Chapter 4: ปีศาจถือกำเนิด!
[ติ้ง! เรียนท่านเจ้าของ ยินดีด้วยท่านผ่านการทดสอบ!]
[ท่านได้สิทธิ์ความเป็นเจ้าของระบบปีศาจแล้ว!]
สิทธิ์ความเป็นเจ้าของระบบปีศาจ? เขาคาดเอาไว้แล้วว่าเรื่องมันจะเป็นเช่นนี้หลังจากที่เขาผ่านการทดสอบ แต่มันก็ยังรู้สึกไม่น่าเชื่ออยู่ดี เพราะนี่คือจุดเปลี่ยนของเหตุการณ์ที่สามารถเปลี่ยนแปลงโชคชะตาของเขาในโลกนี้ได้อย่างมีนัยสำคัญ!
[เนื่องจากศักยภาพที่โดดเด่นของท่านในการทดสอบ ท่านจะได้รับรางวัลเพิ่มเติม]
[โปรดเลือกประเภทของปีศาจที่ท่านต้องการเป็น]
[ตัวเลือกที่ 1: ปีศาจเงา]
[ตัวเลือกที่ 2: ปีศาจเลือด]
หน้าจอกึ่งโปร่งแสงแสดงข้อความขึ้น แล้วริมฝีปากของวัลก็เผยรอยยิ้มออกมา
“ดูเหมือนความพยายามของข้าจะคุ้มค่าสินะ”
มีคำอธิบายสั้นๆ เกี่ยวกับปีศาจแต่ละตัวแสดงอยู่ด้วย
ปีศาจเงามีทักษะในการหลบหรือหลีกเลี่ยงการโจมตีค่อนข้างโดดเด่น พวกมันเก่งกว่าปีศาจเลือดในเรื่องนี้ อย่างไรก็ตาม เมื่อพูดถึงเรื่องการโจมตีและการสร้างความเสียหายนั้นปีศาจเงาด้อยกว่าปีศาจเลือด พวกมันอ่อนแอกว่าในด้านความสามารถในการโจมตีเมื่อเทียบกับปีศาจอีกตัวหนึ่ง ดังนั้น โดยสรุปแล้ว แม้ว่าปีศาจเงาจะเก่งในเรื่องของการทำให้ตัวเองไม่ถูกโจมตี แต่พวกมันก็ไม่เก่งในเรื่องของการโจมตีกลับเมื่อเทียบกับปีศาจเลือด
นอกจากนี้ ปีศาจเงาแพ้การถูกแทง ปีศาจเลือดเองก็มีจุดอ่อน แต่มันจะไม่แสดงออกมาจนกว่าหลอดเลือดจะถึงศูนย์
วัลเกาคางในขณะที่กำลังครุ่นคิด หลังจากชั่งน้ำหนักข้อดีข้อเสียอยู่พักหนึ่ง วัลก็ตัดสินใจเลือกข้อสอง
วัลเลือกข้อ 2 เพราะผลข้างเคียงจากการกลายเป็นปีศาจเลือดจะเกิดขึ้นก็ต่อเมื่อแถบเลือดของเขาถึงศูนย์ ไม่เหมือนกับผลข้างเคียงที่คงที่จากการกลายเป็นปีศาจเงา
[เริ่มกระบวนการปลูกถ่ายสายเลือด!]
บรรยากาศรอบตัววัลดูเหมือนจะร้อนขึ้นมาระดับหนึ่งในขณะที่มีคลื่นความร้อนแผ่ออกมาจากเขา ด้วยอุณหภูมิที่สูงขึ้นจนเกินกว่าจะทนได้ ร่างกายของเขารู้สึกร้อนผ่าวราวกับเปลวเพลิงคล้ายกับเป็นไข้สูง แต่วัลยังคงเยือกเย็นและสงบนิ่ง
ถ้าคนส่วนใหญ่มาเจอสถานการณ์แบบเขาคงจะน้ำตาไหลเป็นสายเลือดหรืออ้อนวอนให้ความเจ็บปวดนี้จบลงสักที หรืออาจถึงขั้นร้องขอการปลดปล่อยจากความทุกข์นี้ อย่างไรก็ตาม วัลไม่ได้มีอาการอะไรแบบนั้นเลย
ซึ่งเหตุผลนั้นเข้าใจได้ง่ายมาก
เขาไม่ได้รู้สึกทรมานกับความเจ็บปวดที่มักจะเกี่ยวข้องกับการปลูกถ่ายสายเลือด!
หลังจากผ่านไปไม่กี่นาที ในตอนที่เหงื่อไหลท่วมเต็มพื้นข้างใต้เขา อุณหภูมิร่างกายก็กลับเป็นปกติ และการแจ้งเตือนก็ปรากฏขึ้นมาในทัศนวิสัยของเขา
[ยินดีด้วย! ท่านได้รับสายเลือดของปีศาจเลือดแล้ว!]
[ได้รับทักษะใหม่: ดูดเลือด!]
[ได้รับทักษะใหม่: บงการเลือด!]
[ได้รับคุณสมบัติใหม่: มองกลางคืน!]
วัลหรี่สายตาเล็กน้อยในขณะที่เขาอ่านแจ้งเตือน
‘ทักษะดูดเลือดกับบงการเลือดงั้นหรือ? ขีดจำกัดของพวกมันทำได้ถึงแค่ไหนกันนะ’
เหมือนกับจะตอบสนองต่อความคิดของเขา หน้าจอกึ่งโปร่งแสงปรากฏขึ้นในทัศนวิสัยของเขา แสดงให้เห็นถึงรายละเอียดของทักษะที่เขาพึ่งได้รับมาใหม่
[ทักษะดูดเลือด: สามารถใช้ดูดเลือดจากผู้อื่นได้ ถ้ามีการต่อต้านไม่ว่าจะเป็นรูปแบบใดก็ตาม กระบวนการจะถูกหยุด การดูดเลือดสามารถใช้เพื่อฟื้นฟูพลังชีวิตหรือแถบเลือดของผู้ใช้ได้!]
‘มีประโยชน์ดีนี่’
จากนั้น เขาก็ดูข้อมูลเบื้องลึกเกี่ยวกับทักษะบงการเลือด
[ทักษะบงการเลือด: สามารถใช้เพื่อควบคุมเลือดไม่ว่าจะเป็นเลือดของท่านหรือเลือดที่ไหลออกมาจากศัตรู ซึ่งทำให้ท่านสามารถก่อรูปร่าง, เคลื่อนไหว, และทำให้เลือดแข็งตัวได้ตามใจปรารถนา ทักษะนี้ไม่สามารถต้านทานได้ ท่านสามารถควบคุมเลือดของใครก็ได้แม้กระทั่งตัวเอง เลือดทุกหยุดที่ถูกควบคุมจะทำตามประสงค์ของท่านในทันที]
วัลคิด ‘ศักยภาพของการใช้งานทักษะนี้ไม่มีขีดจำกัด แต่ข้าสามารถใช้มันได้แค่ในปริมาณที่พอเหมาะ ถ้าแถบเลือดเหลือศูนย์ ข้าจะเข้าสู่สภาพกระหายเลือด! และไม่มีทางรู้ได้เลยว่าข้าจะเผลอทำอะไรไปบ้าง แต่ที่แน่ๆ มันคงไม่ใช่เรื่องดี’
เขาไม่ได้คิดจะตรวจสอบคุณสมบัติที่ได้มา เพราะชื่อมันก็บอกอยู่แล้ว
มันทำให้เขามองเห็นในความมืด!
หลังจากผ่านไปพักหนึ่ง เขาก็คิดที่จะตรวจสอบตัวเอง
‘ในเมื่อนี่เป็นระบบ ก็น่าจะมีวิธีตรวจสอบค่าสถานะของข้าด้วยถูกไหม?’
‘มันต้องพูดว่าอะไรนะ?’
‘อ่อ นึกออกละ’
“หน้าต่างตัวละคร” วัลพึมพำ
ชื่อ: วัล วี ไวท์มอร์
เผ่าพันธุ์: ครึ่งมนุษย์ครึ่งปีศาจ
อายุ: 16 ปี
ประเภท: ปีศาจเลือด
เลเวล: 1 (ค่าประสบการณ์ 0/10)
สายเลือดที่ยังไม่ตื่น: สายเลือดไวท์มอร์
ภาวะแทรกซ้อน: พิษระงับสายเลือดไวท์มอร์
คุณสมบัติ: ไร้ความรู้สึก (ไม่สามารถรู้สึกกลัวหรือเจ็บปวดได้), ความบกพร่องทางอารมณ์ (การแสดงออกทางอารมณ์เป็นสิ่งที่ยากสำหรับท่านเมื่อเทียบกับคนทั่วไป), มองกลางคืน (สามารถมองเห็นได้ในตอนกลางคืน)
สถานะ:
พลังชีวิต (HP): 10
พละกำลัง (STR): 10
ความว่องไว (AGT): 10
ความอดทน (STR) 10
การตอบสนอง (REF): 10
แถบเลือด: เลือด 100 หน่วย
แต้มสถานะ: 0
แต้มความบ้าคลั่ง: 0
100 MP = 1 SP!
ทักษะสายเลือด:
ทักษะดูดเลือด
ทักษะบัญชาเลือด
ในโลกแปลกๆ ที่ชื่อว่าเอลดริชนี้ ค่าสถานะของพวกปกติจะอยู่ที่ประมาณ 5 แต้ม อย่างไรก็ตาม คนที่ไม่แข็งแรงหรือมีน้ำหนักตัวมากจะมีค่าสถานะที่มักจะต่ำกว่านั้น นอกจากนี้ โดยทั่วไปจะสังเกตได้ว่าผู้หญิงจะมีค่าสถานะต่ำกว่าผู้ชาย
แม้ว่าโลกนี้กับโลกเดิมจะมีความแตกต่างกันโดยสิ้นเชิง แต่มีอย่างน้อยด้านหนึ่งที่ยังคงไม่เปลี่ยนแปลง – โดยเพศสภาพแล้วผู้หญิงจะมีร่างกายอ่อนแอกว่าผู้ชาย
สำหรับคนที่อายุน้อยขนาดนี้ ค่าสถานะของวัลถือว่าสูงจริงๆ แต่มันก็ไม่ใช่ได้มาอย่างไร้เหตุผล เขาได้รับการฝึกฝนอย่างเข้มงวดและผลักดันตัวเองไปให้ถึงขีดจำกัดมาเป็นเวลากว่าสิบปีเพื่อที่จะได้รับค่าสถานะที่น่าประทับใจเช่นนี้ แถมเขายังได้ฝึกโดยใช้วิธีการในชีวิตก่อนในทันทีที่เขามีเวลาส่วนตัวด้วย
ไม่มีรายละเอียดอะไรที่กล่าวถึงเกี่ยวกับแต้มความบ้าคลั่งยกเว้นแค่ว่า 100MP สามารถแปลงเป็น 1 SP ได้ วัลต้องหาวิธีการที่จะได้มันมาผ่านการทดสอบและการทดลอง
“นี่มัน...”
ในตอนที่วัลเหลือบไปเห็นสถานะหนึ่งบนหน้าจอ เขาก็ตกใจ
เขาถูกวางยาพิษ!
ใครมันกล้าทำเรื่องบัดซบแบบนี้?
จิตใจของวัลเดือดพล่านในขณะที่เขาเริ่มไล่รายชื่อผู้ต้องสงสัย
เนื่องจากวัลไม่รู้สึกถึงความเจ็บปวด เขาจึงไม่ทันสังเกตว่าถูกวางยาพิษ นอกจากนี้ พ่อของเขายังได้เตรียมการล่วงหน้าเอาไว้ ก่อนจะถูกเปิดเผยว่าเป็นพวกปกติด้วย ผู้ใช้สายเลือดในตระกูลของเขาได้คอยอารักขาเขา มันดูเป็นไปไม่ได้เลยที่เขาจะถูกวางยา แม้กระทั่งอาหารของเขาเองก็ยังต้องมีคนชิมทดสอบเพื่อความปลอดภัยด้วยซ้ำ
โอกาสเดียวที่เขาจะถูกวางยาก็คือช่วงแจกจ่ายยาแม่มด เพื่อเพิ่มโอกาสในการปลุกพลังที่ต้องการ ผู้ดื่มจะต้องดื่มยาหมดทั้งขวดด้วยตัวเอง เพราะเหตุนี้เองจึงไม่มีการทำการทดสอบพิษ ดังนั้นแล้วถ้าจะมีคนที่คิดไม่ซื่อกับเขา อีกฝ่ายก็สามารถใช้โอกาสนี้ในการวางยาเขาได้ แต่การถูกวางยานั้นจะสร้างความเจ็บปวดให้กับร่างกาย นั่นถือเป็นเรื่องทั่วไปที่เข้าใจได้ อย่างไรก็ตาม เพราะลักษณะเฉพาะตั้งแต่เกิดของวัล เขาจึงไม่รู้สึกถึงพิษ และหลักความเข้าใจโดยทั่วกันนี้ก็ไม่สามารถนำมาใช้กับเขาได้
ซึ่งนี่ก็หมายความว่าใครก็ตามที่วางยาเขานั้นรู้ว่าเขาไม่รู้สึกถึงความเจ็บปวด!
ทันใดนั้นเอง เรื่องทุกอย่างก็เริ่มจะเข้าที่เข้าทางสำหรับวัล
แม้ว่าเขาจะดื่มยาแม่มดเข้าไป แต่เขาก็ไม่ได้รู้สึกถึงผลกระทบอะไรเลย
ทำไมกันนะ?
นี่ก็หมายความได้ว่าเขาไม่ได้รับยาแม่มดของจริง แต่เขาถูกจัดการให้ได้รับยาบางอย่างที่หน้าตาดูคล้ายกันแต่ไม่ได้ผล
จากการที่กล้าวางยาพิษเขาต่อหน้าสาธารณชนนี้ คนร้ายจะต้องรู้เรื่องที่วัลด้านชากับความเจ็บปวด
มีคนอยู่แค่กลุ่มเดียวที่รู้ถึงความลับนี้ ในบรรดาคนเหล่านั้นได้แก่พ่อ, แม่, พี่ชายของเขา, และครอบครัวนักบวช
พี่ชายของเขานั้นเอาแต่หมกมุ่นอยู่กับการขยายธุรกิจทหารรับจ้างที่นอกฐานที่มั่นไอรอนสไปร์ ครั้งล่าสุดที่เจอเขาที่บ้านก็เมื่อ 2 ปีก่อน ในส่วนของแม่ เธอหนีออกจากบ้านไปตั้งแต่เมื่อสิบปีก่อนแล้ว!
‘สองคนนี้คงไม่มีเอี่ยวกับเรื่องนี้แน่ๆ’
‘และถึงแม้ว่าพ่อจะเป็นคนโลภ เขาก็คงไม่กล้าเอาทรัพยากรที่มีค่าอย่างข้ามาเสี่ยง ก็น่าจะไม่ใช่อีกเหมือนกัน’
ผู้ต้องสงสัยถูกตัดไปอีกหนึ่ง
และผู้ต้องสงสัยเดียวที่เหลืออยู่ก็คือนักบวชต้องสาปที่พ่อของเขาเคยจ้างมา “แก้ไข” สิ่งที่คิดว่าบกพร่องของเขาในตอนที่อายุ 6 ขวบ และแน่นอนว่าแม้กระทั่งนักบวชก็ยังล้มเหลวในการพยายาม “แก้ไข” วัล!
วัลมั่นใจว่าคนที่ต้องรับผิดชอบที่มาวางยาพิษเขานั้นจะต้องเป็นไอ้นักบวชเลวนั่นอย่างไม่ต้องสงสัยเพราะเขาเองก็เป็นคนที่ทำพิธีปลุกสายเลือดและส่ง “ยาแม่มด” ปลอมให้วัลพร้อมทั้งยังเร่งเร้าให้เขาดื่มมันด้วยรอยยิ้ม
ไอ้สารเลวนั่นวางยาพิษเขาต่อหน้าสายตามากมายด้วยรอยยิ้มอันอ่อนโยนบนหน้า!
‘ข้าจะต้องฆ่ามันแน่’ วัลเดือดดาล