บทที่ 22 : สอนการใช้กระสุนวงจักรให้ทีมที่เจ็ด!
บทที่ 22 : สอนการใช้กระสุนวงจักรให้ทีมที่เจ็ด!
“พี่ซาโตรุค่า ช่วยสอนท่าพิเศษให้ฉันได้ไหมคะ?” นารุโตะในร่างหญิงสาวโอบแขนรอบเอวของซาโตรุแล้วใช้ส่วนที่ยื่นออกมาถูไถด้านบนแรงๆ
“ว้าว ดีจัง สุดยอดไปเลย ถูแรงๆ อีก”
ซาโตรุแกล้งทำเป็นว่าชอบใจ หลังจากนั้นก็หยุดไปครู่หนึ่ง เขาคว้าผมของร่างจริงของนารูโตะแล้วโยนลงแม่น้ำตรงหน้าเขา
ร่างเงาของนารูโตะทั้งหมดหายไปในเมฆควันสีขาว
“ไอ้เด็กบ้านี้ คิดว่าฉันจะพูดแบบนั้นหรือไง?”
“ไม่รู้วิธียั่วยวนเอาซะเลย ฉันคิดว่าเธอกำลังมาถูหลังให้ฉันด้วยซ้ำ” ซาโตรุยิ้มและกล่าวออกมาอย่างถากถาง
“ก็มีแค่โฮคาเงะรุ่นสามเท่านั้นแหละที่โดนโจมตีด้วยคาถาระดับต่ำเช่นนี้ได้”
เขาคือชายที่ชำนาญที่สุดในถนนโออิรัน เขาได้พบผู้หญิงมานับไม่ถ้วน เขาจะทนต่อการยั่วยวนเช่นนี้ไม่ได้เลยเหรอ?
นารูโตะยืนอยู่บนแม่น้ำ ชี้ไปที่ซาโตรุในระยะไกลและตะโกนออกมาเสียงดังว่า "ให้ตายเถอะ เดี๋ยวผมจะเซอร์ไพรส์อาจารย์ทีหลัง รอผมฝึกคาถานี้ให้เก่งขึ้นก่อนเถอะ!"
“ถือว่าเป็นการตระหนักเรียนรู้ที่ดี” ซาโตรุพยักหน้าด้วยความพึงพอใจ แล้วเหลือบมองซากุระที่ซ่อนตัวอยู่ในพุ่มหญ้าไกลๆ
ซาโตรุหัวเราะเบาๆ“แต่น่าเสียดาย หากให้เลือกระหว่างเธอกับซากุระที่หน้าอกแบน ฉันขอให้ซากุระมานวดฉันดีกว่าผู้หญิงปลอมๆ อย่างเธอ”
ซากุระตกชะงักไป ความโกรธพลันปะทุขึ้นในใจของเธอ ใบหน้าของเธอแดงราวกับแอปเปิ้ลและดวงตาของเธอก็เต็มไปด้วยความอับอาย ความโกรธที่คุกกรุ่น
“ไอ้อาจารย์นี้ ฉันจะตีให้น่วมเลย!” ซากุระพับแขนเสื้อขึ้นวิ่งไปหาซาโตรุด้วยความโกรธ และต่อยซาโตรุที่หน้าท้อง
'กล้าพูดแบบนี้เลยเหรอ?'
'หน้าอกของฉันแบนราบเนี่ยนะ!?'
“อย่าโกรธไปเลยน่า ถ้าพวกเธอต้องการที่จะแข็งแกร่งขึ้นมาก งั้นพวกเรามาต่อฝึกกันที่ขั้นต่อไปกันเถอะ” ซาโตรุคว้าข้อมือของซากุระ และตรึงลงกับพื้นทันที
"เจ็บนะ" ซากุระก้มหน้าลงกับพื้นและรู้สึกเจ็บที่ข้อมือ เธอพูดออกมาด้วยความโกรธ “มีอาจารย์ที่ไหนเขาทำแบบนี้กัน?”
หลังจากเยาะเย้ยเรื่องหน้าอกของเด็กสาวตัวน้อยแล้ว เขากลับใช้กำลังต่อสู้อีก
อาจารย์ที่ไหนเขาทำแบบนี้?
คงมีแค่ซาโตรุคนนี้เท่านั้น
ซาสึเกะก้าวออกจากทุ่งหญ้า เอามือล้วงกระเป๋ด้วยาสีหน้าเคร่งขรึมแล้วถามว่า "การฝึกต่อไปยังไง?"
"เยี่ยม ในที่สุดเราก็สามารถได้ฝึกกันต่อแล้ว" นารูโตะนั่งขัดสมาธิบนพื้นเหมือนนักเรียนที่ดี รอให้ซาโตรุอธิบายด้วยสีหน้าคาดหวัง
“ก่อนที่จะควบคุมจักระ ต้องมีการปลดปล่อยจักระก่อน” ซาโตรุยกนิ้วขึ้นและจักระสีฟ้าอ่อนก็โผล่ออกมาจากปลายนิ้ว
เขาได้ฝึกซ้อมให้ทีมที่เจ็ดเอานิ้วยึดตรึงต้นไม้ได้แล้ว
จุดประสงค์ก็คือเพื่อให้ทีมที่เจ็ดได้ปลดปล่อยจักระ
นารูโตะเอียงศีรษะและถามด้วยสีหน้างุนงง “ทำไมจะต้องฝึกปล่อยจักระด้วย?”
“นักเรียนจิ้งจอก ถามคำถามได้ดี” ซาโตรุหยิบหินขนาดเท่าฝ่ามือขึ้นมา
“ผมชื่อนารูโตะต่างหาก!” นารูโตะตะโกน
ซากุระที่ใบหน้ายังคงกดลงกับพื้น ก็รู้สึกได้ถึงน้ำหนักของซาโตรุจึงพูดขึ้นด้วยความทรมาน “อา อาจารย์ซาโตรุ ให้หนูออกไปก่อนได้ไหม?”
“ขอโทษที ฉันลืมไป” ซาโตรุปล่อยซากุระไป
“อาจารย์จงใจแน่ๆ!” ซากุระปัดฝุ่นออกจากเสื้อผ้าของเธอ และได้ทำหน้าแยกเขี้ยวใส่ซาโตรุ
“ยังไงก็เถอะ ฉันจะทำให้ดูเพียงครั้งเดียว ดังนั้นจับตาดูเอาไว้ให้ดู” ซาโตรุถือหินไว้ในมือ จักระสีฟ้าอ่อนก็โผล่ออกมาจากฝ่ามือของเขา
“การปล่อยจักระนั้นจะไม่มีความหมายใดๆ เลย แต่ถ้าบีบอัดจักระและทำให้มันหมุนด้วยความเร็วที่รวดเร็วมาก...” จักระสีฟ้าอ่อนบนฝ่ามือของซาโตรุหมุนเหมือนพายุทอร์นาโด
*ปัง*
หินขนาดเท่าฝ่ามือถูกจักระทำให้กลายเป็นฝุ่น
"ดูสิ" ซาโตรุปัดฝุ่นออกจากฝ่ามือของเขา
“ว้าว น่าทึ่งมาก!” นารูโตะดูตื่นเต้น จ้องมองไปที่ซาโตรุด้วยความคาดหวังเป็นประกายเล็กๆ ในดวงตาของเขา
“พวกเราสามารถใช้จักระแบบนี้ได้เหรอ?” ซากุระผงะเล็กน้อย เธอไม่เคยรู้อะไรแบบนี้มากก่อนเลย
“การปลดปล่อยจักระออกมาก็ยากมากแล้ว การควบคุมจักระที่ปล่อยออกมายิ่งยากกว่าไม่ใช่เหรอ?” ซาสึเกะใช้เนตรวงแหวนและมองซาโตรุด้วยสายตาเย็นชา
เขาเพิ่งใช้เนตรวงแหวนโทโมเอะจ้องมองซาโตรุตลอดเวลา
แต่เนตรวงแหวนของเขากลับไม่อาจที่จะมองทะลุได้ตอนที่ซาโตรุใช้จักระ
“นี่คือกระสุนวงจักร วิชาที่พัฒนาโดยโฮคาเงะรุ่นที่สี่ในช่วงชีวิตของเขา”
ซาโตรุบีบคาง ครุ่นคิดแล้วพูดว่า "พลังของมันอยู่ที่ระดับ A แต่ความยากในการเรียนรู้...ขึ้นอยู่กับพรสวรรค์"
ความสามารถติดตัวของตาทิพย์สามารถมองทะลุการเคลื่อนไหวทั้งหมดได้
ในอดีตเมื่อเขาได้มองไปที่คนใช้กระสุนวงจักร เขาก็สามารถเรียนรู้มันได้ในทันที
สำหรับเขาแล้ว ความยากในการเรียนรู้ของกระสุนวงจักรนั้นแทบไม่มีเลย
“แม้ว่าความสามารถของมันจะมากถึงระดับ A แต่ก็สามารถเปลี่ยนแปลงได้ตามจักระของแต่ละคน”
"ตัวอย่างเช่น"
ซาโตรุยกมือขึ้นและจักระสีฟ้าอ่อนก็โผล่ออกมาจากฝ่ามือของเขา จากนั้นเขาก็ฉีดจักระธาตุไฟลงไป
กระสุนวงจักรสีฟ้าซีดบนฝ่ามือของเขากลายเป็นสีแดงเพลิง
[คาถาไฟ ∙ กระสุนวงจักร]!
“หลังจากเพิ่มพลังธาตุเข้าไปแล้ว พลังมันก็สามารถพุ่งสูงไปได้ถึงระดับ S”
"นอกจากนี้เรายังสามารถปรับขนาดของกระสุนวงจักรตามปริมาณจักระได้" ซาโตรุฉีดจักระมากขึ้น และกระสุนวงจักรสีแดงเพลิงบนฝ่ามือก็ค่อยๆ มีขนาดใหญ่กว่ามนุษย์
“มีประโยชน์มากเลยใช่ไหมล่ะ?” ซาโตรุเขย่ากระสุนวงจักรสีแดงเพลิง
ทุกคนในทีมที่เจ็ดต่างตั้งใจฟัง
“กระสุนวงจักรไม่มีธาตุพื้นฐาน แต่หลังจากใช้การเปลี่ยนแปลงรูปร่างและเสริมธาตุเข้าไป มันก็จะเปลี่ยนไป” ซาโตรุหายไปจากอากาศและปรากฏตัวที่เนินเขาอันห่างไกล
ซาโตรุอัดกระสุนวงจักรขนาดใหญ่ไปที่หน้าเนินเขา
*บูม*
แผ่นดินสั่นสะเทือนอย่างรุนแรง และเปลวไฟรุนแรงเหมือนพายุทอร์นาโดได้ปกคลุมเนินเขาหินเล็กๆ หลายลูก
ในเวลาเพียงชั่วพริบตา เนินเขาหินเล็กๆ หลายแห่งก็กลายเป็นเถ้าถ่าน และมีหลุมที่ค่อนข้างใหญ่ปรากฏขึ้นบนพื้น
"เอ่ออออ ว้าววว!" ทุกคนในทีมที่เจ็ดอ้าปากค้างและตกตะลึง แม้แต่ซาสึเกะที่สงบนิ่งมาโดยตลอดก็มีสีหน้าตะลึงเช่นกัน
ทุกคนจ้องมองไปที่พลังทำลายล้างที่เกิดจากการโจมตีของซาโตรุ
การเคลื่อนไหวเพียงครั้งเดียวก็สามารถทำลายเนินเขาได้หลายลูก และอาจถึงขั้นทิ้งหลุมขนาดใหญ่ไว้บนพื้นได้อีก
ช่างเป็นนินจาที่น่าสะพรึงกลัวยิ่งนัก!
[คาถาไฟ · กระสุนวงจักร] ของซาโตรุได้ปรับปรุงมุมมองการรับรู้ทั้งสามคนไปอย่างสมบูรณ์
พวกเขาเคยใช้ดาวกระจาย ปล่อยลูกบอลไฟยักษ์ และคาถาแยกเงา แต่พวกเขาไม่เคยเห็นอะไรเช่นนี้มาก่อนเลย
“ธาตุทั้งหมดสามารถใส่เข้าไปในกระสุนวงจักรได้ แน่นอนว่าเจ้าเด็กเหลือขอตัวน้อยอย่างพวกเธอคงไม่เชี่ยวชาญถึงขั้นนั้น” ซาโตรุเคลื่อนย้ายมามาอยู่ไปด้านหน้าของทุกคนในทีมเจ็ด
"กระทั่งโจนินหลายคนก็ไม่สามารถเรียนรู้คาถากระสุนวงจักรนี้ได้"
"คาถานี้เริ่มต้นด้วยพื้นฐาน ต้องปล่อยจักระและควบคุมจักระ" ซาโตรุหยิบถุงลูกโป่งออกมาแล้วโยนมันไปหน้าทีมเจ็ด
“เด็กจิ้งจอก เป่าลูกโป่งดูสิ”
“ครับอาจารย์ซาโตรุ” นารูโตะทำทันทีด้วยความเคารพ หยิบลูกโป่งออกมาเป่า
ทุกคนในทีมที่เจ็ดต่างก็ดูเคารพเขามาก
ซาโตรุพูดไม่ออกเลย
เด็กพวกนี้เปลี่ยนไปเร็วเหลือเกิน
“อาจารย์ซาโตรุ แล้วทำไมถึงต้องเป่าลูกโป่งล่ะ?” นารูโตะยื่นลูกโป่งที่เป่าเสร็จแล้วให้ซาโตรุด้วยสีหน้าสับสน
"เงียบไปแล้วคอยดูเถอะ" ซาโตรุหยิบลูกโป่งขึ้นมา จักระสีฟ้าอ่อนปรากฏขึ้นบนฝ่ามือของเขา จากนั้นลูกโป่งก็ระเบิด "ปัง"
“รอจนกว่าพวกเธอจะสามารถปล่อยจักระและระเบิดลูกโป่งได้ เราถึงจะไปยังขั้นต่อไป” ซาโตรุพูดอย่างขี้เกียจ “ไปหาที่เรียนเงียบๆ และอย่ามารบกวนฉันล่ะ”
การเป่าลูกโป่งด้วยจักระก็เพียงพอแล้วสำหรับเด็กทีมที่เจ็ด แค่นี้คงจะใช้เวลาเรียนไปอีกนาน
นี่ยังไม่ถึงขั้นถัดไปเชียวนะ
การเป่าลูกโป่งเป็นเหมือนพื้นฐานสำหรับคาภาพันปักษาและพื้นฐานของกระสุนวงจักร ส่วนขั้นถัดไปคือการเปลี่ยนแปลงรูปร่าง และอีกขั้นคือการเสริมธาตุ
หลังจากรวมเสริมธาตุและเปลี่ยนรูปร่างของมัน มันก็จะกลายเป็นแบบกระสุนวงจักรธาตุไฟที่เขาเพิ่งใช้
โจนินส่วนใหญ่ทำไม่ได้ เพราะมันต้องรวมธาตุและคาถาเข้าด้วยกัน
ซากุระที่ดูอยากรู้อยากเห็นมากจึงยกมือขึ้นแล้วถาม “อาจารย์ซาโตรุ”
“ว่าไงเด็กน้อย” ซาโตรุพูด
“ที่อาจารย์พูดถึงการเปลี่ยนแปลงรูปร่างและธาตุคือยังไงเหรอคะ?” ความสงสัยซากุระนั้นมีประโยชน์มาก แม้ว่าเธอจะถูกเรียกว่าเด็กน้อย เธอก็ไม่โกรธเลย
“เป็นคำถามที่ดี แต่อย่าถามเถอะ เธอคิดจะวิ่งโดยไม่หัดเดินเหรอ? ไว้คุยกันหลังฝึกเสร็จแล้วกัน” ซาโตรุกล่าว
เมื่อสักครู่นี้ ซากุระมีความคิดว่าเธออยากจะทุบตีเขา แต่ตอนนี้เธอได้เปลี่ยนไปเป็นเคารพเขาแล้ว
เด็กน้อยก็คือเด็กน้อย หากมีของหวานอยู่ตรงหน้า ย่อมลืมความเจ็บปวดที่ประสบพบเจอมา
"ยังไงก็เถอะ พยายามฝึกกันเข้าล่ะ" ซาโตรุโบกมือแล้วหันหลังเดินเข้าไปในเต็นท์