ตอนที่แล้วบทที่ 13 : ทีมที่เจ็ดกำลังฝึกปีนต้นไม้
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปบทที่ 15 : ภารกิจคุ้มกันทาซึนะ และค่าตัวของซาโตรุคือ 10 ล้านเรียว?

บทที่ 14 : ซาสึเกะ เด็กหนุ่มที่แกล้งทำเป็นเย่อหยิ่ง


ติดตามเป็นกำลังใจให้ผู้แปลได้ที่แฟนเพจ:BamแปลNiyay

บทที่ 14 : ซาสึเกะ เด็กหนุ่มที่แกล้งทำเป็นเย่อหยิ่ง

เวลาผ่านไปอย่างช้าๆ และตอนนี้ก็ผ่านไปสองชั่วโมงแล้ว

ทั้งสามในทีมที่เจ็ดกำลังฝึกควบคุมจักระที่หน้าต้นไม้ใหญ่

นารูโตะและซาสึเกะทั้งคู่ต่างมีความรู้สึกอยากเอาชนะ ไม่อยากจะแพ้อีกฝ่ายกัน

ถ้านายเดินสี่ก้าว ฉันก็ต้องเดินได้ห้าก้าว ทั้งคู่กัดฟันและจ้องตาสู้อย่างไม่ลดละ พวกเขาทั้งสองพยายามเดินขึ้นไปบนต้นไม้อย่างไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อย

“พยายามเข้านะ นารูโตะ ซาสึเกะคุง” ซากุระที่นั่งอยู่บนยอดต้นไม้ได้ยิ้มออกมาเล็กน้อย เธอมองดูซาสึเกะและนารูโตะที่อยู่ด้านล่าง

ในเวลาเพียงสองชั่วโมง เธอก็สามารถปีนขึ้นไปบนยอดต้นไม้ได้สำเร็จ

นารูโตะอยู่ในสภาพเสื้อผ้าที่ขาดรุ่งริ่ง มีโคลนติดอยู่ตามผิวหนัง  เขาหอบหายใจแฮ่กๆ และนั่งลงบนพื้น เงยหน้ามองซากุระด้านบนแล้วพูดด้วยรอยยิ้ม "ซากุระจัง สุดยอดมาก"

ในตอนนี้เขาสามารถขึ้นไปได้เพียงสองในเจ็ดส่วนของต้นไม้ใหญ่เท่านั้น

ทางด้านซาสึเกะก็คือสามในเจ็ด

“แน่นอน ขนาดอาจารย์ซาโตรุยังชมว่าฉันมีความสามารถเลย” ซากุระเงยหน้าขึ้นอย่างภาคภูมิใจ

นารูโตะเกาแก้มแล้วพูดออกมาด้วยรอยยิ้ม “ซากุระจัง ช่วยบอกเคล็ดลับให้ฉันหน่อยได้ไหม?”

หูของซาสึเกะขยับเล็กน้อย เขาจับคุไนไว้ในมือแน่นและจ้องมองไปที่ต้นไม้ใหญ่ตรงหน้า แสร้งทำเป็นไม่สนใจ แต่แอบฟังการพูดคุยระหว่างนารูโตะกับซากุระ

“ไม่มีปัญหา ฉันจะบอกเคล็ดลับให้” ซากุระกระโดดลงมาจากยอดต้นไม้ ร่อนลงบนพื้นหญ้าอย่างนุ่มนวลและมองดูซาสึเกะที่เขินอายเล็กน้อย เธอได้แต่คิดในใจขึ้นมา

'ถึงจะเขินอยู่ แต่ซาสึเกะคุงก็หล่อมากเกินไปแล้ว'

นารูโตะรู้ว่าซาสึเกะกำลังแอบฟังอยู่ เขาจึงยิ้มออกมาอย่างรู้ทันแล้วพูดว่า "เฮ้ ซาสึเกะ นายเรียกตัวเองว่าอัจฉริยะมาโดยตลอด แล้วอัจฉริยะอย่างนายก็อยากรู้เคล็ดลับที่ว่านี้ด้วยเหรอ?"

