Chapter 11: แขกที่ไม่ได้รับเชิญ!
วัลยืนอยู่ท่ามกลางซากศพที่เกิดจากฝีมือของเขา เขาถูกห้อมล้อมด้วยเศษอวัยวะที่เหลืออยู่ของผีดิบเลเวล 0 ธารน้ำสีแดงไหลออกมาจากชิ้นส่วนอวัยวะที่ขาดวิ่นพวกมันไหลรวมกันเกิดเป็นแอ่งน้ำสีแดงฉาน
เลือดของพวกมันนั้นทำให้เขาสงสัยเกี่ยวกับการดูดกลืนโดยใช้ทักษะสายเลือดที่หนึ่งของเขา ถึงอย่างไรมันก็เป็นเลือดติดเชื้อ เขาไม่รู้ว่าถ้าดูดกลืนเลือดของผีดิบเข้าไปแล้วมันจะแปลงสภาพเขาให้เป็นพวกมันรึเปล่า
มันมีโอกาสเกิดขึ้นได้อยู่
ดังนั้นเขาจึงไม่กล้าทดลอง
ความเสี่ยงในการดูดเลือดติดเชื้อของผีดิบนั้นได้ยับยั้งเขาจากการดูดเลือดที่น่ารังเกียจของพวกมันได้ ภัยคุกคามที่เป็นไปได้จากการติดเชื้อหรือผลลัพธ์ที่เลวร้ายยิ่งกว่าอย่างการแปลงสภาพเป็นสิ่งมีชีวิตอันเดดอันน่าสะพรึงนั้น ได้หยุดยั้งเขาจากการทดสอบว่าเขาจะสามารถดูดกลืนเลือดผีดิบโดยไม่มีผลข้างเคียงได้หรือไม่
กลิ่นเลือดเน่าเหม็นของผีดิบลอยฟุ้งในอากาศ และแผ่ซ่านไปทั่วบริเวณของพื้นที่ลำคอปีศาจ
ซึ่งกลิ่นนี้ก็ได้ล่อลวงสัตว์ร้ายที่อาศัยอยู่ในป่าราตรีนิรันดร์—กระต่ายมีเขา
กลิ่นเลือดอันหอมหวนได้ลอยมาเตะจมูกที่อ่อนไหวของพวกมัน กระต่ายมีเขามาถึงแล้ว พวกมันถูกดึงดูดมาจากส่วนลึกของโพรงอันดำมืดของพวกมัน ขนลายพร้อยของพวกมันมีตั้งแต่สีน้ำตาลเข้มไปจนถึงสีเทาหม่นบ่งบอกถึงการเป็นนักล่ายามค่ำคืนในขณะที่เขาของพวกมันนั้นเปล่งแสงชั่วร้ายในความมืดมิด มันคือสัญญาณถึงลางร้ายที่แสดงถึงความรุนแรงที่พวกมันสามารถทำได้
*กรี๊ซซ!* *กรี๊ซซ!*
ด้วยการยืนสุดตัวสูงประมาณหนึ่งเมตร, เสียงคำรามที่น่าหวาดหวั่นที่เปล่งออกมาแต่ละครั้ง, และเขี้ยวอันแหลมคนที่แยกออกมาล้วนเป็นการแสดงถึงความน่ากลัว
กระต่ายมีเขาเป็นสัตว์ร้ายที่มีฝีมือสูสีกับผู้ใช้สายเลือดเลเวล 1 ซึ่งก็ไม่มีทางเลยที่ผู้ใช้สายเลือดเลเวล 1 จะกล้าเผชิญหน้ากับกลุ่มกระต่ายมีเขาพร้อมกัน จะมีก็แค่กลุ่มนักรบ, นักบวช, และนักเวทที่วางสมดุลกันอย่างดี และแต่ละคนก็ฝึกฝนจนเชี่ยวชาญพลังสายเลือดเฉพาะของแต่ละคนถึงจะสามารถต่อกรกับกลุ่มสัตว์ร้ายที่น่าเกรงขามนี้ได้
สำหรับผู้ใช้สายเลือดเลเวล 1 แค่มีความคิดห่ามๆ อย่างการเผชิญหน้ากับกลุ่มกระต่ายมีเขาด้วยตัวคนเดียวนั้นก็ถือว่าเป็นเรื่องที่น่าขบขันแล้ว เจ้าสิ่งมีชีวิตชั่วร้ายเหล่านี้สามารถจัดการผู้ใช้สายเลือดมือใหม่ได้อย่างง่ายดาย!
ระดับพลังของพวกมันจะกระจายอยู่ระหว่างเลเวล 2 ถึง 5 โดยเลเวล 5 คือขีดจำกัดสูงสุดของพวกมัน พวกมันไม่สามารถก้าวหน้าไปกว่านี้ได้เว้นเสียแต่ว่าสายเลือดของพวกมันจะได้รับการชำระล้าง แต่ว่าการชำระล้างสายเลือดของสัตว์ร้ายนั้นไม่ใช่ความสำเร็จที่ได้มาง่ายๆ มันจำเป็นต้องใช้สมบัติที่หายากมากๆ ซึ่งแทบจะเป็นไปไม่ได้เลยที่จะมาเจอในป่าราตรีนิรันดร์
อย่างไรก็ตาม ในตอนที่วัลมองเห็นพวกมัน เขาพึงพอใจอย่างมาก รอยยิ้มสามารถมองเห็นได้ที่ริมฝีปากของเขา
“ช่างเป็นสถานการณ์ที่น่ายินดีจริงๆ! จู่ๆ เทศกาลเก็บเกี่ยวค่าประสบการณ์ก็เข้ามาหาเองถึงที่เลยสินะ”
เขาถูกห้อมล้อมด้วยเศษซากของเหยื่อที่เขาพึ่งจัดการ และเลือดของพวกมันก็จะเป็นอุปกรณ์ที่เขาสามารถใช้ควบคุมได้
กระต่ายมีเขาไม่ได้รู้ถึงหายนะที่กำลังจะมาถึงเลย พวกมันพุ่งเข้าใส่วัลอย่างเต็มที่ ความหิวกระหายต่อเนื้อมนุษย์สดๆ ทำให้การตัดสินใจของพวกมันมืดบอด และละทิ้งความระมัดระวังทั้งหมดไปกับสายลม
วัลยังคงจดจ่ออยู่กับการคำนวณ เขาปล่อยให้พวกมันหลงเข้ามาในกับดักที่เขาวางเอาไว้อย่างดีซึ่งอยู่ในกลุ่มซากผีดิบเลเวล 0 ที่เขาจัดการได้
“บงการเลือด!” ก่อนที่กระต่ายมีเขาจะทันกะพริบตา คำสั่งควบคุมเลือดของวัลก็ทำงาน กิ่งก้านเลือดหนาพวยพุ่งมาจากกองซากศพ และจับกระต่ายที่พุ่งเข้ามาทำให้เกิดความโกลาหลขึ้นในทันที
เมื่อได้โอกาสที่เหมาะสม วัลก็พุ่งเข้าหาเจ้ากระต่ายที่ติดกับดักกิ่งก้านเลือดสีแดงฉานที่อยู่ใกล้ที่สุดโดยไม่ลังเล ดาบของเขาเหมือนกับสายฟ้าแลบสีเงินที่ทะลวงเจ้าสิ่งมีชีวิตชั่วร้ายด้วยความแม่นยำและฉับไว ในการเคลื่อนไหวที่คล่องแคล่วนี้ เขาดึงอาวุธของเขาออกมาให้เป็นอิสระ และมอบความเจ็บปวดอันแสนขมขื่นซ้ำเข้าไปอีกเหมือนกับห่าฝน
ฉัวะ!
ด้วยความที่ไม่สามารถทนความเจ็บปวดได้ ชีวิตของเจ้ากระต่ายดับสูญไป สายตาของมันสะท้อนถึงภาพของผีดิบไร้ชีวิตที่กระจัดกระจายอยู่รอบๆ กิ่งก้านเลือดเส้นหนึ่งได้คลายออกทำให้ร่างไร้ชีวิตตกลงมาสู่ผืนป่า
[ติ้ง! ขอแสดงความยินดี! ท่านกำจัดกระต่ายมีเขาเลเวล 5 หนึ่งตัว ท่านได้รับค่าประสบการณ์ +3!]
กิ่งก้านเลือดไม่สามารถตรึงร่างพวกมันเอาไว้ได้ตลอดกาล เขาจำเป็นต้องฆ่าพวกมันก่อนที่พวกมันจะเป็นอิสระ มันคือการแข่งขันกับเวลาที่วัลตั้งใจจะเอาชนะเป็นอย่างมากเพราะเขาต้องการหลีกเลี่ยงการต่อสู้ที่มีปัญหาที่อาจจะต้องบังคับเขาให้ใช้แต้มสถานะอันมีค่า
ดังนั้น วัลจึงเปลี่ยนความสนใจไปยังกระต่ายตัวต่อไปที่ติดอยู่ในกับดักของเขาในทันที ดาบของเขาร่ายรำผ่านอากาศ ส่องประกายวาววับที่แฝงไปด้วยลางร้ายก่อนที่มันจะสัมผัสกับคอของเจ้าสิ่งมีชีวิต
ด้วยการตวัดดาบที่ไม่ธรรมดาและเรียบเนียน วัลได้ทำการตัดหัวของกระต่ายมีเขาหลุดออกจากร่างของมัน
[ติ้ง! ท่านกำจัดกระต่ายมีเขาเลเวล 3 หนึ่งตัว ท่านได้รับค่าประสบการณ์ +2!]
ในขณะเดียวกันนั้นเอง ด้วยกิ่งก้านเลือดที่ตรึงกระต่ายอีกสองตัวที่เหลือเอาไว้อย่างไร้ทางหนี ก่อนที่พวกมันจะสามารถหลุดพ้นจากเลือดอันชั่วร้ายนี้ได้ วัลก็มาถึงตัวพวกมันแล้ว ดาบของเขาสะท้อนแสงกับเขาของพวกมันอย่างน่าอันตราย เผยให้เห็นถึงจุดจบของพวกมันที่ไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้!
ฉึก! ฉัวะ!
วัลเผชิญหน้ากับเจ้ากระต่ายมีเขาสองตัวด้วยการโจมตีอย่างรุนแรง แสงวาบจากเหล็กสองเส้นได้ตัดผ่านอากาศอย่างรวดเร็วทะลุผ่านขนและเนื้อด้วยประสิทธิภาพที่น่าหวาดหวั่น เบื้องหลังของพลังที่แข็งแกร่งนี้ได้ก่อให้เกิดสีแดงฉานพวยพุ่งจนยอมสีของผืนป่าที่แดงอยู่แล้วให้เข้มขึ้นไปอีก
[ติ้ง! ท่านกำจัดกระต่ายมีเขาเลเวล 2 หนึ่งตัว และกำจัดกระต่ายมีเขาเลเวล 4 หนึ่งตัว ท่านได้รับค่าประสบการณ์ +4!]
ปีศาจมีเขาสามารถจัดการผู้ใช้สายเลือดเลเวล 1 ได้แล้วนี่วัลฆ่าพวกมันได้ง่ายขนาดนี้เลยหรือ? อย่างที่ว่า จุดแข็งที่สุดของกระต่ายมีเขาก็คือความคล่องแคล่วว่องไวของพวกมัน มันเป็นเพราะความเร็วที่สูงของพวกมันจึงทำให้เป็นเรื่องยากที่ผู้ใช้สายเลือดเลเวล 1 จะโจมตีพวกมันโดนหรือหลบการโจมตีของพวกมันได้ แต่วัลจับพวกมันโดยไม่ทันตั้งตัวและพันธนาการพวกมันเอาไว้ ทำให้สิ่งที่พวกมันภูมิใจนักภูมิใจหนากลายเป็นสิ่งที่เปล่าประโยชน์ นี่คือสาเหตุที่พวกมันดูเหมือนจะถูกฆ่าได้ง่ายๆ ทั้งที่ความเป็นจริงแล้วไม่ใช่เลย!
“ดูดเลือด” วัลยื่นมือออกไปยังซากกระต่าย นิ้วของเขาโค้งงอราวกับมีเชือกที่มองไม่เห็นผูกเอาไว้อยู่ ผิวหนังที่ขาวเนียนเป็นปกติของเขาเปล่งประกายด้วยแสงสีแดงน่ากลัวในขณะที่เลือดไหลทะลักออกมาจากศพกระต่ายเริ่มกระตุก จากนั้นพวกมันก็ผละตัวเองออกจากร่างไร้ชีวิตและตรงเข้ามาหามือของวัลที่ยื่นออกมา พวกมันซึมซับเข้าไปในผิวหนังของเขา
ด้วยเลือดแต่ละหยดที่เขาดูดมาจากร่างไร้ชีวิต ประกายที่เข้มข้นในดวงตาของเขาก็ยิ่งลึกล้ำยิ่งขึ้น
ดวงตาสีดำน้ำหมึกของเขาได้เปลี่ยนเป็นสีแดงฉาน!
พวกมันสะท้อนให้เห็นถึงการเต้นรำที่น่าขนลุกของการดูดเลือด เปลี่ยนสนามรบอันโหดร้ายให้เป็นงานเลี้ยงส่วนตัวของเขา
[แจ้งเตือนระบบ: ดูดเลือดสำเร็จ! ท่านได้ดูดซับแก่นเลือดของกระต่ายมีเขาเลเวล 2-5 จำนวน 4 ตัว ได้รับแถบเลือด +120 หน่วย]
หลังจากการดูดเลือดจบลง ดวงตาของเขาก็กลับมาเป็นสีปกติ และมือของเขาก็เช่นกัน
แถบเลือดของเขาลดลงไปเหลือ 85 แต้มหลังจากที่เขาใช้ความสามารถบงการเลือดในการจัดการกับกระต่ายมีเขา และตอนนี้ หลังจากที่เขาดูดเลือดของพวกมัน ก็ทำให้มีแถบเลือดมากกว่า 200 แต้ม มันคือสิ่งที่ยอดเยี่ยมในการได้เห็นมันเติบโต ด้วยแถบเลือดมากขนาดนี้ เขาสามารถใช้ทักษะสายเลือดของเขาด้วยความสบายใจยิ่งขึ้น
และก็เช่นเคย วัลละเว้นการดูดเลือดของผีดิบ เพราะมันเป็นที่รู้กันอย่างกว้างขวางในเรื่องของคุณสมบัติติดเชื้อ
หากมันกระเซ็นเข้าสู่ผิวหนัง ผลลัพธ์ต่างๆ นาๆ ก็จะตามมา
ขึ้นอยู่กับความแข็งแกร่งของระบบภูมิคุ้มกันแต่ละคน เหตุการณ์ที่ว่านี้สามารถนำไปสู่การเกิดผื่นคันที่ปวดแสบปวดร้อนหรือมีตุ่มพองประหลาดๆ ที่จะแตกออกเมื่อสัมผัส และหนองเหลืองที่กระจายออกมาจากข้างใน ก็เน่าเหม็นจนน่าสะอิดสะเอียน แต่สำหรับคนที่มีภูมิคุ้มกันแข็งแรง ผลข้างเคียงที่กล่าวข้างต้นนี้ก็อาจจะไม่เกิดขึ้นในตอนที่สัมผัสกับเลือดของผีดิบ
อย่างไรก็ตาม ถ้าสสารติดเชื้อนี้เผลอหลุดเข้าไปในปาก โอกาสที่จะกลายเป็นผีดิบก็สูงจนน่าหวั่นใจ
วัลมองหน้าต่างสถานะของเขา
ชื่อ: วัล วี ไวท์มอร์
เผ่าพันธุ์: ครึ่งมนุษย์ครึ่งปีศาจ
อายุ: 16 ปี
ประเภท: ปีศาจเลือด
เลเวล: 2 (ค่าประสบการณ์ 19/30)
สายเลือดที่ยังไม่ตื่น: สายเลือดไวท์มอร์
ภาวะแทรกซ้อน: พิษระงับสายเลือดไวท์มอร์
คุณสมบัติ: ไร้ความรู้สึก, ความบกพร่องทางอารมณ์, มองกลางคืน
สถานะ:
พลังชีวิต (HP): 10
พละกำลัง (STR): 10
ความว่องไว (AGT): 10
ความอดทน (STR) 10
การตอบสนอง (REF): 10
แถบเลือด: เลือด 205 หน่วย
แต้มความบ้าคลั่ง: 10 (100 MP=1 SP!)
ทักษะสายเลือด: 1. ทักษะดูดเลือด, 2. ทักษะบัญชาเลือด
‘ใกล้จะเลเวลขึ้นอีกแล้วสินะ’
การจัดการกับกลุ่มกระต่ายมีเขาได้มอบค่าประสบการณ์ให้เขาถึง 9 แต้มและเมื่อไปเติมเข้ากับค่าประสบการณ์ 10 ที่เขาหามาได้ก่อน นั่นทำให้เขามีทั้งหมด 19 แต้ม เขาเหลืออีกแค่ 11 แต้มก็จะเลเวลขึ้นแล้ว!
เขาตัดสินใจที่จะไปหาค่าประสบการณ์ที่เหลือด้วยการฟาร์มผีดิบที่อ่อนแอในหมู่บ้านชาโด้วฟอล!