บทที่ 104 ซืออวี๋ผู้น่าสงสาร
“พรสวรรค์ฝึกสัตว์อสูรของเขาคือพรสวรรค์การเสริมพลังมิติ”
เมื่อกล่าวถึงพรสวรรค์นี้ เจิ้งอิ๋งเจียก็แสดงสีหน้าอิจฉาออกมาจนน้ำลายเกือบไหล
“เจ้าไม่ได้เพิ่งบอกว่ามันเป็นพรสวรรค์พิเศษหรอกเหรอ? ทำไมมันถึงเป็นพรสวรรค์การเสริมพลัง…” ซืออวี๋เม้มรอมฝีปากของเขา
“อ่า ขอโทษ มีสองพรสวรรค์การเสริมพลังมิติ หนึ่งคือพรสวรรค์การเสริมพลังมิติซึ่งจัดอยู่ในหมวดหมู่การเสริมพลัง มันใช้กับสัตว์อสูร มันแข็งแกร่งมากเช่นเดียวกัน”
“พรสวรรค์ฝึกสัตว์อสูรของเขาก็คือ ‘การเสริมพลังมิติฝึกสัตว์อสูร’ มันใช้กับตัวเอง ดังนั้นมันจึงเป็นประเภทพิเศษ มันสามารถเสริมพลังความแข็งแกร่ง ขนาด และสภาพแวดล้อมของมิติฝึกสัตว์อสูรได้”
“ยกตัวอย่างเช่น นักฝึกสัตว์อสูรฝึกหัดธรรมดาสามารถทำสัญญากับสัตว์อสูรได้เพียงหนึ่งตัว พวกเขาสามารถทำสัญญากับสัตว์อสูรเผ่าพันธุ์ระดับเหนือธรรมชาติได้เท่านั้น ทว่าด้วยพรสวรรค์นี้ พวกเขาสามารถทำสัญญากับสัตว์อสูรได้สองตัวในระดับฝึกหัดและทำสัญญากับสัตว์อสูรเผ่าพันธุ์ผู้บัญชาการได้”
“มิติฝึกสัตว์อสูร หลังจกามันถึงระดับสองแล้ว จะทำให้ขีดจำกัดสูงสุดสามารภทำสัญญากับสัตว์อสูรสี่ตัวซึ่งเป็นสองเท่าของนักฝึกสัตว์อสูรธรรมดา ในขณะเดียวกัน ระดับการเติบโตและระดับเผ่าพันธุ์ของสัตว์อสูรที่ทำสัญญาได้ก็จะสูงกว่าสัตว์อสูรในระดับเดียวกันมาก!”
“นี่คือพรสวรรค์ฝึกสัตว์อสูรของนักฝึกสัตว์อสูรหยินจงกรงซึ่งเป็นตำนานของเมืองหลวงโบราณ หากลูกชายของเขาได้รับพรสวรรค์นี้ด้วย นั่นคงจะสุดยอดมาก เขาจะเป็นนักฝึกสัตว์อสูรตำนานในอนาคตอย่างแน่นอน”
พรสวรรค์การเสริมพลังมิติฝึกสัตว์อสูรเหรอ?
ซืออวี๋ตกตะลึง พรสวรรค์ของชายผู้นี้ไร้หลักวิทยาศาสตร์มาก!
มันเป็นสูตรโกง!
นักฝึกสัตว์อสูรคนอื่นจะรับมือกับพรสวรรค์นี้ได้ยังไงกัน?
อย่างไรก็ตาม… สารบัญทักษะของเขาก็ไม่ได้ดีกว่ากันมากนัก ดูเหมือนมันจะโกงกว่าในด้านอื่นเช่นเดียวกัน
เขาเชี่ยวชาญหนึ่งในทักษะผสานซึ่งมีเฉพาะนักฝึกสัตว์อสูรปรมจารย์เท่านั้น
ในทางกลับกัน นักฝึกสัตว์อสูรที่มีพรสวรรค์การเสริมพลังมิติฝึกสัตว์อสูรสามารถเพลิดเพลินประโยชน์ของมิติฝึกสัตว์อสูรที่ระดับสูงกว่าในระดับต่ำ
เขารู้สึกว่าพรสวรรค์ฝึกสัตว์อสูรนี้หอมหวนมาก
[สารบัญทักษะ เจ้าต้องระวังให้ดี ไม่เป็นไรหากมีการจำกัดจำนวนการจำลองทักษะ และไม่เป็นไรหากค่าใช้จ่ายในการสอนสูง ทว่าเจ้าควรจะดียิ่งกว่านี้ เมื่อไหร่เจ้าจะพัฒนาความสามารถในการจำลองพรสวรรค์ฝึกสัตว์อสูรขึ้นมาล่ะ?] ซืออวี๋คิดกับตัวเอง
ซืออวี๋แสดงออกว่าเขาต้องการพรสวรรค์นี้เช่นเดียวกัน
“พรสวรรค์นี้ไม่ต่ำในสามสิบอันดับแรก ข้ารู้สึกว่ามันสามารถติดยี่สิบอันดับแรกนับตั้งแต่สมัยโบราณได้” หวังเล่อกล่าวออกมา
เจิ้งอิ๋งเจียกล่าวว่าพรสวรรค์การเสริมพลังมิติฝึกสัตว์อสูรสามารถติดอยู่ในสามสิบอันดับแรกของพรสวรรค์ฝึกสัตว์อสูรทั้งหมดได้ เกี่ยวกับเรื่องนี้ หวังเล่อปฏิเสธความคิดเห็นของเจิ้งอิ๋งเจีย
“ใครสน? เรื่องเช่นนี้ไม่เคยมีการจัดอันดับอย่างเป็นทางการมาก่อน สรุปแล้ว มันแข็งแกร่งมาก” เจิ้งอิ๋งเจียกล่าวเสริมว่า “ทว่ายิ่งพรสวรรค์ฝึกสัตว์อสูรทรงพลังมากเพียงใด ภาระของนักฝึกสัตว์อสูรก็จะยิ่งมากขึ้นเท่านั้น”
“ข้าได้ยินมาว่าเงินของตำนานหยินที่ใช้ในการซื้อทรัพยากรบ่มเพาะทุกปีนั้นบ้ามาก เจ้าสามารถเดินทางรอบโลกได้ด้วยเงินจำนวนนั่น การเพิ่มระดับมิติฝึกสัตว์อสูรสำหรับคนธรรมดานั้นยากมากพออยู่แล้ว การเพิ่มระดับมิติฝึกสัตว์อสูรสำหรับนักฝึกสัตว์อสูรที่มีพรสวรรค์การเสริมพลังมิติฝึกสัตว์อสูรนั้นยากยิ่งกว่า มันเป็นพรสวรรค์ของคนรวย”
“อย่างไรก็ตาม ด้วยการมีพ่อเป็นระดับตำนาน ลูกชายของตำนานหยินจึงควรจะสามารถบ่มเพาะได้อย่างสบายใจ เขาอาจเติบโตมาบนกองหินไร้ตัวตน สัตว์อสูรตัวแรกของเขาต้องเป็นเผ่าพันธุ์ระดับสูง!”
‘พ่อของข้าคือนักฝึกสัตว์อสูรระดับตำนาน’ เจิ้งอิ๋งเจียต้องการกล่าวประโยคดังกล่าวเช่นกัน
นี่คือการประเมินมืออาชีพเหรอ? เขาเข้าร่วมการประเมินมืออาชีพตอนอายุ 12 ปีเพื่อโจมตีผู้คน
ทุกคนมองไปที่ซืออวี๋อย่างพร้อมเพรียงและแปลกประหลาด ซืออวี๋ดูสงบมากในขณะนั้น ดูราวกับว่าเขาจะไม่กดดันเลย?
เกิดอะไรขึ้น? ทำไมเขาไม่กังวลล่ะ?
ซืออวี๋ตกตะลึงและกล่าวว่า “พวกเจ้ามองข้าเพื่ออะไรกัน?”
มีการจัดอันดับสำหรับผู้ที่ผ่านการประเมินมืออาชีพเช่นเดียวกัน การจัดอันดับยังเป็นเป้าหมายของนักฝึกสัตว์อสูรกึ่งมืออาชีพหลายคน
พวกเขาสองสามคนคิดว่าซืออวี๋ขี้เกียจและไม่ต้องการแข่งขัน
“เจ้าไม่แข่งเหรอ?” รุ่นพี่แพนด้าผิงผนังและกอดหน้าอกของนาง นางยิ้มและมองเห็นธรรมชาติที่แท้จริงของซือวี๋
กล่าวตามตรง คนอย่างซืออวี๋นั้นขาดแรงจูงใจ
“อีเลฟเว่นเชี่ยวชาญหลายทักษะที่ทรงพลังและแม้กระทั่งทักษะผสาน มันไม่จำเป็นต้องด้อยไปกว่าสัตว์อสูรเผ่าพันธุ์ระดับผู้บัญชาการพวกนั้น”
“ทำไมเจ้าไม่ลองดูล่ะ? ยิ่งอันดับของเจ้าสูงมากเพียงใด ผลประโยชน์ก็จะยิ่งเพิ่มมากขึ้นเท่านั้น”
“ตัวอย่างเช่น หากเจ้าสามารถติดยี่สิบอันดับแรกของการประเมินปีนี้ได้และเข้าสู่มหาวิทยาลัยเมืองหลวงโบราณ ไม่เพียงแค่เจ้าจะได้รับการยกเว้นค่าเรียน 4 ปีเท่านั้น ทว่าทางมหาวิทยาลัยยังมอบทุนการศึกษาและหน่วยกิตจำนวนมากให้อีกเช่นเดียวกันซึ่งสามารถแลกเปลี่ยนเป็นทรัพยากรต่างๆ ได้”
“สำหรับห้าอันดับแรก… มหาวิทยาลัยจะมอบลูกสัตว์อสูรเผ่าพันธุ์ระดับผู้บัญชาการให้แก่เจ้าหนึ่งตัวซึ่งมีราคาไม่เกิน 10 ล้านหยวน”
“อันดับแรก อืม… ควรจะมีทรัพยากรบ่มเพาะมูลค่านับสิบล้านหยวน หลังจากการประเมินมืออาชีพ เป็นเรื่องปกติมากที่จะพยายามดึงดูดผู้คนเข้ามา เหตุผลหลักก็คือเพื่อป้องกันไม่ให้นักฝึกสัตว์อสูรอัจฉริยะที่เข้าประเมินในเมืองหลวงโบราณถูกดึงตัวไปยังมหาวิทยาลัยชั้นนำอื่น ดังนั้นทางมหาวิทยาลัยเมืองหลวงโบราณจึงจะใช้เงินมหาศาลเพื่อรักษาอัจฉริยะพวกนี้ไว้” รุ่นพี่แพนด้ากล่าวออกมา
นี่คือข้อดีของการได้อยู่ในมหาวิทยาลัยชั้นนำ ตราบใดที่เจ้ามีพสวรรค์ พวกเขาก็จะได้รับทรัพยากรมหาศาลซึ่งง่ายกว่าการได้รับทรัพยากรจากที่อื่นท่ก
“ถูกต้อง รุ่นน้องซืออวี๋พยายามเข้า มีโอกาสเพียงครั้งเดียวเท่านั้น” เจิ้งอิ๋งเีจยและคนอื่นกล่าวออกมา
ในขณะนี้ หลังจากที่ทุกคนกล่าวจบ ซืออวี๋ก็ตกตะลึงเล็กน้อย
ไม่ใช่ผลประโยชน์ลับ ทว่าเป้นทองและเงินอย่างแท้จริง? พวกเขาตรงไปตรงมามาก?
เขาได้ตัดสินใจลงทะเบียนเรียนในสาขาโบราณคดีของมหาวิทยาลัยเมืองหลวงโบราณแล้ว เนื่องจากถูกแนะนำโดยรุ่นพี่หลู่ ผลประโยชน์และการดูแลจึงไม่เลวนัก
อย่างไรก็ตาม นี่เป็นเรื่องน่าสงสัยเล็กน้อย…
หากเขาสามารถใช้ศักยภาพของเขาในการได้รับทรัพยากร เขาอาจจะใช้มันได้สดวกมากยิ่งขึ้น ท้ายที่สุด การค้นพบซากปรักหักพังอสูรกินเหล็กก็ถือได้ว่าเป็นส่วนหนึ่ง นอกเหนือจากการประเมินมืออาชีพแล้ว มันควรจะสามารถแสดงถึงศักยภาพที่ครอบคลุมของเขาได้… มหาวิทยาลัยแห่งนี้อาจเป็นสถานที่ซึ่งดีมากสำหรับการพัฒนา
“ข้าไม่ได้บอกว่าเราจะไม่แข่งขัน… ทว่าไม่จำเป็นต้องเสี่ยงชีวิตของเรา มาแสดงตามปกติดีกว่า” ซืออวี๋กล่าวอย่างจริงจัง
ในตอนแรก เขาก็ได้เตรียมตัวที่จะทดสอบผลลัพธ์การฝึกฝนของเขาด้วยการประเมินมืออาชีพ ในคราวนี้ เขามีเหตุผลที่สำคัญยิ่งกว่า…
เอาล่ะ… ไม่ว่าจะเป็นมังกรหรือจิตวิญญาณมังกร หรือเด็กอายุ 12 ปี แม้ว่าเขาจะยังไม่รู้ว่าพวกเขาทรงพลังเพียงใด… แต่เพื่อประโยชน์ของทุนการศึกษา เชิญสัมผัสกับน้ำหนักของอาหารเสริมนับสิบล้านหยวน
…
ในคืนนั้น เมื่อเขาได้ยินว่าซืออวี๋กลับมายังเมืองหลวงโบราณ ปรมจารย์หลินจึงกลับมาที่สถาบันวิจัยอสูรกินเหล็กเช่นเดียวกัน
เพื่อศึกษาการวิวัฒนาการของอสูรกินเหล็กและค้นหาวัสดุทดลอง เขาจึงยุ่งมากจนหนังศีรษะของเขาช้า
ตัวอย่างเช่น การวิจัยวัสดุวิวัฒนาการที่กำหนดศักยภาพวิวัฒนาการของอสูรกินเหล็กไม่ใช่เรื่องเลวร้าย มันเป็นเรื่องที่ดีมาก
เรื่องนี้ลดเงื่อนไขสำหรับนักฝึกสัตว์อสูรธรรมดาในการบ่มเพาะอสูรกินเหล็กเพื่อวิวัฒนาการได้เป็นอย่างมาก เรื่องนี้ทำให้อสูรกินเหล็กมีมูลค่าสูงในตลาดระดับต่ำ ระดับกลาง และระดับสูง
น่าเสียดายที่อสูรกินเหล็กแสดงมูลค่าด้านการต่อสู้เท่านั้น
ตอนนี้สมาคมนักฝึกสัตว์อสูรชื่นชอบเผ่าพันธุ์สัตว์อสูรที่มีเงื่อนไขต่ำสำหรับการวิวัฒนาการและสามารถวิวัฒนาการได้อย่างราบรื่นและก่อให้เกิดผลประโยชน์ทางการเงินมหาศาล
ตัวอย่างเช่น สัตว์อสูรที่สามารถผลิตทรัพยากรได้คือสัตว์อสูรที่สามารถสร้างผลประโยชน์ทางการเงินได้
และสัตว์อสูรที่สามารถทำฟาร์มได้
สัตว์อสูรประเภทนี้ที่เชี่ยวชาญความสามารถพิเศษเป็นความต้องการหลักในยุคปัจจุบัน
นี่เป็นเหตุผลว่าทำไมนักวิจัยบางคนจึงศึกษาวิวัฒนาการของหนอนไหมเขียวเพื่อแลกเปลี่ยนกับชื่อเสียงและผลประโยชน์ หนอนไหมเขียวมีความยืดหยุ่นสูงและมีทิศทางการวิวัฒนาการที่หลากหลาย บางทีพวกมันอาจพัฒนารูปแบบวิวัฒนาการที่สามารถสร้างการเปลี่ยนแปลงได้
อย่างไรก็ตาม รูปแบบวิวัฒนาการของอสูรกินเหล็กก็ไม่เลวเช่นเดียวกัน ท้ายที่สุด ขีดจำกัดสูงสุดก็คือพลังต่อสู้ระดับสูงที่อาจใกล้เคียงกับระดับผู้ปกครอง หากพลังต่อสู้ระดับสูงถูกโยนเข้าไปในตลาดในอนาคต ผลประโยชน์ทางเศรษฐกิจก็ไม่เลวเลย บางทีอาจดีกว่าด้วยซ้ำ
ด้วยระดับเผ่าพันธุ์ดังกล่าวและความจริงที่ว่าอสูรกินเหล็กเป็นสัตว์อสูรเฉพาะของตงหวง ไม่ใช่เรื่องเป็นไปไม่ได้ที่อสูรกินเหล็กจะกลายเป็น ‘สมบัติแห่งชาติ’ ของประเทศ
เป้าหมายสุดท้ายของกลุ่มวิจัยอสูรกินเหล็กก็คือการทำให้อสูรกินเหล็กเป็นหนึ่งในสมบัติแห่งชาติ
ไม่ว่านั่นจะประสบความสำเร็จหรือไม่ เมื่อถึงเวลา ซืออวี๋ผู้ที่ค้นพบว่าอสูรกินเหล็กมีการวิวัฒนาการ เขาจะโด่งดังอย่างแน่นอน เขาจะได้รับทั้งชื่อเสียงและโชคลาภโดยตรง
“ดีมาก”
ในตอนกลางคืน เนื่องจากซืออวี๋กล่าวว่าเขาต้องการเห็นวิวัฒนาการอสูรกินเหล็ก ปรมจารย์หลินฮงเหนียนจึงปล่อยให้อสูรกินเหล็กของเขาออกมา
จากนั้้นพวกเขาก็เห็นซืออวี๋สัมผัสและลูบมันราวกับเขาพบญาติ ทิ้งให้อสูรกินเหล็กของหลินฮงเหนียนสูญเสีย
ชายผู้นี้ไม่แม้กระทั่งลูบลูกอสูรกินเหล็กของตัวเองเลย ทำไมเขาถึงต้องลูบอสูรกินเหล็กอายุยี่สิบปีด้วยล่ะ?
[ยืนยันการบันทึก]
[ทักษะ] : พลังภายใน
[ระดับทักษะ] : สุดยอด
[สถานะ] : ไม่มีเป้าหมาย
ไม่นานนัก ซืออวี๋ก็หยุดด้วยรอยยิ้ม
ทักษะอื่นไม่สำคัญ เขาต้องให้อีเลฟเว่นเรียนรู้ทักษะเทพนี้อย่างรวดเร็ว
หลังจากการวิจัยของหลินฮงเหนียน ทักษะนี้มีเพียงต่อสู้ที่แข็งแกร่งโดยไม่ต้องเสียอะไรมากนัก
ตราบใดที่อสูรกินเหล็กไม่ปลดปล่อยความแข็งแกร่งของมันและอยู่ในสถานะยับยั้งและน่ารัก มันก็จะเป็นการสะสมความแข็งแกร่ง
มันเทียบได้กับการที่อสูรกินเหล็กสามารถสะสมพลังงานเพิ่มเติมในร่างกายอย่างช้าๆ และเฝ้ารอการปะทุโดยตรง
ตอนนี้ ซืออวี๋สงสัยมากว่าเขาสามารถสอนทักษะระดับสุดยอดด้วยร่างกายของเขาหรือไม่
ในขณะที่เขากังวลมากเกินไปในการตรวจสอบมัน ซืออวี๋ไม่ได้พูดคุยกับปรมจารย์หลินและคนอื่นเกี่ยวกับความคืบหน้าของการวิจัยและการประเมินมืออาชีพนานเกินไป เขากลับไปที่ห้องโดยตรงและอัญเชิญอีเลฟเว่นออกมา
“หือ?”
หลังจากออกมาจากซากปรักหักพัง อีเลฟเว่นก็มองไปที่ซืออวี๋ด้วยความสับสน
จากนั้นมันก็เห็นสีหน้าของซืออวี๋อย่างรวดเร็ว
ซืออวี่เผยให้เห็นถึงสีหน้าอันสิ้นหวัง
[ทักษะ] : พลังภายใน
[สถานะ] : ไม่สามารถสอนได้
“บัดซ*! ทำไมกัน!”
ซืออวี๋ : ¥#% # ¥#% #% #
อีเลฟเว่น :…
มันเป็นเช่นเดียวกับทักษะระดับสุดยอด การควบคุมพืช!
มันไม่สามารถสอนได้!
ในเวลานั้น ซืออวี๋ได้สรุปเหตุผสสามข้อ
สองเหตุผลก็คืออสูรกินเหล็กมีความเข้ากันได้ไม่เพียงพอและความแข็งแกร่งไม่เพียงพอ
ซืออวี๋ไม่เชื่อว่าอีเลฟเว่นจะไม่ตรงกับสองเงื่อนไขนี้
ดังนั้นมันอาจจะเป็นเหตุผลที่สาม?
เหตุผลที่สาม ร่างกายของเขายังอ่อนแอเกินไปและไม่สามารถทนต่อการสอนทักษะระดับสุดยอดได้ สารบัญทักษะกลัวว่าเขาจะตาย ดังนั้นมันจึงไม่ยอมให้เขาสอน มันอาจเป็นกลไกป้องกันตัวเองเช่นเดียวกับเวลาคูลดาวน์… ซืออวี่เกลียดมันมาก!
ตามที่คาดไว้ มันเป็นเพราะเขาอ่อนแอเกินไป?
“อู๋ อู๋?”
แม้ว่าอีเลฟเว่นจะไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น แต่มันก็อดดไม่ไดที่จะลูบต้นขาของซืออวี๋อย่างปลอบโดยนเมื่อเห็นสีหน้าอันหดหู่ของเขา
ไม่เป็นไร ไม่เป็นไร ผ่อนคลาย เขายังมีอีเลฟเว่นและบักกี้อยู่เคียงข้างเขา!
“ขัายังคงเกลียดมัน” ดวงตาของซืออวี๋เต็มไปด้วยน้ำตา
ต้องใช้เวลาเกือบหนึ่งสัปดาห์ในการสอนทักษะระดับสูง ดังนั้นทักษะระดับสุดยอดจึงน่าสะพรึงมากกว่า… เขาจะสอนพวกมันได้เมื่อไหร่กัน?
นี่ยังคงเป็นทักษะระดับสุดยอดขั้นเริ่มต้น หากเขายังต้องการเพิ่มความเชี่ยวชาญ ซืออวี๋ไม่กล้าที่จะจินตนาการว่าเขาจะเป็นยังไง
ไม่เพียงแค่ความยากในการเรียนรู้จะสูงกว่าทักษะรดับต่ำเท่านั้น ทว่ายังเป็นเรื่องยาทกี่จะเพิ่มความเชี่ยวชาญในอนาคต… นั่นเหนื่อยมาก
“อู๋!”
อีเลฟเว่นเงยหน้าขึ้น ตอนนี้ทุกอย่างเรียบร้อยดีใช่ไหม? ถ้าเช่นนั้นก็กลับไปฝึก!
“ใช่แล้ว” ซืออวี๋กล่าวอย่างอ่อนแอ “ถึงเวลาสำหรับการประเมินมืออาชีพแล้ว เพียงแค่ออกกำลังกายอย่างเหมาะสมก็พอ ทำไมเจ้าต้องฝึกด้วยล่ะ? มาสิ ทำข้อสอบกับข้าสองชุด หลังจากนั้นก็เปลี่ยนเป็นเตียงยักษ์และนอน”
“???”
อีเฟลเว่น : (๑ ╯ ╰ ) ปล่อยให้บักกี้ทำสิ มันเปลี่ยนได้หลายอย่างกว่าข้ามาก!!
Fanpage : ผีเสื้อกลางคืน