ตอนที่แล้ว1171 - ฆ่าปิดปาก
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไป1173 - สู้เพียงลำพัง 

1172 - ฉีลั่วแห่งวังสวรรค์ 


1172 - ฉีลั่วแห่งวังสวรรค์

บางทีอาจเป็นเพราะผู้พิทักษ์คนนี้จึงทำให้กลุ่มของพวกเขารอดชีวิตออกมาจากเหมืองโบราณต้นกำเนิดตั้งแต่แรก

“แม้ว่าเขาจะเป็นบุตรศักดิ์สิทธิ์แสงโชติช่วง แต่ก็เป็นเรื่องยากสำหรับเขาที่จะมีผู้พิทักษ์เช่นนี้ได้ ความแข็งแกร่งของคนผู้นี้เหนือกว่าปรมาจารย์ศักดิ์สิทธิ์แสงโชติช่วงอย่างแน่นอน” นักพรตเป่าจือกล่าว

“เขาคือผู้สืบทอดมรดกอันยิ่งใหญ่อีกอย่างหนึ่ง หากข้าเดาไม่ผิดนั่นจะต้องเป็นมรดกแห่งความเป็นอมตะอย่างแน่นอน!”

เย่ฟ่านมีลางสังหรณ์มาเป็นเวลานานแล้ว แต่หลังจากการพิสูจน์ครั้งนี้เขาจึงตระหนักได้ว่าเหยากวงมีเบื้องหลังยิ่งใหญ่มากกว่าที่เขาจินตนาการไว้

นักพรตเปาจื่อตกตะลึง ทักษะสวรรค์ชนิดนี้ทำให้ทั้งอดีตและปัจจุบันตกตะลึง มันถูกเล่าขานกันปากต่อปากแต่ไม่มีใครเคยเห็นผู้ที่ฝึกฝนทักษะชนิดนี้อย่างแท้จริง

ความลึกลับแห่งการเป็นอมตะนั้นทำให้จิตใจของผู้คนเต็มไปด้วยความปรารถนาอย่างไม่สิ้นสุด แม้กระทั่งจักรพรรดิผู้ยิ่งใหญ่ก็ยังออกเดินทางจากโลกเพื่อค้นหาความอมตะนั้น

“มรดกแห่งความเป็นอมตะถูกสร้างขึ้นโดยจักรพรรดิผู้โหดเหี้ยม มันเป็นสิ่งที่สามารถใช้แย่งชิงโชคชะตาจากสรวงสวรรค์ เปลี่ยนร่างกายเก่าและนำวิญญาณศักดิ์สิทธิ์จุติในครรภ์ใหม่เพื่อให้ทารกในครรภ์นั้นสามารถบรรลุความเป็นอมตะได้” นักพรตเปาจื่อกล่าวกับตัวเองด้วยความหวาดกลัว

ทักษะนี้ลึกลับมากในโลกนี้ดูเหมือนจะมีเพียงจักรพรรดิผู้โหดเหี้ยมซึ่งสร้างความหวาดกลัวให้ทั้งอดีตและปัจจุบันประสบความสำเร็จเพียงผู้เดียว

อย่างไรก็ตามหลังจากที่ค้นพบเส้นทางอันยอดเยี่ยมมากกว่าจักรพรรดิผู้โหดเหี้ยมได้ทอดทิ้งทักษะนี้ไป และในปัจจุบันยังไม่มีใครรู้ว่ามันตกทอดมาถึงมือของผู้ใดกันแน่?

กล่าวกันตามตรงทักษะในโลกนี้ไม่ว่าจะยอดเยี่ยมมากเพียงใดก็ไม่สามารถกระตุ้นความปรารถนาของผู้คนได้เท่ากับความเป็นอมตะอีกแล้ว ดังนั้นนี่จึงเป็นหนึ่งในทักษะที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในสวรรค์พิภพอย่างแน่นอน

“หากนับตามยุคที่จักรพรรดิผู้โหดเหี้ยมมีชีวิตอยู่ทักษะนี้จะต้องตกทอดมาหลายพันรุ่นแล้ว ยิ่งไปกว่านั้นนับตั้งแต่เขาประสบความสำเร็จในการใช้ทักษะนี้ก็ยังไม่เคยมีผู้ใดทำได้สำเร็จอีก มีข่าวลือว่าจักรพรรดิอู่ซือก็เคยฝึกฝนทักษะแห่งความเป็นอมตะเช่นกัน แต่ไม่รู้ว่าเขาทำสำเร็จหรือไม่?” นักพรตเปาจื่อกล่าวกับตัวเอง

พวกเขาเข้าไปในเมืองศักดิ์สิทธิ์ด้วยความระมัดระวังอย่างยิ่ง อเวจีและพิภพเป็นผู้ยิ่งใหญ่ที่น่าสะพรึงกลัวมากที่สุดของเผ่าพันธุ์มนุษย์อย่างแน่นอน และเย่ฟ่านไม่กล้าประมาทแม้แต่น้อย

ชื่อปู่ของนักพรตเปาจื่อคือฉีลั่ว สถานที่ที่ใช้เป็นสถานที่นัดพบนั้นงดงามมาก มันเป็นวังขนาดใหญ่ที่ลอยอยู่บนท้องฟ้าพร้อมกับเปล่งประกายด้วยแสงห้าสี ว่ากันว่าการที่มันลอยอยู่แบบนี้ได้ก็เพราะนี่คือหนึ่งในสมบัติของวังจักรพรรดิอสูรแห่งหนานหลิง

ฉีลั่วแก่ชราอย่างมากดวงตาที่เหลือเพียงข้างเดียวของเขาขุ่นมัวจนไร้ประกาย ในขณะที่ดวงตาอีกข้างถูกควักออกไปเหลือเพียงหลุมดำที่ราวกับจะดูดวิญญาณของผู้คนเข้าไปข้างใน

ด้วยความแข็งแกร่งของเขาต่อให้แก่ชราก็ไม่ควรจะมีสภาพทรุดโทรมแบบนี้ได้ เห็นได้ชัดว่าร่างกายของเขาได้รับบาดเจ็บจากการต่อสู้ในอดีตและไม่สามารถฟื้นฟูกลับสู่สภาพที่สมบูรณ์แบบอีกต่อไป

เย่ฟ่านไม่เชื่อว่าดวงตาที่กลวงโบ๋นั้นจะถูกศัตรูควักออกไป นั่นก็เพราะทันทีที่เขามองเห็นหลุมดำในดวงตาของอีกฝ่าย เขาก็เกิดความหวาดหวั่นอย่างถึงที่สุด มันให้ความรู้สึกราวกับยืนอยู่เบื้องหน้าของอาวุธเต๋าสุดขั้ว

ฉีลั่วจ้องมองเย่ฟ่านเป็นเวลานาน โดยเฉพาะอย่างยิ่งแสงสีดำที่พุ่งออกมาจากรูตานั้นทำให้แผ่นหลังของเย่ฟ่านเปียกชุ่มด้วยความกลัวอย่างถึงที่สุด

“ไม่ผิด เจ้าได้เรียนรู้ทักษะซิงจื่อและได้อ่านม้วนคัมภีร์แห่งสวรรค์แล้ว แต่เจ้ายังไม่ได้ฝึกฝนมันมากนัก” เขากล่าวอย่างตรงไปตรงมา

เย่ฟ่านตกใจเป็นอย่างมาก อีกฝ่ายเพียงกวาดสายตามองก็สามารถมองเห็นความลึกลับทั้งหมดที่อยู่ในตัวของเขาได้แล้ว ไม่ต้องสงสัยเลยว่านี่จะต้องเป็นหนึ่งในเซียนผู้แข็งแกร่งอย่างแน่นอน

“เว้นแต่เจ้าจะกลายเป็นปรมาจารย์ต้นกำเนิดสวรรค์ที่แท้จริง ไม่ว่าเจ้าจะปลอมตัวอย่างไรก็ไม่สามารถหลีกเลี่ยงสายตาของเราผู้เฒ่าไปได้” ชายชรากล่าวด้วยรอยยิ้ม

“ผู้อาวุโสต้องการอะไรจากข้า?” เย่ฟ่านถาม

ฉีลั่วจ้องมองเย่ฟ่านอย่างลึกล้ำ จากนั้นน้ำตาของเขาก็ไหลรินลงมาอย่างเงียบๆ ภายใต้ความเศร้าโศกของชายชราวังลอยฟ้าเริ่มสั่นสะเทือนอย่างรุนแรงราวกับจะตกลงไปที่พื้นได้ตลอดเวลา

“ผู้อาวุโส ท่านเป็นอะไร…” เย่ฟ่านรู้สึกงุนงง

“ในที่สุดมรดกของสวรรค์ก็มีผู้สืบทอดแล้ว ในที่สุดความแค้นอันยิ่งใหญ่ของบรรพชนก็จะได้รับการชำระล้าง” ชายชราร้องเสียงดังโดยไม่สนใจจะตอบคำถามของเย่ฟ่าน

เย่ฟ่านตกใจมากเมื่อได้ยินสิ่งนี้ ชายชราคนนี้ต้องการทำอะไร จะลากเขาไปสร้างศัตรูกับทั้งโลกหรือไม่?

ต้องรู้ว่าการทำลายบัลลังก์สวรรค์เป็นผลมาจากความพยายามร่วมกันของดินแดนศักดิ์สิทธิ์ทั้งหมด ศัตรูของสวรรค์นั้นไม่เพียงเป็นดินแดนศักดิ์สิทธิ์จากตงหวงเท่านั้น แต่ยังรวมถึงราชวงศ์อมตะแห่งจงโจวด้วย

“บรรพชนของข้าพิสูจน์เต๋าแห่งการฆ่าโดยการรวบรวมศีรษะของผู้นำดินแดนศักดิ์สิทธิ์หลายแห่ง ในเวลาต่อมาเขาเผชิญกับการล้างแค้นของดินแดนศักดิ์สิทธิ์เหล่านั้น แน่นอนว่านี่เป็นกรรมที่บรรพชนเป็นผู้สร้างขึ้น อย่างไรก็ตามดินแดนศักดิ์สิทธิ์เหล่านั้นรู้ที่ตั้งของวังสวรรค์ได้อย่างไร?” ชายชราปาดน้ำตาด้วยความเศร้าโศก

“มันเป็นอเวจีและพิภพแอบเล่นสกปรก พวกมันทรยศต่อบรรพชนของข้า” ชายชรากัดฟันด้วยความเกลียดชังอย่างถึงที่สุด

เย่ฟ่านรู้สึกประหลาดใจเล็กน้อยเมื่อได้ยินสิ่งนี้ การล่มสลายของสวรรค์นั้นมีความเกี่ยวข้องกับอเวจีและพิภพจริงๆ ดูเหมือนเรื่องนี้จะลึกลับซับซ้อนมากกว่าที่เขาเคยจินตนาการไว้

“เพราะพวกมันรู้ว่าตราบใดที่สวรรค์ยังคงอยู่พิภพและอเวจีจะไม่สามารถบรรลุความเป็นอมตะได้อย่างแท้จริง”

ฉีลั่วกล่าวด้วยความแค้น คำพูดของเขาดังก้องอยู่ในหูเย่ฟ่าน ความแข็งแกร่งของคนผู้นี้น่าสะพรึงกลัวเกินไป ทุกคำพูดของเขาจะสะท้อนกับเต๋าผู้ยิ่งใหญ่ทำให้สถานที่แห่งนี้สั่นสะเทือนอยู่ตลอดเวลา

“แล้วผู้อาวุโสต้องการให้ข้าทำอย่างไร?”

ชายชราตาเดียวปาดน้ำตาก่อนจะยืดกายขึ้นอย่างช้าๆ “จริงๆ แล้วมันไม่มีอะไรเลย จงมองย้อนกลับไปในอดีต ทุกสิ่งที่เจ้าเห็นนั่นต่างหากคือความจริง ส่วนสิ่งที่เจ้าได้ยินมาเป็นเพียงความเท็จ!”

เย่ฟ่านคิดตามคำพูดของชายชราจากนั้นดวงตาของเขาก็เปล่งประกายสดใส

“ในอดีตตอนที่ข้าต่อสู้กับหวังเถิงได้มีใครบางคนช่วยชีวิตเขาในช่วงเวลาวิกฤต!”

เย่ฟ่านตกใจเป็นอย่างมาก ตอนนั้นเขาพอจะรู้อยู่บ้างว่าใครเป็นคนช่วยหวังเถิงแต่เขาไม่เคยขบคิดเรื่องนี้อย่างใส่ใจสักครั้ง

เรื่องราวของหวังเถิงเป็นเหมือนตำนานของเทพเซียนก็ไม่ปาน เมื่อตอนที่เป็นเด็กเขาถูกนกกระเรียนตัวหนึ่งพาไปยังสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ที่เต็มไปด้วยความลึกลับ และที่นั่นเขาได้รับการฝึกฝนจากเซียนผู้ยิ่งใหญ่บางคน

แท้ที่จริงแล้วเซียนผู้ยิ่งใหญ่คนนั้นก็คือพิภพและอเวจีนั่นเอง!

“พวกเราที่เป็นทายาทของสวรรค์เหมือนสุนัขจรจัดที่ทุกคนพยายามรังแก อเวจีและพิภพปรารถนาความลับในการเขียนพู่กันของสวรรค์อยู่เสมอแต่สุดท้ายพวกมันก็ล้มเหลว ตอนนี้เจ้าในฐานะผู้ครอบครองทักษะแห่งสวรรค์ย่อมกลายเป็นศัตรูคนใหม่ของพวกมันแทน”

“แสดงว่าพวกมันต้องการฆ่าข้าเพื่อต้องการทักษะลับทั้งสองอย่างไม่ได้เกี่ยวข้องกับความแค้นในอดีต” เย่ฟ่านกล่าวอย่างเย็นชา

“ถูกต้อง มีเพียงทักษะลับในการเขียนพู่กันที่สามารถหยั่งรู้ความลับของฟ้าดินเท่านั้นจึงจะทำให้พวกมันทั้งสองคนพัฒนากฎของตัวเองไปสู่ความเป็นอมตะที่แท้จริงได้”

นักพรตเปาจื่อยืนอยู่ด้านข้างและฟังการสนทนาของปู่ของเขากับเย่ฟ่านอย่างเงียบๆ

หลังจากนั้นไม่นานฉีลั่วก็ขึ้นกล่าวอีกครั้ง “เจ้ารู้หรือไม่ว่าวังโบราณแห่งนี้มีผู้คนมากมายกำลังหลั่งไหลมา ไม่เพียงแต่องค์ชายจากภูเขาเสวี่ยหวงและถ้ำโหวหลินเท่านั้น แต่ยังรวมถึงองค์ชายเผ่าพันธุ์โบราณอีกหลายคน

แน่นอนว่าลูกศิษย์ของอเวจีและพิภพหลายสิบคนก็อยู่ที่นี่เช่นกัน แม้กระทั่งบุตรศักดิ์สิทธิ์และสตรีศักดิ์สิทธิ์ของพวกเขาก็อยู่ที่นี่ด้วย”

เย่ฟ่านยืนขึ้นและกล่าวว่า “ท่านหมายถึงอะไร?”

“ข้าอยากจะเห็นว่าเจ้าจะหลบหนีได้อย่างไรเมื่อถูกปิดล้อมจากยอดฝีมือรุ่นเยาว์แห่งยุคมากมายนับไม่ถ้วน ลืมบอกไปว่าฮั่วหลินเอ๋อน้องสาวของฮั่วฉีจื่อก็มาที่นี่ด้วย นางคือองค์หญิงผู้มีสายเลือดของจักรพรรดิโบราณที่แข็งแกร่งที่สุด ในบรรดาผู้คนทั้งหมดที่อยู่ที่นี่บางทีนางอาจจะเป็นคนสร้างหายนะครั้งใหญ่ให้กับเจ้า”

“เจ้า…” เย่ฟ่านหน้าเปลี่ยนสี

“ว่ากันว่าบุตรศักดิ์สิทธิ์และสตรีศักดิ์สิทธิ์ของศาลสวรรค์มีความสามารถในการสังหารราชาได้แล้ว พลังของพวกเขาอยู่ในขอบเขตเซียนเทียมขั้นสามอย่างแน่นอน เอาตัวรอดให้ได้ อย่าทำให้ชื่อเสียงของสวรรค์ต้องแปดเปื้อน”

ฉีลั่วกล่าวด้วยรอยยิ้ม หลังจากจบประโยคนี้ เขาก็ตะโกนออกไปข้างนอกวังโบราณ “ร่างศักดิ์สิทธิ์เซียนโบราณอยู่ที่นี่ พวกเจ้าเข้ามาได้แล้ว!”

“ไอ้แก่สาระเลว!” เย่ฟ่านสาปแช่ง

ภายนอกจิตสังหารโหมกระหน่ำขึ้นสู่ท้องฟ้า พลังศักดิ์สิทธิ์ก่อตัวเป็นเสาแห่งแสงหลากสีสันมากมายนับไม่ถ้วน

เพียงมองเห็นเสาแห่งพลังศักดิ์สิทธิ์ที่อยู่ตรงหน้าก็พอจะตระหนักได้แล้วว่ายอดฝีมือที่ปิดล้อมวังโบราณแห่งนี้มากมายเพียงใด

…….

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด