บทที่ 24 : สายเลือดพิเศษที่เป็นเหมือนคำสาป
บทที่ 24 : สายเลือดพิเศษที่เป็นเหมือนคำสาป
“สายเลือดพิเศษของผมต่างหากที่เป็นเหมือนกับคำสาป” ฮาคุยิ้มอย่างขมขื่น ถ้าเขาไม่มีพลังน้ำแข็ง พ่อแม่ของเขาจะเกลียดเขาได้ยังไง ถ้าไม่มีมัน ชาวบ้านจะมองว่าเขาเป็นสัตว์ประหลาดเหรอ?
ซาโตรุไม่ได้พูด เขาได้แต่คิดในใจ
อุจิวะ โอบิโตะต่างหากที่ควรเป็นผู้ถูกตำหนิ
เหตุผลที่หมู่บ้านคิริงาคุเระมีนินจาจำนวนมากตามล่านินจาที่มีสายเลือดพิเศษ เพราะว่าโอบิโตะบงการมิซึคาเงะรุ่นที่สี่ในยามนั้น
“เขาคือความหมายของการมีชีวิตอยู่ของผมและเป็นคุณค่าเดียวในชีวิตของผม หากเขาต้องการความแข็งแกร่งของผม ผมก็จะทำทุกอย่างให้เขา ต่อสู้เพื่อเขา การทำให้ความฝันของเขาเป็นจริงนั้นคือความฝันของผม” น้ำเสียงของฮาคุจริงจังและหนักแน่น
เมื่อทุกคนเกลียดสายเลือดพิเศษของเขา ก็มีซาบุสะที่ยื่นมือออกอาและบอกว่าต้องการความแข็งแกร่งของเขา
แม้ว่าจะใช้เป็นเครื่องมือ แต่เขาก็ยินดี
ฮาคุเอียงศีรษะพร้อมด้วยรอยยิ้มที่มีความสุขบนใบหน้าแล้วพูดว่า "ตอนนี้เพราะเขา ผมเลยยังชอบพลังตัวเองอยู่นิดหน่อย ทีแรกกระทั่งผมก็มองว่าตัวผมเป็นสัตว์ประหลาด"
“ไหงฟังแล้วเหมือนเป็นคำพูดสั่งเสียแฮะ” ซาโตรุหยิบอมยิ้มออกมา ใส่เข้าไปในปากของเขาแล้วดูดมันเบาๆ
ชีวิตเด็กน้อยฮาคุคนนี้คล้ายกับของนารูโตะมาก ทุกคนที่อยู่รอบข้างล้วนเกลียดชังพวกเขา
“คุณซาโตรุ กินขนมหวานมากเกินไปแล้วนะ” ฮาคุบ่น
“อาจารย์ซาโตรุ ผมผ่านขั้นแรกได้แล้ว…” นารูโตะถือลูกโป่งแล้วเดินไปหาซาโตรุด้วยใบหน้าภูมิใจ
นารูโตะจ้องไปที่ฮาคุด้วยสายตาว่างเปล่า ใบหน้าของเขาแดงขึ้นเล็กน้อยและพึมพำโดยไม่รู้ตัว “เธอน่ารักมากเลย แถมยังน่ารักกว่าซากุระจังอีก”
ครั้งแรกที่เขาเห็นฮาคุ เขาก็คิดว่าอีกฝ่ายเป็นผู้หญิงที่น่ารักจริงๆ
“นารูโตะงี่เง่า พูดอะไรเนี่ย!” ซากุระพับแขนเสื้อขึ้น วิ่งไปชกนารูโตะอย่างแรง
*ตุ้บ*
นารูโตะถูกกระแทกลงกับพื้นด้วยหมัดเดียว
นารูโตะลุกขึ้น จับหัวและชี้ไปที่ซาโตรุด้วยความโกรธ “ก็ดูอาจารย์ซาโตรุบ้านี้สิ พวกเราฝึกซ้อมกันอย่างหนักอยู่ทางโน้น แต่อาจารย์กำลังคุยกับพี่สาวสุดสวยอยู่ที่นี่เสียอย่างนั้น!”
“นารูโตะ เรากลับกันเถอะ อย่ามารบกวนอาจารย์ซาโตรุเลย”
ซากุระจ้องมองนารูโตะด้วยความโกรธ จากนั้นคว้าคอเสื้อของนารูโตะแล้วกล่าวขอโทษ “หนูขอโทษด้วยนะคะอาจารย์ซาโตรุ เดี๋ยวหนูจะพาเขากลับไปทันที”
'อาจารย์ซาโตรุกำลังเดทอยู่ใช่ไหมเนี่ย?'
'นารูโตะเจ้าโง่นี้ มองสถานการณ์ไม่ออกเหรอ? หยุดทำตัวโง่สักทีจะได้ไหม?'
ฮาคุเอานิ้วชี้แตะที่ปากของเขาแล้วยิ้มออกมา “ผมเป็นผู้ชาย”
"เอ๊ะ!?"
นารูโตะและซากุระนิ่งเหมือนถูกแช่แข็ง
นารูโตะมองฮาคุอย่างจริงจังด้วยสีหน้าไม่อยากจะเชื่อ
ผมสีดำ รูปร่างเพรียวบาง
ผิวขาวจนสาวๆ หลายคนต้องอิจฉา
นอกจากนี้ยังมีใบหน้ายังเนียนละเอียดและน่ารักยิ่งกว่าซากุระอีกด้วย
ใครจะเชื่อว่าเขาเป็นผู้ชายกัน!
ซาโตรุชี้ไปที่ขาของฮาคุพร้อมกับอมยิ้มแล้วพูดเบาๆ “เจ้าเด็กแสบ อย่าคิดไปไกลสิ เขาก็มีแบบเดียวกับเธอนั่นแหละ”
“คุณซาโตรุ!” ฮาคุหน้าแดงเล็กน้อยจนไขว้ขาโดยไม่รู้ตัว เขาจ้องมองซาโตรุด้วยความอับอายและความโกรธในสายตา
เมื่อซาโตรุชี้ไปที่ตรงนั่น มันก็ทำให้เขารู้สึกเขินอายมาก
ซาโตรุเป็นอาจารย์จริงเหรอ?
อาจารย์คนไหนจะสอนนักเรียนแบบนี้กัน?
ซากุระมองดูฮาคุ ปากของเธอขยับด้วยความต้องการที่จะพูดบางอย่างออกมา แต่มันกลับหยุดทันที
หน้าแดงแบบนี้ ท่าทางนี้
ไม่ว่าจะมองยังไงเขาก็ดูเหมือนผู้หญิงที่กำลังถูกลวนลามอยู่
ทำไม… เธอถึงไม่น่ารักเท่าผู้ชายกัน?
อึ้งไปเลย
นี่มันน่าตกใจมากเกินไปแล้ว
“เลิกทำตัวเขินอายได้แล้ว มันขยะแขยง” ซาโตรุโบกมือด้วยความรังเกียจแล้วพูดว่า "ถ้าอย่างนั้นก็ไปเถอะ อย่ามารบกวนฉัน"
ฮาคุก็ไม่โกรธ เขาลุกขึ้นและประสานมือไว้ด้านหลัง เขามองซาโตรุด้วยรอยยิ้ม
“พรุ่งนี้เจ็ดโมงเราจะอยู่ที่สะพาน”
หลังจากพูดจบ
ฮาคุหันก็เดินจากไป นารูโตะจ้องไปที่แผ่นหลังของฮาคุอย่างว่างเปล่าของเขาที่ค่อยๆ เดินจากไป
“ป..เป็นผู้ชาย?” นารูโตะคุกเข่าลงบนพื้น เขาทรุดลงกับพื้นทันที
“เจ็ดโมงเช้าเหรอ? มีตารางเวลาสู้ให้ด้วยแฮะ” ซาโตรุถอนหายใจ เพราะเขาเป็นคนที่ตื่นสายมาก
“ซากุระจัง แต่เธอน่ารักกว่าจริงๆ นะ” นารูโตะถูมือเข้าหากันและมองซากุระด้วยรอยยิ้มประจบประแจง
"ฮึ" ซากุระหน้าบึ้ง หันหลังแล้วเดินออกไปไกลเพื่อฝึกซ้อมต่อ
นารูโตะบอกว่าเป็นเด็กผู้ชายน่ารักกว่าเธอที่เป็นผู้หญิงจริงๆ เหรอ?
ในฐานะผู้หญิง เธอควรเอาหน้าของเธอไปไว้ที่ไหน?
ระดับความฉลาดของไอ้บื้อนารูโตะไม่คู่ควรกับสาวๆ สักนิดเดียว
“ต่อหน้าผู้หญิงที่ชอบ กลับบอกว่าผู้ชายน่ารักกว่าผู้หญิงที่ชอบ แถมยังทำให้โกรธอีก”
ซาโตรุมองไปที่นารูโตะที่มีใบหน้าซีดเผือด เขาปิดปากแล้วหัวเราะคิกคักออกมา “ฮ่าๆๆ ช่างตลกจริงๆ”
นารูโตะกอดขาซาโตรุแล้วร้องไห้ “อาจารย์ซาโตรุ ซากุระจังจะเกลียดผมไหม? ให้คำแนะนำหน่อยสิ!”
ซาโตรุบีบคางแสร้งทำเป็นกำลังคิดและพูดว่า "ซากุระไม่เกลียดเธอเพราะเรื่องแค่นี้หรอก"
นารูโตะกำลังจะยิ้มออกมา แต่เมื่อได้ยินประโยคต่อไปของซาโตรุ เขาก็ต้องหยุดชะงักไป "เพราะปกติซากุระก็เกลียดเธอมาตั้งแต่แรกแล้ว"
ซาโตรุยิ้มแล้วพูดต่ออีกว่า "เธอน่ะสิ้นหวังแล้ว ใช้มือซ้ายและขวาอย่างโสดๆ ต่อไปเถอะ"
“อาจารย์ซาโตรุ” นารูโตะกอดขาของซาโตรุ ร้องไห้ทั้งน้ำมูกและน้ำตา "เห็นแก่สภาพน่าสังเวชของผม อาจารย์ช่วยบอกเคล็ดลับเรื่องกระสุนวงจักรให้หน่อยได้ไหม?"
ซาโตรุมองนารูโตะอย่างว่างเปล่า
เจ้าเด็กเก้าหางนี้ตั้งใจขนาดนี้เลยเหรอ?
มีลูกล่อลูกชนที่ฉลาดเสียจริง
จริงสิ จะว่าไปก็มีเทคนิคลับสำหรับเจ้าเด็กเก้าหางนี้อยู่ไม่ใช่เหรอ?
"ฝึกกับคาถาแยกเงาสิ" ซาโตรุอุ้มนารูโตะขึ้นมาแล้วโยนไปยังจุดที่ซาสึเกะและซากุระอยู่
“แล้วก็หยุดมาถามเรื่องไร้สาระกับฉันได้แล้ว จงใช้สมองในการคิด และเลิกขอความช่วยเหลือจากคนอื่น”
การใช้คาถาแยกเงาพันร่างต้องใช้จักระจำนวนมาก และการใช้คาถาแยกเงาในการฝึกฝนก็จะใช้จักระจำนวนมากยิ่งขึ้นไปอีก
ทว่าการใช้คาถาแยกเงาในการฝึกฝนสามารถเพิ่มประสิทธิภาพของการฝึกได้
ส่วนจะเพิ่มได้มากขนาดไหนนั้น ทั้งหมดขึ้นอยู่กับจำนวนร่างที่แยกออกมา
นี่เป็นเทคนิคลับที่ใช้ได้เฉพาะกับนารูโตะเท่านั้น
“หลังจากที่เด็กเก้าหางพัฒนาไป ซาสึเกะก็น่าจะเร่งรุดขึ้นด้วยใช่ไหมนะ? ดูท่าคงจะได้เห็นอะไรสนุกๆ แล้ว” ซาโตรุมองดูนารูโตะที่กำลังใช่้คาถาแยกเงาจากที่ไกลๆ
มีหลายอย่างที่ทำให้ผู้คนแข็งแกร่งขึ้น หนึ่งคือการแข่งขันและสองคือการพบเจอกับอันตราย
ซาโตรุป้องมือของเขาให้เหมือนกับโทรโข่งและตะโกน “พรุ่งนี้เวลาเจ็ดโมงเช้า ศัตรูจะปรากฏตัวบนสะพาน อย่ามาช้านะเจ้าพวกเด็กตัวเหม็น”
ซากุระตอบด้วยความโกรธว่า "อาจารย์ซาโตรุ คุณต่างหากที่ควรบอกตัวเองว่าอย่ามาสาย"
เธอยังจำได้ชัดเจนว่าในการทดสอบครั้งก่อนของทีมที่เจ็ด อาจารย์ซาโตรุมาสายไปนานกว่าหนึ่งชั่วโมง!
นารูโตะและร่างแยกเงาพูดออกมาพร้อมกัน “ใช่เลย ถูกต้องแล้ว อาจารย์ซาโตรุต่างหากที่อย่ามาสาย!”
“ว่ากันอย่างนี้ฉันก็เสณ้าสิ ถ้าอย่างนั้นไปกินเนื้อย่างย้อมใจดีกว่า” ซาโตรุพูดไม่ออก เขาประสานอินและทำการเคลื่อนย้ายระยะไกล
“ไอ้อาจารย์บ้า จะไปกินเนื้อย่างเหรอ!” นารูโตะรีบวิ่งไปหาซาโตรุด้วยท่าทางเหมือนแมว เพราะเขาเองก็อยากจะกินเนื้อย่างกับซาโตรุ
*ปุ้ง*
ซาโตรุหายไปในอากาศ นารูโตะที่กระโดดขึ้นจะเกาะตัวเขาก็โดดเกาะไม่ทัน และล้มลงบนพื้นหญ้าอย่างแรง