1177 - แผนการที่ถูกวางไว้
1177 - แผนการที่ถูกวางไว้
สงครามดำเนินมาถึงจุดสูงสุดแล้ว เย่ฟ่านได้รับบาดเจ็บสาหัสและทุกการโจมตีของเขาเต็มไปด้วยความดุร้าย เขาจำเป็นต้องทำเช่นนี้เพราะไม่อย่างนั้นเขาจะไม่มีวันแยกตัวออกจากสนามรบได้เลย
“ปัง” “ปัง”...
เสียงระเบิดดังขึ้นอย่างต่อเนื่อง เศษเลือดเศษเนื้อปลิวกระจายออกไปทุกทิศทาง มียอดฝีมือผู้ทรงพลังจำนวนมากซ่อนตัวอยู่ในเงามืด และพวกเขาได้ระดมการโจมตีออกมาในช่วงเวลาที่สำคัญที่สุด
“เฉียง”
อาวุธโบราณได้ปรากฏขึ้นในความว่างเปล่าและปลดปล่อยพลังศักดิ์สิทธิ์อันน่าสะพรึงกลัวกวาดเข้าหาเย่ฟ่านอย่างรุนแรง!
เย่ฟ่านต่อต้านการโจมตีทั้งหมดอย่างดุดัน สภาพของเขาเลวร้ายอย่างยิ่ง และมีเสียงระเบิดดังก้องอยู่ตลอดเวลา
นี่เป็นการต่อสู้ที่โหดร้าย เย่ฟ่านไม่มีทางเลือก การที่เขาจะมีชีวิตอยู่รอดได้เขาจำเป็นต้องโจมตีอย่างดุร้ายและเด็ดขาดมากที่สุด ไม่เช่นนั้นพลังศักดิ์สิทธิ์ในร่างของเขาจะร่อยหรอลงมากขึ้นเรื่อยๆ
ในบรรดาผู้คนที่กำลังรุมโจมตีเขาอยู่นั้นไม่มีใครอ่อนแอ ในอนาคตอันใกล้ทุกคนจะกลายเป็นบรรพชนของเผ่าพันธุ์ ในเวลานี้ภายใต้การผลักดันจากผู้คนที่อยู่ด้านหลังพวกเขาจำเป็นต้องนำอาวุธศักดิ์สิทธิ์ของตัวเองออกมาใช้แล้ว
“อา...”
ภายใต้การเคลื่อนไหวของทักษะซิงจื่อ เย่ฟ่านกระชากศีรษะของชายหนุ่มคนหนึ่งให้หลุดออกจากร่างอย่างโหดร้าย ท่าทางของเขาดุดันราวกับเทพอสูรจากขุมนรก
“ฆ่า!”
เย่ฟ่านจ่ายด้วยราคามหาศาล ตำหนักเต๋าของเขาหลังหนึ่งถูกทำลาย เขากระอักเลือดคำใหญ่ก่อนจะพุ่งเข้าหาเซียนเทียมขั้นสามคนหนึ่งที่ลอบโจมตีเขาจะเงามืด
นี่เป็นการต่อสู้นองเลือด เย่ฟ่านได้รับบาดเจ็บจนเลือดไหลอาบไปทั่วร่างกาย เขาพยายามหลบหนีจากสนามรบหลายครั้งแต่ก็เผชิญหน้ากับการผลักดันของยอดฝีมือระดับเซียนเทียมขั้นสามหลายคนจนต้องต่อสู้อย่างสิ้นหวัง
ทันใดนั้นกระบี่วิญญาณเล่มหนึ่งได้ฟาดฟันเข้าหาหว่างคิ้วของเย่ฟ่านราวกับสายฟ้า การโจมตีครั้งนี้รวดเร็วอย่างยิ่งและพลังทำลายล้างของมันเพียงพอที่จะบดขยี้ทะเลศักดิ์สิทธิ์ของเย่ฟ่านได้อย่างแน่นอน
ในที่สุดบุตรศักดิ์สิทธิ์แห่งศาลสวรรค์ก็ลงมือแล้ว!
เขาไม่เคยจากไปไหน ในความเป็นจริงเขาอดกลั้นและรอคอยอยู่ในเงามืดเสมอ เมื่อค้นพบโอกาสอันยิ่งใหญ่เขาก็ไม่ลังเลที่จะโจมตีด้วยพลังทั้งหมดที่มี
เย่ฟ่านตกอยู่ในสถานการณ์ความเป็นความตาย รอบตัวของเขามียอดฝีมือรุ่นเยาว์ของเผ่าพันธุ์โบราณและศาลสวรรค์มากมายนับไม่ถ้วน!
เย่ฟ่านทุ่มเทกำลังทั้งหมดเพื่อควบคุมทักษะซิงจื่อและหลบหนีออกจากสถานการณ์ที่สิ้นหวังนี้ด้วยพลังทั้งหมดที่มี
“มันไม่มีประโยชน์ นี่ไม่ใช่กระบี่จริงแต่เป็นสิ่งที่ถูกสร้างขึ้นด้วยกฎ เจ้าไม่มีทางหลบหนีได้!” บุตรศักดิ์สิทธิ์แห่งศาลสวรรค์กล่าวด้วยรอยยิ้ม
“โอม!”
มนต์หกอักขระถูกปลดปล่อยออกมาในช่วงเวลาที่สิ้นหวังที่สุด เสียงคำรามของเย่ฟ่านดังก้องไปทั้งสวรรค์พิภพและทำให้ยอดฝีมือที่รุมล้อมเขาอยู่หลายสิบคนร่วงหล่นลงจากท้องฟ้าทันที
“ปุ๊บ”
กระบี่แห่งกฎฟาดฟันเข้าหากะโหลกศีรษะของเย่ฟ่านอย่างไร้ความปรานี อย่างไรก็ตามทันทีที่มันสัมผัสกับหว่างคิ้วของเขากระบี่เล่มนั้นก็สามารถเปิดรอยแยกบนหน้าผากของเย่ฟ่านได้เล็กน้อยก่อนที่มันจะละลายกลายเป็นหยดน้ำที่แตกกระจายไปทั่วท้องฟ้า
“ปัง”
เย่ฟ่านถูกกำปั้นของใครบางคนกระแทกแผ่นหลังอย่างรุนแรง แม้ว่าการโจมตีนี้จะแข็งแกร่งอย่างยิ่งแต่มันก็สามารถผลักดันเขาออกจากสนามรบที่ปิดล้อมไปด้วยผู้คนมากมาย
“เซียนเทียมระดับสาม!”
หัวใจของเย่ฟ่านสั่นสะท้าน ในที่สุดเขาก็เผชิญหน้ากับคู่ต่อสู้ผู้ทรงพลังเช่นนี้อย่างตรงไปตรงมา เขารู้ดีว่ามีเซียนเทียมระดับสามหลายคนกระจายตัวอยู่ในสนามรบ แต่นี่เป็นครั้งแรกที่ฝ่ายปรากฏตัวขึ้นอย่างแท้จริง
เย่ฟ่านไม่มีเวลาให้ตกตะลึงมากนัก สถานการณ์ตอนนี้เลวร้ายอย่างถึงที่สุด และเขาจำเป็นต้องใช้เวลาทุกลมหายใจเพื่อพาตัวเองหลุดรอดจากสถานการณ์นี้ให้ได้
เย่ฟ่านกลืนกินยาเซียนกิเลนม่วงหนึ่งหยดเพื่อฟื้นฟูอาการบาดเจ็บของตัวเอง จากนั้นร่างของเขาได้พุ่งเข้าหาปรมาจารย์ระดับเซียนเทียมขั้นสามคนนั้นทันที
“พลังการต่อสู้ของเจ้าแข็งแกร่งอย่างยิ่ง ในวันนี้แม้ว่าเจ้าจะต้องตายอย่างไม่อาจหลีกเลี่ยงได้ แต่ชื่อของเจ้าจะยังคงถูกเล่าขานไปนานนับพันปี”
ชายผู้แข็งแกร่งคนนั้นกล่าวอย่างสง่างาม ผ้าคลุมไหล่และเส้นผมสีเลือดของเขาเริ่มโบกสะบัดพร้อมกับปลดปล่อยแสงศักดิ์สิทธิ์ที่แพรวพราวให้กระจายไปทั่วท้องฟ้า
นี่เป็นหนึ่งในศัตรูที่ทรงพลัง เย่ฟ่านพยายามฆ่าเขาหลายครั้งแต่ล้มเหลว มิหนำซ้ำยังถูกเขาลอบโจมตีจากเงามืดจนทำให้เย่ฟ่านได้รับบาดเจ็บสาหัส
ชายคนนี้เป็นทายาทของราชาบรรพชนสือเตี้ยนที่เคยต่อสู้กับราชาสวรรค์เมื่อไม่กี่วันก่อน ในอนาคตเขาจะกลายเป็นบรรพชนแห่งเผ่าพันธุ์อย่างไม่ต้องสงสัย
“มออออ...”
ชายหนุ่มผู้ทรงพลังจากเผ่าอสูรกระทิงคำรามลั่น ร่างของเขาขยายใหญ่ขึ้นจนมีความสูงนับพันวา เพียงแขนและขาที่ขยับเคลื่อนไหวก็ทำให้ความว่างเปล่าพังทลายลงทันที
“โอม!”
เย่ฟ่านคำรามด้วยมนต์หกอักขระอีกครั้ง เสียงตะโกนของเขาเหมือนกับเสียงระเบิดที่ดังมาจากส่วนลึกของจักรวาลอันกว้างใหญ่
ร่างกายของอสูรวัวทรงพลังมีรอยแตกร้าวลุกลามไปทั่ว เขายังไม่มีโอกาสโจมตีเย่ฟ่านด้วยซ้ำแต่กลับต้องพบกับความตายอย่างน่าเศร้า
“ม่ายยยย”
เขาตะโกนอย่างไม่เต็มใจ แต่ในที่สุดร่างกายอันใหญ่โตนั้นก็พังทลายลงโดยไม่อาจต่อต้านได้ เลือดเนื้อของเขากระจายไปทั่วท้องฟ้าดูน่าขยะแขยงอย่างยิ่ง
“ปุ๊”
แต่ในขณะที่เย่ฟ่านกำลังส่งเสียงคำรามอยู่นั้น ขวานสองเล่มสีดำสนิทได้พุ่งผ่านความว่างเปล่าและกระแทกเข้าหาหน้าอกของเขาอย่างรุนแรง
นี่เป็นการโจมตีจากเซียนเทียมระดับสามของเผ่าสือเตี้ยน และขวานเล่มนี้ก็เกือบจะลากเย่ฟ่านเข้าไปในนรกได้เลย
อย่างไรก็ตาม เย่ฟ่านยังคงไม่ตาย ร่างกายของเขาแข็งแกร่งรองจากอาวุธขึ้นก้าวเต๋าสุดขั้วเพียงเล็กน้อยเท่านั้น
ผู้คนที่รายล้อมอยู่รอบๆ เกิดความตกตะลึงเป็นอย่างมาก อสูรวัวมีร่างกายที่แข็งแกร่งอย่างยิ่ง แต่มันกลับไม่สามารถทนเสียงคำรามของเย่ฟ่านได้แม้แต่ครั้งเดียว
การต่อสู้ครั้งนี้ถูกกำหนดให้โลกตะลึง คนผู้หนึ่งต่อสู้กับวีรบุรุษรุ่นเยาว์นับร้อยคนเพียงลำพัง ความแข็งแกร่งที่เย่ฟ่านแสดงออกมาเพียงพอที่จะยืนยันชื่อเสียงอันยิ่งใหญ่ของร่างศักดิ์สิทธิ์เซียนโบราณได้แล้ว
อย่างไรก็ตามร่างศักดิ์สิทธิ์เซียนโบราณถูกโจมตีทุกทิศทางและแม้ว่าเขาจะยังไม่ตายแต่อาการบาดเจ็บนี้ก็เพียงพอที่จะทำให้เขาล้มลงได้ตลอดเวลา
ในตอนท้ายของการต่อสู้ หลายคนคำรามด้วยความโกรธ ในตอนแรกพวกเขาไม่รู้เกี่ยวกับความแข็งแกร่งของร่างศักดิ์สิทธิ์เซียนโบราณมากนัก แต่ตอนนี้เห็นได้ชัดแล้วว่าชายหนุ่มที่อยู่ตรงหน้าทรงพลังไม่เป็นรองทายาทจักรพรรดิศักดิ์สิทธิ์อย่างแน่นอน!
