ตอนที่ 16 โชคดีและโชคร้ายมาอยู่ร่วมกัน
ตอนที่ 16 โชคดีและโชคร้ายมาอยู่ร่วมกัน
“ขอแสดงความยินดีกับโฮสต์ที่ก้าวเข้าสู่ขอบเขตขัดเกลากระดูกทองคำขั้นสมบูรณ์ ได้รับแต้มทะลุทะลวง 1,500 แต้ม เมื่อพิจารณาถึง...”
การมาถึงของคลื่นแห่งความก้าวหน้ารอบนี้ทำให้ จู หวู่หยางไม่ สามารถรักษาความแข็งแกร่งในปัจจุบันของเขาไว้ได้
จู หวู่หยาง ยิ้มแหยๆ และเพิ่มแต้มทะลุทะลวงที่เหลือนับร้อยให้กับเทคนิคปกปิดมังกรเร้นกาย
แม้ว่าเทคนิคปกปิดมังกรเร้นกายจะไม่ไปถึงขั้นสูง แต่การปรับปรุงเพียงเล็กน้อยก็ทำให้ จู หวู่หยาง รู้สึกปลอดภัยมากขึ้นเล็กน้อย
องค์ชาย องค์หญิงและนางสนมเหล่านั้นในวัง ช่างน่ารังเกียจ และพวกเขาหัวเราะเยาะเขาหรือแม้แต่พัฒนาจนถึงจุดจับกลุ่มเยาะเย้ยเขา
พวกเขาคิดว่าเจ้าของเดิมโง่มากจนมองไม่เห็นความกังวลของพวกเขาหรือไง?
พูดถึงเรื่องนี้เขาไม่ได้ทำอะไรผิดปกติ เขาอาศัยอยู่ในห้องนอน แต่ก็มีภัยพิบัติมาหาเขาถึงทีเช่นกัน
จู หวู่หยาง รู้ดีว่าทั้งพระราชวังในขณะนี้โดยพื้นฐานแล้วไม่มีใครสนใจเขา ไม่มีใครกังววัลในเรื่องของเขาจริง พวกเขากลัวว่าจะถึงคิวของพวกเขา กลัวว่าจู เจิ้นหวู่จะเลือกแพะตัวต่อไป
“ขอแสดงความยินดีกับโฮสต์ที่ได้เห็นธาตุแท้ของศัตรูเป็นครั้งแรกในชีวิต ได้รับแต้มทะลุทะลวง 1,000 แต้ม เมื่อพิจารณาถึง..!”
เมื่อได้ยินแจ้งเตือนของระบบ จู หวู่หยาง ก็รู้สึกหดหู่ หลังจากดูดซับแต้มทะลุทะลวงรอบนี้ แล้วเขาก็หยุดคิดและเริ่มมีสมาธิในการฝึกฝนเทคนิคปกปิดมังกรเร้นกาย
คึดถึงวันวานก่อนการเดินทางข้ามมิติ ช่วงเวลานี้ของเขาช่างน่าเศร้าจริงๆ เขาอาจจะตายได้ทุกเมื่อ ที่นี้ไม่มีมือถือให้เล่น ไม่มีทีวีให้ดู ไม่มีจักรยานให้ขี่
ตอนนี้เขาลำบากมาก!
“ขอแสดงความยินดีกับโฮสต์ที่วางแผนร้ายใส่เป็นครั้งแรกในชีวิต ได้รับแต้มทะลุทะลวง 1,000 แต้ม เมื่อพิจารณาถึง...!”
"ขอแสดงความยินดีกับโฮสต์ที่วางแผนร้ายใส่เป็นครั้งที่สองในชีวิต ได้รับแต้มทะลุทะลวง 800 แต้ม เมื่อพิจารณาถึง...!"
"ขอแสดงความยินดีกับโฮสต์ที่วางแผนร้ายใส่เป็นครั้งที่สามในชีวิต ได้รับแต้มทะลุทะลวง 600 แต้ม เมื่อพิจารณาถึง...!"
……
ต้นไม้อยากอยู่อย่างสงบ!แต่ลมพัดไม่หยุดจริงๆ!
เดิมที จู หวู่หยาง คิดว่าเขาจะไม่คิดหรือพูดอะไรอีกในอนาคต เพียงแค่ตั้งใจฝึกเทคนิคปกปิดมังกรเร้นกายและไม่น่าจะมีปัญหาอะไร
แต่เขาได้มาถึงระดับที่ยังมีคนพยายามจะวางแผนร้ายต่อเขา
ไอ้สารเลวที่วางแผนร้ายต่อเขา พวกแกเคยสงสารองค์ชายนี้ผู้หรือไม่ ทั้งๆที่ไร้อำนาจกลับมีคนคึดไม่ดีต่อเขา
จู หวู่หยาง ครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง แต่เขาคิดไม่ออกว่าใครที่วางแผนข้างลับหลังเขา
เขาไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากต้องยอมแพ้ ยังคงดูดซับพลังประหลาด ที่เปลี่ยนจากแต้มทะลุทะลวงและปรับปรุงความแข็งแกร่งของเขาอย่างต่อเนื่อง
เมื่อ จู หวู่หยาง กำลังจดจ่ออยู่กับการฝึกฝนของเขา ขันทีสองคนก็กำลังเดินทางเข้ามาหาเขา
ขันทีที่นำหน้านั้นทั้งแห้งและผอม ใบหน้าของเขาเหี่ยวย่น ร่างกายของเขาก็มีกลิ่นอายที่เย็นชาออกมา เขาคือ เว่ย อันไค่ ขันทีที่ดูแลพระราชวังจักรพรรดิ
ขันทีที่ติดตามเขาอยู่ในวัยสามสิบต้นๆ มีใบหน้าขาว ไม่มีเครา และเขาก้มหน้าเสมอเวลาเดิน เขาคือเสียว ฝูจื่อเป็นผู้ช่วยของเว่ย อันไค่และความแข็งแกร่งของเขาก็มาถึงอาณาจักรหล่อหลอมโลหิตขั้นกลาง
ขันทีสองคนนี้เป็นสายลับที่องค์ชายสิบเก้าส่งมายังพระราชวังจักรพรรดิ
จู ลี่ป๋อในฐานะที่เป็นหนึ่งในองค์ชายที่มีอำนาจมากที่สุดในวัง จู ลี่ป๋อนั้นทรงพลังมาก
“ขยะพวกนี้ เพียงช่วงเวลาสั้นๆ องค์รัชทายาทได้ทำการเผาตัวเอง ซึ่งทำให้เราถูกองค์จักรพรรดิต่อว่า วันนี้เราต้องจัดการพวกเขา” เว่ย อันไค่พูด
“เหล่าองครักษ์และสาวใช้ในวังต่างก็รู้สึกว่าองค์รัชทายาทจะต้องสิ้นพระชนม์ไม่ช้าก็เร็ว จึงไม่มีใครเอาองค์รัชทายาทไปใส่ใจ ว่ากันว่าเมื่อห้องนอนขององค์รัชทายาทมีหวันลอยออกมา องค์รักษ์กับสาวใช้ในวังบางส่วนก็เห็นแต่ไม่มีใครไปดู” เสียว ฝูจื่อกล่าวด้วยความเคารพ
“แม้ว่าองค์รัชทายาทจะเป็นเพียงโล่ แต่นั่นไม่ใช่สิ่งที่พวกเขาเหล่านั้นจะดูถูกได้” เว่ย อันไค่ พูดอย่างเย็นชา
“ยิ่งไปกว่านั้น เจ้านายของพวกเขายังพลักจู หวู่หยางให้ขึ้นเป็นองค์รัชทายาทและเหล่าสมุนเหล่านี้ช่างประมาท อย่าโทษที่ข้าสอนบทเรียนแทนเจ้านายพวกเขา”
เสี่ยวฝูจือ พยักหน้า: "สิ่งที่ขันทีเว่ยพูดเป็นเริ่องจริง"
“ไปเข้าเฝ้าพระองค์ก่อน แล้วจึงรวบรวมองค์รักษ์ สาวใช้และขันทีทั้งหมดในวังเพื่อแนะนำพวกเขา”
“ในเมื่อเจ้านายของพวกเขาไม่มีเวลาสอน ข้าจะดูแลพวกเขาเอง ข้านี้เละจะสอนบทเรียนที่ดีให้พวกเขา” เว่ย อันไค่กล่าวอย่างเย็นชา
ในไม่ช้า จู หวู่หยางก็ได้ยินเสียงเคาะประตูด้านนอก
“ฝ่าบาท เว่ย อันไค่ บ่าวชรามาเพื่อขอเข้าพบ”
สีหน้าของ จู หวู่หยาง เปลี่ยนไป เว่ย อันไค่เป็นนักรบที่แข็งแกร่ง เขาอยู่ห่างจากอาณาจักรก่อกำเนิดเพียงครึ่งก้าวและเขาก็เชี่ยวชาญเทคนิคการตรวจสอบที่ทรงพลัง เป็นไปได้มากที่เขาจะเห็นผ่านเทคนิคปกปิดมังกรเร้นกายของเขา ไม่ควรปล่อยให้เขาเข้ามา?
แม้ว่าเขาต้องการจะขับไล่เว่ย อันไค่กลับไปและป้องกันไม่ให้เขาเข้ามา
แต่ถ้าเขาคิดว่า เว่ย อันไค่ จะต้องสงสัยอย่างแน่นอน จะใช้เทคนิคตรวจสอบกับเขาและมีโอกาสถูกเปิดเผย
ยิ่งกว่านั้น เว่ย อันไค่เป็นหัวหน้าขันทีของพระราชวัง มันเป็นไปไม่ได้ที่จู หวู่หยางจะปฎิเสธ
ด้วยความแข็งแกร่งของอีกฝ่ายแม้ว่าพวกเขาจะต้องการบังคับเข้ามา จู หวู่หยาง ก็ไม่สามารถหยุดพวกเขาได้ เช่นเดียวกับตอนที่องค์รักษ์ทั้งสองเจิ้นเล่อและเฟิงหยวน
เนื่องจากเป็นกรณีนี้ ไม่มีทางที่จะหยุดมันได้และมันจะเปิดเผยได้ง่าย ปล่อยให้เขาเข้ามาดีกว่า
"เข้ามา!"
เป็นครั้งแรกที่ จู หวู่หยาง รู้สึกว่าความตายอยู่ใกล้ตัวเขามาก เรียกได้ว่าอยู่ใกล้แค่เอื้อม
ด้วยความก้าวหน้าของเทคนิคปกปิดมังกรเร้นกายในปัจจุบัน มีความเป็นไปได้สูงที่เขาจะไม่สามารถซ่อนจากการตรวจสอบของเว่ย อันไค่
ตราบใดที่เว่ย อันไค่ใช้เทคนิคที่ละเอียดของเขากับเขา ความแข็งแกร่งที่แท้จริงของจู หวู่หยาง จะถูกเปิดเผย
ตอนที่เผชิญหน้าไลซุนกับชูเซียและเจิ้นเล่อกับเฟิงหยวนก่อนหน้านี้ จู หวู่หยาง ยังคงมีความมั่นใจ
อย่างไรก็ตาม เว่ย อันไค่นั้นแตกต่าง
เว่ย อันไค่นั้นทรงพลังและมีการกล่าวกันว่าเขาเชี่ยวชาญทักษะการตรวจจับที่ทรงพลัง
ตอนนี้จู หวู่หยางทำได้เพียงอธิษฐาน หวังว่าเขาจะไม่ใช้เทคนิคการตรวจสอบกับเขา หลายครั้งที่โชคดีและโชคร้ายมาอยู่รวมกัน
“ขอแสดงความยินดีกับโฮสต์ที่รู้สึกว่าวิกฤตของชีวิตและความตายกำลังใกล้เข้ามาครั้งแรกในชีวิต ได้รับแต้มทะลุทะลวง 3000 แต้ม เมื่อพิจารณาถึง...!”
“ขอแสดงความยินดีกับโฮสต์ที่ได้ยินเสียงขันทีเป็นครั้งแรกในชีวิต ได้รับแต้มทะลุทะลวง 300 แต้ม เมื่อพิจารณาถึง...!”
“ขอแสดงความยินดีกับโฮสต์ที่พูดคุยกับขันทีเป็นครั้งแรกในชีวิต ได้รับแต้มทะลุทะลวง 300 แต้ม เมื่อพิจารณาถึง...!”