ตอนที่แล้วบทที่ 66 : เตรียมพร้อมสำหรับการต่อสู้ (1-1)
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปบทที่ 68 : เตรียมพร้อมสำหรับการต่อสู้ (2-1)

บทที่ 67 : เตรียมพร้อมสำหรับการต่อสู้ (1-2)


ติดตามเป็นกำลังใจให้ผู้แปลได้ที่แฟนเพจ:BamแปลNiyay

บทที่ 67 : เตรียมพร้อมสำหรับการต่อสู้ (1-2)

คืนนั้นเอง ฉันเรียกสมาชิกปาร์ตี้มาที่ห้องโถง

เจนนา อารอน และฉันมารวมตัวกันเพื่อเตรียมพร้อมสำหรับการพูดคุย ทว่าออลก้ายังคงอยู่ในห้องของเธอ เพราะต้องพักฟื้นจากผลกระทบจากภาวะขาดน้ำที่เกิดขึ้นระหว่างการฝึก เนื่องจากเรื่องที่จะพูดคุยกันนั้นเกี่ยวข้องกับเราสามคน การที่เธอไม่มาอยู่ด้วยจึงไม่เป็นปัญหา

ฉันวางเตาไฟที่เตรียมไว้ไว้ตรงกลางห้องโถง

ภายในเตา เปลวไฟวูบวาบลุกโชน แผ่ความอบอุ่นออกมา ในตอนนั้นเอง ฉันก็ได้พูดกับพวกเขา

“เราได้นักเวทย์เข้าสู่ปาร์ตี้ของเราอย่างเป็นทางการแล้ว”

“ก็เป็นเรื่องที่ดีเลยแหละ” เจนน่าตอบ

“ตอนนี้ความรับผิดชอบของเราจะเปลี่ยนไป เราจะไม่ต้องเป็นตัวหลักอีกต่อไปแล้ว เข้าใจถึงความสำคัญของการที่ฉันนำเตานี้มาที่นี่หรือเปล่า?” ฉันถาม

“ฉันก็ไม่ค่อยแน่ใจเหมือนกัน” เธอตอบอย่างไม่มั่นใจ

“ตั้งใจดูให้ดี” ฉันประกาศพร้อมยกมือขวาขึ้น

ความบ้าคลั่งได้ไหลเข้ามาปกคลุมจิตใจฉัน

นี่มันบ้าสุดๆ

ช่างเป็นอะไรที่ไม่ควรยิ่ง

ฉันระงับความคิดเชิงลบที่เพิ่มสูงขึ้น ฉันกลับมามีสมาธิอีกครั้ง จะต้องทำให้เสร็จเพื่อเห็นแก่ความจำเป็นและความก้าวหน้า ฉันหายใจเข้าลึกๆ แล้วเอามือขวาจุ่มไปที่ใจกลางของเปลวไฟที่กำลังลุกโชนออกมา

“พี่! พี่กำลังทำอะไรกัน?” อารอนร้องลั่น

“อะไรน่ะ?” เจนน่าถาม น้ำเสียงของเธอเต็มไปด้วยความกังวล

“ถ้าออลก้าเป็นใช้เวทย์ไฟ… งั้นเราก็ต้องต้านทานมันให้ได้” ฉันอธิบาย

การมองเห็นของฉันพร่ามัวเพราะความเจ็บปวดปกคลุมมือของฉัน ฉันจับมือขวาด้วยมือซ้ายให้อดทนต่อความร้อนที่แผดเผา แม้ว่าฉันจะพยายามอดทน แต่แผลพุพองก็ก่อตัวขึ้นและความเจ็บปวดก็รุนแรงขึ้น

หลังจากนับถึงสิบแล้ว ฉันก็ดึงมือออกจากเปลวเพลิงที่แผดเผา

มือขวาของฉันกลายเป็นสีแดงเพลิงและมีแผลพุพอง แต่สักพักผิวหนังใหม่ปรากฏขึ้น ความเจ็บปวดก็เริ่มบรรเทาลง

“ออลก้าใช้ไฟ ดังนั้นหากเราจะสู้เคียงข้างเธอ ถ้าเราไม่ต้านทานเปลวไฟ เราก็จะกลายขนมปังปิ้งต่อหน้าศัตรูของเรา” ฉันกล่าวอย่างแน่วแน่

“นายเลยกำลังคิดว่าเราควรทำแบบนี้เหรอ?” ดวงตาของเจนน่าเบิกกว้างด้วยความกลัว

อารอนหลับตาลงครู่หนึ่งแล้วพูดด้วยความอยากรู้ “เราต้องทำกี่ครั้งครับ?”

“เราต้องทำจนกว่าจะต้านทางไหว” ฉันตอบโดยบอกเป็นนัยว่าต้องได้รับทักษะต้านทานเปลวไฟ

แม้ว่ามันจะเป็นไปได้ที่จะสร้างเครื่องประดับที่มีความต้านทานเปลวไฟ แต่มันก็จำเป็นต้องมีวัสดุและสิ่งอำนวยความสะดวกที่เหมาะสมต่างๆ มากมาย แต่การได้รับความต้านทานนี้โดยการฝึกจะเป็นสิ่งที่ได้ประโยชน์ ไม่ใช่แค่สำหรับออลก้าเท่านั้น แต่สำหรับทั้งปาร์ตี้ด้วย

“จำความรู้สึกที่เราสู้ที่ชั้นห้าไว้นะ จำสิ่งที่เกิดตอนนายรู้สึกไม่สบายใจได้ไหม?” ฉันเตือนอารอน เขาจ้องมองไปที่เตาไฟ เขายกมือขวาขึ้นเตรียมจะพุ่งเข้ากองไฟ แต่ฉันก็แทรกทัน

“ทำในที่ที่ฉันมองไม่เห็น ฉันไม่อยากที่จะเห็นความทุกข์ทรมานของนายหรอก การกระทำของฉันเป็นเพียงตัวอย่างเท่านั้น” ฉันชี้แจง

“เข้าใจครับ” เขารับทราบและยอมรับคำแนะนำของฉัน

"แล้วเธอล่ะ?" ฉันมองไปที่เจนน่า

“ฉัน… ฉันไม่แน่ใจว่าจะทำได้ไหม” เจนน่าลังเล

“ถ้าอย่างนั้นฉันสามารถทำไปพร้อมไปกับเธอได้ ถ้าเราจับมือกันและเผชิญกับความท้าทายนี้ไป เปลวไฟก็คงจะไม่รู้สึกร้อนขนาดนั้นหรอก” ฉันให้ความมั่นใจ

“นั่น… นั่นไม่จำเป็นหรอก!” เจนน่าโพล่งออกมา ใบหน้าของเธอแดงก่ำด้วยความเขินอาย

“เธอจะวิ่งหนีทุกครั้งที่ออลก้าใช้เวทมนตร์เหรอ? ออลก้าไม่สามารถสร้างโล่หรือเคลื่อนที่ได้ หากเราไม่สามารถปกป้องเธอ เธอก็จะไม่มีการป้องกันใดๆ เลย”

"แต่…"

“เราไม่มีทางเลือกอื่น”

เจนน่าหรี่ตาลงช้าๆ และเธอก็พยักหน้าด้วยคำพูดที่ไม่แน่นอน

ฉันถอนหายใจเฮือกใหญ่แล้วพูดว่า

"ต่อไป"

“เราต้องทำอย่างอื่นอีกไหม?”

“อารอน ฉันขอโทษนะ แต่มีอีกสิ่งหนึ่งที่นายต้องทำ”

"ค ครับ"

ฉันเอื้อมมือขวาออกไปที่พื้น ฉันชักมีดสั้นออกมาจากเอวของเจนน่าและวางมันลงบนฝ่ามือที่หงายขึ้น

“นี่เพื่ออะไรอีกเนี่ย?”

“…ต้านทานความเจ็บปวด”

มือของฉันสั่น แต่ฉันก็สามารถพูดได้

“ฉันจะไม่บังคับให้พวกนายทำแบบนี้ ค้นหาวิธีที่จะใช้เองแล้วกัน แต่การทำแบบนี้จะสร้างความต้านทานต่อความเจ็บปวดให้นายด้วย”

ฉันค่อยๆ ดึงกริชออกมาด้วยมือซ้าย แผลหายเร็วมาก ฉันกำมือขวา เลือดเปื้อนฝ่ามือ อารอนมีเหงื่อผุดขึ้นมาบนหน้าผากของเขา

เขาคงจะรู้สึกแย่มาก ฉันก็รู้สึกเหมือนกัน แต่มันจำเป็นที่จะต้องผ่านมันไปด้วยตัวเอง แม้ว่ายาฟื้นฟูสามารถรักษาบาดแผลได้ แต่พวกเราก็จะรู้สึกถึงความเจ็บปวดอย่างรุนแรง ถ้าต้องทนและต่อสู้พร้อมกันไปด้วย การต้านทานความเจ็บปวดเป็นทักษะสำคัญ

“ฉันจำเป็นต้องทำเหรอ…?” เจนน่าดูหวาดกลัว

“จะไม่ทำก็ได้”

"ฟู้ว"

“แต่ในอนาคตก็ต้องทำอยู่ดี”

“ได้โปรดเถอะ ไว้ทีหลังเถอะนะ”

“เอาล่ะ แต่เธอต้องทำอย่างอื่น หลังจากฝึกฝนด้วยกริชแล้ว เธออาจจะต้องกลายเป็นตัวสับเปลี่ยน”

“ตัวสับเปลี่ยน?”

“ใช่ มันหมายความว่าเธอจะต้องสามารถใช้ทั้งธนูและกริช ทำให้เธอสามารถสลับระหว่างอาวุธทั้งสองได้อย่างรวดเร็ว เธอจะต้องสามารถต่อสู้ทั้งระยะใกล้และระยะไกลได้ทุกที่ทุกเวลา”

“แต่ฉันชอบใช้ธนูมากกว่า”

“จากนี้สิ่งต่างๆ จะแตกต่างออกไป เธออาจจะไม่ชอบใจนัก แต่จะมีบางครั้งที่เราสองคนไม่สามารถปกป้องออลก้าได้ ในเวลานั้นเธอจะต้องมีบทบาทเข้ามาช่วย”

ความรู้สึกของทีมเขายามนี้คือการต้องปกป้องเจ้าหญิงอย่างแท้จริง

ทว่าเพื่อได้รับพลังของออลก้ามา มันก็ไม่มีทางเลือกอื่น

เมื่อพิจารณาถึงอำนาจการที่น่าสะพรึงที่เราพบเห็นบนชั้น 8 ความแข็งแกร่งของมันจะเข้ามามีบทบาทในอนาคตอย่างแน่นอน

“จากนี้ไป เราจะสร้างกลยุทธ์รูปแบบสามเหลี่ยมที่มีศูนย์กลางเป็นออลก้า เราจะเริ่มการฝึกตั้งแต่วันพรุ่งนี้”

เรามีปืนใหญ่ขนาดมหึมาอยู่เคียงข้างเรา

ทว่า ปืนใหญ่นี้ขาดกลไกการป้องกันใดๆ ดังนั้นทางเลือกเดียวของเราคือวางตำแหน่งไว้ตามกองกำลังป้องกันภายนอก เราต้องสร้างเกราะให้กับรถถัง

แม้ว่าพลังของเธออาจจะขาดหายไปบ้าง แต่เราสามารถชดเชยมันได้โดยการลดอำนาจการยิงและใช้โพชั่นมานา ประสิทธิภาพของอาวุธใดๆ ก็ตามล้วนขึ้นอยู่กับวิธีการใช้

“ถ้าเรามีนักเวทย์เพิ่มอีกสักคนคงจะดี”

ถ้าเกิดเรามีนักเวทย์คู่กันในปาร์ตี้ มันคงจะดีกว่าเพราะการมีนักเวทย์สองคนนั้นเป็นการจัดรูปแบบทีมที่มีประสิทธิภาพมากที่สุดในพิกมีอัพ

“ความท้าทายต่อไปรออยู่ที่ชั้น 10 หากเราต้องการมีชีวิตรอด เราก็ต้องนำวิธีพวกนี้ไปปรับใช้”

"ครับ"

“เข้าใจแล้ว”

แม้ว่าชั้น 9 จะยังคงอยู่ แต่โอกาสที่จะไปเสี่ยงโชคก็มีน้อย

ตราบใดที่ยังมีการภารกิจต่อเนื่องที่ต้องทำ เราไม่สามารถปีนหอคอยเพียงทีมเดียวได้ การพัฒนากลุ่มปาร์ตี้ย่อยคือสิ่งจำเป็นและนายท่านก็น่าจะทราบเช่นกัน ชั้น 10 ที่ว่านี้คงเป็นภารกิจจะต้องอาศัยความร่วมมือระหว่างสองปาร์ตี้ขึ้นไป

เราได้รับคำใบ้มาแล้ว

“การปราบปราม การเอาชีวิตรอด การคุ้มกัน การบุกทะลวง การลอบสังหาร การป้องกัน การล้อมตี การไล่ล่า และการหนี”

ฉันเปรียบเทียบประเภทภารกิจที่หลากหลายกับข้อมูลที่ฉันได้รวบรวมมา แม้ว่าฉันจะมีการคาดเดาอยู่บ้าง แต่กว่าจะได้ข้อสรุปที่ชัดเจนก็เป็นเรื่องยาก

เราจะอยู่ได้ก็ต่อเมื่อเราอยู่ท่ามกลางภารกิจจริงเท่านั้น

เส้นทางของเรายังอีกยาวไกล

เมื่อกลับมาที่ห้อง ฉันจึงเริ่มวางแผนอย่างละเอียด

ติดตามเป็นกำลังใจให้ผู้แปลได้ที่แฟนเพจ:BamแปลNiyay

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด