บทที่ 29 : หิมะตกแล้ว ฮาคุ...กำลังร้องไห้เหรอ?
บทที่ 29 : หิมะตกแล้ว ฮาคุ...กำลังร้องไห้เหรอ?
“ความรักของแกบิดเบี้ยวเกินไป” รอยยิ้มของซาโตรุพลันเลือนหายไป แทนที่ด้วยสีหน้าเย็นชาและเฉยเมยบนใบหน้าของเขา เขาเตะหน้าท้องของซาบุสะอย่างแรง
*ปัง*
ซาบุสะถูกเตะจนลอยและกระแทกลงบนสะพานอย่างแรง ทำให้เกิดหลุมขนาดใหญ่ขึ้น
"ในฐานะอาจารย์ ฉันอยากจะให้คำแนะนำครั้งสุดท้ายกับแกนะ หลักการของนินจาก็คือการเป็นมนุษย์ หลัการขั้นพื้นฐานที่สุดของมนุษย์คือการเอาตัวรอด"
“แกเพิกเฉยต่อความตาย ช่างน่าสิ้นหวังเสียจริง”
ซาโตรุร่อนลงบนสะพาน จักระสีฟ้าอ่อนได้โผล่ออกมาจากฝ่ามือของเขา มีร่องรอยของกระแสไฟฟ้าในจักระเป็นประกายทั่วมือ
[ตัดสายฟ้า]
“นี่สินะ ปีศาจแห่งสายหมอก” ซาโตรุเคลื่อนไปข้างหน้าพร้อมประกายแสงสีที่เล็งไปที่หัวใจของซาบุสะ
ยามนั้นเอง…
กระจกน้ำแข็งปรากฏขึ้นมาจากอากาศ ฮาคุขัดขวางการโจมตีของซาโตรุ ความเร็วในการเคลื่อนที่ของเขาเร็วมาก
“การตายเพื่อคนอื่นช่างเป็นเรื่องโง่เง่ามาก” ซาโตรุเจาะหัวใจของฮาคุด้วยตัดสายฟ้า
ความเร็วที่ฮาคุโผล่ออกมานั้นน่าทึ่งมาก ในตอนที่สู้กับทีมเจ็ด คงไม่ได้เอาจริงเลยสินะ?
ดูเหมือนเจ้าเด็กคนนี้จะใจดีเกินไปแล้ว
"อั้ก..." เลือดสีแดงพุ่งออกมา น้ำแข็งได้พุ่งออกมาจากหน้าอกของฮาคุ ทำให้ข้อมือของซาโตรุกลายเป็นน้ำแข็ง
“ฮาคุ...” ซาบุสะหรี่ตาลง เมื่อมองดูฮาคุที่ตายต่อหน้าเขา เขาก็ตกตะลึงไปทั้งตัว
เขาไม่เคยสั่งให้ฮาคุสละชีวิตเพื่อปกป้องเขาสักนิดเดียว
“ขอบคุณ…ที่มารับผมไปในวันนั้นที่หิมะตก”
มุมปากของฮาคุมีเลือดออกมา เขาได้ใช้จักระสุดท้ายเพื่อหยุดมือของซาโตรุ แม้จะตาย แต่ยังคงมีรอยยิ้มบางเบาประดับบนใบหน้าของเขา
เขาเป็นเครื่องมือ และเขาก็ยอมตายเพื่อคนสำคัญของเขา
เขาถือว่าชีวิตของซาบุสะสำคัญกว่าตัวเขาเอง
ซาบุสะก้มศีรษะลง ผมสีดำปิดตา ทำให้ไม่อาจมองเห็นสีหน้าของเขาได้ชัดเจน
ในฐานะนินจาที่ได้รับการฝึกฝนโดยหมู่บ้านคิริงาคุเระ เขามีประสบการณ์ที่ต้องสังหารคนอื่นนับไม่ถ้วนตั้งแต่เขายังเป็นเด็ก และแม้กระทั่งต้องฆ่าสหายหลายคนด้วยซ้ำ
เขาเชื่อว่านินจาไม่ควรมีความรู้สึก และนินจาเป็นแค่เครื่องมือ
แต่...ทันทีที่ฮาคุเสียชีวิตต่อหน้าเขา เขาก็รู้สึกเจ็บปวดเป็นครั้งแรกในหัวใจ
ซาบุสะไม่ได้พูดอะไร หยิบดาบที่สร้างจากน้ำแข็งบนพื้นขึ้นมา และฟันไปทางซาโตรุพร้อมกับร่างเล็กๆ ของฮาคุ
ก่อนที่ฮาคุจะตาย เขาก็ยังเอาแต่คิดเรื่องของซาบุสะ
แสงเย็นสีฟ้าอ่อนแวบผ่านมา และเมื่อดาบกำลังจะฟาดไหล่ของฮาคุ ซาบุสะก็หยุดชั่วคราวแล้วแทงศีรษะของซาโตรุ
หัวใจของเขาเริ่มกระสับกระส่าย ความเร็วของดาบช้าลง
“ความรักที่ไม่อาจถ่ายทอดออกมาได้ รู้สึกเสียใจใช่ไหมล่ะ?” ซาโตรุยกนิ้วขึ้นและดาบน้ำแข็งอันแหลมคมก็หยุดอยู่ตรงหน้านิ้วของเขา
“แกไม่ได้แสดงความรักให้เขาตอนที่เขายังมีชีวิตอยู่ รู้สึกเสียใจใช่ไหม?”
“เพราะอุดมการณ์บ้าบอที่ไม่อาจเป็นจริงได้ คนที่สำคัญที่สุดจึงเสียชีวิตต่อหน้าแก แกเสียใจบ้างไหม?” ซาโตรุถามคำถามสามข้อ
เขาเคยเตือนทั้งสองคนมาก่อนแล้ว
การเอาตัวรอดเป็นหลักการสำคัญที่สุดของมนุษย์
หลังจากที่ผลึกน้ำแข็งละลาย ทุกคนในทีมที่เจ็ดก็วิ่งไปที่ซาโตรุ และทุกคนก็ผงะเล็กน้อยเมื่อเห็นฮาคุที่ตายไปแล้ว
เมื่อพวกเขาต่อสู้กันครั้งแรก ฮาคุได้เล่าความฝันของเขาให้ทั้งสามคนฟัง
ทำทุกอย่างเพื่อปกป้องคนสำคัญของเขา นี่คือวิถีนินจาของฮาคุ
“อย่าถามคำถามโง่ๆ กับฉัน นินจาเป็นเพียงเครื่องมือที่ไร้อารมณ์ สิ่งที่ฉันต้องการคือความสามารถของฮาคุ!” ซาบุสะพูดด้วยน้ำเสียงแผ่วเบา ไม่มีใครสามารถเห็นสีหน้าของเขาได้ เพราะเขากำลังก้มศีรษะลง
เขาลากร่างที่ได้รับบาดเจ็บสาหัสของเขา และเซไปทางซาโตรุ
"แกคิดอย่างนั้นจริงๆ เหรอ?"
นารูโตะผงะเล็กน้อยด้วยความโกรธในดวงตาของเขา เขาพูดด้วยความโกรธว่า "เขา...เขาชอบนายจริงๆ นะ วิถีนินจาของเขาคือการเติมเต็มความฝันของนาย ถึงขั้นยอมตายให้ได้ด้วยซ้ำ!"
นารูโตะเคารพฮาคุเป็นอย่างมาก แม้ว่าพวกเขาจะเป็นศัตรูกันก็ตาม
แต่เพื่อที่จะปกป้องบุคคลสำคัญในหัวใจของเขา ฮาคุจึงทำตามวิถีแห่งนินจาของเขาอย่างแน่วแน่ ซึ่งมันโดนใจนารูโตะเป็นอย่างมาก
"โหดเหี้ยมจริงๆ" ซากุระเองก็โกรธมากเช่นกัน
“เขาต้องการที่จะแข็งแกร่งเพื่อนาย แต่...เขากลับถูกตอบแทนแบบนี้เหรอ?” นารูโตะถามเสียงดังทั้งน้ำตา “ไม่คิดจะสนใจเขาเลยหรือไงกัน?”
ตอนนี้เขากำลังโกรธมาก ฮาคุเสียชีวิตในการต่อสู้เพื่อปกป้องซาบุสะ แต่เขากลับไม่ได้รับความรักกลับคืนมาเลยแม้แต่น้อย
“เจ้าเด็กสารเลว พวกแกไม่เคยต้องเผชิญกับความมืดมิด พวกแกจะเข้าใจอะไรกัน!?” ดวงตาของซาบุสะเต็มไปด้วยน้ำตา ความในใจของเขาระเบิดออกมาในคราวเดียว
“ความคิดของแกสุดท้ายก็ไม่สามารถถ่ายทอดไปยังคนตายได้หรอก และจุดจบของแกก็คือความตายเช่นกัน” ซาโตรุดึงมือของเขาออกจากหัวใจของฮาคุ และมองลงไปที่ซาบุสะอย่างเฉยเมย
โง่จนไม่มีอะไรเปรียบเทียบ
หลังจากที่สูญเสียบางสิ่งที่สำคัญไปแล้ว ถึงจะรับรู้ถึงคุณค่าของมันหรือไง?
“ถ้าอย่างนั้นก็เอาเลย ให้ฉันได้ออกเดินทางไปพร้อมกับฮาคุ” ซาบุสะพูดด้วยน้ำเสียงทุ้มต่ำ เขาไม่คิดจะวิ่งหนีและไม่คิดที่จะต่อสู้ต่อไป
เพราะหัวใจของเขามันตายไปแล้ว
“ทนหน่อยแล้วกัน มันจะเจ็บแค่ชั่วคราวเท่านั้น” ซาโตรุยกมือที่เจาะหัวใจฮาคุขึ้นมา และจักระสีฟ้าอ่อนก็ปรากฏขึ้นบนฝ่ามืออีกครั้ง และมีร่องรอยของกระแสไฟฟ้าในจักระ
“อาจารย์...” นารูโตะอยากจะก้าวไปข้างหน้าเพื่อหยุดซาโตรุ
ซาสึเกะยกมือขึ้นและยืนอยู่ตรงหน้านารูโตะ
ทุกคนในทีมที่เจ็ดมองดูการโจมตีของซาโตรุด้วยหัวใจที่หนักอึ้ง
“ฉึก...” แสงไฟฟ้าสีฟ้าอ่อนแวบผ่าน และซาโตรุเจาะทะลุหัวใจของซาบุสะด้วยมือข้างเดียว
ซาบุสะล้มลงกับพื้น มองดูฮาคุที่อยู่ตรงหน้าเขาด้วยความรู้สึกที่คลุมเครือจนไม่สามารถพูดมันออกมาได้
“ลาก่อน… ฮาคุ.. ขอบคุณสำหรับทุกสิ่งที่ทำให้ฉันมา…ฉันขอโทษ” ซาบุสะพูดออกมาอย่างอ่อนแรง
ก่อนที่เขาจะเสียชีวิต เขาต้องเผชิญกับความรู้สึกเสียใจในใจอย่างหนักหน่วง แต่ความคิดของเขาไม่สามารถถ่ายทอดมันไปยังฮาคุได้อีกต่อไป
เหมือนคำถามที่ซาโตรุถาม
เสียใจไหม?
อืม เขาเสียใจ
หิมะสีขาวซีดเริ่มตกลงมา
"หิมะ?" ซาโตรุเงยหน้าขึ้นและมองดูเกล็ดหิมะบนท้องฟ้า
จู่ๆ หิมะก็ตก อากาศช่างเข้ากับบรรยากาศจริงๆ
“ฮาคุ...กำลังร้องไห้เหรอ?” เกล็ดหิมะตกลงมาบนใบหน้าของซาบุสะ กลายเป็นหยดน้ำและไหลลงมาราวกับน้ำตา จากนั้นเขาก็ค่อยๆ หลับตาลง
นารูโตะกำหมัดแน่นและพูดอย่างเสียใจ "เขาไม่สามารถแม้แต่จะเติมเต็มความฝันของตนเองได้ สุดท้ายก็ต้องจากไป เป็นได้เพียงเครื่องมือเท่านั้น โลกนินจา...ช่างโหดร้ายจริงๆ"
“ไม่จำเป็นต้องรู้สึกอะไรมากหรอก ยังไงในภารกิจไม่ฝ่ายเราก็ฝ่ายเขาต้องตาย นี่แหละคือนินจา” ซาโตรุคลุมพวกเขาด้วยเสื้อคลุมของเขา
“เจ้าพวกเด็กตัวแสบ ถ้าต้องการปกป้องใคร ก็จงแข็งแกร่งให้มากยิ่งขึ้น” ซาโตรุหยิบอมยิ้มออกมา แกะมันออกแล้วโยนมันเข้าไปในปากของเขา
นารูโตะกำหมัดแน่นแล้วพูดอย่างแน่วแน่ว่า "ผมสาบานว่าต่อจากนี้ไป ผมจะทำตามวิถีนินจาของผมอย่างแน่วแน่!"
ความอดกลั้นและความพยายามของฮาคุได้ส่งผลกับใจเขา
ทุกคนในทีมที่เจ็ดต่างก็มีความคิดของตัวเองอยู่ในใจ ยกเว้นซาสึเกะ นี่เป็นครั้งแรกเลยที่เขาได้เห็นความรักแบบนี้ระหว่างการต่อสู้
ซาโตรุยกนิ้วโป้งขึ้น แสร้งทำเป็นชมเชยแล้วพูดว่า “เจ้าเด็กจิ้งจอก อย่าดีแต่ปากล่ะ เธอจะต้องแข็งแกร่งขึ้นให้ได้นะ”
“ไอ้อาจารย์นี้...” นารูโตะกำลังจะตอบโต้
“ในที่สุดเจ้าโง่สองคนนี้ก็ตายเสียที” เสียงเยาะเย้ยดังขึ้น
กลุ่มคนถืออาวุธยืนอยู่ที่หัวสะพาน นำโดยชายวัยกลางคนตัวเตี้ยอ้วนท้วนสวมชุดสูทสีดำและแว่นกันแดด คาบซิการ์อยู่ในปากด้วยใบหน้าอันเต็มไปด้วยความโมโห
คนที่พูดคือชายวัยกลางคนอ้วนเตี้ยคนนี้
นักธุรกิจที่ร่ำรวยที่สุดในแคว้นนามิโนะคุนิ ชื่อของมันคือ กาโต้
“พวกแกออกไปได้แล้ว สะพานนี้จะต้องถูกทำลาย เงินทั้งหมดในแคว้นนามิโนะคุนิต้องเป็นของฉัน!” กาโต้พ่นซิการ์ของเขาออกมา ควันสีจางๆ ถูกปล่อยออกมาพร้อมกับเขาที่ชี้ซิการ์ไปยังซาโตรุที่อยู่ไกลออกไป
“ศพของไอ้ขยะทั้งสองนี้ก็ต้องเป็นของเราด้วย”
เหตุผลที่เขากล้าที่จะบ้าบิ่นเช่นนี้ก็เพราะมีกฎระเบียบระหว่างหมู่บ้าน
ชาวหมู่บ้านโคโนฮะไม่สามารถมายุ่งอะไรกับเขาได้
มิฉะนั้นมันจะเป็นการฝ่าฝืนกฎ
กาโตะจ้องมองอย่างโหดเหี้ยมไปที่ฮาคุที่ตายไปแล้ว จากนั้นก็พูดด้วยความโกรธว่า "ไอ้สารเลวนี้ มันกล้าทำร้ายฉัน"
เขาเคยได้รับบาดเจ็บจากฮาคุมาก่อน จนแขนของเขาร้าว
“แกอย่ามาคุณดูถูกพวกเขานะ!” นารูโตะจ้องไปที่กาโต้และกลุ่มของเขา
"ไสยเวทย์หมุนตามอาโอะ” ซาโตรุยกมือขึ้น และมีสสารสีดำโผล่ออกมาจากปลายนิ้วของเขาพุ่งออกมาราวกับหลุมดำเล็กๆ มันทำให้เกิดรอยแตกขนาดใหญ่บนพื้นดินที่มันผ่านไป
*ตู้ม*
ทุกคนในระยะไกลถูกหลุมดำลูกเล็กกลืนกิน ควันดำหนาทึบลอยขึ้นอย่างเชื่องช้าและกระดูกของทุกคนก็มลายหายไป
“เสียงดังน่ารำคาญเกินไป แก่ขนาดนี้อยู่ไปก็รกโลก” ซาโตรุเหลือบมองไปยังพื้นที่ที่เขาทำลายไป
กฎเหรอ?
ใครมันจะสนใจกัน
หากเขาต้องการทำสิ่งใด เขาก็จะทำ