Chapter 2: การเผชิญหน้ากับปีศาจ!
อย่างที่ได้บอกเอาไว้แล้ว วัลนั้นเกิดใหม่โดยที่ยังมีความทรงจำของชาติก่อน
เขาคือผู้กลับมาเกิด!
ในชาติก่อนของเขา เขามาจากโลก
ตอนนั้น เขาคือขุนพลผู้น่าเกรงขาม ที่เป็นผู้นำกองทัพทหารรับจ้างจำนวนมหาศาล
เขาใช้ชีวิตเฉกเช่นราชาในตอนที่สงครามโลกครั้งที่ 3 เริ่มต้นขึ้น
ด้วยการอุบัติขึ้นของสงครามโลกครั้งที่สาม นานาประเทศพากันล่มสลายเป็นทอดๆ
วัลเป็นชายที่โหดเหี้ยมและไร้ความปรานี ซึ่งในยุคสงครามนั้นเองก็ได้ทำกำไรให้เขาอย่างมหาศาล แต่ไม่ว่าจะแข็งแกร่งหรือยิ่งใหญ่แค่ไหน เขาก็เป็นเพียงมนุษย์คนหนึ่ง
จากการตายด้วยระเบิดปรมาณู เขาถูกส่งไปยังโลกหลังความตาย!
เขาคิดว่า ด้วยมือที่เคยเปื้อนเลือดทั้งคนบริสุทธิ์และคนเลว สถานที่พักผ่อนชั่วนิรันดร์ของเขาจะต้องเป็นนรกขุมที่ลึกที่สุดอย่างแน่นอน
แต่ว่าชีวิต หรือให้ถูกคือชีวิตหลังความตาย ก็ได้โยนเขาเป็นลูกโค้ง
แทนที่จะได้ตกลงสู่นรก เขากลับพบว่าตัวเองอยู่ในครรภ์อุ่นๆ ของหญิงคนหนึ่ง และได้เกิดใหม่เป็นตัวอ่อนเล็กๆ
ด้วยการถูกผลักเข้าสู่ชีวิตใหม่ มันทำให้เขาต้องใช้เวลาทั้งปีในการทำความเข้าใจธรรมชาติของความเป็นจริงในโลกของเขา
ที่นี่ผู้ใช้สายเลือดจะถูกยกย่อง ในขณะที่คนธรรมดาจะถูกปฏิบัติเหมือนกับเศษดิน
ดังนั้น หลังจากที่เขามายังโลกนี้ วัลมักจะปรารถนาถึงสถานะในฐานะผู้ใช้สายเลือดของเขา ตำแหน่งที่จะทำให้เขาควบคุมโชคชะตาของตัวเองได้ แต่ว่า การเป็นไวท์มอร์นั้น เขาจะต้องใช้เวลาถึง 16 ปีเพื่อจะได้เข้าร่วมพิธีปลุกสายเลือด
อย่างไรก็ตาม ผลลัพธ์ที่เกิดขึ้นกลับตอกหน้าเขาเต็มๆ!
เขาถูกตีตราว่าเป็นพวกปกติ คนที่ไร้ซึ่งความสามารถในการได้รับหรือปลุกสายเลือด แม้ว่าจะใช้ยาช่วยก็ตาม!
ภายหลังจากการพังทลายของความยิ่งใหญ่ที่สั่งสมมา คนที่เขาเคยเรียกว่าเพื่อนต่างก็พากันตัดความสัมพันธ์กับเขา คนที่เคยอิจฉาเขาต่างพากันซ้ำเติมในช่วงขาลงของเขา แม้กระทั่งพ่อแท้ๆ ก็ยังหันหลังให้ ตอนนี้เขาถูกมองในฐานะพวกปกติ วัลไม่ได้รับความช่วยเหลือหรือการปลอบโยนใดๆ เลยแต่ว่าเขาก็ไม่ได้สนใจอะไร
และยิ่งไปกว่านั้น การคุ้มครองที่เขาเคยได้รับจากตระกูลมาตั้งแต่เกิดก็ได้ถูกพรากไปเช่นกัน
ในตอนนี้ เขามีจุดยืนที่เป็นปัจจัยเสี่ยงอย่างมากในโลกอันแปลกประหลาดนี้
“ชีวิตข้าอาจจะวุ่นวาย แต่ข้ายังมีเวลาชีวิตเหลือในการจัดการมัน”
เขายังมีวิธีกอบกู้สถานการณ์นี้อยู่!
เขานั่งอยู่ตรงโต๊ะตัวหนึ่ง มีหนังสือสีดำเล่มเก่าๆ ที่หน้าปกขาดหลุดลุ่ยและหน้ากระดาษเป็นสีเหลืองอยู่ตรงหน้าเขา
หนังสือเล่มนี้ดูเหมือนจะอยู่มานานหลายปีแล้วและแผ่กลิ่นอายที่ดูอันตรายออกมารุนแรงพอที่จะทำให้คนส่วนใหญ่จิตใจไม่สงบได้ อย่างไรก็ตาม วัลไม่ได้สะทกสะท้านกับสภาพแวดล้อมอันน่าขนลุกนี้เลย ราวกับว่าเขาขาดการรับรู้ความรู้สึกในส่วนของความกลัว ซึ่งมันเป็นผลมาจากนิสัยที่ไร้ความรู้สึกของเขา
หนังสือโบราณเล่มสีดำที่ดูทรุดโทรมนี้เป็นของขวัญบอกลาจากแม่ของเขาก่อนที่เธอจะหายตัวไป อย่างไรก็ตาม ด้วยความที่ไม่มีตัวหนังสืออะไรอยู่ในหนังสือเลย มันจึงดูไร้ประโยชน์สำหรับทุกคนนอกจากวัล
ด้วยเหตุผลบางอย่างที่อธิบายไม่ได้ มีแค่เขาที่สามารถมองเห็นและอ่านตัวหนังสือที่อยู่ข้างในรวมทั้งหน้าปกของมันได้!
หน้าปกมันเขียนเอาไว้ว่า “ระบบปีศาจ”
วัตถุโบราณนี้ว่ากันว่ามันจะมอบพลังอันชั่วร้ายให้แก่ผู้ที่เห็นว่าคู่ควร อย่างไรก็ตาม ในการใช้งานมันนั้นมีสิ่งที่ต้องจ่ายไม่ใช่น้อย ซึ่งก็คือการมองเห็นครึ่งหนึ่ง
ด้วยเงื่อนไขที่แปลกประหลาดนี้ทำให้วัลตั้งคำถามถึงความน่าเชื่อถือของหนังสือ มันดูน่าขบขันไม่ต่างจากเรื่องตลก ดังนั้นเขาจึงไม่เคยคิดที่จะเปิดใช้งานมันเลย เขาจะไม่ยอมสูญเสียการมองเห็นครึ่งหนึ่งแลกกับความเป็นไปได้ที่อาจจะสูญเปล่า
อย่างไรก็ตาม ตอนนี้ดูเหมือนยมทูตจะลับเคียวรอเชือดเขาอยู่ ในฐานะพวกปกติ การคุ้มครองจากตระกูลไม่ใช่สิ่งที่เขาจะได้รับอีกต่อไป ในโลกที่เต็มไปด้วยสิ่งแปลกประหลาดมากมายนี้ การที่เขาโชคร้ายไปเจอกับอะไรบางอย่างเข้า ความตายก็คงจะเป็นสิ่งที่แน่นอน
ดังนั้น เขาจึงต้องการพลังอย่างเร่งด่วนเพื่อปกป้องตัวเองจากปัจจัยที่เป็นอันตรายต่างๆ ในโลกอันแปลกประหลาดที่แตกต่างจากโลกเดิมนี้!
ในการเผชิญหน้ากับความตายที่กำลังจะใกล้เข้ามา ตัวเลือกอย่างการสละการมองเห็นครึ่งหนึ่งเพื่อเปิดใช้วัตถุโบราณนั้นก็ดูเหมือนจะไม่ได้ยากขึ้นมา ดังนั้น ด้วยท่าทีที่นิ่งสงบ เขาจึงเอามือไปที่ดวงตาของตัวเอง
ฉัวะ!
ด้วยเสียงอันน่าสยดสยอง เขาเอามือควักดวงตาออกมาจากเบ้า แล้วคีบดวงตาที่อาบไปด้วยเลือดไว้ที่ระหว่างนิ้วของเขา
เลือดไหลอาบออกมาจากเบ้าตาอันว่างเปล่า แต่เขาก็ไม่ได้สะดุ้ง หรือกรีดร้องเลย สีหน้าของเขายังคงนิ่งเฉยราวกับไม่มีอะไรเกิดขึ้น มันเป็นภาพที่ค่อนข้างน่าขนลุกและแปลกประหลาด ในชีวิตก่อน เขาเป็นที่รู้จักในฐานะ วัล ผู้ไร้ความรู้สึก! เขาไม่สามารถรู้สึกเจ็บปวดหรือหวาดกลัวได้เพราะนิสัยที่ไร้ความรู้สึกของเขา ในขณะเดียวกันนั้นเอง การแสดงอารมณ์มันจึงกลายเป็นเรื่องที่ยากขึ้นมาสำหรับเขาเมื่อเทียบกับคนธรรมดาทั่วไปเพราะความบกพร่องทางอารมณ์นี้เอง
ซึ่งลักษณะนิสัยเหล่านี้ได้ส่งต่อมายังชีวิตปัจจุบันของเขาด้วย!
จากนั้นเขาก็เอาลูกตาของตัวเองวางไว้บนระบบปีศาจ ทันใดนั้นเอง วังวนสีดำก็ก่อตัวขึ้นที่ใจกลางของหนังสือ และกลืนลูกตาของเขาเข้าไป
ซึ่งนั่นก็ส่งผลให้ระบบปีศาจเริ่มแปรสภาพเปลี่ยนเป็นดวงตาที่ลอยเข้ามาในเบ้าตาที่ว่างเปล่าของวัลเพื่อเติมเต็มช่องว่างนั้น ดวงตาใหม่นี้เลียนแบบรูปร่างของดวงตาเดิมของวัล แต่ว่ามันดำมืดยิ่งกว่าและดูเหมือนจะกักเก็บความลึกล้ำที่ไม่สามารถวัดได้เอาไว้ อย่างไรก็ตามเว้นแต่จะมีใครเข้ามาดูดวงตาของเขาใกล้ๆ การเปลี่ยนแปลงเล็กๆ นี้คงยากที่จะมีคนสังเกตเห็น
“ติ้ง” เสียงเหมือนกระดิ่งดังก้องในหูของวัล หลังจากนั้น ภาพกึ่งโปร่งแสงก็ปรากฏขึ้นในดวงตาของเขา
[เชื่อมต่อระบบปีศาจ: ยอมรับ]
[พิสูจน์คุณค่าของท่านต่อระบบปีศาจ]
[เริ่มการทดสอบ!]
[เอาตัวรอดในห้านาที!]
[ล้มเหลวหมายถึงความตาย!]
[หากทำสำเร็จระบบปีศาจจะเป็นของท่าน!]
ในขณะที่เขาอ่านประโยคสุดท้าย ตะเกียงไอระเหยในห้องที่ก่อนหน้านี้ดับไปอย่างเป็นปริศนา ก็กลับมาสว่างขึ้น และทำให้เกิดแสงอันน่าพิศวงไปทั่วห้อง
สายตาของวัลมองไปยังตะเกียงตามสัญชาตญาณ ฐานทองเหลืองและฝาครอบแก้วกำลังเปล่งประกายวูบวาบภายใต้แสงจันทร์
เมื่อครู่ก่อน มันดับไปของมันเอง และตอนนี้มันก็กลับมาสว่างด้วยตัวของมันเองเช่นกัน
มันเสียรึเปล่านะ?
วัลรู้ว่ามันไม่ได้เป็นแบบนั้น
มีอะไรบางอย่างกำลังเล่นตลกอยู่ที่นี่ บางอย่างที่ชั่วร้าย
ข้อสรุปของเขาได้รับการพิสูจน์ในตอนที่แสงตะเกียงเริ่มเปลี่ยนเป็นสีแดงฉาน
“น่าสนใจดีนี่” วัลอุทานขึ้นด้วยน้ำเสียงที่เฉยเมย
สายตาของเขากวาดมองไปทั่วห้อง เฝ้าระวังภัยคุกคามใดก็ตามที่อาจจะเกิดขึ้น เขาไม่ใช่คนแปลกหน้าสำหรับโลกที่อันตรายสามารถโผล่ขึ้นมาได้โดยไม่มีการแจ้งเตือน โลกที่เต็มไปด้วยปีศาจและสัตว์ร้ายนี้ เขาต้องตื่นตัวอยู่ตลอดเวลา
ทันใดนั้นเองเสียงเคาะประตูก็ดังขึ้นขัดจังหวะความคิดของเขา ‘ตึง ตึง ตึง!’
“นั่นใคร?” วัลถาม
เสียงเคาะยังดังอยู่ และยังคงดังขึ้นเรื่อยๆ จนเขาแทบจะเหลืออด เขาขมวดคิ้ว “พูดมาเดี๋ยวนี้ ไม่อย่างนั้นเจ้าคงไม่อยากเจอสิ่งที่ตามมาแน่ นั่นใคร?”
ก็ยังคงไม่มีคำตอบอยู่ดี มีเพียงเสียงเคาะประตูอย่างไม่ลดละ มันเป็นแรงเคาะที่ทรงพลังราวกับไม่ใช่ฝีมือมนุษย์
วัลเดินตรงไปที่ประตูโดยไร้ซึ่งความหวาดกลัว ไม่ว่าจะมีอะไรรอเขาอยู่ เขาก็พร้อมที่จะเผชิญหน้ากับมันตรงๆ
อย่างไรก็ตาม ในขณะที่มือของเขายื่นไปยังด้ามจับประตู เหตุการณ์ประหลาดก็เกิดขึ้น ประตูดูเหมือนจะมีเลือดไหลออกมา มันถูกย้อมด้วยสีแดงน่ากลัวในขณะที่มีเลือดซึมออกมาจากลายไม้ของประตู
ถ้าเป็นคนธรรมดาคงจะถอยหนีด้วยความกลัวกับฉากนี้ แต่ไม่ใช่กับวัล เขาแค่ถอยหลังไปเพราะไม่อยากให้เสื้อผ้าอันหรูหราของเขาเปื้อน
ด้วยการตีความว่าการถอยหลังไปของเขานั้นมาจากสัญญาณของความกลัว เถาวัลย์สีดำเริ่มเล็ดลอดผ่านช่องประตู เหมือนกับฝูงหนอนยั้วเยี้ย พวกมันลอดเข้ามาในห้อง จากนั้นก็พันเกี่ยวกันจนกลายเป็นร่างที่สูงพอๆ กับตัววัล!