ตอนที่แล้วตอนที่ 670 ตามหาคน
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 672 ครอบครัวของซุยเซน

ตอนที่ 671 รังแกผู้หญิง


ตอนที่ 671 รังแกผู้หญิง

ดาวยูลานบาตูตั้งอยู่ในพื้นที่ที่ค่อนข้างลึกลับของดินแดนเนรเทศ และบนดาวก็มีเมืองขนาดใหญ่ที่เต็มไปด้วยอาคารสูง อย่างไรก็ตามอาคารพวกนี้กลับสร้างขึ้นมาอย่างไร้ระเบียบคล้ายกับว่าพวกมันถูกสร้างขึ้นมาตามใจชอบ โดยไม่สนใจว่าอาคารของตัวเองจะไปสร้างความเดือดร้อนให้กับใครก็ตาม

“บ้านเรือนในแดนเนรเทศทั้งแออัดและคับแคบ เพราะว่ามันไม่มีใครมาคอยจัดการเรื่องทุกอย่างมันจึงดูเละเทะไปหมด”

“ยกตัวอย่างเช่น การสร้างบ้านในเมืองก็เป็นสิ่งที่ง่ายมาก เพราะใครที่ได้สร้างบ้านขึ้นมาบนที่ดินก่อน คนคนนั้นก็จะได้ครองอาคารกับที่ดินผืนนั้นไปเลย แต่มันจะมีพวกนักเลงท้องถิ่นมาเรียกเก็บค่าคุ้มครองจากคนภายในเมือง และยิ่งเมืองมีขนาดใหญ่มากเท่าไหร่พวกนักเลงท้องถิ่นก็จะยิ่งเก็บค่าคุ้มครองมากขึ้นเท่านั้น”

“ท้ายที่สุดคนธรรมดาก็ยากที่จะอยู่รอดในเมืองโดยปราศจากการคุ้มครองของผู้มีอำนาจ คนส่วนใหญ่ในแดนเนรเทศเลยชอบที่จะอยู่บนดาวเคราะห์ที่อยู่ห่างไกลจากความเจริญมากกว่า และถึงแม้ว่าบนดาวพวกนั้นจะไม่มีสิ่งอำนวยความสะดวก แต่อย่างน้อยมันก็ช่วยให้พวกเขาสามารถประหยัดค่าใช้จ่ายได้”

“แต่การแยกตัวออกไปอยู่ลำพังแบบนั้นก็เสี่ยงต่อการถูกจับมาขายเป็นทาสด้วยเหมือนกัน” เซธกล่าวก่อนที่เขาจะชี้นิ้วไปยังอาคารหลังคาสี่เหลี่ยมขนาดใหญ่ที่อยู่ในระยะไกล

“นั่นคือสมาคมทหารรับจ้างที่จะมีทหารรับจ้างมาคอยรับภารกิจจากผู้ว่าจ้างอยู่เสมอ สำหรับคนในแดนเนรเทศแล้วทหารรับจ้างอยู่ในทุกแง่มุมของชีวิต ไม่ว่าจะทำอะไรพวกเขาก็มักจะนึกถึงทหารรับจ้างเป็นอันดับแรก”

เซี่ยเฟยพยักหน้ารับ เพราะท้ายที่สุดคนที่อยู่ในแดนเนรเทศก็คือผู้ที่ถูกเนรเทศออกมาจากแดนเทพและแดนมาร แน่นอนว่ามันไม่ใช่ทุกคนที่จะมีความสามารถในการสู้รบ มันจึงเป็นเรื่องปกติที่พวกเขาจะหาคนที่แข็งแกร่งกว่ามาปกป้องความปลอดภัยให้กับตัวเอง

“หากเราเดินทางขึ้นไปทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือของเมือง เราจะได้พบกับภูเขาที่เต็มไปด้วยป่าไผ่ที่พวกมุราซากิอาศัยอยู่ ผมหวังว่าวันนี้พวกเขาคงจะอยู่บ้านไม่ออกไปทำภารกิจที่ไหน ไม่อย่างนั้นพวกเราก็คงจะเดินทางมาเสียเที่ยว” เซธกล่าว

