ตอนที่ 190 ประตูแห่งความหวัง(อ่านฟรี)
ตอนที่ 190 ประตูแห่งความหวัง
“ข้ามไม่ได้!”
ลุคหันมาพูดอย่างตกใจ เพราะสิ่งที่เขาเป็นกังวลมากที่สุด สุดท้ายแล้วก็เป็นความจริง ถ้าข้ามไม่ได้ก็กลับไปยังโลกยุคโบราณไม่ได้
“ไม่มันต้องมีทางอื่น!” ลุคพูดด้วยน้ำเสียงเยือกเย็น
อาธาไม่ได้กล่าวตอบอะไร เพราะมันไม่จำเป็นต้องอธิบายอะไรเพิ่ม
ฟาเดย์ที่อยู่ในภาพโฮโลแกรมมองไปยังยานลำนั้นอยู่พังหนึ่งโดยไม่กล่าวอะไร จนกระทั่งได้ยินเสียงของลุคจึงได้พูดออกมาว่า “พวกเขากล่าวถูกแล้ว ยานรบเหมือนจะรวมเข้ากับประตูมิติและอาศัยพลังที่ประตูมิติปลดปล่อยออกมารวมเข้ากับเครื่องกำเนิดพลังงานและระบบของยานสร้างม่านพลังขึ้นมาเพื่อปิดกั้นจนไม่มีอะไรสามารถผ่านประตูไปได้อีก”
“ทำลายมันได้ไหม”
“เอแจ็กซ์น่าจะเป็นผู้สร้างมันขึ้นมา คงคิดจะปิดผนึกเส้นทางไม่ให้อันเดดข้ามไปยังโลกแห่งความหวังที่อยู่หลังประตู เธอช่างเด็ดขาดซะจริง” ฟาเดย์กล่าวและถอนหายใจเล็กน้อย
“ถ้าทำลายยานลำนั้นละ”
“ไม่มีทางเข้าไปใกล้ได้ยานรบก็ถูกม่านพลังงานปกคลุมด้วย” อาธากล่าว
“ที่จริงแล้วผมอาจจะพาพวกคุณเข้าไปที่ยานได้ ส่วนข้ามประตูไปได้หรือไม่ก็ต้องรอดูหลังจากเข้าไปในยานรบแล้วเท่านั้น” ฟาเดย์กล่าวขึ้นมา ขณะที่สายตาไม่ได้ละไปจากยานรบเลยแม้แต่นิดเดียว
ลุคได้ยินก็นึกถึงความสามารถของฟาเดย์ที่สามารถเชื่อมต่อเพื่อค้นหาตำแหน่งของยานรบได้ถ้าเข้าใกล้ยานรบมากพอ เขาไม่รู้ว่าม่านพลังงานพวกนี้ขวางฟาเดย์ได้ไหม แต่ในเมื่อฟาเดย์บอกว่าทำได้แสดงว่าเขาต้องมีวิธี
อาธาเองก็ตกใจอยู่ไม่น้อยที่ผ่านมาปราการสุดท้ายก็เคยลองหลายวิธีในการเข้าไปในประตูมิติแห่งนี้ แต่ว่าก็ไม่เคยทำเสร็จสักครั้งเดียว
“แต่มันมีปัญหาอย่างหนึ่ง” ฟาเดย์กล่าวขึ้นมา
“ปัญหาอะไร” ลุคและอาธาถามขึ้นมาพร้อม ๆ กัน
“ฉันต้องการอุปกรณ์บางอย่าง...”
ฟาเดย์บอกสิ่งที่ต้องการของตนเองออกไป อาธาตกลงที่จะทำตามคำขอของฟาเดย์ เพราะเขาก็อยากจะข้ามประตูแห่งความหวังไปด้วยเหมือนกัน
ดังนั้นอาธาจึงรวบรวมคนและเครื่องมือตามที่ฟาเดย์ ซึ่งก็ต้องใช้เวลาสักพักหนึ่ง
ลุคได้แยกตัวออกมาเพื่อมาพบกับคนของเขาและการประชุมครั้งนี้ในห้องมีเพียงลุค ไอริน เดนและอิลโค่อดีตหัวหน้าเผ่าไม้ดำเท่านั้น ทั้งสี่คนใช้เวลาคุยกันอยู่นานจนถึงเวลานัดรวมตัวกันอีกครั้ง
“เกิดอะไรขึ้น” อาธาถามด้วยความสงสัย
“ฉันต้องการยานขนส่งลำหนึ่งเพื่อพาคนพวกนี้ไปทั้งหมด” ลุคกล่าวกับอาธา
พวกที่เขาต้องการพาไปนั้นไม่ใช่แค่กองทัพเทพวานรเท่านั้น แต่หมายถึงทั้งหมดนั้นคือพลเรือนมนุษย์วานรที่เป็นครอบครัวของนักรบเทพวานรด้วย
ลุคใช้คำสัญญาแล้วและเขาจะไม่ผิดคำพูดของตัวเอง
“เรายังไม่รู้ว่าจะสามารถข้ามไปได้หรือไม่”
“ไม่เป็นไร พวกเรายินดีที่จะเสี่ยง นายมีปัญหาอะไรไหมฟาเดย์” ลุคหันไปมองฟาเดย์ที่ไม่ได้พูดอะไร แต่เขาก็ยังถาม เพราะฟาเดย์คือกำลังหลักในเรื่องนี้
“ไม่มีปัญหา” ฟาเดย์ตอบกลับด้วยท่าทางปกติ
ลุคพยักหน้า ก่อนจะมองอาธา
“ต่อให้จะพาไปได้ แต่เราจะคุ้มครองคนมากขนาดนี้ได้ยังไง จะต้องอ้อมหลังสนามรบมันก็ใช่ว่าจะปลอดภัย” อาธายังพยายามคัดค้าน
“ไม่เป็นไรฉันจะดูแลคนของฉันเอง” ลุคยังยืนยันเสียงหนักแน่น นักรบเทพวานรคนอื่น ๆ ก็จ้องมองด้วยแววตาเชื่อมั่นเช่นกัน พวกเขาไปไหนครอบครัวก็ควรไปด้วย
อาธาขมวดคิ้วแน่นเพราะไม่รู้ว่าทำไมลุคถึงต้องยืนกรานหนักแน่นแบบนี้ ในเมื่อเราไปที่ยานนั้นก็เพื่อให้ฟาเดย์ทดลองดูว่าจะสามารถเปิดม่านพลังได้หรือไม่ก็เท่านั้น ไม่มีเหตุผลอะไรที่ลุคจะต้องพาคนของตัวเองไปเสี่ยงแบบนี้เลย
อาธาไม่เข้าใจ นั้นเป็นเพราะอาธาไม่รู้ว่าลุคไม่เคยไว้ฟาเดย์ แม้ที่ผ่านมาเขาจะขอความร่วมมือกับฟาเดย์และฟาเดย์ก็ให้ความร่วมมือจนพายานมาถึงที่นี่ได้แต่นั่นเพราะเป็นเพราะทั้งสองมีจุดหมายเดียวกันคือประตูแห่งความหวัง
ลุคต้องการข้ามประตูมิติโลกสมบูรณ์แห่งนี้กลับไปที่โลกยุคโบราณ ส่วนฟาเดย์คือการตามหายานรบที่มีเอแจ็กอยู่
ตอนนี้สถานการณ์เปลี่ยนไปแล้ว
ยานรบอยู่ที่โลกทางฝั่งนี้และฟาเดย์ดูจะรีบร้อนที่จะไปที่ยานแห่งนั้นมาก ถึงจะไม่แสดงสีหน้าใด ๆ แต่ลุครับรู้ได้ มันคือสัญชาตญาณ ดังนั้นเขาคิดจะพาคนไปทั้งหมดด้วย ถ้าเกิดอะไรขึ้นมาลุคจะทำทุกทางพากองทัพเทพวานรและคนของเขาข้ามประตูมิติในทันที
‘เป้าหมายของนายคืออะไร’ ลุคหรี่ตามองฟาเดย์ด้วยสีหน้าปกติ
อาธาไม่มีทางเลือกในเมื่อฟาเดย์และลุคต้องการอย่างนั้นเขาก็ไม่ขัดขวางอีก แต่ถ้าเกิดอะไรขึ้นก็ตัวใครตัวมัน
ขณะที่อาธากำลังสั่งการให้นำยานและอุปกรณ์เพื่อออกเดินทางไปที่สนามรบ ตอนนั้นเองก็มีกองทัพหนึ่งเข้ามาขวางทางพวกเขาไว้
“ท่านอาธาท่านคิดจะทำอะไรกันถึงได้พากองยานไรเดอร์ไปมากขนาดนี้”
“ฉันต้องรายงานด้วยหรือยังไง ดาเรียสต่อให้นายเป็นคนของฟุซันก็ไม่มีสิทธิ์มาสอดรู้เรื่องของฉันหลบไป!” อาธาตวาดด้วยความไม่พอใจ
“ผมได้รับคำสั่งจากท่านฟุซันให้ตามมาดูแลคุณไป ผมหวังว่าคุณจะมากับผม เพื่อความปลอดภัยของคุณ” ดาเรียสกล่าวด้วยน้ำเสียงของผู้ใต้บังคับบัญชา แต่ว่ากลับไม่มีความเคารพอยู่ในนั้นแม้แต่นิดเดียว
ลุคมองสถานการณ์ตรงนี้และตระหนักได้ถึงสถานการณ์ที่วุ่นวายในปราการสุดท้ายเช่นกัน
ปราการสุดท้ายไม่ได้มีผู้นำเพียงหนึ่งเดียว แต่มีผู้นำถึง 6 คนที่ควบคุมกองกำลังทั้ง 6 ซึ่งกองกำลังเหล่านี้จะผลัดกันไปรบกับซอมบี้ที่สนามรบอีกฝั่งของปราการสุดท้าย
และทั้ง 6 ผู้นำกับ 6 กองทัพก็มีการแบ่งฝักแบ่งฝ่ายกัน
ดูเหมือนสถานการณ์ของอาธาเองก็ไม่ได้ดีมากนัก เพราะขนาดลูกน้องของอีกผู้นำหนึ่งสามารถเข้ามาพูดกับเขาแบบนี้ได้ แสดงว่าอำนาจของอาธาคงน้อยมากในหมู่ผู้นำ
“คอมพิวเตอร์นั้นคืออะไร พวกเราจอตรวจสอบดูได้ไหม” ดาเรียสหันหน้าไปมองคอมพิวเตอร์ ซึ่งเป็นเครื่องที่ฟาเดย์อาศัยอยู่
“อย่าได้ล้ำเส้นมากเกินไปนัก” อาธากล่าวด้วยความโกรธ ก่อนจะสั่ง “ไปได้แล้ว”
ทหารในหน่วยไรเดอร์ของอาธาต่างก็เดินไปที่ยานของตัวเอง ส่วนอาธาเดินชนไหล่ของดาเรียสไป โดยไม่สนใจว่าดาเดรียสจะเป็นยังไง
อาธาขึ้นไปยานไรเดอร์ของตัวเอง ส่วนลุคพาคนของเขาไปที่ยานขนส่งอีกลำหนึ่งและฟาเดย์ขึ้นไปกับยานที่ขนอุปกรณ์
ซึ่งตอนนี้ไรเดอร์ 1,000 ลำกับ 2 ยานขนส่งได้บินออกมาจากปราการสุดท้าย
ดาเรียสยืนมองสิ่งที่เกิดขึ้น ก่อนจะติดต่อไปหาฟุซันผู้นำของเขา
“ท่านครับอาธาทำแบบที่ท่านบอกจริง ๆ”
“ส่งยานออกไปฆ่าให้หมด เราจะให้อาธาทำลายสิ่งที่เอแจ็กทำไว้ไม่ได้”
...
ขณะที่ยานขนส่งทั้งสองลำบินออกไป โดยมียานไรเดอร์คุ้มกัน 1000 ลำ ตอนนั้นยานไรเดอร์ส่วนหนึ่งก็แยกตัวออกไปอยู่ทางด้านหลัง
สิ่งนี้ไม่รอดพ้นสายตาของลุค เขาเริ่มสนใจสถานการณ์ของปราการสุดท้ายมากขึ้น รวมทั้งเรื่องของฟาเดย์และอาธาด้วย
ยานยังคงมุ่งหน้าต่อไปจนกระทั่งข้ามผ่านหลุมนรก มันเป็นหลุมที่พวกซอมบี้เดินทางเชื่อมต่อไปยังที่ต่าง ๆ ซึ่งที่หน้าผารอยเลื่อนก็มีแบบนี้และที่นี่ก็มีเช่นกัน
แต่ขณะที่กองยานกำลังบินผ่านไปนั้นสนามรบได้กลับมาสู่ความปกติแล้วพวกซอมบี้จะบุกขึ้นมาเป็นระลอก ไม่ได้ขึ้นมาตลอดเวลา ไม่อย่างนั้นปราการสุดท้ายคงไม่สามารถต่อสู้และรอดมาจนถึงทุกวันนี้ได้
ถึงอย่างนั้นรอบการโจมตีก็ไม่ได้เว้นห่างกันมากนัก ส่วนใหญ่จะอยู่ที่ทุก ๆ หนึ่งชั่วโมง อาธาเลือกเวลานี้เพราะตอนนี้ไม่มีการโจมตีของพวกซอมบี้
ยานบินข้ามหลุมนรกไปได้ครึ่งเดียว ทางด้านหลังก็มีกองยานบินออกมาจากปราการสุดท้ายตรงมาที่กองยานของอาธา
ไรเดอร์ที่แยกออกไปได้เข้าต่อสู้กับกองยานที่ไล่ตามมาในทันที ทั้งสองฝ่ายปะทะกันอย่างรุนแรง ส่วนยานขนส่งและยานไรเดอร์ที่ลุคและพรรคพวกอยู่ก็เพิ่มความเร็วขึ้น
ลุคมองเหตุการณ์ทั้งหมดนี้อย่างเงียบ ๆ
ยานพวกเขาข้ามหลุมนรกเข้ามายังสนามรบบนพื้นที่ราบได้แล้ว แต่แล้วในตอนนั้นยานอุปกรณ์ของฟาเดย์กลับถูกยิงเข้าใส่อย่างรุนแรงจนเกือบจะตกลง
อาธารีบสั่งให้หน่วยไรเดอร์แยกตัวออกไปใช้ยานไรเดอร์ช่วยพยุงยานและบินไปทางยานรบให้เร็วที่สุด
ขณะที่ยานไรเดอร์อีก 200 แยกออกมาและเข้าโจมตียานที่ตามมาเช่นกัน
บึม!
ปืนใหญ่จากป้อมปราการสุดท้ายยิงจากระยะไกลพยายามล็อกไปที่ยานขนส่งทั้งสอง แต่ยานทั้งสองยังสามารถหลบหลีกได้ แต่ก็ทำให้ยานสั่นสะเทือนอย่างรุนแรง
ยานของฟาเดย์ที่เสียหายอยู่แล้วยิ่งแย่กว่าเดิม เพราะยานไรเดอร์ที่ยึดตัวยานและพยุงพวกเขาบินนั้นถูกปืนใหญ่ทำลายไปมากกว่าครึ่ง ส่งผลให้ยานเอียงจนเกือบจะร่วงหล่นลงไปด้านล่าง
อาธารีบนำยานไรเดอร์ของตนเองและอีกจำนวนหนึ่งเข้ามาช่วยดึงยานลำนั้นไว้ในทันที
“รีบไปให้ยานรบนั้น ปืนใหญ่ก็ไม่สามารถยิงถึงแล้ว”
ยานทั้งหมดรีบออกเดินทางต่อทิ้งให้สนามรบนองเลือดไว้ด้านหลัง ลุคที่อยู่ในยานขนส่งเห็นว่ายานขนส่งของฟาเดย์ออกหน้าไปก่อนและใช้ยานขนส่งของพวกเขาอยู่รั้งท้าย
ลุคจึงหันไปส่งสัญญาณให้กับอิลโค่ อิลโค่รีบแจกจ่ายไอเทมปีกปีศาจให้กับทุกคนในทันที ส่วนใหญ่เป็นไอเทมปีกปีศาจระดับ E เท่านั้น เพราะว่ามนุษย์วานรที่เป็นสาวกของลุคส่วนใหญ่มีพลังแค่ในระดับ F เท่านั้น
แต่พวกเขาก็ยังสามารถใช้ไอเทมปีกปีศาจได้
นี่คือสิ่งที่ลุคเตรียมไว้
ยังดีที่ว่าระยะทางระหว่างยานขนส่งกับยานรบที่ประตูแห่งความหวังไม่ได้ไกลกันมากนัก พอไปถึงที่นั่นปืนใหญ่ก็หยุดยิงจริง ๆ แต่ว่ากองยานรบที่มาจากป้อมปราการสุดท้ายยังคงไล่ตามมาอยู่
อาธาและหน่วยของเขารีบขนอุปกรณ์ที่ฟาเดย์ต้องการลงมาเพื่อเชื่อมต่อมันเข้ากับยานรบ ส่วนลุคมีแค่ไอรินและเดนเท่านั้นที่ติดตามมา ส่วนคนอื่น ๆ ก็อยู่ในยานขนส่งเท่านั้น
“นายจะไม่พาพวกเขามาด้วยเหรอ” อาธาหันไปมอง
“ไม่ เข้าไปเยอะก็มีแต่อันตรายเปล่า ๆ เราไม่รู้ว่าในยานนั้นมีอะไรบ้าง” ลุคตอบไปตามตรง
อาธาพยักหน้าเล็กน้อย ในขณะที่ทั้งสองกำลังคุยกันอยู่ตอนนั้นเองฟาเดย์ก็เหมือนจะทำเสร็จแล้ว ม่านพลังงานที่ปกคลุมในส่วนทางด้านหลังของยานรบเกิดรูปโหว่เล็ก ๆ ขึ้นมาพอให้ตัวคนรอดเข้าไปได้
เมื่อก่อนเพราะไม่มีตัวตนอย่างฟาเดย์ทำให้พวกมนุษย์วานรแห่งปราการสุดท้ายไม่เคยทำลายม่านพลังเข้ามาได้
“เร็วรีบเข้าไปจากนั้นก็เข้าไปที่ระบบหลักของยานเอาฉันเชื่อมต่อเข้าไป” ฟาเดย์รีบกล่าวอย่างร้อนรน เพราะการแทรกแซงม่านพลังไม่ใช่เรื่องง่าย
อาธารีบยกเอาลูกบาศก์มืดขึ้นมาก่อนจะพุ่งช่องว่างระหว่างม่านพลังเข้าไป โดยมีลูกน้องอีก 10 นายตามไปด้วย ลุคและพวกเป็น 3 คนสุดท้ายที่เข้าไปด้านใน
พวกเขาสามารถผ่านม่านพลังเข้าไปได้ แต่นี่เป็นแค่ม่านพลังในส่วนที่ห่อหุ้มยานเท่านั้น ซึ่งอ่อนแอที่สุดเท่านั้น พวกเขาต้องเข้าไปในยานรบเพื่อหาทางเปิดช่องว่างของม่านพลังที่อยู่ตรงประตูมิติให้ได้
นี่คือสิ่งที่ฟาเดย์บอก
ใช้เวลาไม่นานฟาเดย์ก็สามารถเปิดประตูยานรบและพาทุกคนเข้าไปได้สำเร็จ