นักรบพันธุ์ผสม บทที่ 323 - ฟื้นตัว
“อา!! นี่มันดีจริง ๆ” เดวิดส่งเสียงครางออกมาอย่างมีความสุข ร่างกายของเขากำลังฟื้นฟูอยู่ด้วยความเร็วที่รู้สึกได้
ประสิทธิภาพของเม็ดยานั้นสูงกว่าที่เขาคาดมาก ด้วยอัตราการฟื้นฟูระดับนี้ เดวิดคิดว่าในไม่ช้าร่างกายของตัวเองคงจะกลับมาสมบูรณ์เต็มที่อีกครั้ง คลื่นพลังงานอันอบอุ่นนั้นซึมซาบจากน้ำเข้าสู่ร่างกายไปทุกส่วนสัด กล้ามเนื้อ อวัยวะภายใน เส้นเอ็น กระดูก เส้นเลือด ทุกอย่างกำลังสร้างเซลล์ใหม่ขึ้นมาทดแทนส่วนที่สลายไปอย่างเต็มที่ มันเป็นความรู้สึกที่สบายจนเขาต้องครางออกมาเป็นระยะ
แต่เดวิดก็ไม่ได้ยอมเสียเวลาไปอย่างเปล่าประโยชน์เลย แทนที่จะรักษาตัวอย่างเดียว เขาเริ่มทบทวนและฝึกฝนทักษะพันเปลี่ยนแปลงควบคู่กันไปด้วย จนตอนที่ร่างกายสมบูรณ์เต็มที่ เดวิดก็มีความก้าวหน้าขึ้นอีกครั้ง แม้จะไม่ได้ทดลองเปลี่ยนรูปลักษณ์ของตัวเอง แต่เขาก็คิดว่าตัวเองบรรลุถึงขั้นที่ 2 แล้ว อย่างน้อย ๆ ตอนนี้จะสามารถปลอมแปลงรูปโฉมได้ 7 แบบที่แตกต่างกัน
เมื่อรู้สึกว่าร่างกายฟื้นฟูได้อย่างเต็มที่ เดวิดหยิบเม็ดยาขึ้นจากน้ำ แต่ยังปล่อยให้ตัวเองนอนแช่เพื่อซึมซับประสิทธิภาพที่หลงเหลืออยู่ต่อไป จนน้ำสีขาวเริ่มเปลี่ยนเป็นใสไร้สีอีกครั้ง เขาจึงได้ลุกขึ้นมาจากอ่างน้ำในที่สุด รวมเวลาตั้งแต่เริ่มแช่ตัวลงไปจนถึงตอนนี้ มันเพียงแค่ 1 ชั่วโมงเศษ ๆ เท่านั้น ประสิทธิผลของเม็ดยาช่างน่ามหัศจรรย์จริง ๆ
เดวิดเก็บเม็ดยาที่ลดขนาดลงเหลือเพียงครึ่งเดียวลงกล่องอย่างถนุถนอม จากการประเมินของเขา มันน่าจะเหลือพอสำหรับการรักษาอาการบาดเจ็บสาหัสได้อีกสัก 1 ครั้งเท่านั้น เป็นเรื่องที่น่าเสียดายไม่น้อยเลยทีเดียว
หลังจากแต่งตัวจนเสร็จเรียบร้อย เดวิดก็ทรุดตัวลงนั่งเพื่อคิดถึงสถานการณ์ของตัวเองอย่างจริงจัง แม้ว่าร่างกายจะฟื้นฟูได้อย่างสมบูรณ์ แต่เซลล์จำนวนมากเพิ่งจะถูกสร้างขึ้นมาใหม่ มันไม่ใช่ความคิดที่ดี ถ้าจะพาตัวเองกลับไปทำการต่อสู้ใหญ่อีกครั้ง และเมื่อมองย้อนหลังไปยังสิ่งที่เกิดขึ้นทั้งหมด นี่ไม่ใช่เรื่องปกติเลย เขารู้สึกเหมือนกับว่าตัวเองโดนจัดฉากทำร้าย ทุกอย่างโถมเข้ามาอย่างไม่ทันตั้งตัวเลยแม้แต่นิดเดียว
มนุษย์หมาป่าพวกนั้นเล็งเป้าหมายมาที่ตนได้ยังไง? นี่เป็นสิ่งที่เดวิดสงสัยอยู่ในใจมาตลอด เขาเพิ่งมาถึงที่เมืองนี้ได้ไม่นานนักก่อนที่จะเกิดเหตุการณ์นั้นขึ้น จากความทรงจำที่มี เดวิดมั่นใจว่าตัวเองยังไม่ได้ก่อเรื่องอะไรขึ้นเลย เขาไม่เคยพบกันมนุษย์หมาป่าพวกนั้นมาก่อนด้วยซ้ำ ไม่ต้องพูดเรื่องที่จะไปสร้างปัญหาเหยียบเท้าสร้างความโกรธแค้นอะไร
มนุษย์หมาป่า? แถมน่าจะอยู่ในเมืองนี้ทั้งฝูงด้วย นี่มันเมืองอะไร เรื่องอะไรกันแน่? เดวิดไม่เข้าใจเลยจริง ๆ แต่ในที่สุดเขาก็ตัดสินใจที่จะเดินทางกลับสถาบันก่อน อีกฝ่ายแข็งแกร่งและมีจำนวนมากเกินไป ต่อให้สภาพของเดวิดพร้อมกว่านี้ เขาก็ไม่แน่ใจว่าตัวเองจะทำภารกิจทดสอบต่อไปจนสำเร็จได้
หลังจากออกมาจากคฤหาสน์หรู เดวิดที่ใช้ฝุ่นทาลงบนร่างกายก็ปะปนตัวเองหายไปฝูงชนในพริบตา
...............
บนถนนในย่านเสื่อมโทรมอย่างสุดขั้ว รถบรรทุกคันใหญ่จอดนิ่งอยู่บนถนนที่สกปรกเหม็นเน่า รอบข้างนั้นมีทีมคุ้มกันคอยดูแลอยู่อย่างแน่นหนา พวกเขาเป็นสไปร์เยอร์ที่มีอาวุธครบมือ
ภาพความเคร่งเครียดจริงจังที่ปรากฏอยู่ มันทำให้ชาวบ้านที่อาศัยอยู่บริเวณนั้นสลายตัวเข้าไปหลบซ่อนด้วยความหวาดกลัว รอบ ๆ บริเวณมีแต่ทีมคุ้มกันเท่านั้นที่ยืนอยู่บนถนน ราวกับที่นี่กลายเป็นเมืองร้างไปแล้วก็ไม่ปาน
“นายแน่ใจนะว่าพวกเรามาไม่ผิดที่?” เสียงหัวหน้าทีม ‘มาร์ติน’ ชะโงกหน้าเข้าไปถามคนขับรถเพื่อความมั่นใจอีกครั้ง ถ้าให้นับอย่างถี่ถ้วน นี่เป็นการถามครั้งที่ 3 แล้วในรอบ 10 นาทีที่ผ่านมา
แต่คนขับรถก็ยังตอบกลับมาอย่างไม่กล้าหงุดหงิด ต่อให้ถามอีกเป็น 10 ครั้ง เขาก็ต้องตอบกลับไปด้วยความสุภาพ คนธรรมดาแบบเขาไม่กล้าทำให้ผู้ฝึกฝนที่มีอาวุธอยู่ในมือโกรธแน่ “แน่ใจครับ! คุณซิลเวอร์นี่เป็นคนระบุจุดหมายนี่ด้วยตัวเอง ไม่ผิดแน่ครับ”
หัวหน้าทีมส่ายหน้าอย่างไม่สบอารมณ์ สายตาของเขากวาดมองไปรอบ ๆ อีกเป็นครั้งที่ 100 ก่อนจะพึมพำออกมา “ไม่น่าใช่มั้ง? ที่นี่ไม่น่าจะมีคนสั่งของมีราคาขนาดนี้มาได้ ถ้านายมั่นใจ เป็นยัยนั่นเองที่เข้าใจผิดหรือเปล่านะ?”
เขารีบเปิดหน้าต่างโฮโลแกรมของตัวเองขึ้นมา ก่อนที่จะกดปุ่มลงไป 2-3 ครั้ง หัวหน้าทีมคุ้มกันทนไม่ไหวแล้ว ต้องการติดต่อกลับไปเพื่อยืนยันความถูกต้องด้วยตัวเอง
ไม่สำเร็จ! เขาตายก่อน หัวของหัวหน้าทีมคุ้มกันหลุดออกจากบ่าโดยไม่รู้ตัว ร่างล้มลงไปกับกองอยู่ก่อนที่หัวจะตกลงกระแทกกับพื้นถนนเสียอีก
เช่นเดียวกันกับทีมคุ้มกันที่เหลืออีก 19 คน สิ่งที่ดีที่สุดที่พวกเขาทำได้คือหันมามองว่าเกิดอะไรขึ้น ก่อนที่ร่างของพวกเขาจะทรุดลงไปทีละคน แค่พริบตาเดียว ทีมคุ้มกันทั้ง 20 คนก็ถูกสังหารไปจนหมด แต่ละคนหัวหลุดออกจากบ่าด้วยดาบเดียว
คนขับรถนั่งตัวแข็งทื่อ เขาทำอะไรไม่ถูก ไม่สิ! เขายังไม่รู้เลยด้วยซ้ำว่าเกิดอะไรขึ้น? ทำไมจู่ ๆ พวกนั้นถึงได้ตายกันหมด จนกระทั่ง ใบหน้าที่มีรอยยิ้มอันชั่วร้ายชะโงกโผล่เข้ามาดู สัญชาตญาณทำให้เขาหลุดปากร้องของชีวิตต่อไปทันที “ด-ได้โปรด ย-อย่าฆ่าผมเลย!” น้ำใส ๆ ไหลออกมาเต็มหว่างขาไปหมดแล้ว
เดวิดขมวดคิ้ว ก่อนจะยื่นมือไปหิ้วคอคนขับรถออกมาโยนทิ้งอย่างมาใยดี “รีบไสหัวไปก่อนที่ฉันจะเปลี่ยนใจ” หลังจากนั้น เขาก็กวาดตามองไปรอบ ๆ เมื่อเห็นว่าไม่มีใครเหลือรอดอยู่อีกแล้ว ก็โยนดาบเปื้อนเลือดในมือทิ้งลงพื้น
“หึ! ของราคาไม่ถึง 100,000 เหรียญดาว ต้องใช้สไปร์เยอร์คุ้มกันตั้ง 20 คน นี่ไม่ใช่การส่งของแล้ว นี่มันเตรียมจะมาปล้นกันชัด ๆ”
เดวิดหัวเราะออกมาเบา ๆ ก่อนจะเอื้อมมือไปหยิบถุงขนมที่อยู่หน้ารถออกมาโยนให้เด็กน้อย 2 คนที่รวบรวมความกล้าโผล่หัวออกมาดู แล้วเดินไปเปิดวาล์วน้ำปล่อยน้ำให้ไหลออกมาเอื่อย ๆ จากนั้น เขาก็เดินจากไปโดยไม่ได้กล่าวอะไรออกมาสักคำ
ชาวบ้านในบริเวณนั้นใช้เวลาอีกสักพักถึงจะกล้าขยับตัวออกมาจากที่หลบซ่อน และเมื่อแน่ใจว่าทุกอย่างปลอดภัย ก็พากันหาภาชนะมารองน้ำปลอดรังสีระดับ 3 ไปเก็บเอาไว้ใช้ทันที นี่เป็นน้ำสะอาดที่พวกเขาไม่คิดว่าชาตินี้จะมีโอกาสได้ลิ้มรสเลย
ใช่แล้ว! เดวิดใช้เงิน 30,000 เหรียญดาวซื้อน้ำสะอาดมาแจกชาวบ้านที่นี่ มันเป็นเรื่องที่แม้แต่ตัวเขาเองก็ไม่เข้าใจว่าทำไปทำไม บางที อาจจะเป็นเพราะความสงสารก็ได้..
..............
หลังจากเดินเข้ามาในห้องโดยสารของเรือเหาะ เดวิดก็เลือกที่นั่งแถวหลังสุดให้ตัวเอง ทรุดตัวลงนั่งหลับตาอย่างผ่อนคลาย ได้เวลาหลบออกไปจากสลัมแห่งนี้เสียที
เมื่อเสร็จจากงานการกุศลแล้ว เขาก็ค่อย ๆ เดินทางปะปนออกมายังชายขอบของชุมชนแออัดอย่างเงียบ ๆ จนถึงสถานีเรือเหาะโดยสารสาธารณะ และเลือกขึ้นเรือเหาะเที่ยวที่เร็วที่สุดเพื่อเดินทางกลับเข้าไปในตัวเมือง เดวิดวางแผนที่จะไปหลบซ่อนอยู่ในความวุ่นวายของใจกลางเมืองก่อน แล้วค่อย ๆ วางแผนลักลอบออกจากเมืองนี้ไปอีกครั้ง ในใจกำลังคิดว่าจะไปอ้อนวอนตาแก่ผมขาวนั่นอย่างไรดี ภารกิจทดสอบครั้งนี้ล้มเหลวอย่างไม่เป็นท่าเลย เขาต้องให้อาจารย์ของตัวเองช่วยเหลือในเรื่องนี้ มันไม่น่าจะมีปัญหาอยู่แล้ว ใช่มั้ย!?
แต่หลังจากที่เรือเหาะทะยานขึ้นฟ้ามาได้เพียงครู่เดียว ความเร็วของมันก็ลดลงอย่างกะทันหัน เมื่อเดวิดหันมองไปนอกหน้าต่างก็ได้แต่ขมวดคิ้วด้วยความสงสัย ลดความเร็วแต่ไม่ลดความสูง? เกิดอะไรขึ้น?
วินาทีต่อมา เดวิดก็ลุกขึ้นยืนอย่างรวดเร็ว เขากระทืบเท้าลงพื้นห้องโดยสารจนแตกทะลุเป็นรูกว้าง ก่อนจะทิ้งตัวออกจากเรือเหาะทันที มันเป็นวินาทีเดียวกันกับที่เรือเหาะหยุดเคลื่อนไหวอย่างสมบูรณ์ และแสงเลเซอร์ 2 สายพุ่งเข้ามาอย่างรวดเร็ว
เดวิดที่กำลังตกลงไปสู่พื้นเบื้องล่างเงยหน้ามองไปยังต้นตอของแสงเลเซอร์นั้น ก็พบว่ามันเป็นยานรบสีดำที่ดูดุร้ายน่าเกรงขาม แล้วเขาก็ต้องหลับตาลงเพราะแสงสว่างวาบจากการระเบิด เรือเหาะโดยสารที่นั่งมาด้วยกลายเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อยไปแล้ว ไม่น่าจะมีใครรอดชีวิตจากการโจมตีครั้งนี้ได้เลย แน่นอน! แม้แต่เดวิดก็จะไม่รอด ถ้าเขายังนั่งอยู่ในห้องโดยสารเหมือนเดิม
และเจ้ายานรบลำเล็กนั่นเริ่มเปลี่ยนทิศทางพุ่งมาทางเดวิดแล้ว แม้ว่าจะไม่รู้ว่าทำไมถึงถูกเจอตัว แต่เขาก็ไม่คิดที่จะอยู่รอสอบถามกับคนในยานรบลำนั้นแน่ เดวิดกันฟันแน่น ก่อนจะหมุนเวียนเลือดในร่างกายอย่างรวดเร็ว
พรึบ!!
ปีกสีดำขนาดใหญ่กลางออกมาที่แผ่นหลังของเขา แต่แทนที่เดวิดจะบินหนีไปบนท้องฟ้า เขาใช้ปีกคู่นั้นส่งตัวเองให้พุ่งลงพื้นเร็วขึ้นอีก แสงเลเซอร์ถูกปล่อยตามหลังมาแล้ว เดวิดไม่คิดที่จะบินเป็นเป้านิ่งอยู่บนท้องฟ้าเลย…