ตอนที่ 675 ยาจุดระเบิด
ตอนที่ 675 ยาจุดระเบิด
“นั่นมันมังกรแดงเกล็ด 9 ชั้นงั้นเหรอ?” เซี่ยเฟยพึมพำขึ้นมาด้วยดวงตาอันเป็นประกาย
มังกรแดงเกล็ด 9 ชั้นเป็นราชาสัตว์อสูรระดับ 9 ที่มีความแข็งแกร่งเกือบจะเทียบเท่ากับอสูรเทวะ และถึงแม้รูปร่างภายนอกของมันจะค่อนข้างงดงาม แต่ในความจริงแล้วพวกมันเป็นสัตว์อสูรที่เป็นอันเดด
บริเวณหน้าอกของมังกรแดงเกล็ด 9 ชั้นมีแกนกลางที่ถูกสร้างขึ้นมาจากการดูดซับพลังต้นกำเนิดของจักรวาล หรือที่เรียกอีกชื่อหนึ่งว่าแกนอสูร
ข้อความในจารึกมนตราอสูรกล่าวเอาไว้ว่าอสูรทุกชนิดต่างก็มีเปลวไฟวิญญาณเป็นของตัวเอง แต่ในกรณีของอสูรอันเดดนั้นพวกมันจะมีแกนอสูรแทนที่จะเป็นเปลวไฟวิญญาณ
ตราบใดที่แกนอสูรยังคงอยู่ดี สัตว์อสูรประเภทนี้ก็ไม่มีวันตาย แม้ว่าอวัยวะภายในร่างของมันจะถูกตัดออกไป แต่อวัยวะเหล่านั้นก็สามารถที่จะงอกทดแทนขึ้นมาใหม่ได้อย่างรวดเร็ว การจัดการกับสัตว์อสูรประเภทอันเดดจึงมีวิธีเดียวเท่านั้น คือการทำลายแกนอสูรที่ถูกฝังอยู่ในร่างของพวกมันให้แหลกสลายไป
ความเป็นจริงเซี่ยเฟยไม่ได้สนใจสัตว์อสูรชนิดอื่นเลย เพราะขนอุยที่อยู่บนไหล่ของเขาเป็นอสูรศักดิ์สิทธิ์ที่มีสติปัญญาและมีพลังสูงกว่าสัตว์อสูรตัวอื่น ๆ หลายเท่า แต่สิ่งที่ทำให้ชายหนุ่มรู้สึกสนใจจริง ๆ คือเกล็ดแนวตั้งทั้งเก้าชั้นบนหลังของมังกร ซึ่งเป็นวัตถุดิบล้ำค่าที่สามารถนำไปใช้งานได้อย่างหลากหลาย
“นั่นมันมังกรแดงเกล็ด 9 ชั้น พวกอสูรอันเดดต่างก็ล้วนแล้วแต่มีสมบัติอยู่บนร่างกายของตัวเอง อย่างเช่นแกนอสูรในร่างของมันก็เป็นวัตถุดิบที่ดีสำหรับการผลิตอุปกรณ์ที่ถูกเสริมด้วยพลังของกฎ”
“ด้วยความที่ร่างกายของอสูรอันเดดเต็มไปด้วยสมบัตินี่เอง มันจึงทำให้พวกมันถูกตามล่าโดยนักรบกฎไปทั่วทุกที่และใกล้ที่จะสูญพันธุ์ไปทุกที การที่นายได้มาพบกับมังกรแดงเกล็ด 9 ชั้นที่นี่ถือว่าเป็นโอกาสที่หาได้ยากมาก ทำไมนายไม่ลองขอถามซื้อมังกรตัวนั้นมาล่ะ ถึงยังไงนายก็ไม่ได้ขาดแคลนเงินทองอยู่แล้วนี่” โอโร่กล่าว
เซี่ยเฟยพยักหน้ารับอย่างเงียบ ๆ และในฐานะที่เขาเป็นผู้ฝึกวิชามนตราอสูร เขาจึงมีความรู้ในเรื่องนี้ดีกว่าโอโร่ที่ใช้ชีวิตอยู่มานานเสียอีก
สิ่งที่ทำให้เซี่ยเฟยสนใจอสูรตัวนี้คือเกล็ดทั้งเก้าบนหลังของมันรวมกันกับแกนอสูร ซึ่งถ้าหากเขาได้นำวัตถุดิบทั้งสองชิ้นนี้มารวมเข้าด้วยกัน เขาก็จะสามารถสร้างยาจุดระเบิดขึ้นมาได้
ยาจุดระเบิดสามารถช่วยให้ผู้ใช้เร่งความเร็วได้อย่างฉับพลัน ยกตัวอย่างเช่น ความเร็วในปัจจุบันของเซี่ยเฟยคือ 30,000 เมตรต่อวินาที แต่ถ้าหากว่าเขากินยาชนิดนี้เข้าไป เขาก็จะสามารถเร่งความเร็วได้ถึง 90,000 เมตรต่อวินาทีในเสี้ยวพริบตา
เกล็ดทั้ง 9 บนหลังของมังกรเป็นกุญแจสำคัญสำหรับการระเบิดพลังออกมา ซึ่งมันก็หมายความว่ามังกรแดงเกล็ด 9 ชั้นตัวหนึ่งสามารถทำให้ผู้ใช้ยาเร่งความเร็วได้เพียงแค่ 9 ครั้งเท่านั้น ซึ่งถ้าหากว่าเกล็ดของมังกรแดงมีสภาพสมบูรณ์ มันก็อาจจะช่วยเร่งความเร็วของผู้ใช้ได้ 4-5 เท่าในช่วงเวลาของการระเบิดพลังได้เลย
“ถึงแม้ว่ามังกรแดงเกล็ด 9 ชั้นจะน่าสนใจ แต่คนพวกนั้นกลับน่าสนใจกว่า” เซี่ยเฟยกล่าวพร้อมกับยกรอยยิ้มขึ้นมาที่มุมปาก
ในระหว่างที่โอโร่กำลังจะเอ่ยปากถาม จู่ ๆ ชายชราบนสะพานก็พูดขึ้นมาซะก่อน
“พวกคุณต้องการอสูรของฉันงั้นเหรอ?”
“ใช่ คุณกำหนดราคาขึ้นมาได้เลย”
“ฮึ! กิ้งก่าตัวนี้อยู่กับฉันมานาน ฉันไม่มีทางขายมันออกไปอย่างเด็ดขาด ถ้าพวกแกอยากได้มันไปก็ข้ามศพฉันไปซะก่อน!”
“แกพูดเองนะ”
“ถ้ามันอยากตายก็ฆ่ามันเลย”
ทหารรับจ้างที่อยู่ด้านหลังเริ่มตะโกนขึ้นมาอย่างตื่นเต้น
“แต่ฉันมีเงื่อนไข! ถ้าหากว่าพวกแกฆ่าสัตว์อสูรของฉันไม่ได้ พวกแกจะต้องทิ้งอาวุธของพวกแกเอาไว้เพื่อเป็นการขอโทษที่มาสร้างความวุ่นวายให้กับฉัน” ชายชรากล่าวอย่างเย็นชา
เหตุการณ์นี้ทำให้พวกทหารรับจ้างรู้สึกตกตะลึงไปเล็กน้อย เพราะคำพูดของชายชราหมายความว่าอีกฝ่ายต้องการที่จะเดิมพันให้พวกเขาจู่โจมมังกรแดงเกล็ด 9 ชั้น ซึ่งถ้าหากพวกเขาไม่สามารถสังหารสัตว์อสูรชนิดนี้ได้ พวกเขาก็จะต้องมอบอาวุธของตัวเองให้กับอีกฝ่ายเป็นของทดแทน
มังกรแดงที่มีรูปร่างเหมือนกิ้งก่าคล้ายกับจะเข้าใจคำพูดของชายชรา มันจึงเงยหน้าขึ้นสูงพร้อมกับจ้องมองไปยังกลุ่มทหารรับจ้างตรงหน้าด้วยแววตาที่เต็มไปด้วยความดูถูกเหยียดหยาม
ท่าทางนี้ทำให้พวกทหารรับจ้างรู้สึกโกรธในทันที และต้องการที่จะกระโจนออกไปเพื่อสังหารสัตว์อสูรตัวนี้ตั้งแต่เดี๋ยวนี้เลย
“ฉันขอก่อน” ชายอ้วนคนหนึ่งดึงตรีศูลออกมาไว้ในมือ ซึ่งอาวุธชิ้นนี้ก็ดูเหมือนจะเป็นอาวุธที่มีค่ามากพอสมควร
“แกอย่ามาทำตัวอวดดีมากจนเกินไป ฉันจะทำให้แกได้รู้เองว่ามันไม่มีสัตว์อสูรตัวไหนที่พวกเราฆ่าไม่ได้!!”
ฉึก!
ทันทีที่ชายอ้วนพูดจบเขาก็แทงตรีศูลเข้าใส่ร่างของมังกรแดงอย่างรุนแรง แต่มังกรตัวนี้กลับยังคงยืนนิ่งราวกับว่าบาดแผลที่เกิดขึ้นมานั้นไม่ได้สร้างความเจ็บปวดให้กับมันเลย
“นี่มัน... มันเป็นไปได้ยังไง?!” เหล่าบรรดาทหารรับจ้างต่างก็มองหน้ากันอย่างสับสน
“มันเป็นสัตว์อสูรที่ไม่รู้จักความเจ็บปวดงั้นเหรอ?”
“เลือดมันไม่ไหลออกมาด้วยซ้ำหรือว่ามันจะเป็นของปลอม?”
ในระหว่างที่ทุกคนกำลังสงสัยตรีศูลสีดำที่ถูกแทงเข้าใส่ร่างของมังกรแดงก็ค่อย ๆ หลุดออกมา ขณะที่บาดแผลบนร่างของมันก็ค่อย ๆ ฟื้นตัวกลับมาเช่นเดียวกัน ก่อนที่บาดแผลพวกนั้นจะหายไปในที่สุด
“แผลมัน... แผลของมันหายไปแล้ว”
“กิ้งก่าตัวนี้มันเป็นอมตะงั้นเหรอ?”
พวกทหารรับจ้างต่างก็อุทานขึ้นมาด้วยความไม่อยากจะเชื่อ เพราะไม่มีใครเคยเห็นฉากที่น่าอัศจรรย์ใจแบบนี้มาก่อนเลยในชีวิต
ชายชราเผยรอยยิ้มออกมาเล็กน้อย ก่อนที่เขาจะโบกมือและทำให้ตรีศูลอันสวยงามที่หลุดร่วงหล่นลงมาบนสะพานได้หายไป
“แกแพ้แล้ว อาวุธของแกเป็นของฉันและใครอยากจะลองอีกก็เข้ามาได้เลย”
ระหว่างที่พูดอยู่นั้นชายชราก็แอบเหลือบมองเซี่ยเฟยจากหางตาโดยไม่ได้ตั้งใจ แน่นอนว่าด้วยระยะใกล้กันเพียงแค่เท่านี้ อีกฝ่ายย่อมได้ยินบทสนทนาระหว่างพวกเขาอย่างแน่นอน
เมื่อเห็นว่าเซี่ยเฟยยังคงไม่เคลื่อนไหว พวกทหารรับจ้างก็ยังคงจู่โจมเข้าใส่มังกรแดงต่อไป โดยคราวนี้เป็นคราวของทหารผมหยิกที่ใช้มีดสั้นสีฟ้าแทงเข้าใส่หัวของกิ้งก่า
หากใครมีประสบการณ์พวกเขาจะสามารถมองเห็นได้อย่างง่ายดายว่าบนมีดเล่มนี้ถูกทายาพิษเอาไว้ แต่น่าเสียดายที่อสูรอันเดดไม่มีเลือดเนื้อแล้วมันจะได้รับอันตรายจากพิษร้ายได้ยังไง?
ท้ายที่สุดมีดสั้นเล่มนั้นก็ถูกชายชราเก็บกลับไปด้วยเช่นกัน
ทหารรับจ้างทุกคนต่างก็พยายามหยิบอาวุธทุกชนิดออกมาจู่โจมเข้าใส่กิ้งก่าตรงหน้าอย่างบ้าคลั่ง และในเวลาเพียงแค่ไม่กี่วินาที อาวุธมากกว่า 20 ชิ้นก็ถูกแทงเข้าไปภายในร่างของมังกรแดง
เกร้ง ๆ ๆ ๆ ๆ
ไม่นานอาวุธทุกชิ้นที่แทงเข้าไปภายในร่างก็หลุดร่วงออกมาเหมือนเดิม ขณะที่บาดแผลทั้งหมดบนร่างกายของมันก็ฟื้นฟูกลับมาเป็นปกติในเวลาเพียงแค่ไม่กี่วินาที
เหตุการณ์นี้ทำให้ทุกคนเบิกตากว้างและมองไปยังภาพตรงหน้าด้วยความไม่อยากจะเชื่อ
“ขอบคุณสำหรับอาวุธ หลังจากเอาอาวุธพวกนี้ไปขาย ฉันคงจะซื้อเหล้าดี ๆ ได้อีกเพียบเลย” ชายชรากล่าวด้วยรอยยิ้มพร้อมกับเก็บอาวุธทุกชนิดเข้าไปในแหวนมิติของเขา
ใบหน้าของทหารรับจ้างเปลี่ยนแปลงไปอย่างบิดเบี้ยว แต่พวกเขาก็ไม่สามารถที่จะพูดอะไรได้ เพราะท้ายที่สุดพวกเขาก็ให้สัญญาเอาไว้แล้วว่าหากพวกเขาไม่สามารถสังหารกิ้งก่าตัวนี้ได้ พวกเขาจะมอบอาวุธของพวกเขาให้กับอีกฝ่าย ดังนั้นถึงแม้ว่าพวกเขาจะรู้สึกเสียศักดิ์ศรี แต่พวกเขาก็ทำได้เพียงแค่ต้องอดทนเอาไว้เท่านั้น
หลังจากที่เฝ้าดูมานานในที่สุดเซี่ยเฟยก็เดินเข้าไปหามังกรแดงตัวนั้นอย่างช้า ๆ พวกกลุ่มทหารรับจ้างจึงเคลื่อนกายเว้นระยะห่างออกไป แต่แทนที่ในแววตาของพวกเขาจะเป็นความผิดหวัง แต่มันกลับถูกแทนที่ด้วยความตื่นเต้นเข้ามาแทน
อย่างไรก็ตามจู่ ๆ มังกรแดงที่เคยชูหัวอย่างเย่อหยิ่งกลับก้มหัวลงอย่างฉับพลัน จากนั้นมันก็ค่อย ๆ คลานไปหาเซี่ยเฟยอย่างช้า ๆ และย่อกายลงไปหมอบกับพื้นด้วยความสุภาพนอบน้อม
เหตุการณ์นี้ทำให้ทุกคนรู้สึกสับสนมาก เพราะเซี่ยเฟยยังไม่ทันพูดหรือทำอะไรเลยด้วยซ้ำ แล้วทำไมราชาสัตว์อสูรระดับ 9 ถึงได้แสดงปฏิกิริยาออกมาแบบนั้น
“นายจะไปขู่ให้มันกลัวทำไม?” เซี่ยเฟยตบขนอุยที่อยู่บนไหล่ของเขาเบา ๆ
ปัจจุบันขนอุยมีขนาดเพียงแค่เมล็ดถั่วเล็ก ๆ เท่านั้น และถ้าหากว่าเซี่ยเฟยไม่ได้ตบหัวมัน ใครบางคนก็คงจะไม่ทันได้สังเกตเห็นถึงสัตว์อสูรตัวเล็กตัวนี้ด้วยซ้ำไป
ขนอุยไม่ได้รู้สึกอารมณ์เสียเลยหลังจากที่ถูกเซี่ยเฟยตบศีรษะ แต่มันกลับปล่อยแรงกดดันออกมามากยิ่งขึ้น
พวกทหารรับจ้างไม่รู้ว่าอสูรตัวเล็กตัวนี้คือตัวอะไรกันแน่ แต่ชายชราเจ้าของมังกรแดงรู้ดี ใบหน้าของเขาจึงเริ่มเปลี่ยนเป็นสีเขียวและมีเม็ดเหงื่อไหลออกมาทั่วทั้งร่างกายของเขา
“อสูรศักดิ์สิทธิ์! นั่นมันอสูรศักดิ์สิทธิ์มารขาว!!” ชายชราตะโกนคร่ำครวญภายในใจ โดยเฉพาะภาพที่เซี่ยเฟยตบหัวอสูรศักดิ์สิทธิ์เมื่อสักครู่นี้ที่ทำให้เขารู้สึกหวาดกลัวมากยิ่งขึ้น
คนส่วนใหญ่จะปฏิบัติตัวต่ออสูรศักดิ์สิทธิ์ราวกับว่าเป็นเทพเจ้าที่พวกเขาต้องบูชา แต่เซี่ยเฟยกลับตบอสูรศักดิ์สิทธิ์ด้วยใบหน้าอันนิ่งเฉย แล้วใครมันจะไม่ตกใจกับภาพบาดตาบาดใจแบบนี้ได้
“จำเอาไว้ว่าอย่าไปขู่คนอื่น” เซี่ยเฟยเริ่มดุขนอุยอีกครั้ง
เจ้าตัวเล็กพยักหน้าซ้ำ ๆ ราวกับว่ามันเข้าใจคำพูดของชายหนุ่ม
“เราจะไปเสียเวลาขู่คนอื่นทำไม ฆ่ามันให้ตาย ๆ ไปซะก็สิ้นเรื่อง” เซี่ยเฟยกล่าวด้วยท่าทางสบาย ๆ ราวกับว่าคำพูดที่เขาพูดออกมานั้นเป็นคำพูดโดยทั่วไป ไม่ได้มีความโหดร้ายแฝงอยู่ในคำพูดพวกนั้นเลย
ทันทีที่เขาพูดจบมันก็มีเส้นแสงสีแดงปรากฏขึ้นอย่างฉับพลัน ก่อนที่เส้นแสงสีแดงนั้นจะพุ่งเข้าใส่มังกรแดงอย่างรวดเร็ว
ทันทีที่บลัดบิวเทียสถูกเสือกแทงเข้าไปภายในร่าง มังกรแดงก็สัมผัสได้ถึงความรู้สึกอันแปลกประหลาด ก่อนที่มันจะเริ่มส่งเสียงกรีดร้องออกมาอย่างโหยหวน
ภาพเหตุการณ์ต่อมาคล้ายกับลูกโป่งที่โดนปล่อยลม เพราะร่างของมังกรแดงที่มีน้ำหนักมากกว่า 300 กิโลกรัมเริ่มหดตัวลงอย่างรวดเร็ว
ในเวลาเพียงแค่ไม่กี่วินาทีมังกรแดงที่เคยใช้ชีวิตอย่างสง่างามก็กลายเป็นซากศพที่เหี่ยวเฉาในวินาทีถัดไป
เซี่ยเฟยใช้เท้าเหยียบขยี้ซากศพออกเป็นชิ้น ๆ ก่อนที่เขาจะหยิบแกนคริสตัลสีทองและเกล็ดทั้งเก้าชิ้นของมังกรตรงหน้าขึ้นมาถือไว้
เหตุการณ์เหล่านี้เกิดขึ้นมาอย่างรวดเร็วมากและก่อนที่ใครจะทันได้ตอบสนอง มังกรแดงก็ได้เสียชีวิตภายใต้เงื้อมมือของชายหนุ่มไปแล้ว
ทุกคนต่างก็มองไปยังภาพเหตุการณ์ตรงหน้าด้วยความเจ็บปวด โดยเฉพาะชายชราเจ้าของมังกรที่กำลังมีหยดน้ำตาไหลออกมาจากดวงตาของเขา
“ขอบคุณมาก” หลังจากพูดจบเซี่ยเฟยก็ตบหน้าเซธเพื่อเรียกสติ ก่อนที่เขาจะเดินไปตามสะพานไม้เพื่อมุ่งหน้าตรงไปยังตัวเมือง
“พวกเขาถึงกับยอมเอาราชาสัตว์อสูรมาร่วมแสดงด้วย คนพวกนี้นี่ช่างเป็นนักแสดงชั้นยอดจริง ๆ” เซี่ยเฟยกล่าวขึ้นมาเบา ๆ ราวกับว่ากำลังพูดกับตัวเอง
เมื่อได้ยินคำพูดดูถูกของเซี่ยเฟย ชายชราก็แทบที่จะกระอักเลือดออกมาด้วยความอัปยศ
“หยุด!” ชายชราตะโกนห้ามเซี่ยเฟยเอาไว้ด้วยใบหน้าที่ยังคงซีดเผือด
***************
มารังแกพี่เฟย❎มาแจกของพี่เฟย✅