ปัจจุบันเซี่ยเฟยอยู่ภายใต้เสื้อคลุมที่ปกปิดรูปร่างหน้าตาของเขาเอาไว้จนมิด เพราะท้ายที่สุดคนจากแดนเทพและแดนมารก็มักที่จะเดินทางมายังแดนเนรเทศเพื่อซื้อขายวัตถุต้องห้ามบางอย่าง อย่างไรก็ตามเขาก็เป็นคนที่มีค่าหัวถึง 1 ล้านคริสตัลเหลือง เขาจึงจำเป็นจะต้องระวังตัวเอาไว้ก่อนเมื่อเขาได้เดินทางเข้าไปในสถานที่ที่มีคนพลุกพล่าน

“คนที่เรากำลังหาตัวอยู่ชื่ออะไร?” เซี่ยเฟยถาม

“เขาชื่อซุยเซน”

“ชื่อดี แต่ดูเหมือนผู้หญิงเกินไปหน่อย” เซี่ยเฟยกล่าว

“ซุยเซนเป็นเพียงแค่ชื่อรหัสของเขาและมันเป็นเพราะว่าเขาปลอมตัวเก่งมาก มันจึงไม่มีใครเคยรู้เลยว่าตัวจริงของเขาเป็นเพศไหน, อายุเท่าไหร่, ชื่อจริงของเขาคืออะไร แม้ว่าใครจะอยู่ในวงการมานานกว่า 30 ปีแล้วก็ตาม” เซธอธิบาย

“ดูเหมือนเขาจะเป็นคนที่ลึกลับมากเลยสินะ วันนี้ฉันอยากจะได้พบกับเขาสักครั้งจริง ๆ” เซี่ยเฟยกล่าวด้วยรอยยิ้ม

หน่อไม้ภายในป่าไผ่กำลังแตกหน่อส่งกลิ่นหอมชวนน่ารับประทานฟุ้งกระจายไปทั่วทั้งป่า ซึ่งถ้าหากว่ากระป๋องเดินทางมาด้วย เซี่ยเฟยก็คงจะให้หุ่นยนต์ตัวนี้ทำเมนูผัดหน่อไม้ให้เขาแล้ว น่าเสียดายที่กระป๋องต้องคอยอยู่ให้บริการแอวริล ชายหนุ่มจึงทำได้เพียงแต่มองดูหน่อไม้สดอย่างเสียดายเท่านั้น

ถนนถูกฝังอยู่ภายใต้ใบไผ่ที่หนาทึบและป่าแห่งนี้ก็เงียบสงบมาก มีเพียงแค่เสียงนกร้องดังแว่วมาตามสายลมและเสียงใบไม้ที่เสียดสีกันตามแรงลมที่พัดไปมา

บนถนนมีทางแยกอยู่อย่างมากมายและเนื่องมาจากว่าเซธเคยมาที่นี่เพียงแค่ครั้งเดียว ผลลัพธ์จึงกลายเป็นพวกเขาหลงทางจนไม่รู้ว่าจะต้องเดินหน้าต่อไปทางไหนดี

“พวกเราไปทางนั้นกันเถอะ” เซี่ยเฟยกล่าวพร้อมกับชี้นิ้วไปยังทางที่พระอาทิตย์กำลังตกดิน

“คุณรู้ทางเหรอ?” เซธถามด้วยความประหลาดใจ

“ไม่รู้ ฉันแค่ใช้สัญชาตญาณ”

ในสายตาของเซธนั้นเซี่ยเฟยเป็นนักสู้ที่แข็งแกร่งมาก เพียงแต่ปรมาจารย์คนนี้ชอบทำอะไรตามสัญชาตญาณ ชายฉกรรจ์จึงทำได้เพียงแค่ส่ายหัวและเดินตามเซี่ยเฟยไป

“ผมเริ่มคุ้น ๆ แล้ว บ้านของซุยเซนน่าจะอยู่แถว ๆ นี้จริง ๆ ไม่น่าเชื่อว่าสัญชาตญาณของนายท่านจะแม่นยำมากขนาดนี้” เซธกล่าวด้วยแววตาที่ตื่นเต้น

“ฉันแค่สัมผัสถึงกลิ่นอายของสัตว์ร้ายได้จากทิศทางอื่น แต่กลิ่นอายของพื้นที่บริเวณนี้เงียบสงบมาก ในเมื่อนายบอกว่าซุยเซนเป็นนักรบที่เก่งกาจ ที่อยู่ของเขาย่อมต้องปราศจากกลิ่นอายของพวกสัตว์ร้ายอยู่แล้ว” เซี่ยเฟยกล่าวขึ้นมาเบา ๆ

เซธแอบชื่นชมเซี่ยเฟยภายในใจก่อนที่พวกเขาจะเริ่มเดินทางต่อ

ในที่สุดหลังจากเดินเลี้ยวไปตามเส้นทางพวกเขาก็ได้พบกับรั้วภายในป่า โดยประตูรั้วบ้านเปิดแง้มเอาไว้และภายในเขตรั้วก็มีบ้านไม้ไผ่หยุดทั้งสิ้นสามหลัง

“ท่านซุยเซน ผมชื่อเซธที่เคยได้พบกับคุณตั้งแต่เมื่อ 10 ปีก่อน!!”

เซธเดินเข้าไปภายในรั้วบ้านและพยายามส่งเสียงร้องเรียกอีกฝ่าย แต่หลังจากที่เขาเดินวนดูบ้านไม้ไผ่ทั้งสามหลัง เขาก็เดินกลับมาหาเซี่ยเฟยด้วยสีหน้าที่เต็มไปด้วยความผิดหวัง

“ซุยเซนไม่ได้อยู่ที่นี่ บางทีเขาอาจจะออกไปทำภารกิจข้างนอก”

“คุณสมกับเป็นสายลับชั้นหนึ่งจริง ๆ ทักษะการปลอมตัวของคุณถือว่ายอดเยี่ยมมาก” เซี่ยเฟยกล่าวกับเซธด้วยรอยยิ้ม

“นายท่านกำลังพูดเรื่องอะไร? ผมเซธไง นายท่านจำไม่ได้เหรอ?” เซธเริ่มถามด้วยความตื่นตระหนก

“ฉันไม่รู้หรอกนะว่าคุณเป็นใคร แต่ที่แน่ ๆ คือคุณไม่ใช่เซธ” เซี่ยเฟยกล่าวขึ้นมาอย่างใจเย็น

“ผมคือเซธจริง ๆ นายท่านเป็นคนขอให้ผมใส่หน้ากากนี้ด้วยตัวเอง ถ้านายท่านไม่เชื่อว่าผมคือเซธ ผมจะถอดหน้ากากออกเดี๋ยวนี้” เซธกล่าวพร้อมกับถอดหน้ากากออกเผยให้เห็นใบหน้าอันดุร้ายของเขาที่ถูกซุกซ่อนอยู่ด้านใน

“คราวนี้นายท่านเชื่อผมได้หรือยัง? ดูเหมือนซุยเซนจะไม่อยู่บ้านพวกเรากลับไปตั้งหลักก่อนดีไหม?” เซธถาม

เซี่ยเฟยส่ายหัวและค่อย ๆ ดึงบลัดบิวเทียสออกมาจากแหวนมิติ

“ในเมื่อนายเป็นทาสของฉัน นายก็ควรจะพร้อมตายได้ทุกเมื่อ ตอนนี้ฉันอยากจะฆ่านายขึ้นมาแล้วช่วยอยู่เฉย ๆ ให้ฉันฆ่านายหน่อยก็แล้วกัน” เซี่ยเฟยกล่าวพร้อมกับส่งเสียงหัวเราะขึ้นมาเบา ๆ

“นายท่านผมทำอะไรผิด! นายท่านอย่าฆ่าผมเลย... ผมยังไม่อยากตาย” เซธรีบก้าวถอยหลังไปพิงรั้วและมองไปทางเซี่ยเฟยด้วยใบหน้าที่ซีดเซียว

เซี่ยเฟยยังคงไม่พูดอะไรแต่ภายในแววตาของเขาเต็มไปด้วยเจตนาสังหาร ก่อนที่เขาจะค่อย ๆ โน้มตัวไปยังด้านหน้าเพื่อพุ่งตัวเข้าหาทาสชายฉกรรจ์ที่อยู่ตรงหน้าของเขา

“ผมไม่เชื่อหรอกว่านายท่านจะฆ่าผม ถ้าหากนายท่านฆ่าผมแล้วใครจะช่วยนายท่านตามหาซุยเซน ผมไม่เชื่อว่านายท่านจะไร้เหตุผลขนาดนั้น!” เซธกำหมัดแน่นพร้อมกับจ้องมองไปทางเซี่ยเฟย

“เชื่อฉันเถอะว่าตอนที่ฉันฆ่าคน ฉันไม่เคยถามหาเหตุผลเลยสักครั้ง” เซี่ยเฟยกล่าวพร้อมกับยักไหล่

เซธยังคงไม่เชื่อ เพราะเขาคิดว่าเซี่ยเฟยกำลังพยายามทดสอบเขาอยู่ ดังนั้นเขาจึงยืนยืดอกอยู่นิ่ง ๆ โดยไม่คิดที่จะหลบหลีกการจู่โจมของชายหนุ่ม

ฉึก!

ใบดาบสีแดงเข้มปักเข้าที่อกของเซธอย่างฉับพลัน ซึ่งสถานการณ์นี้ทำให้ชายฉกรรจ์รู้สึกตื่นตระหนกมาก เพราะเขาไม่คิดว่าเซี่ยเฟยจะแทงดาบเข้ามาภายในร่างของเขาจริง ๆ แบบนี้

อารมณ์ความกลัวที่ไหลเข้าท่วมท้นไปทั้งจิตใจทำให้รูม่านตาของเซธเบิกกว้างออกในทันที แต่ก่อนที่เขาจะทันได้ทำอะไรใบดาบของชายหนุ่มก็ถูกตวัดมาทางลำคอของเขาโดยไม่ลังเล

ไร้เหตุผล!

นี่มันจะไร้เหตุผลมากเกินไปแล้ว!!

แม้ว่าเซี่ยเฟยจะคิดว่าเซธไม่ใช่เซธตัวจริง แต่การฆ่าใครสักคนที่ไม่รู้จักกันมันก็เป็นเรื่องที่ไร้เหตุผลมากจนเกินไป

เมื่อสถานการณ์ดำเนินมาจนถึงจุดนี้เซธก็ไม่สามารถที่จะอยู่เฉย ๆ ได้อีกต่อไป เขาจึงรีบย่อตัวหลบการจู่โจมอย่างรวดเร็ว จากนั้นเขาก็เริ่มใช้วิชาการต่อสู้เพื่อซ่อนร่างของตัวเองเอาไว้ภายในกฎแห่งสสาร

มุมปากของเซี่ยเฟยยกขึ้นมากลายเป็นรอยยิ้มอันเจ้าเล่ห์ และในตอนนี้มันก็ยิ่งยืนยันอย่างชัดเจนแล้วว่าคนตรงหน้าไม่มีทางเป็นเซธไปได้แน่ ๆ เพราะศิลาพิทักษ์ที่เซธภาคภูมิใจไม่ได้ปรากฏขึ้นมาเพื่อป้องกันตัวเขาโดยอัตโนมัติอย่างที่ควรจะเป็น

สาเหตุที่ศิลาพิทักษ์ถูกยกย่องว่าเป็นหนึ่งในพลังป้องกันที่ดีที่สุดในจักรวาล นั่นก็เพราะว่ามันเป็นพลังที่จะปรากฏขึ้นมาปกป้องร่างของผู้ครอบครองอย่างอิสระ ดังนั้นไม่ว่าเซธจะมีสติหรือไม่มีสติ แต่เซธตัวจริงมันจะต้องมีศิลาพิทักษ์ปรากฏขึ้นมาปกป้องเขาจากอันตรายอยู่เสมอ

แต่การที่คนคนนี้เลือกที่จะหลบหนีโดยกฎแห่งสสาร มันก็เป็นเครื่องพิสูจน์ชั้นดีแล้วว่าชายคนนี้ไม่มีทางเป็นเซธที่เป็นทาสของเขาได้

เล่ห์สังหาร!

เซธที่ร่างจมอยู่ภายในดินพยายามที่จะหลบหนี แต่น่าเสียดายที่ความเร็วในการเคลื่อนที่ของเซี่ยเฟยเร็วกว่าชายที่ปลอมตัวเป็นเซธคนนี้หลายเท่าตัว

ผัวะ!

ชายหนุ่มตวัดเท้าเตะดินอย่างรุนแรงจนทำให้ร่างของเซธกระเด็นลอยขึ้นไปในอากาศ เมื่อเท้าของเซี่ยเฟยแตะพื้นชายหนุ่มก็กระโดดขึ้นไปในอากาศอีกครั้ง จากนั้นเขาก็ใช้ฝ่ามือฟันเข้าใส่หน้าอกของเซธเข้าอย่างจัง

การจู่โจมในครั้งนี้ไม่ได้รุนแรงมากนัก แต่เซี่ยเฟยกลับรู้สึกสัมผัสได้ถึงซาลาเปานิ่ม ๆ 2 ลูก

ในระหว่างที่ร่างของเซธกำลังตกลงมาจากอากาศ มันก็มีหมอกควันปรากฏขึ้นมาใต้ร่างของเขาอย่างรวดเร็ว ราวกับว่าเขาต้องการที่จะใช้หมอกควันนี้เพื่อรองรับแรงกระแทกจากการที่ร่างจะตกลงไปกระทบลงกับพื้น

น่าเสียดายที่ก่อนที่ชายคนนั้นจะร่วงหล่นลงบนพื้น เซี่ยเฟยก็ได้คว้าคอเสื้อของเซธเอาไว้เสียก่อน จากนั้นชายหนุ่มก็ชูร่างของชายคนนี้ขึ้นไปในอากาศ

เมื่อเซี่ยเฟยพิจารณาร่างตรงหน้าอีกครั้งเขาก็ได้พบว่าใบหน้าของชายฉกรรจ์ค่อย ๆ หดเล็กลง มือและเท้าของอีกฝ่ายก็ค่อย ๆ เรียวบางขึ้นเช่นเดียวกัน กลิ่นดินที่เคยเปรอะเปื้อนอยู่บนร่างก็หายไปถูกแทนที่ด้วยกลิ่นหอมอ่อน ๆ ที่ให้ความรู้สึกอันแปลกประหลาด

“ผู้หญิง?” เซี่ยเฟยอุทานขึ้นมาด้วยความตกตะลึง เมื่อเขาได้พบว่ารูปร่างที่แท้จริงของคนที่ปลอมตัวเป็นเซธกลายเป็นผู้หญิงคนหนึ่ง

ตอนนี้ร่างของพวกเขาอยู่ใกล้กันมากจนทำให้เซี่ยเฟยได้กลิ่นลมหายใจของผู้หญิงคนนี้อย่างชัดเจน ซึ่งมันก็แตกต่างไปจากกลิ่นลมหายใจของเซธอย่างสิ้นเชิง

“แย่แล้ว!” เซี่ยเฟยอุทานขึ้นมาด้วยความไม่อยากจะเชื่อ เพราะเขาไม่ชอบการรังแกเด็กผู้หญิงเลย แล้วมันก็ไม่จำเป็นจะต้องพูดถึงว่าหญิงสาวคนนี้ยังดูค่อนข้างที่จะเด็กมาก ยิ่งไปกว่านั้นฝ่ามือของเขายังไปสัมผัสกับหน้าอกของเธอโดยไม่ได้ตั้งใจ มันจึงทำให้เขาเริ่มที่จะทำอะไรไม่ถูก

เมื่อได้เห็นว่าหญิงสาวกำลังจะร้องไห้เขาก็รีบวางร่างของเธอลง แต่ในขณะที่เขากำลังจะพูดอะไรบางอย่างเพื่อปลอบโยนเธอ ขนอุยก็กระโดดออกมาจากหน้าอกของเขาด้วยความโกรธ

ขนาดร่างกายในปัจจุบันของขนอุยมีขนาดเล็กเพียงแค่ประมาณเม็ดถั่วเท่านั้น มันจึงพยายามซ่อนตัวอยู่ในหน้าอกเสื้อของเซี่ยเฟยตลอดทั้งวัน แต่มันก็รีบปรากฏตัวออกมาทันทีเมื่อสัมผัสได้ว่าเซี่ยเฟยกำลังต่อสู้กับศัตรู

แม้ว่าหญิงสาวคนนี้จะไม่ใช่ศัตรูของเซี่ยเฟยจริง ๆ แต่การมารบกวนการนอนของมันก็ยังทำให้ขนอุยรู้สึกหงุดหงิดมากอยู่ดี ยิ่งไปกว่านั้นมันคือสัตว์ศักดิ์สิทธิ์ที่ไม่รู้ว่าการถนอมผู้หญิงเป็นยังไง ดังนั้นมันจึงกระโจนออกมาเผชิญหน้ากับหญิงสาวด้วยแววตาที่เต็มไปด้วยความดุร้าย

อิ้ว!

ไม่ว่าขนาดร่างของขนอุยจะเล็กมากแค่ไหนแต่มันก็ยังคงเป็นอสูรศักดิ์สิทธิ์อยู่ดี ขนทั่วทั้งร่างของหญิงสาวคนนั้นจึงลุกตั้งชันขึ้นมาอย่างไม่ได้ตั้งใจ เพราะเสียงร้องแหลมเล็กของขนอุยมันได้ก้องกังวานไปทั่วทั้งป่า

เซี่ยเฟยรีบปิดปากของขนอุยเอาไว้ แต่มันก็ดูเหมือนว่าเขาจะลงมือช้าเกินไปหน่อย

หญิงสาวตรงหน้ารู้สึกหวาดกลัวขนอุยมาก ซึ่งหลังจากที่เธอตกใจจนทำอะไรไม่ถูก ในที่สุดเธอก็หลั่งน้ำตาออกมาอย่างไม่สามารถที่จะควบคุมได้

“ทำไมคุณถึงเป็นคนไร้เหตุผลขนาดนี้! ฉันแค่อยากจะล้อคุณเล่นนิดเดียวเอง แต่คุณกลับต้องการที่จะฆ่าฉันจริง ๆ”

“พ่อ! ลุง! ทุกคนอยู่ไหน?! ตอนนี้มันมีคนชั่วกำลังรังแกหนูอยู่!!”

ทันใดนั้นเงาดำจากกระท่อมไม้ไผ่ก็รีบเคลื่อนที่เข้ามายืนอยู่เคียงข้างหญิงสาวในทันที โดยชายคนนี้มีอายุประมาณ 40-50 ปี และถึงแม้ว่าเขาจะตกใจมาก แต่ท่าทางของเขาก็ยังคงพยายามปกป้องหญิงสาวคนนี้เอาไว้อย่างเต็มที่

เหตุการณ์ในปัจจุบันทำให้เซี่ยเฟยขมวดคิ้วขึ้นมาอย่างหนัก แต่เขาก็ไม่รู้ว่าเขาจะต้องพูดอะไรออกไปเหมือนกัน

“ฮ่า ๆ ๆ นี่นายรังแกลูกสาวของซุยเซนงั้นเหรอ? หลังจากนี้มันจะต้องมีอะไรดี ๆ ให้ฉันดูดแน่ ๆ” โอโร่ส่งเสียงหัวเราะพร้อมกับรับชมเหตุการณ์ตรงหน้าอย่างน่าสนใจ

***************

เอ่อ… ผู้หญิงที่โผล่มาจะไม่มีคนดีๆปกติๆบ้างเลยเหรอ?

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด