ตอนที่ 107 กล้าที่จะท้าทายนามิ? ชายคนนี้บ้าไปแล้ว!
[โครงกระดูก บรู๊ค: โย๊ะ โฮ๊ะๆๆ มันน่าทึ่งมาก เขาสามารถเอาชนะเหล่านักดาบที่แข็งแกร่งไปได้มากมาย มันคงจะดีมากถ้ากระผมมีวิชาดาบที่แข็งแบบนี้ ]
[แชงค์ผมแดง: สมควรแล้วที่สามารถเป็นถึงนักดาบอันดับหนึ่งของกลุ่มโจรสลัดหนวดขาวได้ ในแง่ของความปราดเปรียวด้านวิชาดาบ เขาค่อนข้างทรงพลังทีเดียว ]
[ตาเหยี่ยว มิฮอว์ค: เขาเป็นนักดาบที่ทรงพลังมาก ]
[ราชสีห์ทองคำ ชิกิ: มันค่อนข้างดี หลังจากที่สามารถเอาชนะผู้ท้าทายจำนวนมากไปได้ แม้แต่นักดาบของกลุ่มโจรสลัดบิ๊กมัมก็ยังพ่ายแพ้ให้กับวิสต้า ยิ่งไม่ต้องพูดถึงเหล่านักดาบคนอื่นๆที่เหลืออยู่เลย ]
[โมโมะอุซางิ กิออน: ฉันคิดว่า มันจะต้องมีนักดาบที่แข็งแกร่งมาท้าทายมากว่านี้แน่นอน! ]
ภายในเวลาเพียงไม่กี่ชั่วโมง วิสต้าก็ได้รับการท้าทายไปมากกว่า 10 ครั้ง
นอกจากตัวละครที่มีชื่อเสียงอย่างชาร์ล็อตต์ อาเมนต์แล้ว ก็ยังมีนักดาบที่ไม่เป็นที่รู้จักอีกมากมาย จากเกาะวาโนะคุนิที่มาท้าทายวิสต้า
ในช่วงเวลาหนึ่ง เหล่าผู้คนทั่วโลกก็เริ่มสงสัยเกี่ยวกับเกาะวาโนะคุนิที่ลึกลับแห่งนี้มากขึ้น
“ไม่มีใครมาท้าทายวิสต้านานกว่าสิบนาทีแล้ว” โรเจอร์สัมผัสคางของเขา
“ดูเหมือนว่าความแข็งแกร่งของวิสต้าจะเพียงพอแล้ว ที่จะข่มขู่นักดาบคนอื่นๆ แต่ฉันอยากเห็นเหล่านักดาบไปท้าทายอันดับอื่นๆในรายการบ้าง ซึ่งดูเหมือนว่ามันจะเป็นเรื่องที่ยากมากในตอนนี้”
“ตอนนี้ ฉันคงเหลือเวลาอยู่ในโลกนี้ได้อีกไม่นาน แต่ฉันก็อยากเห็นการต่อสู้ของนามิ ไม่ก็หลี่ฟานจริงๆ”
“น่าเสียดายที่ฉันมีเวลาไม่พอ”
ในเวลานี้ เหลือเวลาเพียงหนึ่งชั่วโมงเท่านั้น ก่อนที่วิญญาณของโรเจอร์จะกลับไปสู่โลกใต้พิภพ
เขารู้ว่ามันอาจจะเป็นไปไม่ได้ ที่จะได้ชมการต่อสู้ของนักดาบที่มากกว่านี้
“ด้วยรายการทองคำ กัปตันโรเจอร์ก็อาจจะได้กลับมาที่โลกใบนี้ได้ในสักวันหนึ่ง” แชงค์ยิ้ม
“แม้ว่ากัปตันจะสละสิทธิ์ในการใช้ม้วนคัมภีร์ฟื้นคืนชีพไปในครั้งนี้ แต่มันจะต้องมีโอกาสในอนาคตอีกแน่นอน”
แชงค์อดไม่ได้แค่พูดถึงมัน แต่เขาเชื่อเสมอว่าในอนาคต เขาอาจจะได้พบกับม้วนคัมภีร์ฟื้นคืนชีพอีกครั้งจากรายการทองคำ
และเมื่อถึงเวลานั้น เขาก็จะใช้มันเพื่อชุบชีวิตกัปตันโรเจอร์ขึ้นมา
โรเจอร์ยักไหล่และกำลังจะพูดอะไรบางอย่าง แต่รายการทองคำที่เงียบหายไปนานกว่าสิบนาที ก็ได้ฉายแสงขึ้นมาใหม่อีกครั้ง
— นักดาบจากเกาะมนุษย์เงือก ‘นักฆ่าเฮียวโซ’ ต้องการท้าทาย [ อันดับนักดาบ ] อันดับที่ 5 นามิ —
"ฮะ?! คนที่ท้าทายนามิคือนักดาบจากเกาะมนุษย์เงือก” โรเจอร์เลิกคิ้ว
“ดูเหมือนก่อนออกเดินทาง กัปตันจะได้เห็นการต่อสู้ที่น่าสนใจบ้างนะครับ”
"อะไรกัน?! เขาไม่ได้ท้าทายฉันงั้นเหรอ?” วิสต้าที่พึ่งจะกลับมาถึงเรือโมบี้ ดิ๊กได้สักพัก ตกตะลึง
“นักดาบจากเกาะมนุษย์เงือก? เขาเป็นใครกันถึงท้าทายอันดับที่ 5 อย่างนามิโดยตรง?”
“นักฆ่าเฮียวโซ? ดูเหมือนว่าฉันจะเคยได้ยินชื่อนี้มาก่อนนะ” มัลโก้ขมวดคิ้ว
“ฉันจำได้แล้ว ดูเหมือนว่าเขาจะเป็นนักฆ่าบนมนุษย์เงือก ที่ทำการรับจ้างฆ่าคนเพื่อแลกกับเงิน”
กลุ่มโจรสลัดหนวดขาวเป็นกลุ่มโจรสลัดที่ครอบครองเกาะมนุษย์เงือก ดังนั้นมัลโก้จึงมีความรู้เกี่ยวกับสถานการณ์บนเกาะมนุษย์เงือกเป็นอย่างดี
“น่าสนใจ ฉันอยากจะรู้จริงๆว่าฝีมือดาบของนามิ จะอยู่ในอันดับที่ 5 ได้ยังไง” วิสต้ายิ้ม
[ราชสีห์ทองคำ ชิกิ: กล้าที่จะท้าทายนามิ นักดาบจากเกาะมนุษย์เงือกคนนี้มีความแข็งแกร่งมากใช่ไหม? ]
[คิซารุ โบซาริโน่: เกาะมนุษย์เงือก? มันแปลกจริงๆ ถ้าเขามีความแข็งแกร่งจริงๆ อย่างน้อยเขาก็ควรจะอยู่ในรายชื่อบ้างสิ ]
[ราชานรก เรย์ลี่: ฮ่าฮ่า เขามีความสามารถจริงๆ หรือมีแค่ความบ้าที่อยากจะท้าทายนามิกันแน่ พวกเรามารอดูกันเถอะ ]
ภายในห้องศักดิ์สิทธิ์ หลี่ฟานเก็บดาบในมือของเขาลงฝัก และหันไปยิ้มให้กับนามิ
“เอาล่ะนามิ”
“การฝึกพิเศษคราวนี้ของเธอสิ้นสุดลงแล้ว หลังจากนี้มันก็ขึ้นอยู่กับความสามารถของเธอแล้วล่ะ”
“ไปเถอะ ไปเอาชนะนักดาบจากเกาะมนุษย์เงือกคนนี้ และทำในสิ่งที่เธอต้องการ”
“แต่อาจารย์หลี่ฟาน คุณไม่ได้บอกว่าฉันยังไม่เชี่ยวชาญการใช้วิชาดาบนี้ไม่ใช่หรอ? แล้วฉันจะไปเอาชนะแชงค์ได้ยังไง” ใบหน้าของนามิเต็มไปด้วยความกังวล
“นามิ ความก้าวหน้ามันไม่ได้เกิดขึ้นแค่ในระหว่างการฝึกเท่านั้น” หลี่ฟานวางมือไว้บนไหล่ของนามิ
“บางครั้งการต่อสู้ที่รุนแรง ก็สามารถทำให้คนเราก้าวหน้าขึ้นได้”
“ออกไปเถอะ ออกไปต่อสู้ดู เมื่อเธอได้ต่อสู้กับแชงค์ บางทีเธออาจจะทะลุทะลวงจนตื่นขึ้นมาก็ได้!”
“อย่าลืมสิว่าใครเป็นอาจารย์ของเธอ! เชื่อมั่นในตัวเองและเชื่อมั่นในการฝึกฝนของฉัน!”
เนื่องจากความท้าทายของ ‘นักฆ่าเฮียวโซ’ นามิจึงไม่สามารถอยู่ในห้องศักดิ์สิทธิ์ได้อีกต่อไป และมันก็หมายความว่าเธอจะต้องท้าทายแชงค์ด้วยพลังในตอนนี้เท่านั้น
แม้ว่านามิจะยังมีเวลาเหลืออยู่ในห้องนี้อีกมาก แต่หลี่ฟานก็ไม่คิดว่าแค่การฝึกธรรมดาๆจะทำให้เธอฝ่าฟันไปจนตื่นถึง [ ความว่างเปล่า ] ขึ้นมาได้
“ฉันเข้าใจแล้ว อาจารย์หลี่ฟาน” เมื่อเห็นรอยยิ้มที่เต็มไปด้วยกำลังใจของหลี่ฟาน นามิก็รวบรวมความกล้าอยู่พักหนึ่ง
“ฉันจะออกไปต่อสู้ และรับม้วนคัมภีร์ฟื้นคืนชีพขั้นกลางมาให้ได้ ด้วยวิชาดาบและดาบนิจิรินเล่มนี้ที่คุณให้มันกับฉัน!!!”
หลังจากพูดจบ ร่างของนามิก็หายไปจากห้องศักดิ์สิทธิ์แห่งนี้ และไปปรากฏตัวขึ้นภายในสนามประลองของรายการทองคำทันที
สนามประลองแห่งนี้ดูเหมือนกับสนามประลองของวิสต้าทุกประการ ความแตกต่างเพียงอย่างเดียวก็คือบัลลังก์ของนักดาบที่มีเลข "5" อยู่ด้านบน
ทันทีที่นามิออกไปจากห้องศักดิ์สิทธิ์ หลี่ฟานก็ไม่จำเป็นต้องอยู่ที่นี่อีกต่อไป
และเมื่อเขาเปิดประตูออกไปจากห้องศักดิ์สิทธิ์ และกลับไปยังห้องโถงของโรงฝึก โนจิโกะและสาวๆคนอื่นๆ ก็ทักทายเขาทันที
โนจิโกะ: “อาจารย์หลี่ฟาน นามิจะไม่มีปัญหาอะไรกับการต่อสู้ในครั้งนี้ใช่ไหม”
วีวี่: “ใช่แล้วอาจารย์หลี่ฟาน คุณคิดว่าพี่สาวนามิสามารถเอาชนะนักดาบจากเกาะมนุษย์เงือกคนนั้นได้รึเปล่า”
โรบิน: “นักฆ่าเฮียวโซคนนี้ไม่ได้อยู่ในอันดับทั้ง 10 และดูจากรูปลักษณ์ในตอนนี้ของเขาแล้ว เขาอาจจะท้าทายนามิเพราะความเมาก็ได้ และนามิจะไม่มีทางแพ้เขาเด็ดขาด สิ่งเดียวที่พวกเราต้องกังวลคือ นามิจะสามารถเอาชนะแชงค์ได้รึเปล่าต่างหาก!”
“โอเคๆ ค่อยๆพูดทีล่ะคนนะ” หลี่ฟานยกมือขึ้นห้ามปรามทุกคน
“ไม่ต้องห่วง นามิจะไม่แพ้ให้กับนักดาบมนุษย์เงือกคนนั้นแน่นอน”
“ส่วนแชงค์ นามิในตอนนี้ก็ยังมีโอกาสที่จะสามารถเอาชนะเขาได้อยู่ ดังนั้นพวกเรามาช่วยให้กำลังใจนามิกันเถอะ”
หลังจากที่พวกเธอได้ยินคำพูดของหลี่ฟาน แม้ว่าโนจิโกะจะยังประหม่าอยู่เล็กน้อย แต่มันก็ดีขึ้นกว่าเมื่อกี้นี้มาก
ท้ายที่สุด เรื่องนี้เกี่ยวข้องกับการฟื้นคืนชีพแม่บุญธรรมของเธอ และนอกจากนามิแล้ว เธอก็คงเป็นคนที่เอาใจใส่กับเรื่องนี้มากที่สุด
“ว่าแต่ ทำไมมนุษย์เงือกคนนี้ถึงท้าทายนามิกันล่ะ?” ซาดี้วางนิ้วชี้ไว้ที่ข้างริมฝีปากสีแดง และใบหน้าของเธอดูงุนงงเล็กน้อย
“ท้าทายอันดับที่ห้าโดยตรงแบบนี้ สมองของเขาคงไม่มีปัญหาหรอกใช่ไหม”
“มันไม่ใช่งั้นหรอ? ก็เหมือนกับที่โรบินพูดเอาไว้นี่น่า ฉันคิดว่ามนุษย์เงือกคนนี้คงกำลังเมาอยู่แน่ๆ!” ยามาโตะพูดขึ้น ขณะมองดูนักฆ่าเฮียวโซที่อยู่ในรายการทองคำ ตอนนี้เขากำลังโดยถือขวดสุราและร่างที่กำลังแกว่งไปมา
"ใครจะรู้กันล่ะ?" หลี่ฟานโบกมือ
“บางที เขาอาจจะคิดว่าในฐานะมนุษย์เงือก เขาคงมีพรสวรรค์ด้านเผ่าพันธ์ที่มากว่า และสามารถเอาชนะนามิได้ล่ะมั้ง”
หลังจากที่ได้ฟังการวิเคราะห์ของหลี่ฟาน ซาดี้ผู้ซึ่งเตรียมตัวมาเป็นระยะเวลานานก็ยิ้มขึ้นเล็กน้อย เธอยกมือขึ้นไปหยิบเค้กสีส้มชิ้นหนึ่งออกมา แล้วป้อนไปที่ปากของหลี่ฟาน
"อาจารย์หลี่ฟาน นี่คือเค้กส้มที่เราช่วยกันทำ ทำไมคุณไม่ลองชิมดูล่ะ?”
“ฉันไม่ใช่เด็กสักหน่อย” หลี่ฟานก็ส่ายหัว
อย่างไรก็ตาม เมื่อเขาเห็นว่าซาดี้เริ่มทำหน้าบึ้งและดูผิดหวัง หลี่ฟานก็เปิดปากของเขาและกัดลงไปที่เค้กส้ม
การกระทำนี้ของหลี่ฟาน ทำให้ใบหน้าของซาดี้กลับมามีรอยยิ้มทันที
“ยังมีอาหารและขนมอื่นๆอีกมากมายที่นี่ อาจารย์หลี่ฟาน คุณมาลองชิมดูสิ”
วีวี่ชี้ไปที่โต๊ะข้างๆ จากนั้นเธอก็รีบจับมือของหลี่ฟานเดินไปที่โต๊ะนั้นทันที
…