หลังจากถูกจับได้ว่ากำลังแอบฟัง ซาสึเกะก็หน้าแดงเล็กน้อยแล้วเดินไปที่ตู้จำหน่ายสินค้าอัตโนมัติที่อยู่ห่างไกลออกไปพร้อมล้วงมือในกระเป๋า

“อย่าคิดไปเองสิเจ้าบ๊อง ฉันรู้เคล็ดลับที่ว่านี้มานานแล้ว”

นารูโตะ เจ้าบื้อเอ๊ย!

เขาเองก็อยากเคล็ดลับของซากุระจริงๆ ให้ตายเถอะ แต่พอนารูโตะพูดแบบนั้น เขาก็ไม่มีหน้าจะฟังต่อ

นารูโตะมองดูซาสึเกะที่กำลังเดินจากไปแล้วพูดว่า "จุ๊ๆ อวดดีเหลือเกิน"

“ซาสึเกะคุง….” ซากุระผงะและมองตามหลังของเขาไป เธอเองก็พอรู้ว่าซาสึเกะยังไม่เข้าใจมัน

ถ้าเขารู้เคล็ดลับการปีน ด้วยบุคลิกของซาสึเกะ เขาคงจะปีนขึ้นไปบนต้นไม้เพื่อเยาะเย้ยนารูโตะอย่างแน่นอน

“ซากุระจัง ปล่อยเขาไว้คนเดียวเถอะ และบอกเคล็ดลับมาให้ฉันหน่อยนะ” นารูโตะพูดออกมาด้วยรอยยิ้ม

“เคล็ดลับก็คือ...” ซากุระอธิบายเทคนิคการควบคุมจักระ

หลังจากฟังแล้ว นารูโตะก็บีบคางของเขาด้วยสีหน้ายิ้มแย้มแล้วพูดว่า "ฉันเข้าใจแล้ว!"

แม้ว่าเขาจะไม่ค่อยเข้าใจทั้งหมด แต่อย่างน้อยเขาก็สามารถจำสิ่งที่ซากุระพูดได้

นารูโตะยกนิ้วโป้งขึ้นแล้วพูดออกมาด้วยรอยยิ้มสดใสว่า "ซากุระจัง เธอเป็นอัจฉริยะจริงๆ ที่ค้นพบเคล็ดลับง่ายๆ แบบนี้ ขนาดฉันที่ฟังยังเข้าใจได้เลย"

ซากุระเกาแก้มแล้วพูดอย่างเคอะเขิน “จริงๆ แล้วฉันแอบปรึกษาอาจารย์ซาโตรุมาก่อน”

เธอเป็นคนแรกในทีมที่ไม่ได้อายที่จะเข้าไปขอเคล็ดลับ เธอถึงขั้นโค้งคำนับเพื่อขอเคล็ดลับวิธีการใช้จักระจากซาโตรุเลย

ส่วนนารูโตะและซาสึเกะต่างก็มีทิฐิและไม่ยอมแพ้ใคร

“เอาล่ะ มาดูกันเถอะ ฉันจะปีนขึ้นไปบนยอดต้นไม้นำหน้าซาสึเกะไปหนึ่งก้าวเอง!” นารูโตะกำหมัดแน่นแล้วมองดูต้นไม้ด้วยรอยยิ้มอันแสนมั่นใจ

“สู้เข้านะนารูโตะ เดี๋ยวฉันจะไปถามอาจารย์ซาโตรุต่อว่ามันต้องใช้นิ้วเดียวเกาะต้นไม้ยังไง” เมื่อเห็นถึงความมุ่งมั่นที่แน่วแน่ของนารูโตะ ซากุระก็เริ่มคิดว่านี้เป็นครั้งแรกเลยที่รู้สึกว่านารูโตะไม่ได้เป็นคนน่ารำคาญขนาดนั้น

หนึ่งชั่วโมงผ่านไป....

หลังจากที่นารูโตะรู้เคล็ดลับแล้ว เขาก็ก้าวไปบนต้นไม้ใหญ่ด้วยความมั่นคง ตำแหน่งที่เขาสามารถปีนขึ้นไปได้นั้นสูงกว่าตำแหน่งที่ซาสึเกะขึ้นไปได้หลายก้าว

“ไอ้บ๊องนั้นขึ้นไปสูงกว่าฉันได้ไง?” ซาสึเกะล้มลงกับพื้น จับคุไนไว้แน่นพลางจ้องมองไปที่ลำต้นของต้นไม้ด้วยสีหน้าอันเต็มไปด้วยความโกรธ

นารูโตะที่เป็นแค่คนโง่กลับสามารถเดินได้ไกลมากกว่าตัวเขาถึงห้าก้าว!

คำถามก็คือ มันเป็นเพราะเคล็ดลับที่ว่าของซากุระงั้นเหรอ?

ซาสึเกะเหลือบมองไปบนยอดต้นไม้ใหญ่ที่ซากุระได้ฝึกใช้นิ้วเดียวยึดลำต้นไว้สำเร็จแล้ว

จะให้ไปขอเคล็ดลับเหรอ?

ตลกแล้ว!

ซาสึเกะยอมตายดีกว่าไปขอเคล็ดลับจากซากุระ

"น่าเบื่อเหลือเกิน"

ซาโตรุเอนกายลงบนม้านั่ง พออ่านจบก็ปิดหนังสือลงและถอนหายใจอย่างเกียจคร้าน เขามองไปยังจุดที่ใช้ในการฝึกของทีมที่เจ็ดด้วยตาทิพย์ของเขา

ซากุระมีจักระน้อย แต่เธอสามารถควบคุมจักระได้ดี

ส่วนเด็กจิ้งจอกนารูโตะและซาสึเกะต่างก็มีจักระมากมาย

โดยเฉพาะนารูโตะ ปริมาณจักระของเขานั้นเยอะจนน่าเหลือเชื่อ

ยิ่งจักระมากเท่าไร มันก็ยิ่งควบคุมได้ยากขึ้นเท่านั้น ซึ่งด้วยการรบกวนของจักระเก้าหาง ต่อให้นารูโตะจะฝึกหนักกว่าคนอื่นๆ เขาก็ยังอยู่ในตำแหน่งรั้งท้ายในโรงเรียนเสมอ

แต่หลังจากที่ซาโตรุได้ผนึกจักระเก้าหางอย่างสมบูรณ์ในครั้งที่แล้ว มันก็ทำให้ตอนนี้นารูโตะสามารถควบคุมจักระได้ง่ายขึ้นกว่าเดิม

เรื่องจักระเก้าหางไว้ค่อยพูดถึงทีหลัง สำหรับตอนนี้ให้เจ้าเด็กตัวเหม็นพวกนี้วางรากฐานในการควบคุมจักระก่อน เพื่อที่จะได้ฝึกบทเรียนอื่นกันต่อในอนาคต

“มาทำสุกี้ยากี้กันเถอะ” ซาโตรุประสานมือของเขาเข้าด้วยกัน หายไปภายในเสี้ยววิ และปรากฏขึ้นอีกครั้งหลังจากนั้นสามวินาที

บนพื้นของสวนสาธารณะ มีโต๊ะยาวที่มีเนื้อวัวคุณภาพสูงจำนวนมากและหม้อสุกี้ยากี้ที่กำลังเดือดปุดๆ

โฮคาเงะรุ่นที่ 3 กำลังจะกินมัน แต่ซาโตรุก็เอาไปเสียแล้ว

“ตาแก่โฮคาเงะรุ่นที่ 3 นี้ฟุ่มเฟือยจริงๆ ถึงขั้นกินเนื้อวัวคุณภาพดีทุกวัน” ซาโตรุต้มเนื้อวัวและโรยน้ำตาลลงในหม้อ

ช่วงนี้เขาเบื่อมาก ปกติเวลาประมาณนี้เขาจะไปเที่ยวเล่นกับพี่สาวรุ่นใหญ่

แต่ตอนนี้เขาถังแตกเสียแล้ว!

แม้ว่าพี่สาวรุ่นใหญ่พวกนั้นจะว่าฟรีเพราะความหล่อของเขา แต่ซาโตรุก็เกลียดผู้หญิงที่รุกหนักเกิน

นารูโตะสูดจมูกแล้วมองไปไกลๆ

สิ่งที่ดึงดูดสายตาเขาตอนนี้ก็คือซาโตรุที่กำลังนั่งขัดสมาธิอยู่บนพื้นและกินสุกี้ยากี้อย่างสบายใจเฉิบ

นารูโตะเริ่มกระวนกระวายในใจ เขาชี้ไปที่ซาโตรุแล้วพูดด้วยความโกรธว่า "มานั่งสุกี้ยากี้เลยเหรออาจารย์ซาโตรุ? อาจารย์ตะกละนี้! ผมฝึกซ้อมอย่างหนักแทบตาย แต่อาจารย์กลับกินเนื้อวัวสบายใจเฉิบเนี่ยนะ มีอาจารย์แบบนี้ที่ไหนอีกกัน?"

"โจนินรวยมากเลยสินะ ถึงสามารถกินเนื้อวัวพรีเมี่ยมแบบนี้ได้ทุกวันเลย" ซากุระกุมท้องด้วยความหิวโหย เธอเองก็หิวแล้วหลังจากฝึกฝนมาทั้งวัน

*โครก คราก*

ท้องของเธอได้มีเสียงดังออกมา ซากุระหน้าแดงก่ำ เธอได้แต่กัดฟันและฝึกฝนต่อไป

รอก่อนเถอะ!

ซาโตรุ ไอ้อาจารย์บ้านี้ที่กล้าพูดว่าฉันอ้วนขึ้น

วันนี้ฉันหิวจัด เดี๋ยวจะกินให้หมดเลย!

"ผมก็อยากกินเหมือนกันนะ" นารูโตะวิ่งไปหาซาโตรุอย่างรวดเร็ว และนั่งขัดสมาธิบนพื้นพร้อมกับหยิบชามและตะเกียบ ขณะที่เขากำลังจะหยิบเนื้อขึ้นมานั้น...

“กินอาหารหรูๆ ทุกวันเดี๋ยวก็จะกลายเป็นผู้ใหญ่นิสัยเสียได้ในอนาคต หลังจากเธอฝึกเสร็จ ไว้อาจารย์จะเลี้ยงราเม็งให้แล้วกัน” ซาโตรุคว้าศีรษะของนารูโตะแล้วโยนเขานั้นไปที่ต้นไม้ใหญ่ที่อยู่ห่างไกลออกไป

นารูโตะลุกขึ้น ปัดสิ่งสกปรกบนใบหน้าและลำตัว ชี้ไปที่ซาโตรุแล้วพูดออกมาด้วยความโมโห “อาจารย์ตะกละ นั่นแค่อยากกินคนเดียวใช่ไหม?!”

นารูโตะยังคงฝึกฝนต่อ แต่ฝึกด้วยอารมณ์โมโห

ซาสึเกะเดินไปหาซาโตรุแล้วพูดด้วยน้ำเสียงแข็งๆ  “อาจารย์ซาโตรุ”

"มีอะไรเหรอ?" ซาโตรุแสร้งถาม แต่เขารู้จุดประสงค์ของซาสึเกะอยู่แล้ว

ในที่สุดซาสึเกะ เจ้าเด็กเหย่อหยิ่งคนนี้ก็ไม่สามารถนิ่งเฉยได้อีกต่อไป

ดวงตาของซาสึเกะเต็มไปด้วยความเขินอาย เขาหันหน้าออกไปข้างหนึ่ง ใบหน้าของเขาแดงขึ้นเล็กน้อย จากนั้นเขาก็พูดออกอย่างเย็นชา “ค…เคล็ดลับที่อาจารย์สอนซากุระ”

หากปล่อยให้เป็นแบบนี้ต่อไป เขาอาจจะตามหลังนารูโตะและซากุระ

แต่ซาสึเกะไม่สามารถเข้าไปถามนารูโตะกับซากุระได้ เพราะมันดูเสียหน้า เขาก็เลยตัดสินใจมาถามซาโตรุ

“ตราบใดที่เธอแข็งแกร่งขึ้น เธอก็พร้อมจะยอมทำทุกอย่างเลยสินะ?” ซาโตรุวางตะเกียบลงแล้วมองซาสึเกะอย่างไม่แยแส

“อะไรก็ตามที่ทำให้ผมแข็งแกร่งขึ้นได้ ต่อให้ตายก็ไม่เป็นไร ผมจะต้องฆ่าชายคนนั้นด้วยมือของผมเอง!” ซาสึเกะกำหมัดแน่น แววตาที่เต็มไปด้วยความเกลียดชังพวยพุ่งออกมา

"ชัดเจนดี" ซาโตรุตบไหล่ซาสึเกะแล้วพูดว่า "ตะโกนด้วยเสียงที่ดังที่สุดของเธอเลยว่าอาจารย์ซาโตรุคือผู้ชายที่หล่อที่สุด แล้วฉันจะบอกเคล็ดลับให้"

“เหอะ หยุดล้อกันเล่นได้แล้วนะ!” ซาสึเกะพูดด้วยน้ำเสียงเย็นชา

ให้ตะโกนสุดเสียงว่าอาจารย์ซาโตรุคือผู้ชายที่หล่อที่สุดเหรอ?

หลงตัวเองหรือไงกัน!

ซาโตรุหัวเราะเบาๆ “อย่าอายไปน่า แค่ตะโกนออกไปก็พอแล้ว เธอไม่อยากจะแข็งแกร่งขึ้นเหรอ?”

ซาสึเกะมองนารูโตะที่อยู่ไกลๆ และเห็นว่านารูโตะเกือบจะปีนขึ้นไปบนยอดต้นไม้แล้ว เขากัดริมฝีปากแรงๆ

“อา…อาจารย์ซาโตรุคือผู้ชายที่หล่อที่สุด!” ซาสึเกะกระซิบ

"เสียงเบาเกินไป"

“ให้ตายเถอะ อาจารย์ซาโตรุ จำไว้เลย” ซาสึเกะกัดฟันแน่นและจ้องไปที่ซาโตรุพร้อมกับตะโกนออกมาเสียงดัง

“อาจารย์ซาโตรุเป็นผู้ชายที่หล่อที่สุด!”

เสียงดังก้องไปทั่วสวนสาธารณะ ซากุระและนารูโตะมองซาสึเกะด้วยสีหน้าแปลกๆ

“หน้านายนี่มันตลกจริงๆ” ซาโตรุถ่ายรูปด้วยกล้องเก็บไว้

หน้าอันแดงก่ำของซาสึเกะยังไม่หายไป แต่เขาก็ได้ถามออกมาอย่างเย็นชาต่อ "สรุปแล้วเคล็ดลับที่ว่าคืออะไร?"

“เธอใช้จักระมากเกินไป ต้องกระจายจักระอย่างสมดุล” ซาโตรุชี้ไปที่ท้องของซาสึเกะด้วยตะเกียบแล้วพูดออกมา "ตอนใช้คาถาไฟก็เหมือนกัน"

"เมื่อเธอเรียนรู้ที่จะกระจายจักระแล้ว เธอจะสามารถใช้มือร่ายคาถาง่ายขึ้นมาก"

"ขอบคุณครับ ถ้าแบบนั้นคงทำให้ง่ายมากขึ้นจริง" ซาสึเกะเอามือล้วงกระเป๋า เขาหันหลังแล้วเดินไปที่ต้นไม้ใหญ่ที่อยู่ห่างไกลออกไป

คนทั้งสามในหน่วยที่เจ็ดยังคงฝึกซ้อมต่อไป ส่วนซาโตรุก็จากไปหลังจากที่รับประทานอาหารเสร็จ

ติดตามเป็นกำลังใจให้ผู้แปลได้ที่แฟนเพจ:BamแปลNiyay

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด