ตอนที่แล้วบทที่ 116
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปบทที่ 118

บทที่ 117


พวกเขาเล่นกับเด็กๆ สักพัก เด็กๆ ต่างตื่นเต้นกันยกใหญ่ หัวเราะเฮฮา

เฉิงอวี้มองดูหลินอันหลานถูกเด็กๆ ห้อมล้อม เด็กตัวโตหนึ่งคนและเด็กตัวเล็กๆ หนึ่งคน จึงอดไม่ได้ที่จะถามเสี่ยวเฉียว "ตอนเด็กพวกเธอก็เป็นแบบนี้เหรอ"

เสี่ยวเฉียวยิ้ม "อันอันไม่ได้เล่าเรื่องวัยเด็กของเขาให้นายฟังเหรอ"

"ไม่ได้บอกรายละเอียด"

"งั้นก็ปกติ เขาคงไม่รู้จะพูดยังไงมั้ง เพราะตอนเด็กๆ นั้น เขาเป็นเด็กที่น่าสงสาร"

เฉิงอวี้ประหลาดใจ

เสี่ยวเฉียวมองหลินอันหลานที่อยู่ไม่ไกล ความทรงจำค่อยๆ ย้อนหวนกลับไปสู่วันวาน

ตอนที่หลินอันหลานถูกทิ้งไว้ที่หน้าประตูสถานรับเลี้ยงเด็กกำพร้าก็น่าจะประมาณห้าขวบ

แม่ของเขาจูงมือของเขา พาเขามาที่นี่ ให้เขายืนรออยู่ที่หน้าประตู เธอบอกว่า "แม่จะไปซื้อไอศกรีมมาให้ลูก"

หลินอันหลานก็รออย่างเชื่อฟัง รอจนกระทั่งผู้อำนวยการเดินออกมา รอจนพระอาทิตย์ตกดิน แม่ของเขาก็ไม่กลับมา

เขาเบะปาก ร้องเรียกหาแม่น้ำตานองหน้า ผู้อำนวยการอุ้มเขาขึ้นมาแล้วพูดกับเขาว่า "เข้าไปรอด้านในนะ"

หลินอันหลานไม่ยอม ส่ายหน้าถีบเท้าเตะขาจะลงพื้น

ผู้อำนวยการจึงต้องปล่อยเขาลงบนพื้นอีกครั้ง และนำม้านั่งเล็กๆ มาให้เขานั่ง

เขามองไปทางที่แม่ของเขาจากไปด้วยดวงตาที่แดงก่ำ และก็ก้าวขาอันน้อยๆ มุ่งหน้าวิ่งไปทางนั้น แต่เมื่อเขาวิ่งไปจนถึงทางแยก ก็ไม่เห็นแม่ของเขา

ถนนตรงนี้เป็นทางแยก หลินอันหลานไม่รู้จะเดินไปทางไหน เขาจึงยืนอยู่ที่หน้าทางแยกด้วยความงุนงง และในที่สุดก็ร้องไห้เสียงดังออกมา ตะโกนร้องเรียกหาแม่อย่างสุดเสียง

แต่แล้วก็ไม่มีเสียงคนตอบรับ

เขาจำไม่ได้ว่าบ้านของเขาอยู่ที่ไหน เขาจำได้เพียงว่าแม่ของเขาพาเขานั่งรถนานมาก ทั้งรถคันใหญ่รถคันเล็ก เขายังนอนหลับบนรถอีกด้วย

แต่ว่าตอนนี้ เขาไม่มีแม่แล้ว

คุณครูในสถานรับเลี้ยงเด็กกำพร้าได้พาเขากลับไป จัดแจงที่นอนให้กับเขา และกล่าวกับเขาว่า "ต่อไปหนูก็นอนที่นี่อย่างเชื่อฟังนะ ถ้าหนูเชื่อฟัง จะมีแม่คนใหม่มาพาหนูกลับบ้าน"

แต่หลินอันหลานเศร้ามาก เขาก้มหน้าลงเหมือนต้นกล้าอ่อนที่ห่อเหี่ยว ที่ใบเปลี่ยนเป็นสีเหลืองแล้ว

เขาร้องไห้อยู่พักใหญ่ ร้องจนเหนื่อย ถึงได้ผล็อยหลับไป

วันรุ่งขึ้นที่ตื่นขึ้นมา เขาก็วิ่งไปที่หน้าประตูสถานรับเลี้ยงเด็กกำพร้า ไปรอแม่ของเขาอีก

มีเด็กๆ บางคนตะโกนใส่เขา "แม่นายไม่มาแล้วล่ะ เธอไม่ต้องการนายแล้ว"

หลินอันหลานตะโกนกลับด้วยความโกรธ "แม่ต้องการผม! แม่จะต้องกลับมา! แม่บอกแม่ชอบผมที่สุด!"

เขายืนรออยู่หน้าประตู พิงรออยู่ที่หน้าประตู นั่งยองๆ รออยู่ที่หน้าประตู และในที่สุดก็ร้องไห้ขึ้นอีกครั้ง

หลังจากรอมาหลายวันติดต่อกัน หลินอันหลานก็ยังไม่เห็นวี่แววการมาของแม่เขา

ในวันที่ห้านั้น เสี่ยวเฉียวได้ขวางหลินอันหลานไว้ และกล่าวกับเขาว่า "นายยังไม่เข้าใจอีกเหรอ นายรอเสียเปล่า! แม่นายไม่มาแล้ว เธอไม่ต้องการนายแล้ว! ดังนั้นนายถึงได้มาอยู่ที่นี่ไง มีเพียงลูกที่พ่อแม่ไม่ต้องการถึงได้มาอยู่ที่นี่!"

หลินอันหลานผลักเธอด้วยความโมโห "แม่ต้องการผม!"

"เธอไม่ต้องการนาย! ถ้าเธอต้องการนาย นายก็คงไม่ต้องมาอยู่ที่นี่แล้ว เธอไม่ต้องการนายแล้ว เพราะงั้นนายไม่ต้องรอเธอแล้ว!"

หลินอันหลานทั้งโกรธทั้งโมโหทั้งเสียใจ พลางผลักเสี่ยวเฉียว พลางร้องไห้

เสี่ยวเฉียวอายุมากกว่าเขาสองปี ตัวสูงกว่าเขานิดหน่อย จึงอาศัยความได้เปรียบของความสูงขวางเขาไว้ และตะคอกใส่ทั้งน้ำตาว่า "นายไม่ต้องรอแล้ว เธอไม่ต้องการนาย นายก็อย่าไปต้องการเธอ เธอยังทิ้งนายได้ลง ทำไมนายต้องไปร้องเรียกหาเธอด้วย!”

เธอกอดหลินอันหลานไว้ หลินอันหลานร้องไห้โฮ "ผมต้องการแม่ ผมต้องการแม่"

"ต่อไปนายจะต้องมีแม่ใหม่แน่นอน แม่คนนี้ ไม่ต้องไปอยากได้เธอแล้ว"

ตอนที่ครูในสถานรับเลี้ยงเด็กกำพร้าถูกเด็กพามานั้น ก็เห็นเขาสองคนกอดคอกันร้องไห้ เด็กชายที่ตัวเล็กกว่าหน่อยร้องไห้ใจแทบแตกสลาย เด็กหญิงตัวโตกว่าหน่อย ร้องไห้อย่างเงียบๆ

ครูจึงต้องเดินเข้าไปหา ช่วยหลินอันหลานเช็ดน้ำตา เสี่ยวเฉียวก็ก้มหน้า เช็ดน้ำตาให้ตัวเองอย่างเงียบๆ

ตั้งแต่นั้นมา หลินอันหลานถึงได้ไม่ไปรอแม่ของเขาอีก และไปเรียนไปเล่นกับเด็กคนอื่นๆ แทน

ตอนนั้นเขายังไร้เดียงสา ไม่รู้ว่ามีแม่ใหม่หมายถึงอะไร

จนกระทั่งวันหนึ่ง เขาพบว่าเสี่ยวหย่งเพื่อนที่เล่นกับเขามาด้วยกันทำการเก็บกระเป๋านักเรียน และบอกว่าเขาจะไปแล้ว เขามีพ่อใหม่แม่ใหม่แล้ว

หลินอันหลานรู้สึกอิจฉาและก็ประหลาดใจมาก

ตอนนั้นเขาถึงได้เข้าใจ ในสถานรับเลี้ยงเด็กกำพร้าจะมีผู้ใหญ่ปรากฏตัวเป็นครั้งคราว ถ้าพวกเขาถูกใจใคร ก็จะกลายเป็นพ่อแม่ของคนนั้น

เขาก็อยากได้พ่อแม่เหมือนกัน เขาแอบถามเสี่ยวเฉียวว่า "พี่เสี่ยวเฉียว ผมจะมีพ่อแม่เป็นของตัวเองไหม"

เสี่ยวเฉียวยิ้มอย่างอ่อนโยน เธอกล่าว "แน่นอนสิ"

หลินอันหลานมีความสุขมาก แต่ว่าเขารอมาเป็นเวลานานแล้ว ก็ยังไม่มี ใบหน้าของเขาโศกเศร้า น้ำใสๆ เอ่อล้นที่เบ้าตา และกล่าวอย่างน่าสงสารว่า "เสี่ยวเจี้ยนก็มีพ่อแม่แล้ว ผมยังไม่มีอีก"

เสี่ยวเฉียวมองดูเขาที่น้ำตาคลอหน่วย รู้สึกสงสารเขา แต่สถานรับเลี้ยงเด็กกำพร้าก็เป็นแบบนี้ ครอบครัวที่มารับอุปการะชอบเด็กที่หน้าตาดี อายุน้อย หลินอันหลานหน้าตาดีก็จริง แต่เขาอายุห้าขวบ อายุนี้จำเรื่องราวต่างๆ ได้แล้ว ไม่มีผู้รับอุปการะคนไหนที่อยากให้ลูกของตัวเองมีแม่สองคนในความทรงจำ

พวกเขากลัวว่าลูกที่เลี้ยงจนเติบใหญ่อย่างยากลำบาก เมื่อโตขึ้นจะไปตามหารากเหง้า แล้วใช้วลี "ยังไงเธอก็เป็นผู้ให้กำเนิดหนู" เป็นเหตุผลในการอธิบาย

นี่คือสิ่งที่ครั้งหนึ่งเธอได้ยินเข้าโดยไม่ตั้งใจ เสี่ยวเฉียวถามครูว่าหมายความว่าอย่างไรหลังจากที่คนคนนั้นจากไป ครูอธิบายให้เธอฟังอย่างอดทน บอกกับเธอว่า คนที่มารับอุปการะเด็ก ล้วนเป็นคนดี เพียงแต่หลายครั้ง คนดีก็ต้องไตร่ตรองให้มาก

เสี่ยวเฉียวเข้าใจแล้ว แต่หลินอันหลานยังไม่เข้าใจ

เขาเด็กเกินไป เขาอายุแค่ห้าขวบเท่านั้น เขาไม่รู้ด้วยซ้ำว่ามันหมายถึงอะไร

ต่อมา ในที่สุดก็มีคนถูกใจหลินอันหลาน หลินอันหลานดีใจอย่างมาก บอกกับเสี่ยวเฉียวอย่างตื่นเต้นว่า เขาจะมีพ่อแม่แล้ว

เสี่ยวเฉียวก็ดีใจแทนเขาเช่นกัน

เพียงแต่วันที่นัดเดินเรื่องอย่างเป็นทางการ อีกฝ่ายไม่ได้มา

หลินอันหลานรอจนหนึ่งชั่วโมง สองชั่วโมง หนึ่งวัน สองวัน ก็ไม่เห็นอีกฝ่ายมา

เขาถูกทอดทิ้งอีกครั้ง

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด