ตอนที่แล้วตอนที่ 666 ทาสแถมเงิน
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 668 ทาสเจ้าปัญหา

ตอนที่ 667 เซธ


ตอนที่ 667 เซธ

“มันมีทาสแถมเงินอยู่จริง ๆ เหรอ?” เซี่ยเฟยเริ่มสนใจเรื่องนี้ในทันทีและติดตามสโตนนี่ไปยังร้านตระกูลหลิว ซึ่งเป็นร้านค้าทาสที่ใหญ่ที่สุดทางตอนใต้ของเมือง

ระหว่างทางเซี่ยเฟยสังเกตเห็นกรงขนาดใหญ่ที่มีทาสถูกขังเอาไว้เป็นจำนวนไม่น้อยไปกว่า 10,000 คน และทาสทุกคนต่างก็ล้วนแล้วแต่สวมใส่เสื้อผ้าที่ขาดรุ่งริ่งไม่ต่างไปจากทาสคนอื่น ๆ

“พวกนี้เป็นแค่ทาสธรรมดา ๆ สินค้าที่ดีจริง ๆ จะอยู่ในโกดังทางฝั่งนั้นต่างหาก” สโตนนี่กล่าวพร้อมกับชี้นิ้วไปยังอาคารสูงที่อยู่ไกลออกไป

เมื่อเซี่ยเฟยกับสโตนนี่เดินมาจนถึงประตู พนักงานที่เฝ้าประตูอยู่ก็สังเกตเห็นปมบนผ้าคลุมของชายหนุ่มได้ในทันที ซึ่งในระหว่างนั้นพวกเขาก็แอบเอามือมาถูกัน พร้อมกับมองไปยังเซี่ยเฟยด้วยแววตาที่เต็มไปด้วยความโล�

“ไปให้พ้น! นี่ไม่ใช่ที่ที่แกควรอยู่ ออกไปรอตรงนั้น” พนักงานคนหนึ่งเตะร่างของสโตนนี่ออกไป ก่อนที่เขาจะหันไปทางเซี่ยเฟยด้วยท่าทางประจบประแจง

“คุณลูกค้าเชิญทางนี้เลยครับ นักร้องสาว ๆ สวย ๆ เพิ่งจะเข้ามาเมื่อวานนี้เลย สาว ๆ พวกนี้มีทีเด็ดอย่าบอกใคร ผมกล้ารับประกันความพึงพอใจให้คุณลูกค้าได้เลย”

ระหว่างนั้นสโตนนี่ก็เอามือขึ้นมาลูบบั้นท้ายของตัวเองด้วยความโกรธ แต่เขาก็ไม่สามารถทำอะไรพวกพ่อค้าทาสได้ เด็กชายจึงทำได้เพียงแต่ก้มศีรษะลงแล้วเดินไปรอยังมุม ๆ หนึ่งอย่างเงียบ ๆ

“เขามากับฉัน ฉันเลยอยากจะพาเขาไปด้วย” เซี่ยเฟยกล่าวพร้อมกับชี้นิ้วไปที่สโตนนี่

“เด็กสกปรกแบบนี้จะทำให้สถานะของคุณลูกค้าหม่นหมองลงไปเปล่า ๆ ปล่อยให้มันยืนรออยู่ตรงนั้นเถอะครับ” พนักงานกล่าวด้วยรอยยิ้ม

“เรื่องของฉันพวกนายไม่ต้องมายุ่ง!” เซี่ยเฟยกล่าวด้วยน้ำเสียงที่จริงจัง

หลังจากพูดจบเขาก็โบกมือเรียกสโตนนี่ให้เดินทางไปพร้อมกับเขา และทำราวกับพวกพนักงานเป็นเพียงแค่อากาศ

“ไอ้เด็กนี่มันจะก้าวร้าวมากเกินไปแล้ว ฉันจะไปบอกคุณหลิวให้ฟันมันจนหลังแบะไปเลย!” คนที่เป็นเหมือนหัวหน้าพนักงานกล่าวขึ้นมาเบา ๆ พร้อมกับเหลือบสายตามองไปยังเซี่ยเฟยอย่างอาฆาต

ไม่นานหลังจากนั้นเขาก็ส่งพนักงานคนหนึ่งให้รีบเดินทางไปบอกคุณหลิวว่า

แกะอ้วนตัวหนึ่งได้ถูกส่งมาที่ร้านของเขาแล้ว

ระหว่างที่เซี่ยเฟยเดินขึ้นไปเลือกทาสบนชั้น 2 เหล่าบรรดาทาสสาว ๆ ต่างก็ล้วนแล้วแต่โปรยเสน่ห์มาให้ชายหนุ่มอย่างต่อเนื่อง ซึ่งถ้าหากว่าเขารู้สึกชอบทาสคนไหน เขาก็สามารถบอกพนักงานให้นำทาสคนนั้นออกมาตรวจสอบอย่างใกล้ชิดได้

อย่างไรก็ตามทาสสาวเหล่านี้ก็พอจะมีอายุอยู่บ้าง เพราะแม้แต่ทาสที่มีอายุน้อยที่สุดก็มีอายุประมาณ 30 ปี ขณะที่ทาสที่มีอายุมากที่สุดก็มีอายุประมาณ 50 ปีเลยทีเดียว

พวกเธอถูกฝึกสอนมาตั้งแต่ยังเด็กให้ร้อง, เล่น, เต้นรำและฝึกทักษะทุกอย่างที่เอาไว้สำหรับการล่อลวงผู้ชายโดยเฉพาะ แต่เมื่อพวกเธอเริ่มแก่ตัวลงพวกเธอก็จะถูกขายต่อกลายเป็นทาสสาวที่มีระดับต่ำลงมา ส่งต่อให้พวกเศรษฐีกำเนิดใหม่ที่เพิ่งเข้าสู่วงการนำทาสพวกนี้ไปลิ้มลอง

แม้ว่าพวกเธอจะมีอายุ แต่พวกเธอก็มีประสบการณ์ที่แตกต่างจากสาววัยแรกรุ่น ทำให้เศรษฐีบางคนก็ชอบทาสพวกนี้มากกว่าทาสสาว ๆ ที่ยังไม่มีประสบการณ์

ยิ่งไปกว่านั้นในสังคมบางแห่งทาสสาวพวกนี้ยังเป็นเครื่องมือที่เอาไว้บ่งบอกถึงฐานะ ที่ยิ่งเศรษฐีมีทาสสาวอยู่ในบ้านมากเท่าไหร่พวกเขาก็จะยิ่งได้รับการยกย่องมากขึ้นเท่านั้น

เมื่อได้เห็นเด็กหนุ่มแต่งตัวเรียบร้อยเดินเข้ามา ทาสสาวเหล่านี้ก็เริ่มรู้สึกตื่นเต้น เนื่องจากพวกเธอจะรู้สึกโชคดีมากถ้าหากว่าเซี่ยเฟยเลือกซื้อตัวพวกเธอไป เพราะท้ายที่สุดลูกค้าส่วนใหญ่ก็มักจะเป็นชายมีอายุที่หยาบคาย และการให้บริการเจ้านายแบบนั้นมันก็ไม่ต่างไปจากการเอาตัวเองไปทรมาน

แม้ว่าจะมีการยั่วยวนเข้ามาอย่างต่อเนื่อง แต่เซี่ยเฟยก็ยังคงสงบนิ่งไม่ไหวติง และไม่ว่าทาสสาวเหล่านี้จะสวยงามมากแค่ไหน แต่มันก็ยังไม่มีใครที่สามารถหยุดความสนใจของชายหนุ่มเอาไว้ได้

อย่างไรก็ตามพวกพนักงานที่เดินตามเซี่ยเฟยต่างก็เริ่มที่จะสูญเสียการควบคุม แต่พวกเขาก็ทำได้เพียงแต่กลืนน้ำลายและรับชมสิ่งสวยงามด้านหน้าโดยไม่สามารถที่จะเข้าไปแตะต้องได้

“ทาสแถมเงินที่นายเล่าให้ฟังอยู่ที่ไหน?” เซี่ยเฟยถาม

“เขาอยู่ห้องด้านในสุด ตรงทางแยกนั่น” สโตนนี่กล่าวพร้อมกับชี้นิ้วไปยังทางแยกในระยะไกล

เมื่อเซี่ยเฟยเดินไปตามทางเขาก็ได้พบกับกรงขนาดใหญ่ที่ภายในกรงมีสิ่งอำนวยความสะดวกต่าง ๆ อยู่อย่างมากมาย คล้ายกับว่าเขาเป็นแขกวีไอพีมากกว่าทาสที่ถูกขายอยู่ภายในร้านค้า

บนเตียงเป็นชายร่างใหญ่ผมสีดำที่ปกคลุมยาวมาจนถึงหน้าอก ภายในปากของเขากำลังเคี้ยวเนื้อย่างอย่างตะกละตะกลาม คล้ายกับว่าเขาเป็นเจ้าของร้านมากกว่าทาสที่อยู่ในกรง

“เหล้าอยู่ไหน? ไปเอาเหล้ามาเพิ่มเดี๋ยวนี้!!” ชายร่างใหญ่ส่งเสียงตะโกน โดยไม่เงยหน้าขึ้นมาจากจานอาหารที่อยู่ตรงหน้า

พนักงานหลายคนที่ยืนอยู่ข้าง ๆ กรงตัวสั่นและรีบวิ่งออกไปเอาเหล้ามาเสิร์ฟให้ชายคนนี้ในทันที แต่ถึงแม้ว่ามันจะมีคนวิ่งไปเอาเหล้ามาแล้ว แต่มันก็ไม่มีใครยินดีที่จะเข้าไปภายในกรงคล้ายกับว่าทุกคนต่างก็รู้สึกเกรงกลัวทาสคนนี้มาก

ในที่สุดพนักงานที่มีร่างเล็กที่สุดก็ถูกบังคับให้เอาเหล้าเข้าไปเสิร์ฟภายในกรง เขาจึงค่อย ๆ เปิดประตูกรงด้วยความระมัดระวัง เซี่ยเฟยจึงสังเกตเห็นว่าประตูกรงนั้นไม่ได้ถูกล็อกอยู่ด้วยซ้ำ คล้ายกับว่าพวกเขาไม่เกรงกลัวว่าทาสคนนี้จะหลบหนีออกไปเลย

“นี่พวกแกเรียกน้ำล้างตีนนี่ว่าเหล้าเหรอ!!”

เพล้ง!!

ชายร่างใหญ่ขว้างขวดเหล้าลงบนพื้น ก่อนที่เขาจะตบเข้าใส่หน้าของพนักงานที่เอาเหล้าเข้ามาเสิร์ฟ

เพี้ยะ!

เสียงตบดังชัดเจนมากและพนักงานคนนั้นก็ทำได้เพียงแต่ก้มหน้าและพยายามที่จะไม่ร้องไห้

“ไปเอาเหล้าดี ๆ มาให้ฉันเดี๋ยวนี้! ไม่อย่างงั้นฉันจะหักขาแกซะ!!”

พวกพนักงานที่เฝ้ากรงตื่นตระหนกอีกครั้ง ก่อนที่พวกเขาจะวิ่งไปนำเหล้าชั้นดีที่ถูกห่อด้วยกระดาษสีทองและส่งพนักงานอ้วนเข้ามาเป็นเด็กเสิร์ฟคนใหม่

เพี้ยะ!

เพล้ง!

พนักงานคนใหม่ถูกตบขึ้นเสียงดังอีกครั้ง ก่อนที่มันจะมีเสียงขวดเหล้าแตกและเสียงตะโกนสาปแช่งอันไม่พอใจดังออกมาอีกรอบ

พวกพนักงานเริ่มกังวลใจมาก พวกเขาจึงรีบวิ่งไปตามชายวัยกลางคนที่สวมชุดคลุมขนสัตว์อย่างรวดเร็ว ซึ่งทันทีที่ชายวัยกลางคนคนนี้เดินทางมาถึง เขาก็รีบเข้าไปภายในกรงแล้วโค้งคำนับด้วยความสุภาพทันที โดยเขาได้ปฏิบัติต่อทาสคนนี้ราวกับอีกฝ่ายเป็นบรรพบุรุษของตัวเอง

จากนั้นเขาก็สั่งให้พนักงานไปจัดหาทาสมาตั้งโต๊ะสำหรับงานเลี้ยงใหญ่ ก่อนที่เขาจะเช็ดเหงื่อออกจากหน้าผาก

“ช่างมันเถอะ ดูเหมือนว่ารอบนี้พวกแกจะไม่มีของดีอยู่จริง ๆ แต่คราวหน้าฉันจะไม่ปล่อยพวกแกไปแน่!” ชายร่างใหญ่ส่ายหัวพร้อมกับกล่าวขึ้นมาอย่างช่วยไม่ได้

เมื่อได้รับการให้อภัยชายวัยกลางคนก็รีบกล่าวคำขอบคุณ ก่อนที่เขาจะถอนหายใจออกมาด้วยความโล่งอก

เซี่ยเฟยคิดว่าภาพเหตุการณ์นี้เป็นภาพที่ตลกมาก และถ้าหากไม่ใช่เพราะรอยสักทาสบนหน้าของชายคนนั้นและโซ่ตรวนที่พันธนาการเท้าของเขาเอาไว้ เขาก็คงจะคิดว่าชายคนนี้เป็นเจ้าของร้านมากกว่าทาสที่ต้องถูกขังอยู่ในกรง

“สโตนนี่ เขาคนนี้คือใคร? แล้วเขาเก่งขนาดไหน?”

“คนที่ใส่ชุดคลุมขนสัตว์นั่นเป็นเจ้าของร้านที่ทุกคนเรียกเขาว่าคุณหลิว ตระกูลของเขาไม่เพียงแต่จะยิ่งใหญ่ที่สุดภายในเมืองแห่งนี้เท่านั้น แต่ตระกูลหลิวยังโด่งดังไปจนถึงเมืองอื่น ๆ ด้วย ถือได้ว่าตระกูลนี้เป็นตระกูลที่เชี่ยวชาญการค้าทาสมาอย่างยาวนาน”

“ส่วนผู้ชายที่อยู่ในกรงชื่อ ‘เซธ’ เป็นราชากฎที่โด่งดังมาก ก่อนหน้านี้เขาเป็นหัวหน้ากลุ่มโจรจับทาสที่มีคนในกลุ่มหลายพันคน ทาสที่ถูกพวกเขาจับมาขายมีเยอะจนนับไม่ได้ เรียกได้ว่าตราบใดก็ตามที่เขาสามารถเอามาขายทำเงินได้ เขาจะจับคนพวกนั้นมาขายให้กับพ่อค้าทาสทั้งหมด”

“แต่จู่ ๆ เขาก็กลับกลายมาเป็นทาส แล้วมันก็ไม่มีใครรู้เหตุผลที่แท้จริงว่าทำไมเขาถึงได้มาใช้ชีวิตเป็นทาสอยู่ในกรงแบบนี้” สโตนนี่อธิบาย

ทาสที่มีพลังระดับราชากฎเนี่ยนะ!?

เซี่ยเฟยรู้สึกตกตะลึงมาก เพราะแม้แต่ในแดนเทพราชากฎก็ถือเป็นตัวตนที่ทรงอิทธิพลมาก แม้แต่ตระกูลหยูที่มีประชากร 1 ล้านคนก็มีราชากฎในตระกูลอยู่เพียงแค่ 3 คนเท่านั้น แต่ชายคนนี้กลับเป็นทาสที่มีพลังระดับราชากฎจริง ๆ

ทำไมชายผู้โหดร้ายและทรงพลังถึงได้กลายมาเป็นทาสได้?

สิ่งที่เขาได้พบเจอมาคงจะเป็นเรื่องที่เหนือเกินกว่าจินตนาการของทุกคนแน่นอน!

หลังจากจัดการเรื่องอาหารการกินให้กับเซธเรียบร้อยแล้ว คุณหลิวก็เดินออกมาจากกรงด้วยสีหน้าที่เหนื่อยล้า ซึ่งในระหว่างนี้มันก็ไม่มีใครกล้าที่จะสบสายตาเซธเลยแม้แต่น้อย

“น่าสนใจจริง ๆ ฉันขอไปพูดคุยกับเขาสักหน่อยก็แล้วกัน” เซี่ยเฟยกล่าวด้วยรอยยิ้ม

“อย่าเลยนายท่าน แม้ว่าเขาจะเป็นทาสแต่เขาก็โหดเหี้ยมมาก ครั้งก่อนมีคนสนใจตัวเขาอยู่เหมือนกัน แต่ชายคนนั้นก็จบชีวิตลงด้วยการถูกกระชากไส้ออกมา” สโตนนี่พยายามเตือนเซี่ยเฟยอย่างประหม่า

“ไม่เป็นไร ฉันแค่อยากจะลองดู นายรอฉันอยู่ตรงนี้ก็แล้วกัน” เซี่ยเฟยกล่าวพร้อมกับตบไหล่เด็กชายเบา ๆ

สโตนนี่ลังเลอยู่เล็กน้อยแต่เขาก็ตัดสินใจซ่อนตัวอยู่หลังเซี่ยเฟย และเดินตามหลังชายหนุ่มไปยังกรงของเซธอย่างช้า ๆ

เมื่อเซธเห็นเซี่ยเฟยที่เดินเข้ามาแววตาของเขาก็เต็มไปด้วยเจตนาสังหารในทันที

“คุณลูกค้าไปหาพวกสาว ๆ ที่อยู่ด้านบนดีกว่า อย่าไปยุ่งกับเขาคนนั้นเลย” พนักงานที่สังเกตเห็นเซี่ยเฟยพยายามส่งสัญญาณให้ชายหนุ่มด้วยท่าทางอันเคร่งเครียด คล้ายกับว่าเขารู้สึกกลัวทาสคนนี้มาก

น่าเสียดายที่ไม่ว่าใครจะห้ามมากแค่ไหนแต่เซี่ยเฟยก็ยังคงเดินตรงไปที่กรงอย่างไม่แยแส ซึ่งพนักงานที่เคยเฝ้าประตูอยู่ด้านนอกก็กำลังมองไปทางเซี่ยเฟยอย่างยินดี เพราะพวกเขาจะได้เห็นลูกค้าที่หยิ่งยโสคนนี้ถูกฉีกร่างออกจากกันเป็นชิ้น ๆ

“มองอะไรวะ!” เซธร้องคำรามใส่เซี่ยเฟยที่กำลังจ้องมองมาทางเขาจากนอกกรง

“มองทาส” เซี่ยเฟยตอบกลับง่าย ๆ พร้อมกับใช้มือปัดกลิ่นเหม็นที่ลอยโชยมาจากปากของเซธ

“เออใช่ ฉันเป็นทาส! ถ้าแกกล้าก็ซื้อฉันออกไปสิ แต่การซื้อฉันแกจะไม่ได้เสียเงินหรอกนะไอ้คนที่ชื่อหลิวนั่นจะจ่ายเงินให้กับแกอีก 1,000 คริสตัลเหลืองด้วย” เซธกล่าวพร้อมกับหัวเราะเสียงดัง

“กลิ่นปากแกเหม็นมาก ไม่น่าแปลกใจเลยว่าทำไมถึงไม่มีคนซื้อแกออกไปสักที” เซี่ยเฟยกล่าวอย่างเฉยเมยซึ่งเขาก็ไม่ค่อยชอบท่าทีของชายคนนี้มากนัก

เซธรีบลุกขึ้นมาจากเตียงและจ้องมองไปยังเซี่ยเฟย ราวกับว่าเขาอยากจะฉีกกระชากร่างของชายหนุ่มคนนี้ออกเป็นชิ้น ๆ

พวกทาสสาวที่อยู่ชั้นบนเริ่มมองมาทางเซี่ยเฟยอย่างเป็นกังวลเช่นเดียวกัน เพราะถ้าหากว่าเซธทำอะไรเซี่ยเฟยขึ้นมา พวกเธอก็คงจะเสียดายโอกาสที่จะได้ออกไปให้บริการชายหนุ่มหน้าตาดี

“ไหนแกพูดอีกครั้งหนึ่งสิ! ฉันชื่อเซธอยู่ในดินแดนเนรเทศมา 40 ปีแล้ว เมื่อก่อนทุกคนต่างก็เรียกฉันว่าราชานักล่าทาส และฉันก็ยังเป็นราชากฎแห่งสสารที่มีพลังศิลาพิทักษ์ที่แข็งแกร่งมากอีกด้วย” เซธพูดด้วยแววตาที่ดุร้าย

ในอดีตชื่อเสียงของเซธโด่งดังมากจริง ๆ จนถึงกับผู้ใหญ่บางคนในดินแดนเนรเทศได้ใช้ชื่อของเขาเพื่อหลอกเด็กเมื่อเด็ก ๆ เริ่มดื้อซน เหล่าประชาชนในดินแดนเนรเทศจึงเกรงกลัวเซธมาก เพราะชื่อเสียงของเขาทั้งโหดเหี้ยมและไม่เคยมีความปรานี

ปัง!

เซี่ยเฟยต่อยเข้าที่หน้าของเซธโดยตรงแล้วทะลุพลังศิลาพิทักษ์ของอีกฝ่ายเข้าใส่ใบหน้าของเซธเต็ม ๆ

พลังศิลาพิทักษ์เป็นพลังพิเศษสายป้องกันที่ไม่ธรรมดา และเมื่อไหร่ก็ตามที่ผู้ครอบครองพลังพิเศษนี้ถูกโจมตี มันจะสร้างกำแพงหินขึ้นมาป้องกันโดยอัตโนมัติ

อย่างไรก็ตามพลังที่เคยสร้างชื่อเสียงให้กับเซธมาอย่างยาวนาน กลับถูกเซี่ยเฟยทำลายลงไปได้อย่างง่ายดายโดยการใช้พลังของกฎแห่งความโกลาหล

“จะพูดอะไรนักหนา ฉันบอกไปแล้วใช่ไหมว่ากลิ่นปากแกมันเหม็น!”

ปัง!

เซี่ยเฟยเอานิ้วขึ้นมาบีบจมูกและใช้มือชกเข้าใส่ใบหน้าของเซธอีกครั้ง

***************

เอ่อ… น่าจะช็อกทั้งอาคาร

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด