บทที่ 39 : ทีมที่เจ็ดเผชิญหน้าโอโรจิมารุ
บทที่ 39 : ทีมที่เจ็ดเผชิญหน้าโอโรจิมารุ
หลังจากการสอบจูนินครั้งที่หนึ่งผ่านไป โดชูและซาคุพบว่าคินอยู่ในอาการย่ำแย่ เธอถูกพันด้วยเชือกทั่วร่างกายและถูกห้อยหัวลงมาจากต้นไม้
หลังจากที่คินตื่นขึ้นมา เธอก็ได้รับรู้เรื่องราวทั้งหมดจากเพื่อนร่วมทีมของเธอ
“ให้ตายเถอะ ฉันถูกหลอก”
“อย่าให้ฉันรู้ว่านะว่าไอ้ผู้ชายที่สวมแว่นกันแดดและมีรอยยิ้นขี้เล่นคนนั้นเป็นใคร ไม่งั้นฉันจะถลกหนังเขาทั้งเป็นแน่!” คินมีสีหน้าโกรธจัด ดวงตาของเธอลุกโชน และเสียงทุ้มลึกของเธอก็เต็มไปด้วยความแค้น
ไอ้สารเลว!
กล้าดียังไงมาใช้ตัวตนของฉันเพื่อให้ล้มเลิกจากการสอบจูนิน?
เนื่องจากการการกระทำของซาโตรุ เกะนินทั้งสามแห่งโอโตะงาคุเระจึงถูกตัดสิทธิไปแล้ว อีกทั้งการสอบครั้งที่สองก็เริ่มต้นอย่างเป็นทางการ
หลังจากนั้นหนึ่งวัน.....
ป่าไม้ที่เต็มไปด้วยหนามและเถาวัลย์ขนาดใหญ่มาก ที่สามารถพบเห็นได้ทุกที่และมีสัตว์ที่มีพิษร้ายแรงอยู่ทุกหนทุกแห่ง
ป่ามรณะ!
เหล่าเกะนินที่ผ่านการทดสอบในครั้งแรกจะเข้าร่วมในการต่อสู้ที่อันตรายถึงชีวิตนี้เพื่อเลื่อนระดับชั้นขึ้น
การทดสอบนี้มีความเสี่ยงพอสมควร
ผู้เข้าร่วมอาจเสียชีวิตได้
นั่นเป็นสาเหตุที่คุเรไนลังเลในตอนนั้นว่าควรจะสมัครให้ทีมที่แปดหรือไม่ แต่ในที่สุดแล้วเธอก็เลือกลงสมัคร
คุเรไนเป็นห่วงฮินาตะมาก ด้วยนิสัยที่อ่อนโยนและใจดีของฮินาตะ จึงเป็นเรื่องง่ายที่เธอจะทำผิดพลาดในการต่อสู้ที่เสี่ยงเป็นเสี่ยงตายเช่นนี้
ในเวลานี้เอง ณ สถานที่อันมืดมิดในป่ามรณะ
ทุกคนในทีมที่เจ็ดได้รับบาดเจ็บสาหัส พวกเขามีรอยแผลเป็นทั้งเล็กและใหญ่ทั่วตัว พวกเขาถือคุไนไว้ในมือและจ้องมองไปที่ชายผู้ที่อยู่ตรงหน้าพวกเขา ดูแล้วมีลักษณะคล้ายกับอสรพิษ
พวกเขาพยายามอย่างเต็มที่ที่จะใช้ทุกกระบวนท่าในการต่อสู้ แต่พวกเขาไม่สามารถเอาชนะชายหน้าหวานที่มีลักษณะคล้ายงูที่อยู่เบื้องหน้าได้เลย
โอโรจิมารุยืนอยู่บนหัวงู มองลงมาที่ซาสึเกะด้วยความโล�
โอโรจิมารุขยับสายตาของเขา จ้องมองเนตรวงแหวนสีแดงคู่นั้นของซาสึเกะอย่างตะกละตะกลาม พร้อมกับเลียที่มุมปากของเขาแล้วพูดเสียงแหบแห้งว่า "ฮ่าๆ…เนตรวงแหวน สายเลือดพิเศษแห่งตระกูลอุจิวะ"
เขาอยากได้เนตรวงแหวนเป็นเครื่องมือในการทดลองมานานแล้ว แต่ก็พลาดท่าคราวของอุจิวะ อิทาจิไป
โอโรจิมารุปรารถนามันมาก สายเลือดพิเศษแห่งตระกูลอุจิวะ
นอกเหนือจากการควักลูกตาและสวมใส่เนตรวงแหวน สิ่งที่เขาต้องการจริงๆ คือเลือดของอีกฝ่าย
เลือดและร่างกายของตระกูลอุจิวะ มันคืออะไรที่สมบูรณ์แบบเป็นที่สุดแล้ว!
หากสามารถเข้าใจความลับของตระกูลอุจิวะได้อย่างท่องแท้ ก็มีโอกาสที่จะจับซาโตรุได้
เขาต้องการใช้พลังของเนตรวงแหวนเพื่อรับพลังอันสมบูรณ์แบบของซาโตรุมาครอง
เขาต้องการเนตรวงแหวน แต่เขาต้องการซาโตรุมากกว่านั้น
“เนตรวงแหวนของนายนั้นยังห่างไกลจากเนตรวงแหวนของอุจิวะ อิทาจิ” โอโรจิมารุมองซาสึเกะด้วยดวงตาซีดจางสีทอง
ซาสึเกะยังอ่อนแอเกินไป เขาต้องรอให้ซาสึเกะแข็งแกร่งขึ้นก่อนที่จะเข้ายึดร่างของอีกฝ่าย
ม่านตาของซาสึเกะหดตัวลง เมื่อนึกถึงค่ำคืนแห่งการฆ่าล้างตระกูล จิตสังหารที่รุนแรงในดวงตาของเขาคนนั้น ซาซึเกะก็ถามอย่างเย็นชาว่า "แกรู้จักเขางั้นเหรอ? ตอนนี้เขาอยู่ที่ไหนกัน!"
ตั้งแต่คืนแห่งการฆ่าล้างตระกูล การแก้แค้นเป็นเพียงแรงจูงใจเดียวในการมีชีวิตอยู่ของเขา
ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้น ก็ต้องฆ่าอุจิวะ อิทาจิให้ได้!
“ซาสึเกะ!”
นารูโตะและซากุระมองไปที่ซาสึเกะด้วยความสงสัย
เกิดอะไรขึ้นกับซาสึเกะกัน?
“เด็กน้อยอุจิวะ ต้องการพลังใช่ไหม? พลังที่เพียงพอสำหรับการแก้แค้น” โอโรจิมารุกล่าวด้วยน้ำเสียงแหบแห้ง
“ตอบคำถามมา ไอ้หมอนั้นอยู่ที่ไหน!” ดวงตาของซาสึเกะจับจ้องเขม็ง จักระสีฟ้าอ่อนปรากฏขึ้นบนฝ่ามือของเขา และจักระก็หมุนเหมือนเกลียวด้วยความเร็วสูง
[กระสุนวงจักร]!
ซาสึเกะกระโดดและวิ่งข้ามตัวงูไป โจมตีโอโรจิมารุโดยมีกระสุนวงจักรอยู่ในมือ
“กระสุนวงจักรที่สร้างโดยโฮคาเงะรุ่นที่ 4 ซาโตรุสอนคาถานี้ให้กับนายเหรอ?” โอโรจิมารุเลิกคิ้วเล็กน้อย เขาแปลกใจมากกับกระสุนวงจักรที่ซาสึเกะใช้
"[คาถามือเงาอสรพิษรัดพัน]" มือของโอโรจิมารุกลายเป็นงูหลายตัวพันรอบแขนขาของซาสึเกะ จากนั้นเขาก็เตะซาสึเกะออกไป
*ปัง*
ซาสึเกะถูกเตะขึ้นไปในอากาศและหลังจากลอยไปสองสามรอบ เขาก็ล้มลงกับพื้นอย่างแรงและกระสุนวงจักรก็กระแทกลงพื้นด้วยเช่นกัน
*บูม*
กระสุนวงจักรที่กระแทกลงที่พื้นทำให้เกิดเป็นรูเกลียวเล็กๆ ลงบนพื้น
ซาโตรุแอบเฝ้าดูการต่อสู้อย่างลับๆ ผ่านตาทิพย์
เขาหักหนึ่งแต้มจากซาสึเกะที่ไม่ตะโกนว่า 'นี่คือท่าไม้ตายที่อาจารย์ซาโตรุสอนฉัน!”' เมื่อตอนใช้กระสุนวงจักร
“เป็นวิชาที่อันตรายนัก” โอโรจิมารุเลียมุมปากของเขา มองดูซาสึเกะที่นอนอยู่บนพื้น ความโลภในดวงตาของเขาก็เพิ่มมากขึ้น
ถ้าเขาโดนวิชานี้เล่นงาน สภาพคงจะแย่มากเลยหรือเปล่านะ?
แต่ยิ่งซาสึเกะแข็งแกร่งขึ้นเท่าไร เขาก็ยิ่งตั้งตารอจังหวะที่จะครอบครองร่างของอีกฝ่ายมากขึ้นเท่านั้น
ขอบคุณซาโตรุมากที่ช่วยฉันเลี้ยงซาสึเกะขึ้นมา
“ซาสึเกะ!” นารูโตะเหลือบมองซาสึเกะที่กองอยู่บนพื้นพร้อมกับแผ่โกรธออกมาจากดวงตาของเขา
“ไอ้เจ้างูบ้า ฉันจะจัดการแกที่นี่ซะ!” นารูโตะประสานอินด้วยใบหน้าที่โกรธเกรี้ยว
"[คาถาแยกเงาพันร่าง]!"
*ปุ้ง*
ควันสีขาวลอยขึ้นมา ร่างแยกของนารูโตะหลายสิบร่างปรากฏขึ้น
“ซากุระจัง พาซาสึเกะออกไปซะ” ร่างแยกทั้งหมดจ้องมองไปที่โอโรจิมารุด้วยความโกรธบนใบหน้า
“นารูโตะ นายก็ได้รับบาดเจ็บเหมือนกันนะ” ซากุระที่มีเลือดเปื้อนที่ขาและเต็มไปทั่วร่างกายพยุงซาสึเกะขึ้นและมองดูอาการบาดเจ็บของนารูโตะ
อาการบาดเจ็บของนารูโตะสาหัสกว่าเธอและซาสึเกะอีก
“ฉันไม่สามารถให้อภัยคนที่ทำร้ายเพื่อนของฉันได้หรอก!” ดวงตาของนารูโตะเปลี่ยนเป็นสีแดง จักระสีแดงเข้มแผ่กระจายไปทั่วร่างกายของเขา
เขาได้รับบาดเจ็บสาหัส แต่ซาสึเกะและซากุระถูกโจมตีอย่างรุนแรงนั้นทำให้เขาโกรธมากกว่ารู้สึกเจ็บเสียอีก
โอโรจิมารุมองไปที่นารูโตะและมองไปที่จักระสีแดงเข้มบนร่าง หลังจากนั้นใบหน้าของเขาเปลี่ยนไปเล็กน้อยและพูดด้วยความสนใจว่า "สามารถใช้พลังของเก้าหางได้เหรอ? ดูเหมือนว่าซาโตรุจะขยันมากเลยสินะ”
ทันทีที่คำพูดของเขาจบลง โอโรจิมารุก็ควบคุมงูยักษ์ งูยักษ์ตัวนั้นเหวี่ยงร่างขนาดใหญ่ของมันทำลายต้นไม้ใหญ่และหินที่อยู่รอบๆ
“ไอ้งูตัวเหม็น ฉันจะใช้กระสุนวงจักรที่อาจารย์ซาโตรุสอน และเอาชนะแกที่นี่ซะ!”
ร่างแยกทั้งหมดใช้กระสุนวงจักรโจมตีงูในเวลาเดียวกัน
"ฟ่อออ" งูยักษ์พ่นลมหายใจออกมา มีกลุ่มก๊าซพิษก้อนใหญ่พุ่งออกมาจากปากของมัน ก๊าซพิษสีเข้มหนาทึบค่อยๆ ปกคลุมไปทั่วบริเวณ
หลังจากที่ร่างแยกทั้งหมดสูดก๊าซพิษเข้าไป ทั้งหมดก็กลายเป็นควันสีขาวและหายไป
"ยังอ่อนแอเกินไป" โอโรจิมารุกล่าวออกมาอย่างหงุดหงิด
หน่วยที่เจ็ดสามารถใช้กระสุนวงจักรได้ ความแข็งแกร่งของพวกเขาเหนือกว่าจูนินทั่วไปหลายคน
แต่ประสบการณ์การต่อสู้นั้นแย่มาก ขาดวิธีการต่อสู้ที่เด็ดขาด
การโจมตีด้วยคาถาเดียวซ้ำๆ มันไม่มีความหมายในการต่อสู้จริงเลย
“แค่ก แค่ก...” นารูโตะปิดจมูก พ่นเลือดออกมาจำนวนมาก และสบถออกมา “ใช้พิษเหรอ? น่ารังเกียจเกินไปแล้ว!”
"ปล่อยฉันไป!" ซาสึเกะผลักซากุระล้มลง และจ้องมองที่โอโรจิมารุด้วยความเย็นชาพร้อมกับเนตรวงแหวนสีแดงโลหิต
“ตอบคำถามของฉันมา ตอนนี้ผู้ชายคนนั้นอยู่ที่ไหน!”
ซาสึเกะต้องการเพียงที่อยู่ของอุจิวะ อิทาจิเท่านั้น
“หนีไปซะซาสึเกะ ไม่งั้นพวกเราจะตายกันหมดแน่!” นารูโตะโกรธจัด
“อ่อนแอเกินไป” โอโรจิมารุระเบิดจิตสังหารที่น่าสะพรึงกลัว
จิตสังหารที่รุนแรงปกคลุมทั้งหมด ทำให้เกิดความตื่นตระหนกปรากฏขึ้นในสายตาของทีมที่เจ็ด กระทั่งผิวหนังของพวกเขาก็ยังรู้สึกเจ็บปวด
จิตสังหารนี้... น่ากลัวมาก!
หากเป็นเช่นนี้ต่อไป ทุกคนในทีมเจ็ดจะต้องตาย!
หนี ต้องรีบหนี!
หลังจากสัมผัสได้ถึงกลิ่นอายของจิดสังหาร แม้แต่ซาสึเกะก็รู้สึกหวาดกลัว คนผู้นี้น่ากลัวยิ่งกว่านินจาหมอกคนนั้นซะอีก!
“เด็กน้อยอุจิวะ ต้องการพลังไหม? ต้องการพลังที่มากพอสำหรับการแก้แค้นหรือเปล่า?” โอโรจิมารุควบคุมงูยักษ์และโจมตีซาสึเกะอย่างรุนแรง
เขาตั้งใจที่จะตรึงซาสึเกะด้วยปากของงูยักษ์แล้วร่ายคาถา
งูยักษ์กัดซาสึเกะอย่างรวดเร็ว ซาสึเกะตัวสั่นด้วยความกลัว แขนขาของเขาอ่อนแรงและเขาไม่สามารถหลบการโจมตีได้เลย
“ซาสึเกะ!” ซากุระรีบวิ่งไปหาซาสึเกะ แต่เนื่องจากอาการบาดเจ็บสาหัสที่ขาทั้งสองข้าง เธอจึงล้มลงกับพื้นหลังจากวิ่งไปเพียงสองก้าว
เพียงชั่วพริยตาเดียว นารูโตะก็มายืนอยู่ต่อหน้าซาสึเกะโดยฝังคุไนไว้บนฟันของงู
นารูโตะหอบหายใจแรง เลือดสีแดงไหลไปทั่วร่างกาย กระดูกหลายชิ้นบนหลังของเขาได้หักจากการโจมตีของงูยักษ์ เขาเงยหน้าขึ้นและฝืนยิ้มออกมา “ไม่บาดเจ็บตรงไหนใช่ไหม? ไอ้เจ้าหนูขี้ขลาด”
ซาสึเกะตกตะลึง เขาจำได้ว่าตอนที่เขาช่วยนารูโตะ เขาก็พูดประโยคเดียวกัน
นารูโตะในเวลานั้นเป็นคนขี้ขลาดที่ต้องได้รับการปกป้อง
และตอนนี้ซาสึเกะ กลับเป็นเขาที่กลายเป็นคนขี้ขลาดที่ต้องได้รับการปกป้อง
ทั้งที่เขาเกลียดอีกฝ่ายมากขนาดนี้ แต่นารูโตะกลับไม่ลังเลเลยที่จะเสี่ยงชีวิตเพื่อช่วยเขา
“ไอ้บื้อนี้ ถ้าพลาดขึ้นมา นายคงตายจากการโจมตีของมันแล้ว!” ซาสึเกะกล่าวขึ้นมาด้วยน้ำเสียงเย็นชา