ตอนที่ 119 การฝึกฝนของรีเบคก้า
หลังจากที่ได้เห็นการกระทำของหลี่ฟาน ไซรัสก็รู้สึกพูดไม่ออกเล็กน้อย
แม้ว่าเขาจะไม่รู้ว่ามีอะไรอยู่ในประตูนั้น แต่ไซรัสก็รู้สึกว่า การฝึกของยามาโตะจะต้องไม่ธรรมดาอย่างแน่นอน
“เอาล่ะ รีเบคก้า เธอต้องตั้งใจฝึกกับคุณหลี่ฟานให้มากๆนะ ตอนนี้ฉันมีเรื่องบางอย่างที่จะต้องไปทำ เพราะงั้นฉันคงต้องขอตัวก่อน”
“คุณหลี่ฟาน ฝากรีเบคก้าด้วยนะครับ”
“ถ้ามีอะไรที่เธอทำไม่ได้ดี ได้โปรดยกโทษให้กับเธอด้วย”
ทหารของเล่นไม่เพียงแต่ดูแลรีเบคก้ามาหลายปีเท่านั้น แต่เขายังทำงานหนักเพื่อรวบรวมผู้สนับสนุนของราชาริคุ และคอยติดตามดูแลการเคลื่อนไหวของตระกูลดองกิโฮเต้ และอื่นๆ มาโดยตลอด
และในตอนนี้ รีเบคก้าก็กำลังจะได้รับการฝึกฝนโดยหลี่ฟานแล้ว เขาจึงสามารถอุทิศตัวเองให้กับงานอื่นๆ และบอกข่าวดีให้กับทุกคน เกี่ยวกับเรื่องที่หลี่ฟานยอมรับรีเบคก้าเป็นลูกศิษย์ได้
เขาได้ตัดสินใจแล้วว่า ถ้ามันไม่ใช่เรื่องที่จำเป็นจริงๆ เขาจะไม่รบกวนการฝึกฝนของรีเบคก้าเด็ดขาด!
หลังจากที่ได้อธิบายเรื่องราวบางอย่างให้รีเบคก้าฟังแล้ว ทหารของเล่นก็เดินออกไปจากโรงฝึกด้วยขาข้างเดียว
“มาเถอะ รีเบคก้า เธอควรจะเริ่มต้นการฝึกฝนของเธอได้แล้ว มากับฉัน”
“ค่ะ อาจารย์หลี่ฟาน” รีเบคก้าพยักหน้า จากนั้นเธอก็เดินตามหลี่ฟานเข้าไปในห้องฝึกฝนแห่งกาลเวลา
เช่นเดียวกับลูกศิษย์คนอื่นๆ รีเบคก้าเองก็มีความตกตะลึงเช่นกัน เมื่อเธอได้เห็นฉากที่เปลี่ยนไปต่อหน้าต่อตาของเธอเป็นครั้งแรก
และดูเหมือนว่า เพราะเธอมีอายุน้อยที่สุด เธอจึงตกตะลึงนานกว่านามิและคนอื่นๆ มาก
เมื่อเห็นการตอบสนองของเธอ หลี่ฟานจึงไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากต้องอธิบายให้รีเบคก้าฟัง เกี่ยวกับห้องฝึกฝนแห่งกาลเวลาแห่งนี้
หลี่ฟานได้อธิบายให้เธอฟังสั้นๆว่า หลังจากที่เข้ามาฝึกฝนภายในห้องนี้เป็นเวลาสองปี ที่โลกภายนอกจะผ่านไปเพียงสองวินาทีเท่านั้น
และนั่นก็ทำให้รีเบคก้าเข้าใจได้ในทันทีว่า ทำไมนามิและวีวี่ถึงสามารถเอาชนะคร็อกโคไดล์ แชงค์ ผมแดง และคนอื่นๆ ได้
“ปรากฎว่าพี่สาววีวี่และพี่สาวนามิ ใช้เวลาฝึกฝนในห้องนี้นานมากๆ”
"อาจารย์หลี่ฟาน ถ้าคุณใช้เวลาสองปีที่นี่กับพวกเราทุกครั้ง อายุขัยของคุณก็หมดลงอย่างรวดเร็ว” รีเบคก้ามองหลี่ฟานอย่างกังวล
"ไม่ต้องกังวลหรอก" หลี่ฟานใช้มือลูบไปที่ผมสีชมพูของรีเบคก้าเบาๆ
“ฉันยังมีอายุขัย 100 ปีที่ฉันได้รับมาจากรายการทองคำครั้งก่อนๆ แล้วหลังจากนี้ก็ยังจะมีรางวัลของ [ ปรมาจารย์ดาบ ] ด้วย”
“หลังจากที่ฉันได้รับรางวัล [ ร่างกายอมตะ ] มา ฉันก็ไม่ต้องกังวลเกี่ยวกับความสูญเสียทางร่างกายอีกต่อไป”
หลังจากได้ยินคำพูดของหลี่ฟาน ดวงตาของรีเบคก้าก็เป็นประกาย และมองที่หลี่ฟานอย่างชื่นชม
“อาจารย์หลี่ฟาน คุณจะต่อสู้เพื่อชิงบัลลังก์ [ ปรมาจารย์ดาบ ] ใช่ไหม? อาจารย์มีความแข็งแกร่งมากถึงขนาดไหนกันคะ?”
การที่จะสามารถรับตำแหน่ง [ ปรมาจารย์ดาบ ] ได้นั้น คนๆนั้นจะต้องเอาชนะนักดาบอีกเก้าคนที่อยู่ในรายการให้ได้ทั้งหมด
และในหมู่คนที่มีรายชื่ออยู่ในรายการ ก็ไม่เพียงมีแต่นักดาบผู้ยิ่งใหญ่อย่างตาเหยี่ยว มิฮอว์คเท่านั้น แต่ยังมีนักดาบระดับแนวหน้าอย่างผมแดง แชงค์ ราชานรก เรย์ลี่ และนักดาบตาบอด อิซโช อีกด้วย
ถ้าอาจารย์หลี่ฟานของเธอ สามารถเอาชนะพวกเขาได้ทั้งหมดพร้อมกัน นี่มันหมายถึงอะไร? แม้ว่ารีเบคก้าจะยังเด็ก แต่เธอก็รู้ดี
แข็งแกร่งที่สุด! แข็งแกร่งมากๆอย่างไม่ต้องสงสัย!
หากอาจารย์ของเธอเป็นนักดาบที่แข็งแกร่งที่สุด รีเบคก้าก็จะมีความสุขมากๆ เพราะมันก็หมายความว่า เธอก็จะมีโอกาสมากขึ้นที่จะได้เรียนรู้ความแข็งแกร่งอันทรงพลังจากหลี่ฟาน
“เมื่อถึงตอนนั้น เธอจะรู้เอง” หลี่ฟานกล่าวขณะนำดาบ ‘เซ็มบงซากุระ’ ออกจากคลังสมบัติบาบิโลน
"สำหรับตอนนี้ ถึงเวลาที่จะเริ่มต้นการฝึกฝนของเธอแล้ว"
“รีเบคก้า เส้นทางการฝึกฝนของเธอพิเศษมาก”
“หลังจากนี้ ฉันจะมอบดาบเล่มนี้ให้กับเธอ และใส่มันลงไปที่จิตวิญญาณของเธอ”
“สิ่งที่เธอต้องทำก็คือ ยอมรับมันและทำให้มันกลายเป็นดาบของเธอ”
“เมื่อ ‘เซ็มบงซากุระ’ กลายเป็นดาบฟันวิญญาณของเธอ ร่างกายของเธอก็จะสามารถ สร้างแรงดันวิญญาณออกมาได้ตามธรรมชาติ”
“และหลังจากนั้น ฉันก็จะสามารถทำการฝึกฝนเธอได้อย่างเต็มที่”
รีเบคก้ากระพริบตาที่น่ารักของเธอ เธอมองไปที่หลี่ฟาน แล้วก็ดาบเซ็มบงซากุระ
“อาจารย์หลี่ฟาน คุณต้องการมอบดาบเซ็มบงซากุระให้หนูงั้นหรอ?”
"ใช่แล้ว! สำหรับเส้นทางการฝึกฝนของเธอ ดาบฟันวิญญาณเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุด และฉันก็หวังว่าเธอจะสามารถควบคุมดาบเล่มนี้ และปลดปล่อยบังไคออกมาให้ได้เร็วที่สุด”
“แต่อาจารย์หลี่ฟาน ดาบที่ล้ำค่ามากๆแบบนี้ คุณจะมอบมันให้หนูจริงๆ งั้นหรอ?”
พลังของ ‘เซ็มบงซากุระ’ ยังคงวนเวียนอยู่ในความทรงจำของรีเบคก้าเป็นอย่างดี
รีเบคก้าไม่เคยคิดฝันเลยว่า การฝึกฝนของเธอที่อาจารย์หลี่ฟานพูดถึงนั้น มันจะทำให้เธอได้รับดาบฟันวิญญาณอย่าง ‘เซ็มบงซากุระ’ มาด้วย
“ถึงแม้ว่าดาบฟันวิญญาณเล่มอื่นๆ จะสามารถใช้ปลุกแรงดันวิญญาณของเธอได้เหมือนกัน”
“แต่ ‘ริวจินจักกะ’ ก็มีความครอบงำมากเกินไป และเธอจะไม่สามารถควบคุมมันได้”
“เซ็มบงซากุระเป็นดาบฟันวิญญาณที่ดี และเนื่องจากสีผมของเธอเป็นสีซากุระ ดังนั้น ฉันจึงคิดว่าดาบเล่มนี้มันเหมาะกับเธอมากกว่า”
“รีเบคก้า ในเมื่อเธอคิดว่ามันมีค่ามากๆ ก็จงตั้งใจฝึกฝนให้ดี”
“ตั้งใจฝึกฝนให้ตัวเองมีความแข็งแกร่ง ที่คู่ควรกับดาบเล่มนี้ เข้าใจไหม”
“เธอไม่ได้อยากได้รับพลังที่จะทำให้เธอแข็งแกร่งขึ้นเร็วๆ และทำในสิ่งที่เธอต้องการจะทำงั้นเหรอ?” หลี่ฟานกล่าวด้วยรอยยิ้ม
หลังจากที่เธอได้ยินคำพูดของหลี่ฟาน รีเบคก้าก็สูดหายใจเข้าลึกๆ และดวงตาของเธอค่อยๆ แข็งแกร่งขึ้น
“เข้าใจแล้วค่ะ อาจารย์หลี่ฟาน หนูจะทำตามที่อาจารย์บอก”
“ดีมากรีเบคก้า งั้นตอนนี้… ฉันจะเริ่มแล้วนะ” ขณะพูด หลี่ฟานก็ยกดาบเซ็มบงซากุระขึ้นมา และชี้มันไปที่หน้าอกของรีเบคก้า
ภายใต้อำนาจของหลี่ฟาน เซ็มบงซากุระค่อยๆผสานเข้ากับจิตวิญญาณของรีเบคก้า ราวกับกระแสน้ำ
ในเวลาเดียวกัน กลุ่มก้อนของแรงดันวิญญาณ (เรย์อิทสึ) ซึ่งเป็นของรีเบคก้าแต่เพียงผู้เดียว ก็ได้เริ่มก่อตัวขึ้นมาช้าๆ
และหลังจากที่ ‘เซ็มบงซากุระ’ หลอมรวมเข้ากับจิตวิญญาณของรีเบคก้าอย่างสมบูรณ์ คลื่นของแรงดันวิญญาณที่มีขนาดเท่ากับรองหัวหน้าหน่วยใน 13 หน่วยผู้พิทักษ์ ก็ได้แผ่กระจายออกมาจากร่างกายของเธอ
‘ไอ้ระบบบ้านี่ มันรู้อยู่แล้วว่ารีเบคก้ามีพรสวรรค์ในด้านของแรงดันวิญญาณ มันถึงระบุแนวทางการฝึกฝนของเธอให้เป็นยมทูต’
'แม้ว่ามันจะมีแรงดันวิญญาณของฉันที่หลงเหลืออยู่ในดาบเซ็มบงซากุระ แต่เธอก็ถึงกับปลุกแรงดันวิญญาณในระดับของรองหัวหน้าหน่วยได้ตั้งแต่ต้น รีเบคก้าจะต้องมีอนาคตที่ดีมาก!'
หลี่ฟานคิดกับตัวเอง
ผ่านไปไม่กี่นาที รีเบคก้าก็ได้ลืมตาขึ้น
“นี่คือ… เซ็มบงซากุระเหรอ?” มองดูดาบคาตานะที่อยู่ในมือขวาของเธอ รีเบคก้าก็พูดอย่างไม่แน่ใจ
“ใช่แล้ว มันคือเซ็มบงซากุระจริงๆ” หลี่ฟานพยักหน้า
“ยินดีด้วยรีเบคก้า เธอประสบความสำเร็จในการครอบครองเซ็มบงซากุระแล้ว”
“ต่อไป พวกเราก็มาเริ่มกันเถอะ ช่วงเวลาสองปีสำหรับการฝึกฝนน่ะ….”
…