บทที่ 11 : ร้านปิ้งย่างที่ดีที่สุดในหมู่บ้าน!
ติดตามเป็นกำลังใจให้ผู้แปลได้ที่แฟนเพจ:BamแปลNiyay
(วันนี้ลงถึง20นะคะ เรทอัพเรื่องนี้ประมาณวันละ 5-10 ตอน ช่วง 21-24 หยุดเพราะไปสิงค์โปรนะคะ)
บทที่ 11 : ร้านปิ้งย่างที่ดีที่สุดในหมู่บ้าน!
คนแน่นอยู่เต็มทั่วร้าน และลูกค้าหน้าใหม่ในตอนนี้ก็คือเกะนินกับอาจารย์ของแต่ละทีม
“อาจารย์ซาโตรุช้ามาก ฉันหิวและเหนื่อยมากแล้วนะ” ซากุระนั่งบนเก้าอี้ กุมท้องที่ร้องดังกึกก้องของเธอไว้ และมองดูนาฬิกาที่แขวนอยู่บนผนังด้วยใบหน้าอันแสนเหนื่อยล้า
“ตกลงกันว่าให้เรารอที่นี่สามนาที แต่นี้ห้านาทีแล้ว เราจะโดนหลอกให้รอเป็นหนึ่งชั่วโมงเหมือนเช้านี้หรือเปล่า?” ซากุระบ่น แต่ก็แอบดีใจอยู่ในใจ
'ดี!'
'อาจารย์ซาโตรุทำได้ดีมาก ทางที่ดีควรมาสายหนึ่งชั่วโมงเหมือนตอนเช้าหรือมากกว่านั้นเลยก็ได้'
'ฉันจะได้อยู่สองต่อสองกับซาสึเกะคุง!'
ซาสึเกะมักจะกลับบ้านทันทีหลังเลิกเรียน และเขาเป็นคนเย็นชามาก ในอดีต เธอแทบไม่มีโอกาสได้อยู่กับซาสึเกะเพียงลำพังเลย
โดยเฉพาะอย่างยิ่งหลังจากการก่อตั้งทีมหน่วยที่เจ็ด ก็จะมีนารูโตะที่แสนบื้อมาอยู่กับพวกเขาเสมอ
การได้อยู่สองต่อสองตอนนี้ถือเป็นโอกาสครั้งหนึ่งในชีวิต
ซาสึเกะเอามือเท้าาคาง จ้องมองซากุระอย่างเย็นชา ก่อนถามด้วยน้ำเสียงราบเรียบ “ซากุระ เธอคิดว่าไง?”
เขาคิดมากเรื่องซาโตรุ ทำไมนารูโตะถึงได้ไปอยู่กับเขาตามลำพัง
เป็นไปได้ไหมว่าหลังจากการประเมินในวันนี้ ซาโตรุพบว่านารูโตะทำผลงานได้ดีมาก เขาจึงตัดสินใจสอนวิชาให้นารูโตะเพียงลำพัง
แต่ปัญหาก็คือ
วันนี้เขาเก่งกว่านารูโตะนะ!
ซากุระบีบมุมชายเสื้อของเธอ หน้าแดงเล็กน้อยแล้วพูดอย่างเขินๆ “เอ๊ะ? ซาสึเกะคุง เธอก็รู้นะว่าฉันคิดยังไง นี่ฉันควรพูดแบบเขินๆ ออกไปแบบนี้เลยเหรอ? คือฉันก็แอบมองนายมานาน…”
ก่อนที่เธอจะพูดจบประโยค ซาสึเกะก็ขัดจังหวะเธอไว้
ซาสึเกะพูดอย่างเย็นชา "เธอคิดยังไงกับนารูโตะ?"
เขาหมายถึงกาาต่อสู้ของนารูโตะในวันนี้ คาถาแยกเงาพันร่างที่สร้างร่างแยกออกมานั้นสมจริงจนน่าทึ่งมาก
หรืออาจเป็นเพราะซาโตรุพบว่านารูโตะสามารถใช้คาถาแยกเงาพันร่างได้ เขาจึงตัดสินใจสอนอะไรบางอย่างเป็นการส่วนตัว
“นารูโตะเหรอ? จะพูดว่าฉันไม่ชอบเขาก็ได้ เขาทำตัวน่ารำคาญมาก ทั้งที่เป็นอันดับสุดท้าย แต่เขากลับชอบหาเรื่องนาย ฉันรู้สึกแย่แทนพ่อแม่ของเขาเลย” ซากุระแตะปลายนิ้วของเธอบนริมฝีปาก ด้วยใบหน้าที่จริงจังและคิดถึงเรื่องของนารูโตะ
เธอไม่เคยรู้ภูมิหลังของนารูโตะเลย ดังนั้นเธอจึงตัดสินเรื่องของนารูโตะแค่ผิวเผิน
เมื่อได้ยินคำว่า 'พ่อแม่' จากซากุระ เขาก็ขมวดคิ้วเล็กน้อยและใบหน้าของเขาก็กลับกลายเป็นดำทะมึน
“เธอมีพ่อแม่มาตั้งแต่เด็ก เธอจะรู้เรื่องอะไรของไอ้บื้อนั่นกัน?” ซาสึเกะมองซากุระอย่างเย็นชาแล้วพูดต่อ "อีกอย่าง...เธอนี่มันก็น่ารำคาญจริงๆ"
“ซาสึเกะคุง...” ซากุระผงะเล็กน้อย ไม่เข้าใจว่าทำไมจู่ๆ ซาสึเกะจึงเปลี่ยนไป
น้ำเสียงเยือกเย็นยิ่งกว่าซาสึเกะตามปกติ
“ซาสึเกะ ซากุระ บังเอิญจัง พวกเธอก็มากินปิ้งย่างที่นี่เหมือนกันสินะ” เสียงผู้หญิงแหลมเล็กก็ดังขึ้น
“อิโนะ?” ซากุระเงยหน้าขึ้นมอง
สิ่งที่ดึงดูดสายตาก็คือ ซารุโทบิ อาสึมะ อาจารย์ทีมที่สิบและคนอื่นๆที่กำลังเดินเข้าไปในร้านปิ้งย่าง ยามานากะ อิโนะที่เห็นพวกเขาก็ยิ้มและโบกมือให้
“ยัยหน้าผากกว้าง ทำไมเธออยู่กับซาสึเกะเพียงลำพังได้เล่า!” อิโนะจ้องมองซากุระด้วยความโกรธเมื่อเห็นซากุระและซาสึเกะอยู่กันเพียงสองคนเท่านั้น
“ซาสึเกะคุงกับฉันอยู่ทีมหน่วยที่เจ็ดทั้งคู่ ยัยหมูอิโนะ เธอไม่จำเป็นต้องมาแส่หรอกยะ!” ซากุระยังจ้องมองกลับไปด้วยความโกรธ
“ยัยหน้าผากกว้าง!”
“ยัยหมูอิโนะ!”
“ยัยหน้าอกแบนหน้าผากกว้าง!”
“หมูปากโต!”
เด็กสาวทั้งสองจ้องหน้ากันด้วยความโกรธ ทั้งสองคนไม่ยอมกันแน่นอน
ทุกคนต่างหมดหนทาง ไม่มีใครหยุดทั้งสองคนนี้ได้ พวกเธอทะเลาะกันทุกวันเมื่ออยู่ในโรงเรียนนินจา จนทุกคนแทบคุ้นเคยกับมันไปแล้ว
แม้ว่าทั้งสองสาวจะดูไม่ถูกกัน แต่จริงๆ แล้วพวกเธอมีความสัมพันธ์ที่ดีต่อกันมาก
“ถ้าทีมที่เจ็ดของเธอมาที่ร้านนี้เหมือนกัน แล้วทำไมฉันไม่เห็นซาโตรุกับนารูโตะล่ะ?”
อาสึมะที่มีบุหรี่อยู่ในปาก สูดลมหายใจแรงๆ และพ่นควันสีซีดออกมา เขามองไปโดยรอบด้วยความสงสัยเพราะไม่พบซาโตรุ
"พวกเด็กผู้หญิงนี้เข้าใจยากจริงๆ" นารา ชิกามารุเอามือเกาหัวพลางมองซากุระและอิโนะที่เถียงกันอย่างไม่หยุดหย่อน จากนั้นเขามองไปที่อาสึมะแล้วพูดว่า "อาจารย์อาสึมะ เขาไม่อนุญาตให้สูบบุหรี่ในร้านนี้นะครับ"
"ขอโทษที ขอโทษที" อาสึมะยิ้มแล้วดับบุหรี่ทันที
“อาจารย์ซาโตรุบอกว่าเขามีเรื่องจะคุยกับนารูโตะ เราก็เลยมารอเขาที่นี่ก่อน” ซากุระพูดอย่างไม่พอใจ เพราะตอนนี้เธอหิวมากเนื่องจากยังไม่ได้กินข้าวเลยตั้งแต่เมื่อคืนก่อน
“มีเรื่องแบบนั้นสินะ? แสดงว่า...ความวุ่นวายเมื่อครู่” ดวงตาของอาสึมะเป็นประกายขณะที่กำลังคิดไตร่ตรอง
ตอนนี้ที่ชายแดนหมู่บ้านมีจักระที่น่าสะพรึงกลัว แต่เมื่อเขากำลังรีบไปที่นั่นพร้อมกับโจนินคนอื่นๆ พวกเขาก็ถูกโฮคาเงะรุ่นที่ 3 หยุดไว้ โดยบอกว่ามันเป็นความลับสุดยอดของหมู่บ้าน
เป็นความโกลาหลที่เกิดจากฝีมือซาโตรุหรือเปล่า?
หูของซาสึเกะขยับเล็กน้อย เขาลุกขึ้นอย่างตื่นเต้นแล้วถามว่า "อาจารย์อาสึมะ...คุณรู้ใช่ไหมว่าพวกเขาทำอะไรกัน?"
“เอ่อ...” อาซึมะไม่ตอบซาสึเกะ แต่เอามือแตะที่หัวโชจิแล้วพูดด้วยรอยยิ้ม “โชจิ ไปสั่งเนื้อกันเถอะ”
"จึ้" ซาสึเกะเม้มริมฝีปาก เขากังวลมากว่าซาโตรุกำลังแอบสอนอะไรให้นารูโตะหรือเปล่า
เขาทนไม่ได้ที่นารูโตะจะแข็งแกร่งกว่าเขา
“คุเรไน บังเอิญจริงๆ อยู่ที่นี่เหมือนกันเหรอ?” อาสึมะมองเห็นทีมที่แปดและคนอื่นๆ ที่นำโดยยูฮิ คุเรไนอยู่ในร้านนี้เช่นเดียวกัน
จริงๆ เขาเห็นคุเรไนแล้วตั้งแต่ตอนที่เข้ามาในห้อง แต่เขาเขินนิดหน่อยจึงไม่ได้ไปทักทายก่อน
เขาไล่ตามตื้อคุเรไน แต่หลังจากสารภาพรักกับคุเรไนเมื่อวันก่อนนี้ เขากลับถูกเธอปฏิเสธอย่างสุภาพ
ดูเหมือนเธอจะมีคนที่ชอบแล้ว
มันน่าอายจริงๆ ที่ต้องเจอกันที่ร้านปิ้งย่างทันทีหลังจากที่คำสารภาพรักถูกปฏิเสธเช่นนี้
“สวัสดีอาสึมะ” ยูฮิยิ้มตอบอย่างสุภาพ
“อาจารย์อาสึมะ” ฮิวงะ ฮินาตะและคนอื่นๆ ก็ทักทายด้วยความเคารพ
หลังจากที่คุเรไนกล่าวทักทาย เธอก็ไม่ได้มองมาที่อาสึมะ แต่มองไปที่ฮินาตะและคนอื่นๆ ด้วยรอยยิ้มอ่อนโยนใบหน้าของเธอ และจึงกล่าวว่า "กินเยอะๆ นะ เดี๋ยวตั้งแต่พรุ่งนี้เป็นต้นไป พวกเธอก็จะคงยุ่งกันมากแล้ว"
อาสึมะเกาหัวด้วยความเขินอาย
เมื่อรู้สึกถึงบรรยากาศที่น่าอึดอัดใจ ชิกามารุก็ถอนหายใจออกมาและพึมพำว่า "ความรักนั้นช่างลำบากแท้"
เขาสอนกลยุทธ์พิชิตใจให้อาสึมะเมื่อวันก่อนนี้ บอกกับอาสึมะว่าจะต้องแสดงความรักอย่างไร เขาถึงได้รู้ว่าอาสึมะถูกปฏิเสธคำสารภาพรักไปเสียแล้ว
“คึกคักกันมากเลยนะ ทำไมยังไม่เริ่มกินกันอีก กำลังรออาจารย์ผู้น่าเคารพอยู่หรือเปล่า?” เสียงหัวเราะเสียงหนึ่งได้ดังขึ้นมา
หลังจากเสียงดังกล่าวดังขึ้น ผู้คนมากมายก็เงยหน้าขึ้นมองไปยังจุดที่เสียงปรากฏขึ้นมา
สิ่งที่ดึงดูดสายตาคือซาโตรุผู้ยืนอยู่ที่โต๊ะของทีมที่เจ็ด โดยมีนารูโตะอยู่บนหลัง
“สวัสดี ซาโตรุ” คุเรไนทักทายเขาด้วยรอยยิ้มบางเบา
“สวัสดีครับ คุณคุเรไน” ซาโตรุมองไปด้านข้าง สายตาของเขาหยุดอยู่ที่จุดนูนบนเนินเขาหน้าอกของคุเรไน และเขาก็พูดติดตลกว่า "กินเนื้อให้น้อยลงเถอะ แค่นี้มันใหญ่มากพอแล้ว"
คุเรไนหน้าแดงเล็กน้อยและไม่ได้พูดอะไรต่อ
อาสึมะเข้าใจทันทีว่าเกิดอะไรขึ้นหลังจากเห็นท่าทางของคุเรไน
เธอเริ่มทักทายก่อนและไม่โกรธด้วยเมื่อถูกพูดจาลวนลาม
ทุกคนต่างเข้าใจได้ในทันทีว่าเธอรู้สึกยังไงกับเขา
"โธ่ถัง" อาสึมะถอนหายใจด้วยความขมขื่น
ผู้ชายขี้เล่นอาจจะดูน่าดึงดูดสำหรับผู้หญิงมากกว่า
ดูทรงแล้วชายแก่นิสัยดีคงไม่เป็นที่นิยมแล้วกระมัง