ตอนที่แล้วบทที่ 12 : ความคิดของคุเรไน
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปบทที่ 14 : ซาสึเกะ เด็กหนุ่มที่แกล้งทำเป็นเย่อหยิ่ง

บทที่ 13 : ทีมที่เจ็ดกำลังฝึกปีนต้นไม้


ติดตามเป็นกำลังใจให้ผู้แปลได้ที่แฟนเพจ:BamแปลNiyay

บทที่ 13 : ทีมที่เจ็ดกำลังฝึกปีนต้นไม้

ผ่านไปไม่กี่วัน

เกะนินหน้าใหม่ในหมู่บ้านพร้อมด้วยครูโจนินต้องปฏิบัติภารกิจระดับ D ร่วมกันหลายครั้ง

หลายๆ คนที่กลายเป็นเกะนินเป็นครั้งแรกก็เต็มไปด้วยความคาดหวังที่จะได้ทำภารกิจที่แสนยากลำบาก อย่างน้อยก็ต้องเป็นพวกภารกิจจับโจรอะไรทำนองนั้น

แต่เมื่อพวกเขาเริ่มภารกิจในฐานะเกะนิน ภาพในฝันของพวกเขาเกือบทุกคนก็พังทลายลง

ภารกิจระดับ D บางภารกิจคือการช่วยตามหาแมว

ภารกิจระดับ D บางภารกิจคือการช่วยดูแลเด็กๆ

มีแม้กระทั่งภารกิจระดับ D ที่ต้องช่วยงานในร้านอาหาร

แน่นอนว่าซาโตรุไม่ได้เข้าร่วมทีมที่เจ็ดเมื่อพวกเขาไปทำภารกิจระดับ D กัน

ดังนั้นทีมที่เจ็ดทั้งสามคนจึงต้องไปตามหาแมวทุกวันและช่วยดูแลเด็กๆ

ส่วนซาโตรุก็ใช้เวลาทั้งวันที่ถนนโออิรัน เล่นเกมกับพี่สาวที่มีหน้าอกโตและบั้นท้ายใหญ่

เวลานี้ที่สวนสาธารณะ แม้ว่าวันนี้ท้องฟ้าจะแจ่มใสและอากาศดี แต่กลับมีคนน้อยมาก

นารูโตะกำลังอุ้มลูกแมวสีขาว มีรอยขีดข่วนมากมายบนใบหน้าและแขนของเขา เขามองไปที่ซาสึเกะที่อยู่ข้างๆ พร้อมกับเขย่าลูกแมวไปมาอย่างภาคภูมิใจ

“ฮ่าฮ่าฮ่า ฉันจับแมวได้ก่อน ฉันชนะในภารกิจนี้ ซาสึเกะ ถ้านายพยายามหนักขึ้นกว่านี้ก็น่าจะตามฉันทันแล้ว!”

"ฟ่อ!" ลูกแมวสีขาวขมวดคิ้ว ข่วนหน้านารูโตะไปหลายครั้งแล้วกระโดดลงไปที่พื้นเพื่อหลบหนี

“ให้ตายเถอะ อย่าหนีไปไหนนะ ฉันจะเป็นโฮคาเงะให้ได้ ไอ้แมวน้อย!” นารูโตะกระโจนขึ้นไปบนพื้นหญ้า และลูกแมวสีขาวก็วิ่งไปด้านข้างจนทำให้เขาพลาดไป

"สุดยอดคนโง่เลย" ซาสึเกะนั่งบนม้านั่ง เขาประสานมือไว้ใต้คางด้วยท่าทางที่เย็นชา ขณะมองไปทางนารูโตะที่ถูกแมวเล่นงานอยู่บนพื้นหญ้าด้วยความไม่พอใจนัก

เขาคิดว่าหลังจากกลายเป็นเกะนินแล้ว เขาจะได้เดินไปบนเส้นทางที่ทำให้แข็งแกร่งขึ้น

แต่กลับต้องมาตามหาแมว ดูแลเด็ก และทำงานเป็นพนักงานร้านอาหารทุกวัน

เขาพอแล้ว!

เขาต้องการแข็งแกร่งขึ้นและมีพลังมากพอที่จะแก้แค้น!

ซากุระนั่งบนเก้าอี้ เหยียดตัวสบายๆ และพูดออกมาโดยไม่สนใจอะไรเลย "รู้สึกเหมือนเรากำลังเดทกันเลยนะ"

“ซาสึเกะ อย่าเข้าใจฉันผิดนะ ฉันไม่ได้หมายถึงอะไรแบบนั้น แค่…” ซากุระอธิบายด้วยท่าทีลุกลน แต่เธอก็แอบมีความสุข

ใช่!

มันคือแผนแกล้งทำเป็นพูดโดยไม่ได้ตั้งใจ สำเร็จแล้วตัวฉัน!

“ออกไปให้ไกลเลยยัยขี้เหร่ อย่ามากวนฉัน” ซาสึเกะพูดอย่างเย็นชา

“นาย...” ซากุระขมวดคิ้วเล็กน้อย แววตาของเธอเต็มไปด้วยความโกรธ

ช่วงนี้ซาสึเกะเริ่มจะเย็นชาขึ้นไปทุกวัน

แม้ว่าเธอจะชอบซาสึเกะมาตั้งแต่เด็ก แต่เธอก็ยังโกรธมากถ้าซาสึเกะบอกว่าเธอขี้เหร่

ซากุระค่อยๆ กำหมัดของเธอไว้แน่น เธออยากต่อยซาสึเกะ แต่เมื่อเห็นใบหน้าที่บอบบางของเขา เธอก็จึงคลายหมัดออกอย่างเงียบๆ

ซาสึเกะถามอย่างเย็นชา “ว่าแต่อาจารย์..ซาโตรุนั้นอยู่ที่ไหนกัน?”

เขาไม่ได้เจอซาโตรุมาหลายวันแล้ว

“อาจารย์ซาโตรุบอกว่าภารกิจระดับ D นั้นง่ายเกินไป  เราสามารถทำกันเองได้เลย” ซากุระวางนิ้วบนริมฝีปาก เธอนึกถึงสิ่งที่ซาโตรุพูดก่อนหน้านี้และตอบกลับไป

“เหอะ งั้นฉันจะกลับแล้ว เสียเวลา” ซาสึเกะแค่นเสียง ลุกขึ้นแล้วกำลังจะออกไป

เขาอยากกลับไปฝึกซ้อมอีกครั้ง แม้ว่าเขาจะต้องฝึกหนักมากกว่านี้ แต่เขาก็จะต้องได้รับพลังที่เหนือกว่าอุจิวะ อิทาจิให้ได้!

“ซาสึเกะคุง...” ซากุระกำลังจะลุกขึ้นและคว้าเสื้อของซาสึเกะไว้ แต่ทันใดนั้นเธอก็รู้สึกว่ามือคู่หนึ่งกำลังกดบนไหล่ของเธอ

"ใคร!" ซากุระสะดุ้ง หันกลับไปทันทีและต่อยคนที่อยู่ข้างหลังที่จับไหล่ของเธอไว้

ซาโตรุคว้าข้อมือของซากุระ กดแขนของซากุระไว้ข้างด้วยทวงท่าอันสมบูรณ์แบบ

“โอ๊ยๆ เจ็บ” เมื่อรู้สึกถึงความเจ็บปวดที่แขน ซากุระจึงหายใจเข้าออกเร็วๆ และหันกลับไปมองซาโตรุที่ยิ้มแย้ม

"อาจารย์ซาโตรุ!"

“อย่าใจร้อนไปสิ เจ้าพวกเด็กตัวน้อยที่กระทั่งจักระก็ควบคุมไม่ได้จะแข็งแกร่งขึ้นได้ยังไงกัน?” ซาโตรุหยิบอมยิ้มเข้าไปในปากแล้วมองซาสึเกะ

เด็กคนนี้ใจร้อนเกินไป

“ว่าแต่เธอเองก็ดูเหมือนจะมีน้ำหนักเพิ่มขึ้นนะ” ซาโตรุบีบข้อมือของซากุระ

“ไม่จำเป็นต้องมาพูดว่าฉันแบบนั้นหรอกค่ะ!”

ซากุระหน้าแดงพลางจ้องมองซาโตรุด้วยความโกรธ เธอดึงมือกลับและถูข้อมือที่เจ็บเล็กน้อยแล้วก็พูดด้วยความโกรธว่า "อีกอย่าง มีอาจารย์ที่ไหนมาจับนักเรียนหญิงแบบนี้กันคะ?"

เธอหันกลับมาและต่อยโดยไม่ให้เขารู้ตัว แต่ซาโตรุก็จับเธอไว้ได้ทันที!

“อย่าคิดว่าฉันเป็นสุภาพบุรุษสิ ถึงคู่ต่อสู้จะเป็นผู้หญิงสวย แต่ฉันก็ทุบตีให้อ้วกออกมาเป็นเลือดก็ยังได้เลยนะ” ซาโตรุแสร้งทำเป็นยิ้มอย่างภาคภูมิใจ

มุมปากของซากุระกระตุกเล็กน้อย เธอไม่รู้ว่าจะบ่นเขายังไงอีกแล้ว

“ก็แค่การควบคุมจักระ ผมทำได้ตั้งแต่เรียนรู้คาถาไฟแล้ว” ซาสึเกะตอบกลับไป

เขาสามารถใช้ลูกไฟยักษ์ ทำไมเขาจะไม่สามารถควบคุมจักระได้กันล่ะ?

"จริงเหรอ? งั้นมาลองดูกัน" ซาโตรุมองนารูโตะจากระยะไกล กวักมือเรียกแล้วยิ้มออกมา “นารูโตะ”

นารูโตะที่กำลังกอดแมว ดูประหลาดใจเมื่อได้ยินเสียงของซาโตรุ

“อาจารย์ซาโตรุ!”

ต่อจากนั้น นารูโตะก็เดินไปหาซาโตรุโดยมีแมวอยู่ในอ้อมแขนของเขา และก็บ่นออกมาว่า "ช่วงนี้ไปอยู่ที่ไหนมาเนี่ยไอ้อาจารย์บ้า? มีอาจารย์แบบไหนทำตัวเหมือนคุณอีก!"

“ฉันจะสอนพื้นฐานของนินจาให้” ซาโตรุกล่าว

“พื้นฐานของนินจา เราเรียนมันในโรงเรียนนินจาแล้ว ทำไมต้องมาสอนอีกครั้งกันล่ะ?” ซากุระถาม

นารูโตะขยับผ้าที่หน้าผากแล้วพูดอย่างภูมิใจว่า "ใช่แล้ว ผมเป็นนินจาอยู่แล้ว!"

“พื้นฐานของนินจาคืออะไร?” ซาสึเกะถามด้วยความสงสัย

เขาเชื่อว่าพื้นฐานของสิ่งที่ซาโตรุพูดคงเป็นเรื่องพื้นฐานของความเข้าใจ

ทั้งสองอย่างนี้เป็นสิ่งที่แตกต่างกัน

"ปีนต้นไม้ไงล่ะ" ซาโตรุชี้ไปที่ต้นไม้ใหญ่ที่อยู่ห่างไกลออกไป

“ปีนต้นไม้เหรอ?”

ทุกคนในทีมที่เจ็ดตกตะลึงเล็กน้อย พวกเขามองซาโตรุด้วยใบหน้าที่แปลกประหลาด

ปีนต้นไม้?

ตลกแล้ว กระทั่งเด็กอายุเจ็ดขวบก็สามารถปีนต้นไม้ได้

"ปีนต้นไม้" ซาโตรุพูดซ้ำ

นารูโตะชี้ไปที่ซาโตรุแล้วตะโกนออกมาด้วยความโกรธ “อาจารย์บ้า ล้อเล่นกันหรือไง? หมาที่บ้านของผมก็ยังปีนต้นไม้ได้เลย!”

“จะเงียบด้วยตอนที่ฉันพูดหรือจะถูกตี” ซาโตรุเหลือบมองนารูโตะ

เจ้าเด็กนี้มักจะสร้างปัญหาอยู่เสมอ บ่นได้ทุกครั้งตอนที่มีโอกาส

“อาจารย์ซาโตรุ หยุดล้อเล่นได้แล้ว” ซากุระถึงกับพูดไม่ออก

“พูดเล่นสินะ งั้นผมจะกลับแล้ว” ซาสึเกะพูดอย่างเย็นชา

เขาอุตส่าห์รอให้ซาโตรุสอนวิชาคาถาที่ทรงพลังให้พวกเขาจริงๆ

กลับกลายเป็นว่าไอ้อาจารย์คนนี้จะสอนการปีนต้นไม้เสียอย่างนั้น!

“มองดูให้ดี ฉันจะทำเพียงครั้งเดียว” ซาโตรุเดินไปที่ต้นไม้ที่อยู่ห่างไกลออกไป

ด้วยสายตาที่สงสัยของทุกคนในทีมที่ 7 ซาโตรุเดินช้าๆ จากโคนต้นไม้ขึ้นไปบนยอดต้นไม้

“น่าทึ่งมาก ถ้าอย่างนั้นผมก็สามารถเดินขึ้นไปบนต้นไม้ได้ด้วยเท้าแบบนั้นได้เหรอ?” ดวงตาของนารูโตะเปล่งประกาย

“อาจารย์ซาโตรุทำได้ยังไงกันคะ?” ซากุระถามอย่างสงสัย

ซาสึเกะก็มองซาโตรุด้วยความอยากรู้อยากเห็นเช่นกัน

“ใช้จักระรวมเข้าไว้ในจุดที่ต้องการ” ซาโตรุทิ้งตัวลงมา และแตะปลายนิ้วของเขาบนลำต้นของต้นไม้

"ดูนะ"

ซาโตรุไม่ได้ร่วงลงมากับพื้น ดูเหมือนว่าปลายนิ้วของเขาจะติดอยู่กับลำต้นของต้นไม้และห้อยต่องแต่งอยู่อย่างนั้น

ซาโตรุกระโดดมาที่พื้น ปรบมือที่เปื้อนฝุ่นของเขาออก และพูดด้วยรอยยิ้มอันบางเบา “หากใช้จักระได้ดี ก็จะสามารถทำเช่นนี้ได้”

“ซากุระลองดูสักครั้ง เอาคุไนเตรียมออกมาไว้ด้วย” ซาโตรุมองไปที่ซากุระ

"เอ่อ...ค่ะ" ซากุระเดินไปที่ต้นไม้ใหญ่ วางมือประสานกัน เธอรู้สึกถึงการไหลเวียนของจักระ จากนั้นก็รวบรวมจักระไว้ใต้เท้าของเธอ

มันจะทำได้จริงเหรอ?

คงต้องลองทดสอบดู ซากุระยกเท้าข้างหนึ่งก้าวขึ้นไปบนลำต้นของต้นไม้ จากนั้นจึงยกเท้าอีกข้างขึ้นเหยียบบนลำต้นของต้นไม้ ร่างกายของเธอยืนอยู่ขนานกับลำต้นของต้นไม้

"เป็นไปได้จริงๆ ด้วย!"

ซากุระดีใจมากและพยายามจะก้าวขึ้นไปอีกสองสามก้าว แต่จักระก็หายไปเนื่องจากอารมณ์อันตื่นเต้นของเธอ ทันทีที่เท้าของเธอผละออกจากลำต้นของต้นไม้ เธอก็หยิบคุไนออกมาและปักไว้บนลำต้นของต้นไม้เพื่อทรงตัวเอาไว้

จากนั้นซากุระก็กระโดดลงมาที่พื้น

“เด็กน้อย เธอมีพรสวรรค์ในการควบคุมจักระที่ดีมาก” ซาโตรุพยักหน้าเล็กน้อยด้วยความพึงพอใจ

"เย้!" ซากุระดีใจยิ่ง

เมื่อเร็วๆ เธอเอาแต่คิดถึงเรื่องที่นารูโตะสามารถใช้คาถาแยกเงาพันร่างได้ ซาสึเกะก็เก่งมาก มีเพียงเธอเท่านั้นที่ดูธรรมดาและไร้ความสามารถ

แม้ว่าเธอจะเป็นนักเรียนที่เก่งยอดเยี่ยมในโรงเรียนนินจา แต่ในการต่อสู้จริง เธอยังคงอ่อนแอเกินไป

พอซาโตรุบอกว่าเธอมีความสามารถ มันก็ทำให้เธอมีความสุขพอสมควร

“มันก็แค่ปีนต้นไม้ ผมก็ทำได้เหมือนกันแหละน่า” นารูโตะวิ่งไปที่ต้นไม้ จากนั้นก็วิ่งขึ้นไปในหนึ่งลมหายใจ และล้มลงกับพื้นทันทีที่เขาก้าวออกไป

“บ้าเอ๊ย ทำไมผมถึงขึ้นไปไม่ได้?” นารูโตะได้แต่ลูบก้นของเขา

“ไอ้บ๊องนี้ อาจารย์ซาโตรุเพิ่งบอกว่าต้องใช้จักระปีนต้นไม้ไม่ใช่หรือ?” ซาสึเกะรวบรวมจักระไว้ใต้เท้าของเขา จากนั้นก็เหยียบบนลำต้นของต้นไม้และก้าวเท้าไปเพียงก้าวเดียว แต่ก็ล้มลงกับพื้น

"ชิ" ซาสึเกะเงยหน้าขึ้นมองดูจุดที่ซากุระปักคุไนไว้บนลำต้นของต้นไม้

ผู้หญิงขี้เหร่คนนี้ไปได้ไกลกว่าฉันงั้นเหรอ?

ยัยซากุระ…น่ารำคาญนั้นสามารถควบคุมจักระได้ดีกว่าฉันอีกเหรอ?

ตลกแล้ว!

“ฝึกไปจนกว่าจะสามารถอยู่บนต้นไม้ด้วยนิ้วเดียวแล้วกัน” ซาโตรุนั่งบนกิ่งไม้ กินอมยิ้มและไขว่ห้างอย่างสบายใจ

นิ้วเดียวนั้นยากกว่าเท้าอีก

แต่หากต้องการที่จะแข็งแกร่งขึ้น ก็คงต้องพยายามมากกว่าคนอื่น

ส่วนซากุระที่ปีนต้นไม้เป็นครั้งแรกนั้น เธอสามารถเดินไปได้หลายก้าว ทำให้ทั้งซาสึเกะและนารูโตะต่างรู้สึกฮึดสู้ขึ้นมา

เจ้าพวกเด็กดื้อทั้งหลาย

จงแข็งแกร่งให้เร็วขึ้นและพึ่งพาตนเองให้ได้มากกว่านี้

ไม่ว่าผู้ใดต่างก็คงต้องฝึกฝนอย่างหนักเพื่อที่จะแข็งแกร่งขึ้น ทว่าซาโตรุเป็นข้อยกเว้น

เพราะเขาเกิดมาไร้เทียมทาน

ติดตามเป็นกำลังใจให้ผู้แปลได้ที่แฟนเพจ:BamแปลNiyay

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด