บทที่ 113 ตะลึง
[เนื่องจากติดสอบเลยหายไปยาวเลย ขออภัยขอรับ เดี๋ยวปิดเทอมจะรีบลงให้ทันที่หายไปเน้อ]
บทที่ 113 ตะลึง
"ฮ่า ๆ ๆ ๆ! แบนเนอร์ ในที่สุดแกก็มาแล้ว!"
เมื่อเห็นคนตรงหน้า อะบอมิเนชันก็หยุดโจมตีโทนี่ทันที เขาหันหลังกลับและวิ่งไปยังจุดที่หลุมปรากฏ
"กรรร!"
แบนเนอร์ได้ปีนออกมาจากหลุมลึก ไม่สิ ควรเรียกว่าฮัลค์ต่างหาก เขามองดูอะบอมิเนชันที่อยู่ในระยะไกลและส่งเสียงคำรามด้วยความโกรธ
“แบนเนอร์ แกมาจนได้”
อะบอมิเนชันมองไปที่ฮัลค์ รอยยิ้มที่ดุร้ายปรากฏไปทั่วใบหน้าของเขา จากนั้นเขาก็วิ่งเข้าหาอีกฝ่ายทันทีด้วยความเร็วอันมากโข
ความไร้อำนาจและความสิ้นหวังได้กระตุ้นให้อีมิลรับเซรุ่มไป ยามนี้เขาจึงอยากประชันดูว่าระหว่างนักล่ากับฮัลค์ ใครจะแข็งแกร่งกว่ากัน
เมื่อมองไปที่อะบอมิเนชันที่กำลังหัวเราะอย่างบ้าคลั่ง ฮัลค์ก็คำรามด้วยความโกรธและพุ่งเข้าใส่โดยไม่ลังเล
แม้ว่าเขาจะอยู่ในร่างของฮัลค์ แต่เขาก็ยังรู้สึกได้ถึงความโกรธของแบนเนอร์
อะบอมิเนชันคงทำให้แบนเนอร์รู้สึกโกรธอย่างเห็นได้ชัด
ฮัลค์และอะบอมิเนชัน ร่างใหญ่ยักษ์ทั้งสองร่างที่เหมือนสัตว์ประหลาดสองตัวได้พุ่งเข้าชนกันในพริบตา
ตู้ม--
ด้วยแรงกระแทกอันมากมาย พื้นผิวที่เรียบเนียนของถนนได้พังทลายลงทันที แต่ไม่มีใครแปลกใจเลย ทว่ายามนั้นเอง ฮัลค์ได้พลาดท่า เขาถูกอะบอมิเนชันโจมตีและกระเด็นออกไปไกล
ร่างกายขนาดใหญ่ของเขาได้ล้มลงบนถนนห่างออกไปกว่าสิบเมตร ทิ้งร่องรอยเป็นหลุมบ่ออันน่าสะพรึงกลัวไว้เต็มไปหมด
"ฮ่า ๆ ๆ ๆ! แกอ่อนแอกว่าที่ฉันคิดไว้นะแบนเนอร์!"
เมื่อเขาเห็นฮัลค์ ซึ่งครั้งหนึ่งเขาเคยคิดว่าไม่สามารถเอาชนะได้ถูกล้มลงอย่างง่ายดาย สีหน้าประหลาดใจก็ปรากฏขึ้นบนใบหน้าของอะบอมิเนชัน แต่แล้วมันก็กลับกลายเป็นเสียงหัวเราะอันบ้าคลั่ง
เมื่อปีนขึ้นมาจากพื้นดิน ฮัลค์ก็ส่ายศีรษะไปมาและลุกขึ้นยืน
ก่อนหน้านี้เพื่อกำจัดฮัลค์ออกจากร่างกายของเขา แบนเนอร์ได้ร่วมมือกับศาสตราจารย์สเติร์นเพื่อผลิตยาแก้พิษได้สำเร็จ แม้ว่าผลลัพธ์ที่ทำลงไปจะไม่ประสบความสำเร็จอย่างที่คาดไว้ มันไม่อาจกำจัดความสามารถในการแปลงร่างของเขาได้อย่างสมบูรณ์
แต่พลังของฮัลค์ในตัวเขาก็ถูกยับยั้งลงไป จนถึงในระดับที่กระทั่งอีมิลที่เพิ่งเชี่ยวชาญพลังของอะบอมิเนชันก็ยังได้เปรียบเขา
ฮัลค์ส่ายศีรษะอีกครั้งและพร้อมที่จะต่อสู้แล้ว
ทันใดนั้น เขาก็รู้สึกราวกับว่าร่างกายของเขาถูกรถไฟความเร็วสูงพุ่งชน เขาบินถอยหลังไปและตกลงบนพื้นอย่างแรง จนไม่สามารถลุกขึ้นยืนได้ชั่วขณะหนึ่ง
"ลาก่อน แบนเนอร์"
หลังจากทำให้ฮัลค์กระเด็นออกไป อะบอมิเนชันก็รีบวิ่งไปที่ด้านข้างของเขาและมองลงไปยังสัตว์ประหลาดที่เขาเคยคิดว่าอยู่ยงคงกระพัน
เมื่อยกมือขึ้น กระดูกที่พุ่งออกมาจากแขนของเขาก็ยื่นออกมาทันที
“แกไม่สมควรได้รับพลังนี้”ไปลงนรกซะ!"
พอกล่าวจบ อะบอมิเนชันก็ยกแขนของเขาลงเพื่อทุบใส่ฮัลค์
“จาร์วิส รวมพลังที่แกน เราจะต้องช่วยพ่อคนตัวใหญ่แล้ว”
โทนี่พยายามฝืนเพื่อพยุงตัวเองขึ้นมาจากพื้น จากนั้นเขาก็ได้เห็นฮัลค์ที่กำลังถูกทุบตี ถึงแม้ว่าเขาจะไม่รู้ความสัมพันธ์ระหว่างทั้งสองฝ่าย แต่เขาก็สามารถบอกได้อย่างชัดเจนว่าใครมาช่วยและใครมาทำลายกันแน่
แสงระยิบระยับสว่างวาบบนหน้าอกของมาร์ค 4
แต่ในยามนั้นเอง เสียงโกรธของคนผู้หนึ่งได้ดังมาจากระยะไกล
“แกเองเหรอที่เป็นคนทำลายการเดทสำคัญของฉัน?!”
ชายชราร่างผอมบางในเสื้อฮาวายและแว่นตากันแดดได้วิ่งเข้ามาที่สนามรบด้วยความเร็วที่ไม่เข้ากันกับรูปลักษณ์ของเขาเลย
ร่างนั้นยืนนิ่งและตรวจสอบการต่อสู้ระหว่างฮัลค์ อะบอมิเนชันและโทนี่ที่อยู่ไม่ไกลนัก ร่างนั้นเอามือไขว้หลังและกล่าวออกมาว่า “พวกแกรู้หรือเปล่าว่ามันยากแค่ไหนที่ผู้สูงอายุอย่างฉันจะหาสาวๆ สวยๆ มาเดทได้? เราทั้งคู่เกือบจะได้จับมือกันแล้วนะ! แล้วหลังจากนั้นฉันก็จะได้...”
เสียงพูดไม่หยุดจากร่างนั้นทำให้อะบอมิเนชันหงุดหงิดอย่างเห็นได้ชัด เขาโยนฮัลค์ที่อยู่ในมือออกไปและพุ่งเข้าใส่ชายชรา เมื่อมองลงไปที่ร่างซึ่งไม่แตกต่างจากมด เขาก็ยิ้มด้วยรอยยิ้มอันโหดเหี้ยม "หุบปากไปได้แล้วไอ้แก่..."
"จาร์วิส อีกนานแค่ไหนกัน?" เมื่อเห็นเช่นนั้น ใบหน้าของโทนี่ก็เปลี่ยนไป เขารีบถามจาร์วิสในทันที
"พลังงานกำลังรวบรวมได้ 90% 91%.."
อะบอมิเนชั่นได้ยกกำปั้นหนาของมันและทุบลงไปเบื้องหน้า
ฝ่ามือของอะบอมิเนชั่นได้ก่อให้เกิดลมกระโชกแรงก่อนที่มันจะถึงพื้นด้วยซ้ำ
"ไม่ทันแน่ ยิงออกไปเลย!"
เมื่อเห็นว่ามันไม่ทันแล้ว โทนี่ก็สั่งออกไปทันที ลำแสงสีขาวได้ถูกปล่อยออกมาจากหน้าอกของเขา กระแทกอะบอมิเนชันอย่างแม่นยำ ทว่าในขณะเดียวกัน ฝ่ามือขนาดใหญ่ของอะบอมิเนชันก็สามารถป้องกันมันได้
แรงระเบิดจากหน้าอกของมาร์คสี่ทำให้อะบอมิเนชันโซเซไปครู่หนึ่ง แต่เขาก็ยืนตั้งหลักขึ้นอย่างรวดเร็วและมองกลับไปที่โทนี่ที่อยู่ข้างหลังเขาด้วยรอยยิ้มเจ้าเล่ห์ "น่าเสียดายที่นายมาช้าเกินไป โทนี่ สตาร์ค"
"..."
ในขณะที่อะบอมิเนชันกำลังยั่วยุ โทนี่ก็ไม่ได้ตอบอะไรกลับไป สีหน้าของเขาดูจริงจังขึ้นมา “จาร์วิส ไม่ต้องห่วงเรื่องการสูญเสียพลังงานแล้ว ฉันจะระเบิดไอ้หมอนี่ให้เป็นฝุ่นละอองเอง”
“พูดอะไรของแกงั้นเหรอ??”
ทว่าในตอนนั้นเอง ได้มีเสียงหนึ่งดังมาจากใต้มือของอะบอมิเนชัน ทำให้ทุกคนต่างต้องประหลาดใจ
[คะแนนชื่อเสียงจากอะบอมิเนชัน +580]
[คะแนนชื่อเสียงจากโทนี่ สตาร์ค +345]
[คะแนนชื่อเสียงจากฮัลค์ +300]
[คะแนนชื่อเสียงจาบรูซ แบนเนอร์ +350]
[คะแนนชื่อเสียงจากนายพลรอส +455]
[คะแนนชื่อเสียงจากทหาร +0.05]
...
ไม่นานหลังจากนั้น อะบอมิเนชันก็รู้สึกได้ว่าฝ่ามือที่เขาเพิ่งกดลงไปกลับถูกผลักขึ้นมาทีละน้อย
'บ้าอะไรกันวะ?!'
สิ่งนี้ไม่เพียงแต่สร้างความประหลาดใจให้กับอะบอมิเนชันเท่านั้น แต่ยังรวมถึงทุกคนที่อยู่ที่นี่ด้วย
ชายชราเคราขาวที่ปรากฏตัวมาจากไหนไม่รู้ ตัวไม่ใหญ่ไปกว่าแขนของอะบอมิเนชัน แต่กลับสามารถป้องกันการโจมตีที่น่าสะพรึงกลัวและยังคงมีแรงมาพูดโต้ตอบอย่างสบายๆ อีก
ไรอันยกมือขึ้นและผลักฝ่ามือขนาดใหญ่เหนือศีรษะออกไป จากนั้นไรอันก็มองไปที่อะบอมิเนชันที่กำลังตกใจ ภายนอก เขาพยายามรักษาอุปนิสัยคล้ายดั่งยอดจอมยุทธ์ผู้ฝึกตนในเกาะลี้ลับ เขาพูดออกไปอย่างไม่แยแสต่อร่างใหญ่โตของอีกฝ่าย
“แกมีความแข็งแกร่ง แต่การเคลื่อนไหวยังช้าเกินไป ไม่ว่าใครก็คงสามารถหลบการโจมตีนี้ได้”
“แกเป็นใครกัน?”
อะบอมิเนชันมองลงไปที่ร่างผอมแห้งตรงหน้าเขา หากเขาไม่รู้สึกถึงความแข็งแกร่งอันยิ่งใหญ่ของฝ่ายตรงข้ามที่กำลังผลักฝ่ามือของเขาออกไป เขาคงไม่เชื่อว่าชายชราผอมแห้งจะสามารถป้องกันการโจมตีที่สามารถทำให้รถถังแบนราบได้อย่างง่ายดายเช่นนี้