จักรพรรดิศักดิ์สิทธิ์โบราณเป็นคนแบบไหน? พวกเขาเป็นตัวแทนของเต๋าสุดขั้ว ความแข็งแกร่งของพวกเขาเพียงพอที่จะสั่นสะเทือนเก้าสวรรค์สิบพิภพ นี่คือสิ่งมีชีวิตที่ทรงพลังอย่างแท้จริง
ทายาทของพวกเขาซึ่งสืบทอดสายเลือดมานั้นยังมีพรสวรรค์สูงส่งมากกว่าเหล่าจักรพรรดิศักดิ์สิทธิ์ในตอนที่อายุเท่ากันด้วยซ้ำ
นั่นก็เพราะจักรพรรดิศักดิ์สิทธิ์ทุกคนล้วนพัฒนาพรสวรรค์ของตัวเองไปพร้อมกับฐานการบ่มเพาะที่ถูกปรับปรุงให้แข็งแกร่งขึ้น แต่บุตรของพวกเขาเหล่านั้นกลับเกิดขึ้นมาพร้อมกับสายเลือดแห่งจักรพรรดิแล้ว
บนท้องฟ้า หมอกสีเลือดกระจายอยู่ทุกแห่งหน กระดูกที่แตกหักของผู้คนมากมายกระจัดกระจายอยู่ทั่วพื้น เสียงคำรามและเสียงระเบิดที่เกิดจากการปะทะกันยังคงดังก้องอย่างต่อเนื่อง
เย่ฟ่านนั้นทรงพลังจริงๆ แต่เมื่อถูกรายล้อมไปด้วยผู้คนที่ทรงพลังและน่าสะพรึงกลัวมากมาย แม้ว่าเขาจะเป็นเทพสงครามที่กลับชาติมาเกิดใหม่เขายังคงไม่อาจต้านทานการโจมตีเหล่านี้ได้
“ต่อให้เป็นเซียนเทียมระดับสามขั้นสูงสุดยังยากที่จะยืนอยากได้นานถึงขนาดนี้” หลายคนกล่าวด้วยความกลัว
เย่ฟ่านเป็นเหมือนหลุมลึกไร้ก้น สภาพของเขาได้รับบาดเจ็บสาหัสอย่างชัดเจน แต่ไม่ว่ายอดฝีมือจากเผ่าพันธุ์โบราณจะลงมืออย่างแข็งขันมากเท่าใด สุดท้ายสิ่งที่พวกเขาพบเจอก็มีเพียงความตายอันน่าเศร้าเท่านั้น
ในที่สุดบุตรศักดิ์สิทธิ์แห่งศาลสวรรค์ก็ลงมือเป็นครั้งที่สอง กระบี่แห่งกฎพาดผ่านท้องฟ้าและฟาดฟันเข้าหาด้านหลังศีรษะเย่ฟ่าน
เขาเป็นเหมือนงูพิษที่รออย่างสงบนิ่งเสมอ แต่ในช่วงเวลาวิกฤตนั้นทุกการโจมตีของเขาจะหมายมั่นในการเอาชีวิตอย่างดุร้ายมากที่สุด
“ข้ากำลังรอให้เจ้าปรากฏตัวอยู่เลย!”
ทันใดนั้นร่างเย่ฟ่านก็ทะยานขึ้นสู่ท้องฟ้า อาการบาดเจ็บที่เขาได้รับก่อนหน้านี้หายสาบสูญไปอย่างไร้ร่องรอย ในขณะเดียวกันร่างของมังกรสีขาวดำทั้งสองตัวได้พุ่งออกมาจากร่างเย่ฟ่านโดยมีเป้าหมายอยู่ที่บุตรศักดิ์สิทธิ์แห่งศาลสวรรค์
บุตรศักดิ์สิทธิ์แห่งศาลสวรรค์พยายามหลบหลีกจากการไล่ล่าของมังกรทั้งสองตัวอย่างทุลักทุเล การโจมตีของเขาคาดคำนวณอย่างแม่นยำว่าเย่ฟ่านจะไม่มีทางที่จะหลบหนีจากกระบี่แห่งกฎนี้ได้
แต่สุดท้ายทุกอย่างกลับเป็นเพียงแผนการของเย่ฟ่าน อาการบาดเจ็บของเขาไม่ได้รุนแรงอย่างที่คิด และสิ่งที่น่ากลัวที่สุดคือวิญญาณศักดิ์สิทธิ์สีทองที่โผล่ออกมาจากกะโหลกศีรษะของเย่ฟ่านพร้อมกับหม้อปราณปฐพีต้นกำเนิด
นี่เป็นครั้งแรกที่เย่ฟ่านได้แสดงหม้อปราณปฐพีต้นกำเนิดซึ่งเป็นอาวุธแห่งชีวิตของเขาออกมา และกลิ่นอายของมันได้ทำให้ผู้คนเกิดความตกตะลึงเป็นอย่างมาก เพราะอาวุธชิ้นนี้มีความแข็งแกร่งเทียบกับอาวุธศักดิ์สิทธิ์ระดับเซียนได้แล้ว
แต่ในขณะที่ม่านหมอกของปราณปฐพีต้นกำเนิดกำลังครอบเข้าหาศีรษะของบุตรศักดิ์สิทธิ์แห่งศาลสวรรค์
ทันใดนั้น เย่ฟ่านก็รู้สึกอันตรายอย่างยิ่ง และมีบางสิ่งบางอย่างกำลังเคลื่อนเข้าหาแผ่นหลังของเขาด้วยความเร็วที่น่าเหลือ
“เซียนเทียมระดับสามอีกคน!” หัวใจของเย่ฟ่านจมดิ่งทันที
……………