ตอนที่ 668 ทาสเจ้าปัญหา
ตอนที่ 668 ทาสเจ้าปัญหา
เซี่ยเฟยตะโกนสาปแช่งขณะชกเข้าใส่หน้าของเซธเป็นครั้งที่ 2
เหตุการณ์นี้ทำให้เซธรู้สึกสับสนมาก และดวงตาทั้งสองข้างของเขาก็กำลังเบิกกว้างด้วยความไม่อยากจะเชื่อ
เขาไม่เข้าใจเลยว่ามันมีคนสามารถทำลายการป้องกันของศิลาพิทักษ์เข้ามาได้ยังไง เพราะพลังพิเศษที่ถูกเสริมด้วยพลังของกฎแห่งสสารนี้ถือได้ว่าเป็นหนึ่งในการป้องกันที่ได้รับการยกย่องว่าดีที่สุดในจักรวาล
แม้ว่าในตอนนี้เขาจะกลายเป็นทาสแต่ศิลาพิทักษ์ก็ยังคงทำงานอยู่ แม้ว่าเขาจะไม่ได้ใช้สมองในการสั่งงานพลังนี้ก็ตาม นั่นจึงเป็นเหตุผลที่พ่อค้าทาสไม่สามารถจะทำอะไรกับเขาได้ และทำให้เขาได้กลายเป็นทาสที่หยิ่งที่สุดภายในเมืองแห่งนี้
แต่ในตอนนี้เซี่ยเฟยสามารถชกทะลุการป้องกันของศิลาพิทักษ์เข้าใส่ใบหน้าของเขาได้อย่างง่ายดาย และนี่ก็ถือว่าเป็นครั้งแรกที่เซธได้พบกับเหตุการณ์อะไรแบบนี้
ทั่วทั้งอาคารตกอยู่ในความเงียบงันอย่างที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน พวกเหล่าบรรดาทาสสาว ๆ และพนักงานของร้านต่างก็มองไปยังเหตุการณ์ตรงหน้าด้วยความไม่อยากจะเชื่อ
เซธมีชื่อเสียงมาอย่างยาวนานและย้อนกลับไปในอดีตเขาก็เคยทำลายเผ่าพันธุ์ต่าง ๆ มาเป็นจำนวนนับไม่ถ้วน แต่ในวันนี้เขากลับถูกเด็กหนุ่มคนหนึ่งชกเข้าใส่ใบหน้าของเขาจริง ๆ และการจู่โจมนั้นยังสามารถทะลุการป้องกันของเขาเข้าไปได้ด้วย
แหมะ
เลือดหยดหนึ่งมาจากรูจมูกของเซธและตกลงไปบนพื้น ก่อให้เกิดเสียงก้องกังวานดังขึ้นมาท่ามกลางความเงียบงัน
เซธรู้สึกได้ว่าจมูกของเขาเจ็บและเมื่อเขาได้ใช้มือยื่นออกไปสัมผัส เขาก็ได้พบว่านิ้วของเขากำลังเปื้อนเลือดสีแดง
“เลือด?” เซธอุทานออกมาด้วยความตกใจ เพราะเขาเกือบจะลืมไปแล้วว่าครั้งสุดท้ายที่เลือดเขาไหลออกมาคือเมื่อไหร่กันแน่
อ๊าก!!
“ฉันจะฆ่าแก!!” เซธร้องคำรามขณะที่เขารีบกระโจนเข้าใส่เซี่ยเฟยด้วยความรวดเร็ว
แม้ว่าชายร่างใหญ่คนนี้จะเลือกจู่โจมเข้าใส่เซี่ยเฟย แต่มันก็ดูเหมือนว่าเขาจะพอมีศีลธรรมอยู่บ้าง เพราะศิลาพิทักษ์สามารถที่จะใช้ได้ทั้งการโจมตีและการป้องกัน แต่ครั้งนี้เขาเลือกที่จะโจมตีโดยใช้หมัดเพียว ๆ โดยไม่ได้ใช้พลังอะไร
ด้วยพลังของเซี่ยเฟยในปัจจุบันหากว่าเขาต่อสู้อย่างสุดกำลังเขาย่อมเผชิญหน้ากับเซธที่มีระดับพลังสูงกว่าได้อย่างแน่นอน เพราะกฎแห่งความโกลาหลสามารถที่จะพุ่งผ่านเกราะป้องกันของอีกฝ่ายเข้าไปได้อย่างง่ายดาย ประกอบกับช่วงเวลาที่ผ่านมาเขาได้พัฒนาขึ้นมาจากเดิมอีกเยอะมาก การเผชิญหน้ากับเซธจึงไม่น่าจะเป็นปัญหาสำหรับเขาเท่าไหร่นัก
หลังจากเวลาผ่านไปเหตุการณ์อันน่าสยดสยองก็เกิดขึ้นในร้านค้าของตระกูลหลิว โดยในปัจจุบันเซธกำลังนอนขดตัวอยู่บนพื้นเหมือนกับกุ้ง ใบหน้าของเขาบวมเป่งราวกับโดนผึ้งต่อยมาทั้งรัง ฟันหน้าทั้งสองซี่ของเขาหลุดกระเด็นออกไปบนพื้น ซึ่งหลังจากที่เขาถูกชายหนุ่มสั่งสอนเซธก็ไม่กล้าที่จะส่งเสียงออกมาอีกต่อไป
“นี่ฉันไม่ได้ตาฝาดไปใช่ไหม? ไอ้หนุ่มนั่นอัดราชานักล่าทาสได้จริง ๆ เหรอ?”
“ภาพหลอน! เหตุการณ์นี้มันจะต้องเป็นภาพหลอนแน่ ๆ เซธมีพลังระดับราชากฎขั้นที่ 2 แล้วเขาจะถูกเด็กคนหนึ่งทุบตีแบบนี้ได้ยังไง?!”
“ฉันไม่เคยคิดเลยว่าจะได้เห็นภาพแบบนี้ในชีวิต ถ้าหากว่าฉันเอาเรื่องนี้ไปเล่าให้คนอื่นฟังมันก็คงจะไม่มีใครเชื่อคำพูดฉันแน่ ๆ”
เหล่าบรรดาผู้ชมต่างก็ส่งเสียงร้องอุทานขึ้นมาด้วยอารมณ์ที่แตกต่างกันไป เพราะพวกเขาไม่เคยเชื่อเลยว่าปัจจุบันเซธจะเป็นฝ่ายที่ลงไปนอนดิ้นทุรนทุรายอยู่กับพื้น พร้อมกับส่งเสียงร้องโอดครวญด้วยความเจ็บปวดออกมาตลอดเวลา
“ไหนก่อนหน้านี้เห็นโม้นักโม้หนา ทำไมนายไม่ใช้ศิลาผู้พิทักษ์อะไรที่แกภาคภูมิใจสู้กลับล่ะ?” เซี่ยเฟยกล่าวพร้อมกับใช้ผ้าเช็ดหน้าเช็ดเลือดออกจากกำปั้น
“มันใช้ไม่ได้ ศิลาผู้พิทักษ์ของฉันใช้ไม่ได้ผล…” เซธส่งเสียงพึมพำขึ้นมาเบา ๆ
สำหรับเซธอาการเจ็บปวดทั่วทั้งร่างกายเป็นเพียงแค่อาการเจ็บปวดภายนอกเท่านั้น แต่การที่เซี่ยเฟยสามารถทำลายศิลาผู้พิทักษ์ของเขาได้เรื่องนี้ถือได้ว่าเป็นอันตรายถึงชีวิต การจู่โจมของชายหนุ่มในครั้งนี้ได้ทำลายความภาคภูมิใจของเขาอย่างไร้ปรานี และความเจ็บปวดในครั้งนี้มันก็คงจะเป็นฝันร้ายที่ไม่มีวันเลือนหายไป
“นี่นายรู้จักการทำตัวไม่เด่นเป็นไหม? ตอนนี้มันจะเอิกเกริกมากเกินไปแล้ว พวกเรารีบออกไปจากที่นี่กันเถอะ” โอโร่กล่าวด้วยน้ำเสียงที่ไม่ค่อยพอใจจากการกระทำที่ค่อนข้างหุนหันพลันแล่นของชายหนุ่ม
เซี่ยเฟยพยักหน้ารับก่อนที่เขาจะหันเดินกลับไปท่ามกลางแววตาที่ตกตะลึงเป็นจำนวนนับไม่ถ้วน
ตอนแรกใบหน้าของสโตนนี่ซีดเผือดด้วยความหวาดกลัว แต่หลังจากนั้นมันก็เปลี่ยนเป็นใบหน้าสีแดงที่เต็มไปด้วยความตื่นเต้น ต่อมาเขาก็เดินตามเซี่ยเฟยออกไปอย่างภาคภูมิใจ ซึ่งในครั้งนี้เป็นครั้งแรกเลยที่เขาสามารถเดินยืดอกต่อหน้าพวกพ่อค้าทาสได้แบบนี้
“เดี๋ยวก่อน!” จู่ ๆ เซธก็ส่งเสียงตะโกนพร้อมกับลุกยืนขึ้นและเดินเข้าไปหาเซี่ยเฟยอย่างช้า ๆ
“อย่าบอกนะว่าเซธต้องการที่จะแลกเป็นแลกตายกับชายหนุ่มคนนั้น?” ทาสสาวยกมือขึ้นมาปิดปากด้วยความหวาดกลัว
เซี่ยเฟยหันศีรษะกลับไปเพื่อจ้องมองเซธที่กำลังก้าวเท้าเข้ามา โดยชายร่างใหญ่คนนี้ไม่สนใจเลือดที่ไหลย้อยลงจากบนใบหน้า และเดินเข้ามาคล้ายกับว่าเขากำลังตัดสินใจจะทำอะไรสักอย่างหนึ่งแล้ว
“ยังอยากจะสู้อยู่งั้นเหรอ?” เซี่ยเฟยกล่าวถามด้วยน้ำเสียงที่เย็นชา
บลัดบิวเทียสไม่ได้ดื่มเลือดมาระยะหนึ่งแล้วทำให้สีสันของมันค่อย ๆ ซีดจางลง ถ้าหากเหตุการณ์เลวร้ายลงมากกว่านี้จริง ๆ เขาก็ไม่คิดที่จะปฏิเสธให้อาหารบลัดบิวเทียสด้วยเลือดของฝ่ายตรงข้าม และถึงแม้ว่าเขาจะก่อเรื่องอย่างเอิกเกริกขึ้นมา แต่เขาก็ยังมั่นใจว่าเขาสามารถเดินทางออกไปจากดาวดวงนี้อย่างปลอดภัยได้
ปั่ก!
ในระหว่างที่เซี่ยเฟยกำลังคิดอยู่นั้น เซธก็คุกเข่าลงพร้อมกับคว้าขาของชายหนุ่มด้วยมือทั้งสองข้างและพูดออกมาด้วยน้ำตา
“นายท่านได้โปรดซื้อผมไปเถอะ! ผมอยู่ที่นี่มานานมากพอแล้ว ผมอยากไปเป็นทาสของนายท่าน”
เหตุการณ์นี้ทำให้เซี่ยเฟยขมวดคิ้วขึ้นมาโดยไม่ได้ตั้งใจ เพราะใต้เท้าของเขาคือราชากฎผู้ทรงพลัง แต่ชายผู้หยิ่งผยองคนนี้กลับกำลังร้องไห้และตะโกนออกมาว่าอีกฝ่ายต้องการอยากจะมาเป็นทาสของเขา
นี่มันเรื่องบ้าอะไรว่ะเนี่ย?
“กรงพวกนั้นไม่สามารถขังแกเอาไว้ได้แน่ ๆ บอกจุดประสงค์ที่แท้จริงของแกออกมาซะ ไม่อย่างนั้นฉันจะฆ่าแกตอนนี้เลย” เซี่ยเฟยกล่าวอย่างเย็นชา
การที่ราชากฎยอมมาเป็นทาสแบบนี้มันเป็นเรื่องที่น่าเหลือเชื่อมากจนเกินไป แล้วทำไมเซธถึงมาขอให้เขารับอีกฝ่ายไปเป็นทาสหลังจากที่เขาเอาชนะทาสคนนี้ได้ด้วย ไม่ว่าเซี่ยเฟยจะพยายามคิดวิเคราะห์ไปในมุมไหนแต่เขาก็ยังไม่สามารถหาคำตอบให้กับสถานการณ์ในครั้งนี้ได้
“ผมสาบานต่อบรรพบุรุษของผมได้เลยว่าผมเต็มใจที่จะเป็นทาสของนายท่านจริง ๆ ถ้าหากว่าผมโกหกขอให้ผมถูกฟ้าผ่าตายได้เลย นายท่านได้โปรดรับผมไปเป็นสุนัขรับใช้ของนายท่านด้วย!”
ห๊ะ!
เหล่าบรรดาพ่อค้าทาสต่างก็อ้าปากค้างด้วยความไม่อยากจะเชื่อ เพราะราชานักล่าทาสที่เคยใช้ชีวิตอย่างรุ่งโรจน์ในอดีตกำลังขอร้องให้อีกฝ่ายรับเขาไปเป็นสุนัขรับใช้จริง ๆ ซึ่งเรื่องนี้มันอยู่เหนือเกินกว่าจินตนาการของพวกเขามากเกินไป
อย่างไรก็ตามในระหว่างที่ทุกคนกำลังมองมาอยู่นั้น เซี่ยเฟยกลับเตะเซธออกไปอย่างรำคาญ
แรงเตะในครั้งนี้ทำให้ร่างของเซธปลิวลอยไปกระแทกเข้ากับกรงอย่างรุนแรง จนทำให้แขนของเขาหักงอบ่งบอกถึงพลังทำลายที่เซี่ยเฟยได้ปลดปล่อยออกไป
“คำสาบานมันก็แค่เรื่องไร้สาระ ถึงแม้ว่าแกจะเอาชีวิตของคนทั้งตระกูลของแกมาเดิมพันแต่ฉันก็ไม่มีทางเชื่อคำพูดของแกอย่างเด็ดขาด ถ้าแกยังไม่พูดจุดประสงค์ของตัวเองออกมาก็อย่าเข้ามาใกล้ ไม่อย่างนั้นก็อย่าหาว่าฉันไม่เตือน!”
หลังจากพูดจบเซี่ยเฟยก็หันหลังและเดินจากไป ทำให้เซธไม่สามารถที่จะซ่อนความผิดหวังของเขาเอาไว้ได้
ทันใดนั้นเองคุณหลิวที่กำลังรู้สึกตกตะลึงอยู่ไม่ไกลก็ตั้งสติกลับมาได้ในทันที เขาจึงรีบก้าวเท้าไปขวางหน้าเซี่ยเฟยเอาไว้และกล่าวขึ้นมาด้วยรอยยิ้มอันประจบประแจงว่า
“เดี๋ยวก่อนคุณผู้ชาย พวกเรามาตกลงอะไรกันสักหน่อยดีไหม?”
เซี่ยเฟยไม่สนใจพ่อค้าทาสคนนี้และเดินเบี่ยงตัวหลบออกไปเพื่อที่จะเดินออกไปจากอาคาร
“คุณผู้ชายได้โปรดซื้อเซธไปเถอะ พวกเราทนเขาต่อไปไม่ได้แล้วจริง ๆ ตราบใดก็ตามที่คุณผู้ชายเอาเซธไปพวกเราไม่เพียงแต่จะคิดราคาของเขาเท่านั้น แต่เรายังจะแถม 1,000 คริสตัลเหลืองให้กับคุณด้วย... ไม่สิ ๆ เอาเป็น 2,000 คริสตัลเหลืองไปเลย”
“3,000 ก็ได้”
“5,000! 5,000 ขาดตัว!! แล้วผมก็ขอแถมทาสคนไหนไปก็ได้ เชิญคุณเลือกออกไปตามใจชอบได้เลย”
ในระหว่างที่เซี่ยเฟยยังคงสงบนิ่ง โอโร่ก็ส่งเสียงหัวเราะและพูดออกมาว่า
“ดูเหมือนว่าเซธจะทำให้พ่อค้าทาสคนนี้ลำบากมาก ถึงขนาดที่เขาตั้งใจจะแถมเงินก้อนใหญ่ให้กับคนที่เอาเซธออกไปจากร้านของเขาแบบนี้ ฉันว่านายเอาเขาไปเป็นทาสของนายเถอะ อย่างน้อยเขาก็ยังพอมีความแข็งแกร่งให้นายได้ใช้งานได้บ้าง”
“ไม่! เรื่องนี้มันผิดปกติมากเกินไป ถ้าหากว่าฉันไม่รู้เบื้องลึกเบื้องหลังที่แท้จริง ฉันก็ไม่มีทางเอาปัญหามาเพิ่มอีกอย่างเด็ดขาด” เซี่ยเฟยกล่าวพร้อมกับส่ายหัว
ระบบเรดาร์แบล็คแบทรุ่นใหม่ที่มอร์โรว์ผลิตขึ้นมานั้นเป็นอุปกรณ์ที่ล้ำสมัยมาก เพราะมันสามารถที่จะเปลี่ยนกระแสจิตของเซี่ยเฟยกลายเป็นข้อความส่งเข้าไปหาโอโร่ที่อยู่ภายในแหวนมิติได้โดยตรง ดังนั้นถึงแม้ว่าพวกเขาจะสนทนากันในที่สาธารณะ แต่มันก็ไม่มีใครสามารถที่จะจับสัมผัสการสนทนาระหว่างพวกเขาได้
“ในดินแดนเนรเทศมีผลไม้ชนิดหนึ่งชื่อว่าผลธอร์นเบอร์รี่ ถ้าหากว่าใครกินมันเข้าไปแม้แต่ทาสราชากฎก็ไม่สามารถที่จะต้านทานเจ้านายของตัวเองได้ ดังนั้นนายไม่จำเป็นจะต้องกังวลว่านายจะควบคุมเขาไม่ได้ การค้าขายทาสในเมืองนี้มีมาอย่างยาวนานและวิธีการของพวกเขาก็ค่อนข้างที่จะฉลาดมากพอสมควร”
“สิ่งที่ฉันกังวลไม่ใช่การควบคุมเขา แต่มันคือเหตุผลที่ทำให้เขายอมมาเป็นทาสแบบนี้ต่างหาก สิ่งที่อยู่เบื้องหลังเรื่องนี้จะต้องไม่ใช่สิ่งที่ธรรมดาแน่ ๆ และถ้าหากว่าฉันเข้าไปยุ่งกับเรื่องนี้สุ่มสี่สุ่มห้า มันก็อาจจะนำปัญหาใหญ่มาให้กับฉันเพิ่ม” เซี่ยเฟยกล่าว
หลังจากได้รับคำอธิบายโอโร่ก็คิดว่าคำพูดของเซี่ยเฟยสมเหตุสมผลมาก เขาจึงเลิกพยายามโน้มน้าวชายหนุ่มให้เอาเซธไปเป็นทาสอีกต่อไป แต่เจ้าของร้านตระกูลหลิวก็ยังคงพยายามโน้มน้าวอย่างไม่หยุดหย่อน โดยการพยายามเพิ่มมูลค่าของแถมเพิ่มมากขึ้นเรื่อย ๆ
ไม่ว่ายังไงเขาก็มีโอกาสที่จะกำจัดเซธออกไปแล้ว เขาจึงพยายามจะทำทุกวิถีทางให้เซี่ยเฟยเอาทาสคนนี้ออกไปจากร้านของเขาให้ได้ ท้ายที่สุดในแต่ละวันเซธก็เอาแต่กินกับนอนและอาหารที่เขาเรียกหาในแต่ละวันก็มีราคาที่ค่อย ๆ เพิ่มมากขึ้น
น่าเสียดายที่เซี่ยเฟยไม่ได้ให้ความสนใจพ่อค้าทาสคนนี้เลยแม้ว่าอีกฝ่ายจะต้องการแถมคริสตัลต้นกำเนิดระดับ 4 มาเขาเป็นจำนวนนับหมื่นชิ้นก็ตาม
“เดี๋ยวก่อน!” หลังจากใช้เวลาคิดอยู่นาน ในที่สุดเซธก็ตัดสินใจได้แล้วเขาก็รีบวิ่งออกไปเพื่อหยุดเซี่ยเฟยเอาไว้
“ผมจะบอกคุณทุกอย่าง ขอแค่คุณให้โอกาสผมก็พอ”
“เอาล่ะสวมหน้ากากนี้เข้าไปซะ” เซี่ยเฟยกล่าวพร้อมกับโยนหน้ากากให้กับเซธ
—
สำนักงานของคุณหลิวอยู่ในอาคารสูงที่สามารถมองเห็นห้องทำงานทุกที่ได้จนทั่ว โดยในปัจจุบันเขากำลังยืนอยู่นอกประตูด้วยความกระตือรือร้น เพราะในที่สุดเขาก็จะได้กำจัดทาสตัวปัญหาออกไปจากร้านของตัวเองสักที
“เอาล่ะเล่าให้ฉันฟังมาได้แล้วว่าทำไมราชากฎที่เคยมีชื่อเสียงโด่งดังถึงกลายมาเป็นทาสแบบนี้?” เซี่ยเฟยกล่าวขณะมองไปยังเซธที่สวมหน้ากาก
“ความจริงแล้วมันเป็นผมเองที่วิ่งเข้าไปในกรงและบังคับให้ไอ้พ่อค้านั่นรับผมเป็นทาส” เซธกล่าวพร้อมกับก้มหน้าลง
“นายทำแบบนั้นไปทำไม?” เซี่ยเฟยอุทานขึ้นมาด้วยความตกใจ
“ผมทำเพื่อความอยู่รอด ถ้าหากว่าผมไม่กลายเป็นทาสผมก็จะต้องถูกเขาคนนั้นฆ่า” เซธกล่าวขึ้นมาด้วยความกลัว
***************
เฮ้อออ ตัวปัญหาอย่างที่คิดจริงๆด้วย