บทที่ 110: ข้าจะเข้าไปค้นเรือน จงให้ความร่วมมือโดยดี!
ติดตามเป็นกำลังใจให้ผู้แปลได้ที่แฟนเพจ:BamแปลNiyay
บทที่ 110: ข้าจะเข้าไปค้นเรือน จงให้ความร่วมมือโดยดี!
“ฝ่าบาท ข้าได้รู้มาว่าท่านอ๋องแห่งเหอเป่ยทางเหนือ ท่านอ๋องแห่งเจียงใต้ กงแห่งอู๋ซี …ทั้งราชาของอาณาจักรอื่นๆ ได้ทำการวิจัยและผลิตอุปกรณ์บินได้ ที่รู้จักกันในนามบัลลูนลมร้อนขึ้นมา พวกเขาได้สร้างมันและกำลังจะทดสอบบิน ฝ่าบาท โปรดตระหนักด้วย!” ผู้บัญชาการองครักษ์ของจักรพรรดิได้รายงานต่อจักรพรรดินีในราชสำนัก
“ฝ่าบาท ข้าก็เพิ่งได้รับข่าวที่น่าตกใจเช่นกัน อาณาจักรรอบข้างเช่นอาณาจักรเซี่ย อาณาจักรเยว่และอาณาจักรหยานกำลังผลิตบัลลูนลมขึ้นมา ฝ่าบาท โปรดตระหนักด้วย!” นายพลชราคนหนึ่งรายงานต่อจักรพรรดินี
คนอีกกลุ่มหนึ่งก็รายงานสถานการณ์เกี่ยวกับบัลลูนลมร้อนด้วย
สีหน้าของจักรพรรดินีเคร่งเครียดขึ้นเรื่อยๆ และราชสำนักก็เงียบลงไป คล้ายดั่งความสงบก่อนพายุจะมา
จักรพรรดินีตะโกน “หวังรุยซือ เจ้าอยู่ที่ใด!”
"กระหม่อมอยู่ที่นี่ขอรับฝ่าบาท!" เสนาบดีกรมโยธา หวังรุยซือได้ออกมาอย่างตัวสั่นและเหงื่อออกทั่วกายา
จักรพรรดินีลุกขึ้นยืนและชี้ไปที่จมูกของหวังรุยซือด้วยความโกรธ “ดูสิ่งที่เจ้าทำลงไป! ข้าได้ห้ามไม่ให้ความลับของการสร้างอุปกรณ์บินได้รั่วไหลออกไปอย่างชัดเจน ผู้ที่ละเมิดคำสั่งนี้ควรถูกตัดศีรษะทันที! แต่ดูสิ่งที่เกิดขึ้น! คำพูดของข้าไม่เพียงพอหรือดาบของข้าไม่คมพอกัน?”
“ฝ่าบาท ข้าบริสุทธิ์!”
หวังรุยซือคุกเข่าลงขณะที่เหงื่อไหลอาบไปทั่วทั้งกาย “ฝ่าบาท โครงสร้างของอุปกรณ์บินนั้นไม่ซับซ้อนเลย สำหรับช่างฝีมือที่มีทักษะ พวกเขาสามารถหาวิธีเลียนแบบมันได้อย่างง่ายดายเพียงแค่มองไปที่มัน ดังนั้นกระหม่อมจึงย่อมไม่เกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ ได้โปรดเมตตาด้วยฝ่าบาท!”
จักรพรรดินียังคงโกรธ “เจ้ากล้าที่จะเรียกร้องความบริสุทธิ์ของเจ้าหรือ? เจ้าไม่ได้ยินรายงานใช่ไหม? พวกเขาสร้างมันแล้วและกำลังจะทดสอบบิน พวกเขามีความเข้าใจอย่างถ่องแท้และรู้ถึงกระบวนการผลิตอย่างชัดเจน! เช่นนั้นพวกเขาจะไปเอามาจากไหนได้หากไม่ใช่กรมโยธาที่เจ้าเป็นคนดูแล?”
“ในเวลาอันสั้น พวกเขากลับมีความเข้าใจอย่างถ่องแท้ถึงกระบวนการวิธีสร้างนี้ได้ยังไง? พวกเขาจะต้องได้วิธีการสร้างไป! มันคงรั่วไหลออกมาจากกรมโยธาของเจ้า!”
“หวังรุยซือ เจ้าอยากได้รับการลงโทษเช่นไร?”
“ฝ่าบาท กระหม่อมบริสุทธิ์!” หวังรุยซือ เสนาบดีกรมโยธาแทบอยากจะร้องไห้ออกมา
เขารู้ว่าจักรพรรดินีให้ความสำคัญกับเรื่องนี้เป็นอย่างมาก เพราะมันมีความสำคัญต่อทั้งราชสำนัก นอกจากนี้ เขาก็ยังให้ความสำคัญกับชีวิตของตนเองเป็นอย่างมาก ทั้งยังเตือนทุกคนว่าอย่าทำอะไรอย่างรีบร้อน
เขาถึงกับถอนรากถอนโคนคนทรยศหลายคนเพื่อเป็นตัวอย่าง
แต่ตอนนี้ทุกอย่างกลับล้มเหลว!
เขารู้สึกขมขื่นและผิดหวังยิ่ง!
“ฝ่าบาท พระองค์ทรงทราบสถานการณ์ปัจจุบันในกรมโยธาแล้ว! องครักษ์ของจักรพรรดิและกองทัพจำนวนมากได้นำกำลังปกป้องพื้นที่นี้ไว้ ทำให้ไม่มีการรั่วไหลใดๆ เกิดขึ้นเลย! อันที่จริง นอกเหนือจากกรมโยธาแล้ว อาจยังมีอีกคนหนึ่งที่ทำให้วิธีการผลิตรั่วไหลไป!”
หวังรุยซือหันศีรษะและชี้ไปที่หลินเป่ยฟานที่ยืนอยู่ด้านหลังขุนนางทั้งหลาย เขาตะโกนเสียงดังออกมา “คนคนนั้นคือหลินเป่ยฟาน ผู้ประดิษฐ์สิ่งประดิษฐ์บินได้และเป็นคนแรกที่บินขึ้นไปบนท้องฟ้า เขาเป็นคนที่มีโอกาสจะทำข้อมูลรั่วไหลมากที่สุด ได้โปรดตรวจสอบด้วยฝ่าบาท!”
นี่เป็นกลยุทธ์ที่มักใช้โดยขุนนางผู้มากประสบการณ์ แม้ว่าจะไม่เป็นความจริงก็ตาม แต่เขาจะโยนโคลนป้ายใส่ผู้อื่นให้รับผิดด้วย หลินเป่ยฟานลุกขึ้นยืนด้วยความโกรธ
"ท่านหวัง ท่านไม่ต้องใส่ร้ายข้าเลย! ข้าทั้งซื่อสัตย์และทุ่มเทให้กับฝ่าบาทกับอาณาจักรอู๋อันยิ่งใหญ่ ข้าจะทำการกระทำที่ให้อภัยไม่ได้เช่นนี้ได้ยังไงกัน?”
“ถ้าข้าไม่จงรักภักดี ทำไมข้าถึงต้องมอบวิธีการผลิตและควบคุมสิ่งประดิษฐ์ที่บินได้ให้กับฝ่าบาท แทนที่จะขายให้ผู้อื่น? เห็นได้ชัดว่านี่ไม่จำเป็นเลย!”
“ยิ่งไปกว่านั้น ฝ่าบาททรงมีพระคุณต่อข้ามาก ทรงปฏิบัติต่อข้าเหมือนบุตรชายและทรงจัดหาทุกความต้องการของข้า ผู้ที่ได้รับของรางวัลมากมายอย่างข้า เหตุใดต้องทรยศต่อฝ่าบาทด้วยกัน!”
ขณะที่เอามือของเขานาบไว้บนหน้าอก หลินเป่ยฟานก็ส่งเสียงคำรามดังออกมา “ท่านสามารถดูถูกมโนธรรมของข้าได้ แต่ท่านไม่สามารถดูถูกความจงรักภักดีของข้าได้!”
หวังรุยซือดูละอายใจยิ่ง จักรพรรดินีที่นั่งอยู่บนบัลลังก์ก็มีสีหน้าไม่สบายใจเช่นกัน ข้อโต้แย้งของหลินเป่ยฟานมีเหตุผล พวกเขาไม่สามารถหาวิธีที่จะพิสูจน์ความผิดของเขาได้เลย มีเพียงจักรพรรดินีเท่านั้นที่กำหมัดแน่น นางต้องการทุบหน้าของหลินเป่ยฟานให้รู้แล้วรู้รอด
หลินเป่ยฟานกล่าวเสริมอีกว่า “แต่ก็อย่างที่ท่านพูดไว้ก่อนหน้านี้ ทหารอารักขาของจักรพรรดินีและกองทัพได้ประจำการอยู่ทั่วกรมโยธา มันเป็นไปไม่ได้เลยที่จะเกิดการรั่วไหลขึ้น ถ้ากระหม่อมทำข้อมูลรั่วไหลไป ผลลัพธ์มันก็จะไม่ใช่ว่าชัดเจนหรือ? ทุกคนย่อมสงสัยตัวกระหม่อมในทันทีอยู่แล้ว! กระหม่อมเป็นผู้ทำการคะแนนสอบสูงสุดของการสอบจักรพรรดิสามครั้งซ้อน ท่านคิดว่ากระหม่อมจะทำอะไรโง่เขลาแบบนั้นหรือ?”
“นี่…” เหล่าขุนนางทุกคนต่างส่ายศีรษะ
ทุกคนที่มีสติปัญญาปกติย่อมรู้ว่าควรทำยังไงอยู่แล้ว
หลินเป่ยฟานเป็นคนที่ฉลาดเช่นนี้ ย่อมจะต้องไม่ทำผิดพลาดโง่ๆ หรอก
“กระหม่อมบริสุทธิ์ ฝ่าบาทได้โปรดตรวจสอบด้วย!” หลินเป่ยฟานโค้งคำนับ
"ท่านหลินเป็นผู้บริสุทธิ์แน่นอน!“จักรพรรดินีกล่าวอย่างหนักแน่น”เขาภักดีต่อข้าและอาณาจักรอู๋อันแสนยิ่งใหญ่ ในสามเดือนที่เขาอยู่ในราชสำนัก ไม่มีผู้ใดสร้างความสำเร็จอันยิ่งใหญ่ได้เท่าเขาอีกแล้ว! แผนการกลืนกินดาร์โรก็เป็นหนึ่งในความคิดของเขา ส่วนบัลลูนลมร้อนก็เป็นสิ่งประดิษฐ์ของเขา! ในบรรดาขุนนางพลเรือนและทหาร คนอื่นๆ อาจทรยศข้า แต่เขาจะไม่ทำ อย่างแน่นอน!”
“ฝ่าบาท ท่านทรงปราดเปรื่องยิ่งนัก!” หลินเป่ยฟานรู้สึกซาบซึ้งใจพอสมควร
“ดังนั้นวิธีการทำบัลลูนลมร้อนย่อมจะต้องรั่วไหลออกมาจากกรมโยธาของเจ้า! ก่อนหน้านี้ทางกรมโยธาก็มักจะมีเรื่องแดงเช่นนี้อยู่เป็นประจำ! หวังรุยซือ เจ้าลืมไปแล้วหรือ?”
“ฝ่าบาท แต่กระหม่อมบริสุทธิ์!” หวังรุยซือ เสนาบดีกรมโยธาร้องไห้ออกมาที่ถูกใส่ความจนรันทด อดสูเสียยิ่งกว่าโต้วเอ๋อ
เมื่อเห็นหวังรุยซือที่มักต่อต้านนางร้องไห้ออกมา จักรพรรดินีก็รู้สึกมีความสุขในใจยิ่ง
แน่นอน ตัวนางรู้ว่าอีกฝ่ายบริสุทธิ์ เขาถูกใส่ร้ายโดยไอ้เจ้าตัวแสบผู้หนึ่งและลงเอยด้วยการเอาหม้อสีดำใบใหญ่ครอบบนหัวของเขา
แต่ด้วยโอกาสที่หาได้ยากในการระบายความโกรธของนาง นางจะปล่อยมันไปได้อย่างไรกัน?
"เหอะ! มันย่อมไม่มีสิ่งใดผิดพลาด ในเมื่อมันเกิดขึ้นแล้ว เจ้าก็ย่อมหนีไม่พ้นความรับผิดชอบในความประมาทเช่นนี้!“จักรพรรดินีตวาดออกมาด้วยความโกรธ”เจ้าจะถูกปรับเงินเดือนสามปีและต้องอยู่ระหว่างการตรวจสอบ! หากเจ้าทำผิดพลาดแบบเดียวกันอีกครั้งในครั้งต่อไป เจ้าจะไม่ได้สวมหมวกของขุนนางอีกต่อไป ทั้งนี้ข้ายังจะจัดการเจ้าให้สิ้นชื่อไปเลย!”
“ขอบพระทัยฝ่าบาทที่กรุณา!” หวังรุยซือสูดหายใจเข้าด้วยความโล่งอก
มันแค่การลงโทษด้วยการหักเงินเดือน ตราบใดที่เขายังมีตำแหน่ง มันก็ไม่มีปัญหาอยู่แล้ว
แต่ในอนาคต เขาอาจจำเป็นต้องระมัดระวังมากยิ่งขึ้น
“การรั่วไหลนี้ส่งผลต่อความมั่นคงของเรา มันไม่อาจยอมรับได้โดยเด็ดขาด เราจำเป็นต้องลงโทษอย่างรุนแรง” จักรพรรดินีกล่าวเสียงดัง "จงตรวจสอบ! ตรวจสอบกรมโยธาทั้งภายในและภายนอก! เราต้องไม่ปล่อยใครออกไปโดยเด็ดขาด! เมื่อพบปัญหา เราจักลงโทษคนผู้นั้นอย่างรุนแรง!”
ในเวลานั้นเอง หลินเป่ยฟานก็ได้ลุกขึ้นยืน “ฝ่าบาท!”
“ท่านหลิน มีอะไรหรือ?”
“ฝ่าบาท ได้โปรดมอบหมายเรื่องนี้ให้กระหม่อมด้วย!” หลินเป่ยฟานกล่าวออกมาด้วยหัวใจที่หนักแน่น “กระหม่อมทั้งรู้สึกเสียใจและโกรธมากที่เห็นบัลลูนลมร้อนที่กระหม่อมค้นคว้ามาอย่างยากลำบากถูกทำเช่นนี้ ดังนั้นกระหม่อมจึงต้องหาผู้บงการที่อยู่เบื้องหลัง ทำให้พวกเขาได้รับการลงโทษตามสมควร!”
จักรพรรดินีหัวเราะเยาะในใจ ไอ้สารเลวนี้ กลับแสร้งทำเป็นจับโจรเสียอย่างนั้น!
ดูค่อนข้างกระตือรือร้นเชียว หรือเจ้ากำลังคิดจะขโมยของอีกแล้ว?
เมื่อไรเจ้าจะทำให้ข้าไม่ต้องมากังวลเรื่องเจ้าได้เสียที
ผิวเผิน จักรพรรดินีเองก็แสร้งทำเป็นเจ็บปวดและกล่าวว่า “ท่านหลิน ข้าได้สร้างความทุกข์ให้ท่านอย่างใหญ่หลวงยิ่ง! ความเจ็บปวดของท่านก็คือความเจ็บปวดของข้า ข้าเข้าใจดี! ถ้าเป็นเช่นนั้นข้าขอมอบหมายหน้าที่นี้ไว้ให้ท่าน!”
หลินเป่ยฟานยินดีมาก “ขอบพระทัยฝ่าบาท! กระหม่อมจะพยายามอย่างหนักไม่หยุดพักผ่อนจนกว่าจะทำหน้าที่สำเร็จ!”
นี่เป็นอีกหนึ่งในวิธีที่จะร่ำรวย!
พวกเจ้ารู้ไหมว่ามีขุนนางฉ้อราษฎร์บังหลวงกี่คนในกรมโยธา?
พวกรู้ไหมว่าผู้ที่ทำงานก่อสร้างร่ำรวยเกินกว่าจะวัดได้เพียงใด!
หากเขาไม่คว้าโอกาสนี้เพื่อตัดพวกเขาถึงรากลึก การกระทำทั้งหมดที่ผ่านมาย่อมเป็นการสูญเปล่า
เขาเงยหน้าขึ้นมองใบหน้าของจักรพรรดินี
ฝ่าบาท ข้ารักท่านยิ่ง!
จักรพรรดินีที่นั่งอยู่บนบัลลังก์มองไปที่ริมฝีปากของหลินเป่ยฟาน นางสัมผัสได้เลยว่าอีกฝ่ายกำลังคิดอะไรที่มันแปลกพิกลอยู่
นางกำหมัดแน่นและต้องการที่จะชกเขาอีกครั้ง
“นอกจากนี้แล้ว ข้าก็หวังว่าท่านจะสามารถพำนักอยู่ในกรมโยธาได้ เพราะว่าท่านอาจจะสามารถช่วยช่างฝีมือผลิตบัลลูนลมร้อนได้เร็วขึ้น! ในทางกลับกัน ข้าหวังว่าท่านจะจับตาดูผู้อื่นและไม่ปล่อยให้วิธีการสร้างนี้รั่วไหลออกมาอีก!”
หากวิธีการผลิตรั่วไหลอีกครั้ง เจ้าจะไม่สามารถหลบหนีความรับผิดชอบได้ ดังนั้นจงอย่าสร้างปัญหาให้ข้าอีก
“ขอรับฝ่าบาท!” หลินเป่ยฟานตอบกลับไปในทันที
ดังนั้นต่อไปนี้ หลินเป่ยฟานจึงน้อมรับคำสั่งของจักรพรรดิ บุกเข้าไปในกรมโยธาทันที
“การรั่วไหลของวิธีผลิตบัลลูนลมร้อนได้สร้างภัยต่อความมั่นคงของราชสำนัก ทำให้จักรพรรดินีโกรธยิ่ง!”
“องค์จักรพรรดินีได้กล่าวว่ากรมโยธาจะต้องได้รับการตรวจสอบอย่างละเอียดจากบนลงล่าง ไม่มีผู้ใดสามารถรับการยกเว้นได้! เมื่อพบปัญหาแล้ว จะต้องถูกประกาศโทษและลงโทษอย่างรุนแรงทันที!”
“หมายความว่าเช่นไรกัน...!”
หลินเป่ยฟานยิ้ม “ข้ามาที่นี่เพื่อค้นเรือนของพวกท่าน หวังว่าพวกท่านจะให้ความร่วมมือกันเป็นอย่างดี!”
ขุนนางกรมโยธาต่างตกตะลึง
"อะไรนะ? เจ้าจะค้นเรือนของพวกเรางั้นเหรอ?”
"ไม่ได้อย่างแน่นอน!"
"หลินเป่ยฟานนั้นโลภเกินไป เราจะปล่อยให้เขาเข้ามาในเรือนเราไม่ได้เด็ดขาด!”
“ท่านหวัง ได้โปรดพูดแทนพวกเราด้วย!”
…
เหล่าขุนนางต่างรู้สึกกระวนกระวายมาก
หลินเป่ยฟานยิ้มให้หัวหน้าของกรมโยธา “ท่านหวัง พวกเขาดูไม่ให้ความร่วมมือเลยนะ! ช่วยข้าหน่อยได้ไหม? มิฉะนั้นข้าอาจลงเอยด้วยการทำงานหนักเกินไป จนทำให้เพื่อนร่วมงานของข้าต้องขุ่นเคืองเป็นแน่!”
หวังรุยซือ หัวหน้ากรมโยธาเหนื่อยและอ่อนแรงมากกับเรื่องที่พบเจอมา เขาจึงกล่าวว่า “นี่เป็นคำสั่งของจักรพรรดินี ดังนั้นพวกเจ้าทุกคนโปรดร่วมมือกับท่านหลินด้วย! มิฉะนั้นหากพวกเจ้าทำสิ่งใดผิดขึ้นมา ข้าก็คงจะไม่สามารถช่วยเจ้าได้!”
“ท่านหวัง!”
“ท่านหวัง!”
…
ทุกคนตกใจมาก กระทั่งท่านหวังก็ไม่สามารถต่อต้านอีกฝ่ายได้
“พวกท่านทุกคนได้ยินคำพูดของท่านหวังแล้วใช่ไหม? ข้าหวังว่าพวกท่านจะให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี ไม่เช่นนั้นข้าจะตั้งข้อหากบฏและไม่ให้ความเมตตาแก่พวกท่านสักคน!” หลินเป่ยฟานตะโกน
เหล่าขุนนางตัวสั่นสะท้าน รู้สึกราวกับว่าท้องฟ้ากำลังจะถล่มลงมา
. โต้วเอ๋อ เป็นตัวเอกของงิ้วเรื่อง “โต้วเอ๋อยวน” หรือที่เรียกว่า “ความยุติธรรมของโต้วเอ๋อ” ละครเรื่องนี้เป็นละครของราชวงศ์หยวน เขียนโดยกวนฮันชิงและได้รับการยกย่องว่าเป็นหนึ่งใน "บทละครงิ้วที่ยิ่งใหญ่จากทั้งสี่เรื่อง" เนื้อเรื่องวนเวียนอยู่กับการต่อสู้ของโต้วเอ๋อ หญิงสาวที่ถูกกล่าวหาและลงโทษอย่างผิดๆ ในความผิดที่นางไม่ได้ก่อ ละครเรื่องนี้ได้รับการปรับให้เข้ากับสื่อรูปแบบต่างๆ จนเป็นที่รู้จักอย่างกว้างขวางในวัฒนธรรมจีน