ตอนที่แล้วบทที่ 103 ความคืบหน้าของกลุ่มวิจัยอสูรกินเหล็ก
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปบทที่ 105 ร้านอาหารต่อสู้

บทที่ 104 ซืออวี๋ผู้น่าสงสาร


“พรสวรรค์ฝึกสัตว์อสูรของเขาคือพรสวรรค์การเสริมพลังมิติ”

เมื่อกล่าวถึงพรสวรรค์นี้ เจิ้งอิ๋งเจียก็แสดงสีหน้าอิจฉาออกมาจนน้ำลายเกือบไหล

“เจ้าไม่ได้เพิ่งบอกว่ามันเป็นพรสวรรค์พิเศษหรอกเหรอ? ทำไมมันถึงเป็นพรสวรรค์การเสริมพลัง…” ซืออวี๋เม้มรอมฝีปากของเขา

“อ่า ขอโทษ มีสองพรสวรรค์การเสริมพลังมิติ หนึ่งคือพรสวรรค์การเสริมพลังมิติซึ่งจัดอยู่ในหมวดหมู่การเสริมพลัง มันใช้กับสัตว์อสูร มันแข็งแกร่งมากเช่นเดียวกัน”

“พรสวรรค์ฝึกสัตว์อสูรของเขาก็คือ ‘การเสริมพลังมิติฝึกสัตว์อสูร’ มันใช้กับตัวเอง ดังนั้นมันจึงเป็นประเภทพิเศษ มันสามารถเสริมพลังความแข็งแกร่ง ขนาด และสภาพแวดล้อมของมิติฝึกสัตว์อสูรได้”

“ยกตัวอย่างเช่น นักฝึกสัตว์อสูรฝึกหัดธรรมดาสามารถทำสัญญากับสัตว์อสูรได้เพียงหนึ่งตัว พวกเขาสามารถทำสัญญากับสัตว์อสูรเผ่าพันธุ์ระดับเหนือธรรมชาติได้เท่านั้น ทว่าด้วยพรสวรรค์นี้ พวกเขาสามารถทำสัญญากับสัตว์อสูรได้สองตัวในระดับฝึกหัดและทำสัญญากับสัตว์อสูรเผ่าพันธุ์ผู้บัญชาการได้”

“มิติฝึกสัตว์อสูร หลังจกามันถึงระดับสองแล้ว จะทำให้ขีดจำกัดสูงสุดสามารภทำสัญญากับสัตว์อสูรสี่ตัวซึ่งเป็นสองเท่าของนักฝึกสัตว์อสูรธรรมดา ในขณะเดียวกัน ระดับการเติบโตและระดับเผ่าพันธุ์ของสัตว์อสูรที่ทำสัญญาได้ก็จะสูงกว่าสัตว์อสูรในระดับเดียวกันมาก!”

“นี่คือพรสวรรค์ฝึกสัตว์อสูรของนักฝึกสัตว์อสูรหยินจงกรงซึ่งเป็นตำนานของเมืองหลวงโบราณ หากลูกชายของเขาได้รับพรสวรรค์นี้ด้วย นั่นคงจะสุดยอดมาก เขาจะเป็นนักฝึกสัตว์อสูรตำนานในอนาคตอย่างแน่นอน”

พรสวรรค์การเสริมพลังมิติฝึกสัตว์อสูรเหรอ?

ซืออวี๋ตกตะลึง พรสวรรค์ของชายผู้นี้ไร้หลักวิทยาศาสตร์มาก!

มันเป็นสูตรโกง!

นักฝึกสัตว์อสูรคนอื่นจะรับมือกับพรสวรรค์นี้ได้ยังไงกัน?

อย่างไรก็ตาม… สารบัญทักษะของเขาก็ไม่ได้ดีกว่ากันมากนัก ดูเหมือนมันจะโกงกว่าในด้านอื่นเช่นเดียวกัน

เขาเชี่ยวชาญหนึ่งในทักษะผสานซึ่งมีเฉพาะนักฝึกสัตว์อสูรปรมจารย์เท่านั้น

ในทางกลับกัน นักฝึกสัตว์อสูรที่มีพรสวรรค์การเสริมพลังมิติฝึกสัตว์อสูรสามารถเพลิดเพลินประโยชน์ของมิติฝึกสัตว์อสูรที่ระดับสูงกว่าในระดับต่ำ

เขารู้สึกว่าพรสวรรค์ฝึกสัตว์อสูรนี้หอมหวนมาก

[สารบัญทักษะ เจ้าต้องระวังให้ดี ไม่เป็นไรหากมีการจำกัดจำนวนการจำลองทักษะ และไม่เป็นไรหากค่าใช้จ่ายในการสอนสูง ทว่าเจ้าควรจะดียิ่งกว่านี้ เมื่อไหร่เจ้าจะพัฒนาความสามารถในการจำลองพรสวรรค์ฝึกสัตว์อสูรขึ้นมาล่ะ?] ซืออวี๋คิดกับตัวเอง

ซืออวี๋แสดงออกว่าเขาต้องการพรสวรรค์นี้เช่นเดียวกัน

“พรสวรรค์นี้ไม่ต่ำในสามสิบอันดับแรก ข้ารู้สึกว่ามันสามารถติดยี่สิบอันดับแรกนับตั้งแต่สมัยโบราณได้” หวังเล่อกล่าวออกมา

เจิ้งอิ๋งเจียกล่าวว่าพรสวรรค์การเสริมพลังมิติฝึกสัตว์อสูรสามารถติดอยู่ในสามสิบอันดับแรกของพรสวรรค์ฝึกสัตว์อสูรทั้งหมดได้ เกี่ยวกับเรื่องนี้ หวังเล่อปฏิเสธความคิดเห็นของเจิ้งอิ๋งเจีย

“ใครสน? เรื่องเช่นนี้ไม่เคยมีการจัดอันดับอย่างเป็นทางการมาก่อน สรุปแล้ว มันแข็งแกร่งมาก” เจิ้งอิ๋งเจียกล่าวเสริมว่า “ทว่ายิ่งพรสวรรค์ฝึกสัตว์อสูรทรงพลังมากเพียงใด ภาระของนักฝึกสัตว์อสูรก็จะยิ่งมากขึ้นเท่านั้น”

“ข้าได้ยินมาว่าเงินของตำนานหยินที่ใช้ในการซื้อทรัพยากรบ่มเพาะทุกปีนั้นบ้ามาก เจ้าสามารถเดินทางรอบโลกได้ด้วยเงินจำนวนนั่น การเพิ่มระดับมิติฝึกสัตว์อสูรสำหรับคนธรรมดานั้นยากมากพออยู่แล้ว การเพิ่มระดับมิติฝึกสัตว์อสูรสำหรับนักฝึกสัตว์อสูรที่มีพรสวรรค์การเสริมพลังมิติฝึกสัตว์อสูรนั้นยากยิ่งกว่า มันเป็นพรสวรรค์ของคนรวย”

“อย่างไรก็ตาม ด้วยการมีพ่อเป็นระดับตำนาน ลูกชายของตำนานหยินจึงควรจะสามารถบ่มเพาะได้อย่างสบายใจ เขาอาจเติบโตมาบนกองหินไร้ตัวตน สัตว์อสูรตัวแรกของเขาต้องเป็นเผ่าพันธุ์ระดับสูง!”

‘พ่อของข้าคือนักฝึกสัตว์อสูรระดับตำนาน’ เจิ้งอิ๋งเจียต้องการกล่าวประโยคดังกล่าวเช่นกัน

นี่คือการประเมินมืออาชีพเหรอ? เขาเข้าร่วมการประเมินมืออาชีพตอนอายุ 12 ปีเพื่อโจมตีผู้คน

ทุกคนมองไปที่ซืออวี๋อย่างพร้อมเพรียงและแปลกประหลาด ซืออวี๋ดูสงบมากในขณะนั้น ดูราวกับว่าเขาจะไม่กดดันเลย?

เกิดอะไรขึ้น? ทำไมเขาไม่กังวลล่ะ?

ซืออวี๋ตกตะลึงและกล่าวว่า “พวกเจ้ามองข้าเพื่ออะไรกัน?”

มีการจัดอันดับสำหรับผู้ที่ผ่านการประเมินมืออาชีพเช่นเดียวกัน การจัดอันดับยังเป็นเป้าหมายของนักฝึกสัตว์อสูรกึ่งมืออาชีพหลายคน

พวกเขาสองสามคนคิดว่าซืออวี๋ขี้เกียจและไม่ต้องการแข่งขัน

“เจ้าไม่แข่งเหรอ?” รุ่นพี่แพนด้าผิงผนังและกอดหน้าอกของนาง นางยิ้มและมองเห็นธรรมชาติที่แท้จริงของซือวี๋

กล่าวตามตรง คนอย่างซืออวี๋นั้นขาดแรงจูงใจ

“อีเลฟเว่นเชี่ยวชาญหลายทักษะที่ทรงพลังและแม้กระทั่งทักษะผสาน มันไม่จำเป็นต้องด้อยไปกว่าสัตว์อสูรเผ่าพันธุ์ระดับผู้บัญชาการพวกนั้น”

“ทำไมเจ้าไม่ลองดูล่ะ? ยิ่งอันดับของเจ้าสูงมากเพียงใด ผลประโยชน์ก็จะยิ่งเพิ่มมากขึ้นเท่านั้น”

“ตัวอย่างเช่น หากเจ้าสามารถติดยี่สิบอันดับแรกของการประเมินปีนี้ได้และเข้าสู่มหาวิทยาลัยเมืองหลวงโบราณ ไม่เพียงแค่เจ้าจะได้รับการยกเว้นค่าเรียน 4 ปีเท่านั้น ทว่าทางมหาวิทยาลัยยังมอบทุนการศึกษาและหน่วยกิตจำนวนมากให้อีกเช่นเดียวกันซึ่งสามารถแลกเปลี่ยนเป็นทรัพยากรต่างๆ ได้”

“สำหรับห้าอันดับแรก… มหาวิทยาลัยจะมอบลูกสัตว์อสูรเผ่าพันธุ์ระดับผู้บัญชาการให้แก่เจ้าหนึ่งตัวซึ่งมีราคาไม่เกิน 10 ล้านหยวน”

“อันดับแรก อืม… ควรจะมีทรัพยากรบ่มเพาะมูลค่านับสิบล้านหยวน หลังจากการประเมินมืออาชีพ เป็นเรื่องปกติมากที่จะพยายามดึงดูดผู้คนเข้ามา เหตุผลหลักก็คือเพื่อป้องกันไม่ให้นักฝึกสัตว์อสูรอัจฉริยะที่เข้าประเมินในเมืองหลวงโบราณถูกดึงตัวไปยังมหาวิทยาลัยชั้นนำอื่น ดังนั้นทางมหาวิทยาลัยเมืองหลวงโบราณจึงจะใช้เงินมหาศาลเพื่อรักษาอัจฉริยะพวกนี้ไว้” รุ่นพี่แพนด้ากล่าวออกมา

นี่คือข้อดีของการได้อยู่ในมหาวิทยาลัยชั้นนำ ตราบใดที่เจ้ามีพสวรรค์ พวกเขาก็จะได้รับทรัพยากรมหาศาลซึ่งง่ายกว่าการได้รับทรัพยากรจากที่อื่นท่ก

“ถูกต้อง รุ่นน้องซืออวี๋พยายามเข้า มีโอกาสเพียงครั้งเดียวเท่านั้น” เจิ้งอิ๋งเีจยและคนอื่นกล่าวออกมา

ในขณะนี้ หลังจากที่ทุกคนกล่าวจบ ซืออวี๋ก็ตกตะลึงเล็กน้อย

ไม่ใช่ผลประโยชน์ลับ ทว่าเป้นทองและเงินอย่างแท้จริง? พวกเขาตรงไปตรงมามาก?

เขาได้ตัดสินใจลงทะเบียนเรียนในสาขาโบราณคดีของมหาวิทยาลัยเมืองหลวงโบราณแล้ว เนื่องจากถูกแนะนำโดยรุ่นพี่หลู่ ผลประโยชน์และการดูแลจึงไม่เลวนัก

อย่างไรก็ตาม นี่เป็นเรื่องน่าสงสัยเล็กน้อย…

หากเขาสามารถใช้ศักยภาพของเขาในการได้รับทรัพยากร เขาอาจจะใช้มันได้สดวกมากยิ่งขึ้น ท้ายที่สุด การค้นพบซากปรักหักพังอสูรกินเหล็กก็ถือได้ว่าเป็นส่วนหนึ่ง นอกเหนือจากการประเมินมืออาชีพแล้ว มันควรจะสามารถแสดงถึงศักยภาพที่ครอบคลุมของเขาได้… มหาวิทยาลัยแห่งนี้อาจเป็นสถานที่ซึ่งดีมากสำหรับการพัฒนา

“ข้าไม่ได้บอกว่าเราจะไม่แข่งขัน… ทว่าไม่จำเป็นต้องเสี่ยงชีวิตของเรา มาแสดงตามปกติดีกว่า” ซืออวี๋กล่าวอย่างจริงจัง

ในตอนแรก เขาก็ได้เตรียมตัวที่จะทดสอบผลลัพธ์การฝึกฝนของเขาด้วยการประเมินมืออาชีพ ในคราวนี้ เขามีเหตุผลที่สำคัญยิ่งกว่า…

เอาล่ะ… ไม่ว่าจะเป็นมังกรหรือจิตวิญญาณมังกร หรือเด็กอายุ 12 ปี แม้ว่าเขาจะยังไม่รู้ว่าพวกเขาทรงพลังเพียงใด… แต่เพื่อประโยชน์ของทุนการศึกษา เชิญสัมผัสกับน้ำหนักของอาหารเสริมนับสิบล้านหยวน

ในคืนนั้น เมื่อเขาได้ยินว่าซืออวี๋กลับมายังเมืองหลวงโบราณ ปรมจารย์หลินจึงกลับมาที่สถาบันวิจัยอสูรกินเหล็กเช่นเดียวกัน

เพื่อศึกษาการวิวัฒนาการของอสูรกินเหล็กและค้นหาวัสดุทดลอง เขาจึงยุ่งมากจนหนังศีรษะของเขาช้า

ตัวอย่างเช่น การวิจัยวัสดุวิวัฒนาการที่กำหนดศักยภาพวิวัฒนาการของอสูรกินเหล็กไม่ใช่เรื่องเลวร้าย มันเป็นเรื่องที่ดีมาก

เรื่องนี้ลดเงื่อนไขสำหรับนักฝึกสัตว์อสูรธรรมดาในการบ่มเพาะอสูรกินเหล็กเพื่อวิวัฒนาการได้เป็นอย่างมาก เรื่องนี้ทำให้อสูรกินเหล็กมีมูลค่าสูงในตลาดระดับต่ำ ระดับกลาง และระดับสูง

น่าเสียดายที่อสูรกินเหล็กแสดงมูลค่าด้านการต่อสู้เท่านั้น

ตอนนี้สมาคมนักฝึกสัตว์อสูรชื่นชอบเผ่าพันธุ์สัตว์อสูรที่มีเงื่อนไขต่ำสำหรับการวิวัฒนาการและสามารถวิวัฒนาการได้อย่างราบรื่นและก่อให้เกิดผลประโยชน์ทางการเงินมหาศาล

ตัวอย่างเช่น สัตว์อสูรที่สามารถผลิตทรัพยากรได้คือสัตว์อสูรที่สามารถสร้างผลประโยชน์ทางการเงินได้

และสัตว์อสูรที่สามารถทำฟาร์มได้

สัตว์อสูรประเภทนี้ที่เชี่ยวชาญความสามารถพิเศษเป็นความต้องการหลักในยุคปัจจุบัน

นี่เป็นเหตุผลว่าทำไมนักวิจัยบางคนจึงศึกษาวิวัฒนาการของหนอนไหมเขียวเพื่อแลกเปลี่ยนกับชื่อเสียงและผลประโยชน์ หนอนไหมเขียวมีความยืดหยุ่นสูงและมีทิศทางการวิวัฒนาการที่หลากหลาย บางทีพวกมันอาจพัฒนารูปแบบวิวัฒนาการที่สามารถสร้างการเปลี่ยนแปลงได้

อย่างไรก็ตาม รูปแบบวิวัฒนาการของอสูรกินเหล็กก็ไม่เลวเช่นเดียวกัน ท้ายที่สุด ขีดจำกัดสูงสุดก็คือพลังต่อสู้ระดับสูงที่อาจใกล้เคียงกับระดับผู้ปกครอง หากพลังต่อสู้ระดับสูงถูกโยนเข้าไปในตลาดในอนาคต ผลประโยชน์ทางเศรษฐกิจก็ไม่เลวเลย บางทีอาจดีกว่าด้วยซ้ำ

ด้วยระดับเผ่าพันธุ์ดังกล่าวและความจริงที่ว่าอสูรกินเหล็กเป็นสัตว์อสูรเฉพาะของตงหวง ไม่ใช่เรื่องเป็นไปไม่ได้ที่อสูรกินเหล็กจะกลายเป็น ‘สมบัติแห่งชาติ’ ของประเทศ

เป้าหมายสุดท้ายของกลุ่มวิจัยอสูรกินเหล็กก็คือการทำให้อสูรกินเหล็กเป็นหนึ่งในสมบัติแห่งชาติ

ไม่ว่านั่นจะประสบความสำเร็จหรือไม่ เมื่อถึงเวลา ซืออวี๋ผู้ที่ค้นพบว่าอสูรกินเหล็กมีการวิวัฒนาการ เขาจะโด่งดังอย่างแน่นอน เขาจะได้รับทั้งชื่อเสียงและโชคลาภโดยตรง

“ดีมาก”

ในตอนกลางคืน เนื่องจากซืออวี๋กล่าวว่าเขาต้องการเห็นวิวัฒนาการอสูรกินเหล็ก ปรมจารย์หลินฮงเหนียนจึงปล่อยให้อสูรกินเหล็กของเขาออกมา

จากนั้้นพวกเขาก็เห็นซืออวี๋สัมผัสและลูบมันราวกับเขาพบญาติ ทิ้งให้อสูรกินเหล็กของหลินฮงเหนียนสูญเสีย

ชายผู้นี้ไม่แม้กระทั่งลูบลูกอสูรกินเหล็กของตัวเองเลย ทำไมเขาถึงต้องลูบอสูรกินเหล็กอายุยี่สิบปีด้วยล่ะ?

[ยืนยันการบันทึก]

[ทักษะ] : พลังภายใน

[ระดับทักษะ] : สุดยอด

[สถานะ] : ไม่มีเป้าหมาย

ไม่นานนัก ซืออวี๋ก็หยุดด้วยรอยยิ้ม

ทักษะอื่นไม่สำคัญ เขาต้องให้อีเลฟเว่นเรียนรู้ทักษะเทพนี้อย่างรวดเร็ว

หลังจากการวิจัยของหลินฮงเหนียน ทักษะนี้มีเพียงต่อสู้ที่แข็งแกร่งโดยไม่ต้องเสียอะไรมากนัก

ตราบใดที่อสูรกินเหล็กไม่ปลดปล่อยความแข็งแกร่งของมันและอยู่ในสถานะยับยั้งและน่ารัก มันก็จะเป็นการสะสมความแข็งแกร่ง

มันเทียบได้กับการที่อสูรกินเหล็กสามารถสะสมพลังงานเพิ่มเติมในร่างกายอย่างช้าๆ และเฝ้ารอการปะทุโดยตรง

ตอนนี้ ซืออวี๋สงสัยมากว่าเขาสามารถสอนทักษะระดับสุดยอดด้วยร่างกายของเขาหรือไม่

ในขณะที่เขากังวลมากเกินไปในการตรวจสอบมัน ซืออวี๋ไม่ได้พูดคุยกับปรมจารย์หลินและคนอื่นเกี่ยวกับความคืบหน้าของการวิจัยและการประเมินมืออาชีพนานเกินไป เขากลับไปที่ห้องโดยตรงและอัญเชิญอีเลฟเว่นออกมา

“หือ?”

หลังจากออกมาจากซากปรักหักพัง อีเลฟเว่นก็มองไปที่ซืออวี๋ด้วยความสับสน

จากนั้นมันก็เห็นสีหน้าของซืออวี๋อย่างรวดเร็ว

ซืออวี่เผยให้เห็นถึงสีหน้าอันสิ้นหวัง

[ทักษะ] : พลังภายใน

[สถานะ] : ไม่สามารถสอนได้

“บัดซ*! ทำไมกัน!”

ซืออวี๋ : ¥#% # ¥#% #% #

อีเลฟเว่น :…

มันเป็นเช่นเดียวกับทักษะระดับสุดยอด การควบคุมพืช!

มันไม่สามารถสอนได้!

ในเวลานั้น ซืออวี๋ได้สรุปเหตุผสสามข้อ

สองเหตุผลก็คืออสูรกินเหล็กมีความเข้ากันได้ไม่เพียงพอและความแข็งแกร่งไม่เพียงพอ

ซืออวี๋ไม่เชื่อว่าอีเลฟเว่นจะไม่ตรงกับสองเงื่อนไขนี้

ดังนั้นมันอาจจะเป็นเหตุผลที่สาม?

เหตุผลที่สาม ร่างกายของเขายังอ่อนแอเกินไปและไม่สามารถทนต่อการสอนทักษะระดับสุดยอดได้ สารบัญทักษะกลัวว่าเขาจะตาย ดังนั้นมันจึงไม่ยอมให้เขาสอน มันอาจเป็นกลไกป้องกันตัวเองเช่นเดียวกับเวลาคูลดาวน์… ซืออวี่เกลียดมันมาก!

ตามที่คาดไว้ มันเป็นเพราะเขาอ่อนแอเกินไป?

“อู๋ อู๋?”

แม้ว่าอีเลฟเว่นจะไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น แต่มันก็อดดไม่ไดที่จะลูบต้นขาของซืออวี๋อย่างปลอบโดยนเมื่อเห็นสีหน้าอันหดหู่ของเขา

ไม่เป็นไร ไม่เป็นไร ผ่อนคลาย เขายังมีอีเลฟเว่นและบักกี้อยู่เคียงข้างเขา!

“ขัายังคงเกลียดมัน” ดวงตาของซืออวี๋เต็มไปด้วยน้ำตา

ต้องใช้เวลาเกือบหนึ่งสัปดาห์ในการสอนทักษะระดับสูง ดังนั้นทักษะระดับสุดยอดจึงน่าสะพรึงมากกว่า… เขาจะสอนพวกมันได้เมื่อไหร่กัน?

นี่ยังคงเป็นทักษะระดับสุดยอดขั้นเริ่มต้น หากเขายังต้องการเพิ่มความเชี่ยวชาญ ซืออวี๋ไม่กล้าที่จะจินตนาการว่าเขาจะเป็นยังไง

ไม่เพียงแค่ความยากในการเรียนรู้จะสูงกว่าทักษะรดับต่ำเท่านั้น ทว่ายังเป็นเรื่องยาทกี่จะเพิ่มความเชี่ยวชาญในอนาคต… นั่นเหนื่อยมาก

“อู๋!”

อีเลฟเว่นเงยหน้าขึ้น ตอนนี้ทุกอย่างเรียบร้อยดีใช่ไหม? ถ้าเช่นนั้นก็กลับไปฝึก!

“ใช่แล้ว” ซืออวี๋กล่าวอย่างอ่อนแอ “ถึงเวลาสำหรับการประเมินมืออาชีพแล้ว เพียงแค่ออกกำลังกายอย่างเหมาะสมก็พอ ทำไมเจ้าต้องฝึกด้วยล่ะ? มาสิ ทำข้อสอบกับข้าสองชุด หลังจากนั้นก็เปลี่ยนเป็นเตียงยักษ์และนอน”

“???”

อีเฟลเว่น : (๑ ╯ ╰ ) ปล่อยให้บักกี้ทำสิ มันเปลี่ยนได้หลายอย่างกว่าข้ามาก!!

Fanpage : ผีเสื้อกลางคืน

Link : https://www.facebook.com/translatemoth

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด