ตอนที่แล้วบทที่ 118 กระดูกหัก
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปบทที่ 120 กรีนก็อบลิน

บทที่ 119 จิ่วโยวปรากฏตัว


ติดตามเป็นกำลังใจให้ผู้แปลได้ที่แฟนเพจ:BamแปลNiyay

บทที่ 119 จิ่วโยวปรากฏตัว

"มันเกิดอะไรขึ้นกัน?"

ในห้องผู้ป่วยหนักของโรงพยาบาล

เจสซิก้าได้พบกับสมาชิกดีเฟนเดอร์สอีกครั้งหลังจากห่างหายหน้าไปนาน ทว่าใบหน้าของทุกคนกลับดูเคร่งเครียดอย่างเห็นได้ชัด

“แดนนี่ถูกทำร้ายและได้รับบาดเจ็บสาหัส” ลุคตอบขณะที่เขามองไปยังไอรอนฟิสต์ที่หมดสติในสภาพที่ร่างกายเต็มไปด้วยผ้าพันแผล

“เรายังไม่รู้ว่าใครเป็นคนทำ” แมตต์พูดขึ้น แม้ว่าเขาจะมองไม่เห็นแดนนี่ แต่เขาก็ยังได้ยินเสียงหัวใจที่กำลังเต้นแผ่วเบาของอีกฝ่ายบนเตียงในโรงพยาบาล

"มันเกิดขึ้นได้ยังไง?"

เมื่อเห็นสภาพที่น่าสังเวชของแดนนี่ เจสซิก้าก็ได้แต่ขมวดคิ้ว “ไม่ใช่ว่าเขามีพลังกังฟูที่มาจากคุนหลุนหรืออะไรนั้นเหรอ? ถ้าอย่างนั้นเขาได้รับบาดเจ็บสาหัสขนาดนี้ได้ยังไง?” เมื่อผ่านการต่อสู้ด้วยกันมา เธอก็รู้ถึงความสามารถของแดนนี่เป็นอย่างดี หากไม่พบกับคู่ต่อสู้ในระดับเทพเมฆาอัคคี เขาก็คงจะไม่พ่ายแพ้อย่างง่ายดายหรอก แต่ถึงเขาจะพ่ายแพ้ สภาพของเขาก็คงไม่น่าสังเวชถึงเพียงนี้

“แขนทั้งสองข้างของเขาหัก” เมื่อมองไปที่แขนของแดนนี่ที่ห่อหุ้มด้วยเฝือก ลุคก็ตอบด้วยเสียงต่ำ "ดูเหมือนว่าพลังไอรอนฟิสต์ของเขาจะไม่สามารถต้านทานการโจมตีของฝ่ายตรงข้ามได้เลย"

"..."

คำพูดของลุคทำให้คนทั้งสามรอบเตียงของโรงพยาบาลเงียบลง

“ใครที่ไหนบนโลกจะทำแบบนั้นได้?”

หลังจากเงียบไปครู่หนึ่ง เจสซิก้าก็พูดขึ้นมา

พูดตามตรง เธอไม่ได้เข้าไปยุ่งเกี่ยวกับย่านเฮลคิทเช่นเลยนับตั้งแต่การต่อสู้ในย่านไชน่าทาวน์ เธอไปทำงานเป็นนักสืบเอกชนและไม่สนใจเรื่องพวกนี้แล้ว ทว่าสิ่งที่เกิดขึ้นกับแดนนี่ทำให้เกิดแรงกระเพื่อมในชีวิตปกติของเธอ

ความมีเหตุมีผลของเจสซิก้ามันบอกว่าอย่าไปยุ่งกับเรื่องนี้ แต่เธอก็ไม่อาจทำเป็นเมินเฉยต่อสิ่งที่เกิดขึ้นกับแดนนี่ได้

"จิ่วโยว"

ในยามนั้นเอง เสียงที่คุ้นเคยก็ได้ดังขึ้นมา

“คุณมาแล้วสินะครับ อาจารย์ยิป”

แมตต์จำเจ้าของเสียงนั้นได้โดยไม่ต้องหันกลับไปมอง ในเวลาเดียวกัน เขาก็สัมผัสได้ถึงฝีเท้าอีกเสียงตามหลังยิปมัน

ยิปมันสวมชุดลำลองปรากฏตัวในห้องผู้ป่วยหนักและมองไปที่แดนนี่ที่นอนอยู่บนเตียงในโรงพยาบาล

แม้ว่าสภาพของไอรอนฟิสต์จะดูแย่มาก แต่ไรอันก็รั้งมือไว้บ้างแล้ว ไม่อย่างนั้นด้วยพลัง [คงกระพัน] ของเขา เขาคงสามารถสังหารแดนนี่ทิ้งไปได้เลย

“อาจารย์ยิป จิ่วโยวคืออะไรเหรอ?”

ลุคขมวดคิ้วพร้อมพูดทวนซ้ำชื่อที่ยิปมันพูดถึงอย่างเงียบๆ ก่อนจะถามออกมา

“ชายลึกลับที่เทพเมฆาอัคคีกล่าวถึงก่อนที่เขาจะตาย คนผู้นั้นคงเป็นบุคคลในตำนานจากจิ่วโยว และเป็นคนเดียวกับที่ทำร้ายแดนนี่”

ยิปมันละสายตาจากแดนนี่อย่างเงียบๆ และหันไปมองดีเฟนเดอร์สที่อยู่ตรงหน้าเขา จากนั้นเขาก็กวาดตามองนาตาชาและพูดด้วยน้ำเสียงทุ้มต่ำ

...

"จิ่วโยวปรากฏตัวแล้วงั้นเหรอ?"

สีหน้าของนิค ฟิวรี่ยังคงไม่เปลี่ยนแปลงเมื่อเขาได้ยินรายงานจากนาตาชาที่สำนักงานใหญ่ขององค์กรชีลด์ ณ ตึกทริสเคไลออน

"ใช่ค่ะ" ในโรงพยาบาล นาตาชาชำเลืองมองแมตต์และคนอื่นๆ ที่อยู่ไม่ไกลและตอบด้วยน้ำเสียงแผ่วเบา "มีคนถูกจิ่วโยวโจมตีแล้ว จากบทสนทนาของพวกเขา คนที่ถูกโจมตีมีความแข็งแกร่งเหนือมนุษย์ แต่ก็ยังไม่สามารถป้องกันตัวเองได้ นอกจากนี้ยิปมันยังยืนยันว่าผู้โจมตีน่าจะเป็นหนึ่งในคนของจิ่วโยว"

“ตามหาจิ่วโยวต่อไป หากเป็นเรื่องจริง แสดงว่าจิ่วโยวก็เป็นกลุ่มกองกำลังที่เป็นอันตราย”

หลังจากออกคำสั่ง ฟิวรี่ก็นึกถึงอาจารย์โรชิที่ก่อความวุ่นวายครั้งใหญ่ในนิวยอร์กก่อนหน้านี้และถามว่า "พบร่องรอยของโรชิบ้างไหม?"

"..."

นาตาชาเงียบไปครู่หนึ่ง ก่อนที่เธอจะส่ายศีรษะและตอบว่า "ไม่ค่ะ เราตามเบาะแสที่ยิปมันให้ไว้ แต่เราไม่พบอะไรเลย"

“งั้นลดระดับการค้นหาเขาลงและสืบเรื่องจิ่วโยวอย่างเดียวเถอะ” ฟิวรี่รู้ว่าโอกาสที่จะหาเบาะแสที่อยู่ของอาจารย์โรชิในต่างประเทศนั้นมีไม่มากนัก

ดังนั้นหลังจากคิดอยู่พักหนึ่ง เขาก็ตัดสินใจที่จะมุ่งเน้นการสืบไปยังจิ่วโยว

“อาจารย์ยิป คือว่า...”

เมื่อหันศีรษะไปด้านข้างและสังเกตเห็นการเคลื่อนไหวของนาตาชา แมตต์ก็ขมวดคิ้วให้กับยิปมันพร้อมกับพยายามจะเตือนเขา

"เธอมาจากองค์กรชีลด์ ตอนนี้เรามีเป้าหมายร่วมกันแล้ว"

ยิปมันส่ายศีรษะเบาๆ เหลือบมองนาตาชาที่อยู่ข้างหลังเขาและอธิบายสั้นๆ

...

เมื่อจบการโทรกับนาตาชาแล้ว ฟิวรี่ก็เงียบไปครู่หนึ่ง

ก่อนที่ผู้อำนวยการขององค์กรชีลด์จะสามารถรวบรวมสติของเขากลับมาได้ ข้อความหนึ่งก็ถูกส่งต่อเข้ามายังหูของเขาอีกครั้ง

"ผู้อำนวยการ กัปตันตื่นแล้ว"

เมื่อได้ยินรายงานผ่านหูฟังของเขา สีหน้าของฟิวรี่ก็พลันเปลี่ยนไป จากนั้นเขาก็สั่งทันทีว่า "เตรียมตัวให้พร้อม เราจะต้องไปหากัปตัน"

“...ลูกบอลโค้งสูงไป แฉลบออก เสียบอลหนึ่ง ทำให้ด็อจเจอร์ยังเสมออยู่ ที่สี่ต่อสี่ แต่รู้กันดีว่าลองได้จับไม้เมื่อไหร่เขาพลิกเกมได้เลย วันนี้ท้องฟ้าเหนือสนามเอ็บเบ็ทส์ใสสุดๆ ฟิลลี่ส์ตีเสมอขึ้นมาที่สี่ต่อสี่ แต่ด็อจเจอร์เหลือที่เบสอีกสามคน...”

เรดสกัล ไฮดร้า ก้อนรูบิค การต่อสู้ครั้งสุดท้าย..

ทันใดนั้นกัปตันอเมริกา -- สตีฟ โรเจอร์สก็ค่อยๆ ลืมตาขึ้นและตื่นจากฝันร้ายอันยาวนาน เขาพบว่าตัวเองกำลังอยู่บนเตียงในห้องที่มีการตกแต่งที่เรียบง่าย ดวงอาทิตย์ส่องผ่านหน้าต่าง ทำให้ดวงตาของสตีฟระคายเคืองเล็กน้อย มีพัดลมไฟฟ้าหมุนช้าๆ เหนือเพดานและวิทยุโบราณที่กำลังประกาศสดสถานการณ์เกม

"...เพียร์สันเคยขว้างลูกแสกหน้าไรเซอร์ ไม่รู้จะมีการเอาคืนหรือเปล่า? พีทโน้มตัว ขว้างแล้ว ตีโดนครับ ลูกพุ่งขวา ผ่านริซโซ่ไปแล้วครับ ต้องเก็บสามด่าน ไรเซอร์ไปเบสสาม เดโรชเชอร์เรียกเข้าโฮม..."

เมื่อได้ยินเสียงวิทยุที่ดังเล็กน้อย สตีฟก็ค่อยๆ ลุกขึ้นจากเตียงและขยับร่างกายที่แข็งทื่อไปนั่งยังขอบเตียง การถ่ายทอดสดของเกมทำให้เขารู้สึกสงสัย ความทรงจำที่เลือนลางในหัวของเขาก็เริ่มกลับมา ขณะที่เขากำลังคิดอยู่นั้นเอง ประตูก็ถูกเปิดออกและทหารหญิงคนหนึ่งก็เดินเข้ามาพร้อมกับรอยยิ้ม

“อรุณสวัสดิ์ค่ะ” ทหารหญิงยิ้มและสวัสดีสตีฟ เธอปิดประตูและมองไปที่นาฬิกาของเธอ "หรือคงต้องสวัสดีตอนบ่ายสิ?"

"ผมอยู่ที่ไหน?" สตีฟถามด้วยความหวาดระแวง

"ห้องพักฟื้นในนิวยอร์กค่ะ" ทหารหญิงตอบ

“...ด็อดเจอร์นำขึ้นไปเป็น 8 ต่อ 4 โอ้โฮ ด็อดเจอร์! ในสนามนั่งกันไม่ติดเลย...”

วิทยุยังคงพูดถึงสถานการณ์ของการแข่งขัน สตีฟมองไปที่วิทยุเพื่อยืนยันความสงสัยของเขาแล้วมองไปยังทหารหญิงที่เขาไม่รู้จัก

“ผมอยู่ไหน ถามจริง?” สตีฟถามออกมาอย่างจริงจัง

"ไม่เข้าใจที่คุณถามนะคะ" ทหารหญิงพูดอ้อมๆ

"เกมนัดนี้ มันตั้งแต่พฤษภาคม 1941 ผมรู้เพราะผมไปดูอยู่ที่นั่น" สตีฟมองไปที่ทหารหญิงที่ใบหน้าเปลี่ยนสี

สตีฟลุกขึ้นยืนและมองไปยังทหารหญิงและพูดว่า "ตอนนี้ผมจะถามอีกครั้ง ผมอยู่ที่ไหน?"

“กัปตันโรเจอร์...” หญิงสาวพูดด้วยน้ำเสียงแผ่วเบา แอบกดสัญญาณเตือนที่ซ่อนอยู่ในมือของเธอ

“คุณเป็นใคร?” สตีฟเดินไปหาทหารหญิงและถามด้วยน้ำเสียงกระแทก

ทันใดนั้น ประตูก็ถูกเปิดออกและเจ้าหน้าที่สองคนในเครื่องแบบสีดำก็เดินเข้ามา สตีฟก้าวถอยหลังเพื่อป้องกันตัว

ปัง!

ร่างของเจ้าหน้าที่สองคนกระแทกออกมานอกกำแพงและพังกำแพงปลอมของห้องลง พวกเขาถูกสตีฟเตะออกไปจนทำให้เขาได้โอกาสหลบหนี เขาพบว่าห้องและทุกอย่างในนั้นล้วนเป็นของปลอมที่สร้างขึ้นมา ทุกอย่างอยู่ใต้อาคารใหญ่แห่งหนึ่ง สีหน้าของสตีฟเริ่มรู้สึกไม่สบายใจมากขึ้นเมื่อเขามองไปรอบๆ

“กัปตันโรเจอร์ เดี๋ยวก่อน!” ทหารหญิงรีบออกมา

สตีฟผลักประตูหนีไฟออกไปและวิ่งมาข้างนอก

“แจ้งทุกคน รหัสสิบสาม! ขอย้ำเจ้าหน้าที่ทุกคน รหัสสิบสาม!” เมื่อดึงวิทยุสื่อสารของเธอออกมา ทหารหญิงก็รายงานสถานการณ์ผ่านทางวิทยุอย่างรวดเร็ว

ทันทีที่สตีฟรีบวิ่งออกไป เขาก็เห็นเจ้าหน้าที่จำนวนหนึ่งในชุดสูทสีดำวิ่งเข้ามาหาเขา มือข้างหนึ่งของเขาผลักเจ้าหน้าที่ออกไป สตีฟวิ่งออกจากอาคารอย่างเร่งรีบ

ไม่นานนัก สตีฟก็วิ่งออกมายังห้องโถง ผู้คนกำลังเดินไปมา เสียงรถนั้นดังมาก สตีฟมองไปรอบๆ ตัวเขาด้วยความประหลาดใจกับภาพที่เห็น เขาออกจากตึกประหลาด ไม่รู้ว่าจะวิ่งไปในทิศทางไหน ไม่รู้ว่าเขาจะวิ่งทำไม แต่เขารู้สึกว่าต้องวิ่ง

ณ ไทม์สแควร์ นิวยอร์ก

ไม่ไกลนัก สตีฟยืนอยู่กลางไทม์สแควร์ เขารู้สึกประหลาดใจกับสิ่งที่ไม่เคยเห็นมาก่อน ผู้คนและรถแตกต่างจากยุคที่เขาอาศัยอยู่มาก

ทันใดนั้น รถสีดำก็เข้ามาล้อมสตีฟไว้และดึงดูดความสนใจของผู้คนที่เดินผ่านไปมา

“ตามสบาย ทหาร!” นิคฟิวรี่ที่ซึ่งออกมาจากอาคารทริสเคไลออนก็ลงจากรถและเรียกสตีฟ

เจ้าหน้าที่องค์กรชีลด์ในยานพาหนะคันอื่นๆ ก็รีบออกจากยานพาหนะของพวกเขาและล้อมรอบสตีฟเป็นสามชั้น ส่วนใหญ่ก็เพื่อป้องกันไม่ให้คนที่เดินผ่านไปมามุงดูกัน

“ต้องขอโทษด้วยที่เราจัดฉากแบบนั้นเอาไว้ แต่...” ฟิวรี่จ้องไปที่ทหารที่กำลังสับสนอยู่ตรงหน้าเขาด้วยสีหน้าขอโทษอย่างจริงใจ “คิดว่าคงดีกว่าที่จะให้คุณรู้ไปทีละน้อยๆ”

"รู้อะไร?" เมื่อพยายามสงบสติอารมณ์ สตีฟก็มองไปที่ทุกสิ่งที่อยู่ในสายตา เขาได้แต่ถามออกมาอย่างกังวล

“คุณหลับไปนานกัปตัน เกือบ 70 ปี” ผู้อำนวยการองค์กรชีลด์มองไปที่สตีฟและค่อยๆ ตอบเขา

เมื่อได้ยินคำพูดนี้ ใบหน้าของสตีฟก็แข็งค้างไป คำตอบนี้อยู่เหนือความคาดหมายของเขามาก จนดวงตาของเขาเต็มไปด้วยอารมณ์มากมาย อารมณ์มันผสมมั่วกันไปหมด จนเขาไม่รู้ว่าควรแสดงออกมาเช่นไรดี

“คุณรับได้นะ?” ฟิวรี่มองไปที่สตีฟและถามด้วยความเป็นห่วง

“ได้ ได้อยู่ แค่..”

สตีฟไม่รู้ว่าจะพูดอะไรไปสักพักหนึ่ง เขาขมวดคิ้วแน่นและมองไปยังท้องฟ้าที่ห่างไกล

ติดตามเป็นกำลังใจให้ผู้แปลได้ที่แฟนเพจ:BamแปลNiyay

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด