บทที่ 15 : ภารกิจคุ้มกันทาซึนะ และค่าตัวของซาโตรุคือ 10 ล้านเรียว?
ติดตามเป็นกำลังใจให้ผู้แปลได้ที่แฟนเพจ:BamแปลNiyay
บทที่ 15 : ภารกิจคุ้มกันทาซึนะ และค่าตัวของซาโตรุคือ 10 ล้านเรียว?
สองวันต่อมา...
หลังจากการฝึกฝนอย่างหนักหน่วงในสองวันที่ผ่านมา ทุกคนในทีมที่เจ็ดก็สามารถเดินขึ้นไปบนต้นไม้อย่างสบายๆ กระทั่งการเดินบนพื้นผิวของทะเลสาบก็ทำได้เช่นกัน
แต่พวกเขายังไม่สามารถใช้นิ้วยึดต้นไม้และทรงตัวได้ เพราะการเอานิ้วยึดไปที่ต้นไม้แบบนั้นต้องอาศัยการควบคุมจักระในระดับที่ละเอียดอ่อนมาก
กระทั่งซากุระเองก็ยังเอานิ้วยึดต้นไม้ได้เพียงนิดเดียวเท่านั้น
การเอานิ้วยึดต้นไม้และทรงตัวนั้นเป็นสิ่งที่ต่อให้โจนินหลายคนก็ทำไม่ได้ มีเพียงแค่ซังนินในตำนานเท่านั้นที่สามารถทำมันได้อย่างง่ายดาย ซึ่งนั่นเป็นแค่วิธีการฝึกเริ่มต้นของซึนาเดะ
...
พระอาทิตย์แผดแสงจ้าและท้องฟ้าก็มีแดดส่องสว่างไปทั่ว
ณ อาคารของโฮคาเงะ
“คุณปู่โฮคาเงะรุ่นที่ 3 ผมเป็นนินจาอยู่แล้ว รีบมอบหมายภารกิจยากๆ ให้เราหน่อยเถอะ ขอแบบจับโจรอะไรแบบนั้น” นารูโตะวางมือบนหน้าอก นั่งไขว่ขาอยู่บนพื้นจนดูเหมือนกับชายชรา
“ไม่อย่างนั้นคืนนี้ผมจะนอนที่นี่แน่!” หลังจากนารูโตะฝึกฝนมาอย่างตั้งใจสองวัน เขาก็แข็งแกร่งขึ้นอย่างเห็นได้ชัด
วันนี้เขาอยากได้ภารกิจระดับ C หรือสูงกว่านั้น
“นารูโตะ เจ้าบื้อ อย่าทำให้ท่านโฮคาเงะต้องปวดหัวสิ!” ซากุระต่อยนารูโตะอย่างแรงด้วยสีหน้าโกรธจัด
แม้ภายนอกซากุระจะดูเห็นอกเห็นใจโฮคาเงะ แต่เธอกำลังคิดร้ายๆ ในใจอยู่
'ทำได้ดีมากนารูโตะ บ่นไปอีกสักหน่อยเลย'
'ตามหาแมวและดูแลเด็กทุกวันเนี่ยนะ ฉันเบื่อจะตายแล้ว!'
"บื้อทั้งสองคนเลย" ซาสึเกะทำสีหน้าเย็นชา แต่เขาเองก็ยังต้องการทำภารกิจที่ยากลำบากและได้รับความแข็งแกร่งมาโดยเร็วที่สุดเหมือนกัน
“เจ้าเด็กแสบทั้งหลาย ฉันสอนให้พวกเธอเคารพคนแก่และรักเมตตาเด็กไม่ใช่เหรอ? ตาแก่โฮคาเงะรุ่นสามนั้นแก่หงําเหงือกมากแล้ว อย่าว่าเขาเลย” ซาโตรุเดินไปหาฮิรุเซ็นโดยเอามือล้วงกระเป๋ากางเกงไว้พร้อมกับก้มตัวลงและเผยรอยยิ้มเยาะเย้ยออกมา
“ถ้าเกิดเขาตายเพราะความโกรธจะทำยังไงกันเล่า?” ซาโตรุจับเคราของฮิรุเซ็นขึ้นมาเล่น
ทุกคนในทีมที่เจ็ดต่างก็พูดไม่ออก
เล่นเคราไม่พอ ยังแช่งให้ตายอีก
ช่างมีความเคารพต่อผู้หลักผู้ใหญ่เหลือเกิน!
มุมปากของฮิรุเซ็นกระตุกเล็กน้อย เพื่อระงับความโกรธในใจ เขาสูบบุหรี่เข้าปอดไปลึกๆ และพ่นควันออกมา
“อย่ากังวลไปเลย ถึงฉันจะแก่แล้ว แต่ฉันก็ยังมีสภาพจิตใจเช่นเดียวกับคนหนุ่มสาว” ฮิรุเซ็นลุกขึ้นโดยเอามือไพล่หลังและก็ได้เดินตรงไปที่หน้าต่าง
“เกะนินน้อยทั้งหลาย ความปรารถนาแห่งไฟจะส่องสว่างไปทั้งหมู่บ้าน ต่อให้เป็นเปลวไฟอันแผ่วเบาก็สามารถส่องสว่างในความมืดได้ แม้ว่าพวกเธอจะปฏิบัติภารกิจธรรมดา แต่มันก็ยังคงถือเป็นการปกป้องหมู่บ้าน”
ฮิรุเซ็นหันไปมองทุกคนในทีมที่เจ็ดแล้วยิ้มอย่างอ่อนโยน ก่อนจะพูดว่า "ความใจร้อนไม่อาจสร้างความแข็งแกร่งได้ มีแต่จะทำให้ความมืดปรากฏมากขึ้น"
เมื่อเขาพูดแบบนั้นออกมา เขาก็นึกถึงอดีตศิษย์คนโปรดของเขาขึ้นมา
โอโรจิมารุ
“ใบไม้ที่ถูกเผาด้วยเปลวเพลิงอันน้อยนิดย่อมลุกไหม้ต่อไป ไฟจะลุกลามไปทั่ว ส่องสว่างให้แก่หมู่บ้านและผลิใบไม้ใหม่งอกขึ้นมา”
“เมื่อเข้าใจเจตจำนงแห่งไฟแล้วเท่านั้นจึงจะสามารถเรียกว่าเป็นนินจาที่แท้จริงได้” ฮิรุเซ็นมองไปที่ทีมที่เจ็ดด้วยรอยยิ้มอันอ่อนโยนบนใบหน้าของเขา
“พวกเธอก็ได้ยินเหมือนกันแล้วสินะ ไฟจะลุกโชนและเผาหมู่บ้านให้วอดกลายเป็นเถ้าถ่าน” ซาโตรุโอบแขนสมาชิกทั้งสามคนจากทีมที่เจ็ด แสร้งทำเป็นจริงจัง “เพราะงั้นถ้าต้องการเป็นนินจาที่ดี จงอย่าเรียนรู้อะไรจากตาแก่โฮคาเงะรุ่นที่ 3”
“ซาโตรุ!” ใบหน้าของฮิรุเซ็นเปลี่ยนไปทันที
เจ้าเด็กซาโตรุคนนี้มันมากเกินไปแล้ว!
เจตจำนงแห่งไฟคือเจตจำนงของหมู่บ้าน ซึ่งเป็นรากฐานของความเชื่อที่โฮคาเงะรุ่นที่ 1 สืบทอดมาจนถึงทุกวันนี้
ซาโตรุวางมือบนไหล่ของนารูโตะ เลียนแบบน้ำเสียงของนารูโตะแล้วพูดว่า "ผม อุซึมากิ นารูโตะ อยากจะเป็นโฮคาเงะคนถัดไป มาพล่ามอะไรอยู่ได้เนี่ย?"
นารูโตะขยับผ้าที่หน้าผาก และพูดด้วยสีหน้าแน่วแน่ "ใช่แล้ว คุณปู่โฮคาเงะรุ่นที่ 3 ผมจะเป็นโฮคาเงะนะ เพราะงั้นให้ผมทำแต่ภารกิจระดับ D ได้ยังไงกัน!"
“ซาโตรุ!” ใบหน้าของฮิรุเซ็นดูโมโหยิ่ง
ซาโตรุวางมือบนไหล่ของซาสึเกะ จากนั้นเลียนแบบน้ำเสียงของซาสึเกะแล้วพูดว่า “ผมยังมีความแค้นที่ต้องสะสาง ผมไม่มีเวลาฟังเรื่องไร้สาระหรอกนะ รีบให้ภารกิจยากๆ มาให้ผมเร็วๆ ผมอยากจะแข็งแกร่งขึ้น!”
มุมปากของซาสึเกะกระตุก ใบหน้าของเขาแดงเล็กน้อยเพราะความเขินอาย
จากนั้นซาโตรุก็เดินมาด้านหลังซากุระ คว้าข้อมือของเธอแล้วเขย่าไปมาพร้อมกับเลียนแบบน้ำเสียงของซากุระ
“ว้าว อาจารย์ซาโตรุหล่อจังเลย ฉันเองก็อยากต่อสู้กับศัตรูที่แข็งแกร่งและอยากทำตัวให้ดูดี ทำไมต้องมาฟังตาแก่แบบนี้พูดไร้สาระด้วยเนี่ย?”
“อาจารย์ซาโตรุ หยุดพูดได้แล้วนะคะ” ซากุระดูเขินอายฉายมากที่ถูกพูดออกมาด้วยน้ำเสียงของเธอ ตอนนี้เธอแทบอยากจะหารอยแตกบนพื้นเพื่อมุดดินหนีเข้าไปจริงๆ
ใบหน้าของฮิรุเซ็นแม้ดูยากว่าคิดอะไรอยู่ แต่ดวงตาของเขาเต็มไปด้วยความโกรธ เขาได้แต่ตะโกนออกมาด้วยเสียงทุ้มต่ำ
“ซาโตรุ เงียบหน่อจะได้ไหม!?”
เป็นที่รู้กันว่าเขาเป็นคนที่อารมณ์ดีเพียงใด แต่ตอนนี้เขากลับโกรธจนอยากจะฆ่าซาโตรุให้ตาย
“มีภารกิจคุ้มกันระดับ C อยู่ ฉันจะปล่อยให้มันเป็นภารกิจของทีมหน่วยที่เจ็ดแล้วกัน” ฮิรุเซ็นพยายามทำให้จิตใจของตนเย็นลง หยิบเอกสารออกมาแล้วโยนใส่ซาโตรุ
“ภารกิจคุ้มกันเหรอ? จุ๊ๆ ใครมันจะอยากไปทำภารกิจคุ้มกันเล่า?” นารูโตะส่ายศีรษะไปมาด้วยความไม่พอใจ
ฮิรุเซ็นไม่สนใจและตะโกนออกมาเสียงเบาๆ “คุณทาซึนะ เชิญเข้ามาได้เลย เรามีคนคุ้มกันแล้ว”
*ปัง--*
ประตูห้องทำงานถูกผลักให้เปิดออก และทุกคนก็มองไปที่ประตู
สิ่งที่ดึงดูดสายตานั้นคือชายชราผมหงอกขี้เมา สวมเสื้อผ้าสีเทาเรียบๆ และสวมแว่นสายตา เขาได้เดินเข้ามาในห้องทำงาน
“เหอะ เจ้าเด็กเหลือขอพวกนี้ดูอ่อนแอมากจะตายไป เกะนินจะพาผมไปยังแคว้นนามิโนะคุนิได้อย่างปลอดภัยแน่ใช่ไหม?” ทาซึนะจิบเหล้าขวดใหญ่ และมองดูคนสามคนทั้งด้วยอาการเมามาย
“ชายชราขี้เมาคนนี้คือคนที่เราต้องปกป้องเหรอ?” นารูโตะมองทาซึนะอย่างสงสัย
“แต่โจนินคนนี้ดูแข็งแกร่งมาก คงสามารถพาฉันไปที่นั่นคนเดียวได้เลย” ทาซึนะจิบเหล้าพลางมองซาโตรุ จากนั้นก็เหลือบมองไปยังทีมที่เจ็ดทั้งสามคนพร้อมกับโบกมือแล้วพูดว่า “ไอ้เจ้าพวกเด็กตัวกะเปี๊ยก กลับบ้านไปกินนมนอนเถอะ”
“ตาแก่ขี้เมานี้ ถึงจะเป็นผู้ว่าจ้าง แต่เดี๋ยวตีให้ตายแน่!” นารูโตะพับแขนเสื้อขึ้นแล้วพุ่งไปหาทาซึนะโดยมีเส้นเลือดผุดขึ้นบนหน้าผาก
“นารูโตะ!” ซากุระจับตัวนารูโตะไว้แล้วมองนารูโตะด้วยความปวดหัว "ให้ความเคารพผู้ว่าจ้างหน่อยสิ ไม่เช่นนั้นมันจะส่งกระทบต่อชื่อเสียงของหมู่บ้านนะ"
“อย่ามาห้ามฉันสิ ฉันจะชกตาแก่นี้เพื่อเรียกสติสักหมัด!” นารูโตะยามนี้เต็มไปด้วยความโกรธเกรี้ยวคุกกรุ่นในใจ
“ตาแก่ เข้าใจอะไรผิดไปหรือเปล่า?” ซาโตรุสะบัดเอกสารในมือแล้วพูดพร้อมเผยรอยยิ้มบางเบา “เงิน 10,000 เรียวที่เสนอมามันได้มากสุดแค่สามเกะนินเท่านั้นแหละ”
“ส่วนฉันแค่ทำหน้าที่เป็นอาจารย์ของเด็กพวกนี้”
“ถ้านายต้องการให้ฉันพาไปและคุ้มกันเป็นการส่วนตัว ราคาค่าตัวของฉันก็คือ 10 ล้านเรียว” ซาโตรุยกนิ้วสิบนิ้วขึ้นมา
ภารกิจที่เขาทำนั้นล้วนเป็นภารกิจระดับ S ที่มีความยากสูงสุด
ภารกิจระดับ S ส่วนใหญ่จะเป็นการจับกุมผู้ทรยศระดับ S จำนวนมาก
ค่าหัวหลังจากจับนินจาผู้ทรยศได้ก็จะตกเป็นของเขาด้วยเช่นกัน แต่จะต้องส่งมอบตัวของนินจาทรยศระดับ S ให้กับผู้ว่าจ้างก่อน
ก็อย่างที่เห็นกัน
ภารกิจเหล่านี้ส่วนใหญ่เป็นภารกิจแบบว่าจ้างส่วนตัว ด้วยความที่เขาได้รับความไว้วางใจจากเทรุมิ เมย์ แห่งหมู่บ้านคิริงาคุเระให้จับนินจาที่เป็นกบฏ เขาจึงได้รับภารกิจเช่นนี้เป็นประจำ
การจับนินจาทรยศระดับ S เป็นหนึ่งในภารกิจที่ยากที่สุดในโลกนินจา ดังนั้นค่าจ้างส่วนตัวของซาโตรุจึงเป็นจำนวนเงินที่สูงที่สุดในโลกนินจา
“10...10 ล้านเรียว?” ทาซึนะดูสับสนและประหลาดใจกับจำนวนเงินมากมหาศาลเช่นนี้จนเกือบจะหมดสติ
ปัจจุบันอุตสาหกรรมทั้งหมดในแคว้นนามิโนคุนิถูกผูกขาดโดยบริษัทเดียว ไม่ว่าเขาจะพยายามแค่ไหน ทาซึนะก็ไม่สามารถหาเงิน 10 ล้านเรียวได้หรอก
แต่ราคาค่าจ้างของโจนินอยู่ที่ 10 ล้านเรียวเนี่ยนะ?
มันขนาดนั้นเลยเหรอ?
ทาซึนะมองไปที่ฮิรุเซ็น
ฮิรุเซ็นจึงอธิบายว่า "ราคาโจนินธรรมดาไม่ได้สูงมากนัก แต่เพียงแค่ค่าจ้างส่วนตัวของซาโตรุนั้นราคาสูง"
ในฐานะโฮคาเงะรุ่นที่ 3 เขาย่อมไม่สามารถส่งซาโตรุไปปฏิบัติภารกิจได้หากเขาไม่ทุ่มเงินถึง 10 ล้านเรียว
ทาซึนะอึ้งไปแล้ว กระทั่งทีมที่เจ็ดทั้งสามคนก็ยังตกตะลึงด้วยเช่นกัน
อาจารย์ซาโตรุที่มักจะมีรอยยิ้มขี้เล่นและชอบทำตัวไม่สนอะไรมีค่าจ้างมันเยอะขนาดนั้นเลยเหรอ?
“เงิน 10 ล้านเรียวนี้จะกินราเม็งได้สักกี่ชามนะ?” นารูโตะนับนิ้วนับด้วยสีหน้าสับสน
“แต่ด้วยความที่เป็นอาจารย์ของทีมที่เจ็ด ฉันจะร่วมภารกิจกับเจ้าเด็กตัวเหม็นพวกนี้ด้วยแล้วกัน” ซาโตรุยิ้มเล็กน้อย
เขาสามารถร่วมกับทีมเจ็ดเพื่อทำภารกิจได้ แต่หากให้เขาทำภารกิจคนเดียว เขาคงไม่คิดจะทำ
ทาซึนะจิบเหล้าแล้วขอบคุณเขา “ขอโทษด้วยที่เมื่อครู่เสียมารยาทไป”
“เฮ้อ รังแกแต่เด็ก พอเจอคนเก่งเข้าหน่อยก็ทำงี้เชียวนะ” นารูโตะพูดออกมาอย่างไม่พอใจ
“ตาแก่ ฉันขอถามหน่อย แน่ใจหรือว่าคนที่ต้องการฆ่าจะเป็นแค่โจร?” ซาโตรุเหลือบมองทาซึนะ
หัวใจของทาซึนะถึงกับสั่นไหว เขาได้แต่พูดออกมาอย่างมั่นใจ “ผมแน่ใจ”
"10,000 เรียวก็สมเหตุสมผลที่จะจัดการกับโจร ถ้าอย่างนั้นฉันจะปล่อยให้นักเรียนของฉันจัดการเองแล้วกัน แต่ถ้า..." หลังจากหยุดไปเล็กน้อย ดวงตาของซาโตรุก็ฉายแววเย็นชาออกมา
“ถ้าอีกฝ่ายเป็นนินจาแล้วลูกศิษย์ของฉันตกอยู่ในอันตราย ราคาก็คงจะต้องเพิ่มขึ้นตามไปด้วย”
“เมื่อถึงเวลานั้น ถ้านายมีเงินไม่พอ ฉันคงทำได้แค่ปล่อยให้ตาย” ซาโตรุยิ้มออกมาดูเหี้ยมโหดยิ่ง
เขาจำไม่ค่อยได้เท่าไร แต่การคุ้มกันทาซึนะจะได้พบกับนินจากบฏของหมู่บ้านคิริงาคุเระแน่
ใบหน้าของทาซึนะดูบิดเบี้ยว เขาไม่พูดอะไรออกมาเลยสักคำ
ทุกคนมองดูซาโตรุด้วยความสงสัย คำพูดของซาโตรุมันหมายความว่ายังไงกัน?
แค่คุ้มกันทาซึนะและต่อสู้กับโจรสองสามคน มันจะเกิดอันตรายอะไรขึ้นกัน?
“ตอนนี้เราได้พูดคุยและตกลงกันแล้ว เช่นนั้นก็ไปกันเถอะ” ซาโตรุหยิบอมยิ้มออกมา แกะมันแล้วโยนมันเข้าไปในปากของเขา
“อาจารย์ซาโตรุ คุณกินน้ำตาลมากเกินไปแล้ว” ซากุระถึงกับพูดไม่ออก
ไม่นานซาโตรุและทีมที่เจ็ดก็ได้คุ้มกันพาทาซึนะออกจากหมู่บ้านทันที
*****