกหก]
[อึมจีชอคกำลังพูดความจริง]
จองจีฮันเริ่มตรวจสอบทุกคำที่จีชอคพูด สิ่งที่น่าประทับใจคือเขาสามารถรักษาใบหน้าจริงจังที่ราบเรียบได้อย่างสมบูรณ์แบบ แม้ในขณะที่เขาใช้ทักษะของเขาก็ตาม
'นี่เป็นเพราะการใช้ชีวิตแบบแชโบลหรือเพราะเขาเป็นฮันเตอร์? ทำให้เขาไม่ไว้ใจคนอื่นแบบนี้'
จีชอคแน่ใจว่าจองจีฮันสนใจเขา แต่ก็ไม่ทิ้งความระมัดระวัง
“ดูเหมือนว่าคุณจะมีทักษะทุกประเภท ตั้งแต่การโจมตีระยะประชิดไปจนถึงการโจมตีระยะไกลและแม้กระทั่งพลังการรักษา คุณยังซ่อนอย่างอื่นอยู่ใช่ไหม?” จองจีฮันถามขึ้น
“ฉันเรียนรู้ว่าฉันควรมีไผ่เด็ดอย่างน้อยหนึ่งใบในขณะที่ทำงานในตำแหน่งระดับต่ำที่สุดในโลกเช่นนี้” จีชอคตอบ
“ดีมาก คุณมีคุณสมบัติที่สมบูรณ์แบบของการเป็นฮันเตอร์” จองจีฮันรู้สึกประทับใจ
“แล้งคุมมีไผ่เด็ดที่ซ่อนอยู่บ้างไหมล่ะ?” จีชอคถามกลับ
“ฮ่าฮ่าฮ่า แน่นอนสิ ไม่งั้นฉันคงตายไปนานแล้ว”
'นานแล้วงั้นหรือ?'
จีชอคคิดว่านั่นเป็นคำตอบที่แปลกแต่ก็ไม่สำคัญ ทักษะของจองจีฮันยังคงตัดสินทุกคำตอบของเขาในขณะที่พวกเขากำลังสนทนากันต่อไป
[อึมจีชอคกำลังพูดความจริง]
[อึมจีชอคกำลังพูดความจริง]
ดูเหมือนว่าจองจีฮันจะไม่รู้ว่าจีชอครู้เกี่ยวกับทักษะการตรวจจับคำโกหก บางครั้งมนุษย์ก็โกหกโดยไม่รู้ตัวและโดยที่ไม่มีความอาฆาตพยาบาทกันเลย
และเนื่องจากจีชอคไม่ได้ทำอย่างนั้นด้วยซ้ำ จองจีฮันคงพบว่ามันแปลก เขาอาจสงสัยว่าจีชอคเป็นคนซื่อสัตย์จริงๆ หรือเขาทำโดยมีจุดประสงค์แอบแฝงบางอย่าง แน่นอนว่าจีชอคไม่ได้ตั้งใจจะคลายความอยากรู้อยากเห็นของจองจีฮัน
จองจีฮันจมอยู่กับความคิดแล้วพูดว่า “ฉันอยากจะเสนอให้คุณเป็นเงินเริ่มต้นสองพันล้านวอน และเงื่อนไขของสัญญาคือ…”
การจ่ายเงินเริ่มจำนวนมหาศาลตั้งแต่แรก มันเงื่อนไขที่ดีอย่างมากสำหรับจีชอค
* * *
“นี่คือเท่าที่ฉันสามารถให้คุณได้ คุณคิดว่ายังไง?”
จีชอครู้สึกราวกับว่าเขาถูกตบด้วยเงินกองหนึ่ง เงินเริ่มต้นสองพันล้านวอน สัญญาห้าปี เข้าร่วมในการต่อสู้ของบริษัทสองครั้งต่อเดือน และได้รับเก้าสิบเปอร์เซ็นต์จากทรัพยากรที่ได้รับจากการล่าในแต่ละครั้ง ในขณะที่บริษัทจะได้รับสิบเปอร์เซ็นต์ จีชอคเหมือถูกแจ็กพอต นั่นหมายความว่าบริษัทได้รับเงินคืนสำหรับจัดการค่าใช้จ่ายในการเดินทางน้อยมาก เมื่อจีชอคเข้าไปในดันเจี้ยนแต่ละครั้ง
'อะไรเนี่ย… ข้อเสนอพวกนี้ดีเกินกว่าจะเป็นจริงได้'
จีชอคเคยได้ยินเกี่ยวกับสัญญาของฮันเตอร์คนอื่นๆ มากมายและเงื่อนไขของพวกเขา แต่สิ่งที่จองจีฮันเสนอมาให้เขานี้เกินกว่าระดับของพวกเขาเสียอีก
จองจีฮันเสริมอีกสิ่งหนึ่ง
“เราจะจ่ายค่าเล่าเรียนโรงเรียนกฎหมายของน้องชายคุณด้วย น้อยชายของคุณทำงานพาร์ทไทม์เพื่อเรียนใช่ไหม? มันจะทำให้เขาต้องเสียค่าเวลาเรียนมากและมันเป็นการทำงานที่หนักเกินไปสำหรับเขาตอนนี้”
เห็นได้ชัดว่าเขาทำการบ้านเกี่ยวกับประวัติชีวิตของจีชอคมาแล้ว
'เขารู้เรื่องของฉันมากขนาดนี้เลยเหรอ? ฉันคิดว่าเขาแค่มีอัธยาศัยดี แต่เขาก็ละเอียดรอบคอบอย่างมากเหมือนกัน…'
“นอกจากนี้ เราจะมอบหมายผู้จัดการส่วนตัวให้กับคุณ คุณคิดอย่างไร?”
“สัญญานี้ไม่ใช่สัญญาที่ดีที่สุดในโลก แต่เป็นสัญญาที่ดีที่สุดในเกาหลี” จองจีฮันพูดต่อ
“คุณน่าจะรู้เรื่องนี้ดี เพราะคุณทำงานที่เข้าถึงข้อมูลทั้งหมดนี้ได้ง่าย แล้วคำตอบของคุณคือ…?” จองจีฮันถามขึ้น
ทันใดนั้นประตูก็เปิดออกพร้อมกับเสียงบี๊บ
“พี่!”
ผู้ชายที่อยู่หน้าประตูนั้นสูงเท่ากับประตูและมีใบหน้าที่หล่อเหลา เขาเป็นน้องชายของจีชอค และเขามองกลับไปกลับมาที่จีชอคและจองจีฮัน
“โอ้…พี่มีแขกเหรอ?” เขาพูดอย่างเกรงใจ
“เขาเป็นเจ้านายของฉัน” จีชอคตอบ
น้องชายของจีชอคดูสับสน จีชอคดึงแขนน้องชายของเขาเข้ามา แล้วสายตาของเขาก็มองไปที่จองจีฮัน
“เป็นไปได้ไหมที่ฉันจะให้คำตอบคุณในภายหลัง?” จีชอคถามกลับ
จองจีฮันพยักหน้า
"แน่นอน โปรดใช้เวลานานเท่าที่คุณต้องการ”
จองจีฮันรู้สึกผ่อนคลาย และมันเป็นเรื่องธรรมดาจีชอคจะเป็นเช่นนี้ เมื่อพิจารณาถึงเงื่อนไขอันน่าทึ่งที่เขาเสนอไป ดูเหมือนเขาจะมั่นใจว่าไม่มีบริษัทอื่นใดที่จะเสนอเงื่อนไขที่ดีกว่าเขา ข้อนี้จีชอคเห็นด้วย แต่เขามีลางสังหรณ์ว่าเขาน่าจะสามารถรีดเงินได้มากกว่าสองพันล้าน
จากนั้นข้อความปรากฏขึ้นทันทีที่จองจีฮันกล่าวคำอำลาและจากไป
ติ้ง-
[บุคคลพิเศษ จองจีฮันพบว่าเป็นเรื่องน่าชื่นชมที่คุณไม่เคยโกหกแม้แต่ครั้งเดียวในระหว่างการสนทนา]
[คุณได้รับ 3 ไลค์]
จีชอคสงสัยว่าจองจีฮันชอบเขาเพราะพลังของเขาหรือความซื่อสัตย์ของเขากันแน่ ไม่ว่าจะเป็นทางใดเขาก็ไม่มีทางรู้แน่ๆ แต่แล้วคำถามก่อนหน้านี้ก็เกิดขึ้นอีกครั้ง: ใครหรืออะไรเป็นผู้ตัดสินว่าจีชอคจะได้รับไลค์กี่ครั้งในแต่ละครั้ง?
“เฮ้ ผมได้ยินมาว่าพี่เป็นผู้อเวคแล้ว! ทำไมพี่ถึงอยู่ที่นั่นและช่วยเหลือคนเหล่านั้นกัน? พี่ควรจะหนีออกมานะ! ไม่มีใครสติดีที่ไหนเขาจะอยู่ที่นั่นหรอก!” น้องชายของเขาเริ่มยิงคำถาม
เมื่อจีชอคเห็นว่าน้องชายของเขาถามเขาและตำหนิเขาด้วยความเป็นห่วง แถมยังมาทุบหลังเขาด้วยใบหน้าที่เป็นกังวล มันทำให้เขานึกถึงปู่ของเขา
“โอ้ พอแล้ว หยุด! แกกำลังฆ่าพี่ชายของแกเองนะ!” จีชอคบ่นอย่างติดตลก
“โอ้ โฮ โฮ ฟังผู้ชายคนนี้สิ! พี่ไม่ดูแลตัวเองเลย! ผมเป็นห่วงพี่มากนะ!” น้องชายของเขายังคงดุเขาต่อไป
น้องชายของเขากอดเขา และจีชอคสังเกตเห็นว่าเขาสูงมากแค่ไหน จึงตบหลังน้องชายของเขา
“พี่…พี่อาจจะตายไปแล้ว ทุกคนคิดว่าพี่เป็นฮีโร่ แต่พี่รู้ไหมว่าน้องชายของพี่หวาดกลัวแค่ไหนเมื่อดูวีดิโอนั่น”
จีชอคหัวเราะกับคำพูดเหล่านั้น แต่แล้วเขาก็สังเกตเห็นแขนและร่างกายที่สั่นเทาของน้องชายของเขา
“ผมคิดว่าผมกำลังจะสูญเสียพี่ไปเหมือนพ่อกับแม่ พี่… อย่าทำอย่างนี้อีกนะ… ผมจริงจังนะ”
ทั้งจีชอคและน้องชายของเขาไม่เคยร้องไห้ในวันที่พวกเขาสูญเสียพ่อแม่ เพราะพวกเขาไม่อยากจะเชื่อเลยว่ามันเป็นเรื่องจริง พวกเขายังเด็กเกินกว่าจะจำได้ตอนที่ปู่ของพวกเขาจากไป และเมื่อต้องเผชิญกับงานศพร่วมของพ่อแม่ พวกเขาก็รู้สึกยากที่จะรับได้กับความจริงอันโหดร้าย พวกเขารอโดยคิดว่าแม่จะทักทายพวกเขาที่บ้านและพ่อจะกลับมาตอนเย็นหลังเลิกงาน แต่สิ่งเหล่านั้นไม่เคยเกิดขึ้นอีกเลย ตอนนั้นทำให้พวกเขาเสียใจและหนักใจอย่างมาก และสิ่งเดียวที่นำพวกเขากลับมาสู่ความเป็นจริงก็คือการต้องจ่ายบิล พวกเขาต้องการเงินเพื่อซื้อน้ำมัน น้ำ ค่าเช่าบ้าน อาหาร และเสื้อผ้า
น้องชายของจีชอคพูดว่า “พี่ หยุดสิ่งที่พี่กำลังทำอยู่นะ ทุนการศึกษาของผมสามารถช่วยชำระหนี้เงินกู้ได้ ตกลงไหม?”
“แกรู้ไหมว่าการตั้งสำนักงานกฎหมายในกรุงโซลมีราคาแพงแค่ไหน!” จีชอคหันกลับมา
“ใครสนใจเรื่องนี้? สิ่งสำคัญสำหรับฉันคือต้องแน่ใจว่าพี่ชายของฉันจะต้องปลอดภัย”
ด้วยสีหน้าอ้อนวอนของน้องชายของเขาดูเหมือนหมาโกลเด้นรีทรีฟเวอร์ตัวใหญ่ผู้ไร้เดียงสาและมีหูกระพือขนาดใหญ่ จีชอคตบหลังน้องชายของเขา
“แกไร้เดียงสามากนะน้องชาย”
“พี่รู้ไหมว่าพี่เป็นคนเดียวที่ผมเหลืออยู่นะ” น้องชายของเขาตอบกลับ
“แกเป็นคนดีเกินไป” จีชอคกล่าว
น้องชายของเขาเช็ดน้ำตา แต่ดวงตาของเขาดูกังวลว่าจีชอคจะทิ้งเขาและวิ่งหนีไป จีชอคจำเป็นต้องเปลี่ยนหัวข้อ
"ฉันหิวแล้ว!" เขาพูดอย่างกะทันหัน
"อะไร? พี่หิวเหรอ?”
น้องชายของเขาเป็นคนประเภทที่ทนเห็นจีชอคพี่ชายของเขาหิวไม่ได้
'ใช่แล้ว เขาเป็นคือคนที่ไร้เดียงสาและใจง่ายที่ฉันรู้จัก'
“ฉันหิวจะตายอยู่แล้ว! ฉันไม่ได้กินอะไรเลยตั้งแต่เมื่อวานแล้วเนี่ย”
“อืม…เอ่อ..ถูกต้อง แต่…”
“เราจะคุยกันเรื่องนี้ในขณะที่เรากำลังกินข้าวไปด้วยไม่ได้เหรอ?
“พี่… แล้วพี่ได้รับบาดเจ็บตรงไหนหรือเปล่า?”
“การกินจะช่วยให้ฉันฟื้นตัวเร็วขึ้น!”
น้องชายของจีชอคขมวดคิ้วอันหล่อเหลา
'ว้าว ฉันทำให้เขาเสียสมาธิได้แล้ว?!' จีชอคหัวเราะในใจ
“เอาล่ะ ฉันจะทำอาหารทุกอย่างที่พี่ชอบ! พี่ต้องการกินอะไร?”
“สตูว์ของเนื้อ เอ่อ… มันฝรั่งผัด และ…” จีชอคเริ่มรายการอาหารที่เขาอยาก
“ผมจะทำอาหารที่ดีที่สุดที่พี่เคยกินมาเลยล่ะ รอสักครู่นะ”
น้องชายของเขาดูมุ่งมั่นขณะที่เขาเดินเข้าไปในครัวและสวมผ้ากันเปื้อน
ใช่ เขาเป็นน้องชายที่ใจดีจริงๆ
* * *
'ทักษะการทำอาหารของผู้ชายคนนี้พัฒนาขึ้นมาก'
จีชอคพอใจกับอาหารและท้องของเขาก็อิ่มแล้ว
“แกจะต้องเป็นผู้ชนะมาสเตอร์เชฟแน่ เพราะแกทำสตูว์เนื้อได้อร่อยแบบนี้ได้อย่างไรโดยมีเพียงผักและไส้กรอกเวียนนาเป็นส่วนผสม”
“ไม่เป็นไร นั่งลงแล้วคุยกันต่อไป ผมจะหั่นแอปเปิ้ลให้พี่ ช่วงนี้ทำไมพี่ผอมจังล่ะ?”
“ทุกครั้งที่ฉันเจอแก แกมักจะบอกฉันว่าผอม เดี๋ยวคนอื่นคงคิดว่าฉันผอมกว่าไม้จิ้มฟันจริงๆหรอก” จีชอกกลอกตา
“ไม่ใช่อย่างนั้นหรอก แต่พี่ต้องเพิ่มน้ำหนักสักหน่อยนะ”
จีชอคมีรูปร่างสมส่วน กล้ามเนื้อไหล่พัฒนาขึ้นจากการทำงานหนักที่เขาต้องทำเพื่องานของเขา น้องชายของเขาแค่พูดประชดที่จะเรียกเขาว่าผอมบ้าง กำลังจะตายจากความอดอยากบ้าง น้ำหนักตัวน้อยบ้าง และอะไรทำนองนั้น แต่จากนั้นเขาก็พยายามเตรียมอาหารจำนวนมหาศาลให้เขา ด้วยเหตุนี้เขาจึงตั้งชื่อเล่นให้น้องชายตัวเองว่า “มารดา”
[คุณได้รับ 1 ไลค์!]
[คุณได้รับ 1 ไลค์!]
นับตั้งแต่ที่เขาอัปโหลดวิดีโอบนก็อตทูบยอดไลค์และยอดวิววิดีโอของเขายังคงเพิ่มขึ้นแบบเรียลไทม์
ในขณะที่จีชอคกำลังแย่งน้องชายของเขาเพื่อหยิบแอปเปิ้ลที่หั่นเป็นชิ้นๆ ก็เกิดความโกลาหลจากด้านล่าง
“ข้างล่างนั่นค่อนข้างจะมีเสียงดังนะ”
“อย่ากังวลไปเลย” จีชอคปัดความกังวลของเขาออกไป จู่ๆ โทรศัพท์ของเขาก็ดังขึ้น และในขณะที่เขากำลังจะหยิบมันขึ้นมา โทรศัพท์ของน้องชายของเขาก็ดังขึ้นเช่นกัน
“พี่ ดูข้างนอกสิ” น้องชายของเขาพูดด้วยสีหน้าจริงจัง
ผู้คนและสื่อต่างๆ รวมตัวกันที่หน้าอาคาร ยามหอพักพยายามปิดกั้นไม่ให้พวกเขาเข้าไปข้างใน แต่คนกลุ่มนั้นก็ยังคงใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ
“พี่ มีหัวหน้าฮันเตอร์ในฝูงชนจากกิลด์ชื่อดัง โอ้พระเจ้า…”
มีคนเคาะประตู
“ฉันเป็นพนักงานต้อนรับ! ได้โปรดทำอะไรบางอย่างกับผู้คนข้างนอกด้วย” เขาตะโกนอย่างสิ้นหวัง
“นี่มันอะไรกัน…?” จีชอคพึมพำ น้องชายของเขาวางแอปเปิ้ลที่เขาหั่นอยู่ลงไป
“พี่ไม่จำเป็นต้องออกไปข้างนอกถ้าพี่ไม่ต้องการ ฮยอง” คิ้วของเขาขมวดอีกครั้ง
“เยนโน ฉันเป็นพี่ใหญ่ของแกนะ” จีชอคให้ความมั่นใจกับเขา
“ครับ ฉันรู้ แต่..”
“มันจะไม่เป็นไร”
'ว้าว หัวใจของฉันรู้สึกเหมือนจะระเบิด'
จีชอคเป็นคนธรรมดาที่มักจะกังวลเมื่อต้องนำเสนอในชั้นเรียน ไม่มีทางที่เขาจะสบายใจกับจำนวนคนและกล้องที่รอเขาอยู่ มือของเขาชื้นอยู่แล้ว เขายังรู้ด้วยว่าถ้าเขากังวลขนาดนี้ น้องชายของเขาคงจะเหงื่อแตกพลักเป็นแน่
เขาพยายามทำเหมือนไม่มีอะไร จากนั้นจีชอคตบไหล่น้องชายของเขา
“แกกังวลกับเรื่องนี้เหรอ? แล้วใครจะอยากให้แกเป็นทนายความให้ล่ะ”
“พี่…”
"หยุดกังวล"
น้องชายของเขาครุ่นคิดอยู่นาน ขณะที่จีชอคเอานิ้วลูบผมของเขาเอง
“เอาล่ะ ทุกอย่างจะเรียบร้อยดี พี่จะจัดการเรื่องนี้ได้อย่างแน่นอน และพี่เป็นพี่ชายที่หน้าตาดี พี่จำไม่ได้เหรอว่าตอนเด็กมีคนบอกว่าพี่จะโตมาเป็นนายแบบหรือดาราดังอย่างแน่นอน”
“แกทำเหมือนแม่ทำตอนที่เธอยังมีชีวิตอยู่จริงๆ” จีชอคกลอกตาของเขา
“พี่หน้าตาดีมาก เสียดายที่ไม่ได้ทำอะไรกับหน้าเลย” พี่ชายของเขายิ้ม
จีชอคพยายามยืดผมด้วยมือและสวมเสื้อผ้าที่ดูเรียบร้อย
“นี่ เอาไปเถอะ.. พี่ไม่เคยใช้เงินกับเสื้อผ้าของพี่เลย” น้องชายของเขาถอดแจ็กเก็ตที่เขาใส่ออกแล้วมอบให้จีชอค มันดูดีมากเมื่อเขาใส่มันตามที่น้องชายของเขาแนะนำ
“โอ้โห แค่จัดเสื้อผ้าก็ทำให้พี่ดูเหมือนคนดังเลย” น้องชายของเขาชม และจีชอคก็คิดว่าแม่ของเขาจะแสดงความคิดเห็นแบบเดียวกันอย่างไร
สถานการณ์นี้เหมือนกับในละครที่จีชอคเคยดู และตอนนี้ก็ถึงเวลาที่เขาจะต้องแสดงบทบาทของตัวเองแล้ว