ตอนที่แล้วตอนที่ 658 การเปิดบัญชีแบบแบ่งระดับ
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 660 ผลข้างเคียงของสารสกัด

ตอนที่ 659 หงอนไก่รัญจวน


ตอนที่ 659 หงอนไก่รัญจวน

“เดี๋ยวก่อน ฉันขอดูวิชานี้หน่อย!” จู่ ๆ โอโร่ก็พูดขึ้นมาหลังจากที่เซี่ยเฟยได้เปิดไปจนเจอวิชา ๆ หนึ่ง

ตอนแรกเซี่ยเฟยรู้สึกว่าวิชาการต่อสู้นี้เป็นเพียงแค่วิชาธรรมดา ๆ และเขาก็กำลังจะโยนมันเก็บเข้าไปภายในกล่อง

“คุณไม่ได้บอกเองเหรอว่าวิชาที่ต่ำกว่าระดับ 6 เป็นขยะทั้งหมด แต่วิชานี้มันเป็นเพียงแค่วิชาระดับ 5 เองนะ” เซี่ยเฟยกล่าวด้วยรอยยิ้ม

“เรื่องทุกอย่างมันมีข้อยกเว้นอยู่เสมอ ถ้าฉันจำไม่ผิดนายมีวิชามิติวิชาหนึ่งที่สามารถสร้างคลื่นมิติขึ้นมาได้ใช่ไหม?” โอโร่ถาม

“ใช่ครับ มันชื่อวิชาพายุมิติปิดล้อมเป็นวิชามิติระดับ 3” เซี่ยเฟยกล่าวพร้อมกับพยักหน้า

“ตอนนี้นายฝึกมันไปได้ไกลแค่ไหนแล้ว?”

“ผมฝึกมันถึงขั้นที่ 7 แล้วและค่อนข้างมั่นใจว่าผมสามารถแสดงวิชานี้ออกมาได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ” เซี่ยเฟยตอบ

“ถ้าอย่างนั้นก็เอาวิชาพายุทรายร่ายรำนี้ไปฝึกซะ ทั้งวิชาพายุทรายร่ายรำและวิชาพายุมิติปิดล้อมต่างก็เป็นการใช้กฎแห่งมิติเพื่อจำลองการสร้างคลื่นพายุขึ้นมา แต่วิชาพายุทรายร่ายรำเป็นวิชาในระดับที่สูงกว่า การเรียนวิชานี้มันจะช่วยให้นายสามารถแสดงพลังได้มากกว่าการใช้วิชาพายุมิติปิดล้อมประมาณ 50%”

“เมื่อต้องเผชิญหน้ากับนักสู้ระดับสูง วิชาพายุมิติปิดล้อมของนายยังมีพลังทำลายไม่มากพอ นอกจากนี้นายยังได้ฝึกฝนวิชานั้นจนถึงขีดจำกัดแล้ว มันจึงถึงเวลาที่นายจะต้องเปลี่ยนไปฝึกวิชาการต่อสู้ชุดใหม่”

วิชาพายุมิติปิดล้อมเป็นวิชาการต่อสู้แบบทำลายวงกว้างเพียงวิชาเดียวของเซี่ยเฟย และมันก็เป็นวิชาที่สามารถนำมาใช้งานได้ดีมาก แต่น่าเสียดายที่ชายหนุ่มพัฒนาระดับพลังเร็วมากเกินไป จนทำให้วิชานี้ไม่เหมาะสำหรับระดับพลังในปัจจุบันของเขาอีกต่อไปแล้ว และมันก็คงจะถึงเวลาที่เขาจะต้องหาวิชาต่อสู้อื่นมาแทนวิชาพายุมิติปิดล้อมแล้วจริง ๆ

วิชาพายุทรายร่ายรำที่โอโร่เลือกให้เขานั้นค่อนข้างที่จะมีความคล้ายคลึงกับวิชาพายุมิติปิดล้อมมาก ซึ่งการฝึกฝนวิชานี้มันก็คงจะช่วยลดความยากลำบากในการฝึกฝนไปได้มากพอสมควรเลยทีเดียว

ภาพเหตุการณ์ต่อมามันก็ทำให้เซี่ยเฟยรู้สึกตกตะลึง เพราะโอโร่ได้เลือกวิชาที่คิดว่าเหมาะสมกับเขาขึ้นมาหลายสิบวิชาในคราวเดียว และวิชาส่วนใหญ่ต่างก็ล้วนแล้วแต่เป็นวิชาระดับ 5 ด้วยกันทั้งหมด

“ผมจะต้องใช้เวลานานแค่ไหนถึงจะสามารถฝึกวิชาพวกนี้จนเชี่ยวชาญได้เนี่ย มันเคยมีสุภาษิตโบราณบนโลกผมเคยบอกเอาไว้ว่า เราไม่ควรกินมากเกินกว่าจะเคี้ยวได้” เซี่ยเฟยกล่าวพร้อมกับขมวดคิ้ว

“แล้วนายเคยได้ยินสุภาษิตนี้ไหมว่าความพยายามอยู่ที่ไหนความสำเร็จอยู่ที่นั่น” โอโร่กล่าวตอบกลับไปอย่างเฉยเมย

คำตอบนี้ถึงกับทำให้เซี่ยเฟยพูดไม่ออก เพราะเขายังไม่เคยพยายามฝึกฝนวิชาการต่อสู้อย่างมากมายในเวลาเดียวกัน เขาจึงไม่รู้จริง ๆ ว่าการฝึกหลาย ๆ วิชาพร้อมกันมันจะให้ผลลัพธ์ออกมาเป็นยังไง

อย่างไรก็ตามชายหนุ่มก็สามารถระบุได้อย่างชัดเจนว่าวิชาแต่ละอย่างที่โอโร่เลือกให้ต่างก็ล้วนแล้วแต่เป็นวิชาที่มีเอกลักษณ์เป็นของตัวเอง และการที่ผู้มีประสบการณ์ชั้นนำมาคอยแนะแนวทางการฝึกฝนให้แบบนี้ การเชื่อคำพูดของโอโร่บ้างมันก็คงจะไม่ใช่เรื่องที่ผิดพลาดอะไร

‘ในเมื่อมันมีวิชาให้เลือกมากมาย ฉันก็ขอทดสอบเซี่ยเฟยดูสักหน่อยก็แล้วกันว่าขีดจำกัดของเขามันจะอยู่ที่ตรงไหน?’ โอโร่คิดกับตัวเองภายในใจ

เซี่ยเฟยไม่รู้เลยว่าภายใต้คำแนะนำนี้มันได้มีความคิดแปลก ๆ ของโอโร่หลบซ่อนอยู่ และการที่อดีตจอมมารได้คัดเลือกวิชาขึ้นมาอย่างมากมาย นั่นก็เพราะว่าเขาต้องการที่จะรู้ถึงศักยภาพที่แท้จริงของชายหนุุ่ม

หลังจากคัดกรองวิชาการต่อสู้จนหมดแล้ว เซี่ยเฟยก็เริ่มตรวจสอบกล้องไม้ที่ถูกวางเอาไว้บนชั้นสุดท้าย

รากหยกขาว!

กระท้อนน้ำเงินดำ!

สมุนไพรแต่ละชนิดที่ถูกเก็บรักษาไว้ภายในกล่องทำให้เซี่ยเฟยมีความสุขจนแทบจะเป็นลม แม้แต่โอโร่ก็ยังรู้สึกว่าสมุนไพรเหล่านี้ค่อนข้างที่จะมีค่ามากพอสมควร

“ดูเหมือนว่าตระกูลฮวงจะมีความสามารถมากเกินไป จนเข้าไปขัดแข้งขัดขาใครบางคนเข้าจริง ๆ สินะ” โอโร่กล่าว

“อือ ๆ” เซี่ยเฟยพยักหน้าตอบอย่างคลุมเครือ เพราะความสนใจของเขายังคงมุ่งเป้าไปที่กล่องเก็บสมุนไพร

“นายรีบ ๆ พัฒนาพลังหน่อยได้ไหม? ถ้านายกลายเป็นราชากฎเมื่อไหร่คลังสมบัติระดับต่อไปอาจจะทำให้นายตกใจมากกว่าตอนนี้เป็นร้อยเท่าพันเท่า” โอโร่กล่าว

น่าเสียดายที่ไม่ว่าโอโร่จะพูดอะไรออกไป มันก็เป็นเหมือนกับการพูดเข้าหูซ้ายทะลุหูขวา เพราะเซี่ยเฟยเหมือนกับกำลังหลงมัวเมาไปกับสมุนไพรล้ำค่า ก่อนที่เขาจะเริ่มหยิบสมุนไพรรูปหงอนไก่ออกมาจากกล่อง

“นั่นมันหงอนไก่รัญจวน พวกตระกูลฮวงคิดอะไรอยู่ถึงได้เก็บหงอนไก่รัญจวนเอาไว้แบบนี้?” โอโร่กล่าวขึ้นมาด้วยความหงุดหงิด

“มันเป็นสมุนไพรมีพิษงั้นเหรอครับ? ผมก็คิดอยู่เหมือนกันว่ากลิ่นของมันค่อนข้างแรงไปหน่อย”

“กลิ่นของมันไม่อันตรายเท่าไหร่แต่สารสกัดของมันต่างหากที่น่ากลัว ถ้าหากจะให้เห็นภาพชัดชัดเกิดมีใครสักคนหยดสารสกัดของหงอนไก่รัญจวนลงบนร่างของนาย พวกพนักงานที่อยู่ด้านนอกนั่นก็พร้อมที่จะกินร่างของนายเข้าไปทั้งเป็นได้ทุกเมื่อ โดยสรุปก็คือไม่ว่าใครที่โดนหยดสารสกัดของสมุนไพรชนิดนี้เข้าไป มันก็จะไปกระตุ้นสิ่งมีชีวิตชนิดอื่นให้กลืนกินร่างของมันเข้าไปทั้งเป็น”

คำอธิบายนี้ถึงกับทำให้เซี่ยเฟยรู้สึกตกตะลึง เพราะถ้าหากว่าใครนำสมุนไพรชนิดนี้ไปใช้ในทางที่ผิดจริง ๆ ผลลัพธ์ที่ตามมามันก็คงจะเป็นเรื่องที่เลวร้ายมาก

เซี่ยเฟยพยักหน้ารับก่อนที่เขาจะเก็บหงอนไก่รัญจวนเข้าไปในแหวนมิติ

“ถ้าเราได้หงอนไก่รัญจวนมาแบบนี้ พวกเราก็ไม่จำเป็นจะต้องหาดอกบัวเพลิงพิโรธอีกต่อไป เพียงแค่เราทาสารสกัดของมันลงบนต้นพลัมเก้าราตรี สารสกัดนี้ก็จะไปกระตุ้นหงส์ครามให้กลืนกินอาวุธมายาอีกชิ้นเข้าไปทั้งหมด” โอโร่กล่าวพร้อมกับพยักหน้ารับอย่างพึงพอใจ

ในที่สุดเซี่ยเฟยก็ได้รู้ว่าแผนการพัฒนาหงส์ครามที่โอโร่เคยกล่าวถึงใกล้ที่จะเกิดขึ้นจริงแล้ว และถ้าหากว่าเขาสามารถรวมอาวุธมายาทั้งสองชิ้นเข้าเป็นอาวุธชิ้นเดียวได้สำเร็จ เขาก็ไม่อยากจะจินตนาการเลยว่าพลังของมันจะเพิ่มขึ้นจากเดิมไปมากขนาดไหน

หลังจากได้ศึกษาประวัติศาสตร์ของชาวแอตแลนติส, ได้รับวิชาการต่อสู้มาหลายสิบวิชา, ได้รับคริสตัลเหลืองมามากกว่า 8 ล้านชิ้น และได้รับสมุนไพรล้ำค่าอย่างหงอนไก่รัญจวน เซี่ยเฟยก็ได้พบว่าเขาได้บังเอิญไปพบกับคลังสมบัติชั้นยอดแล้วจริง ๆ

เพียงแค่การได้เห็นคลังสมบัติระดับ 1 เขาก็สามารถบอกได้เลยว่าในอดีตตระกูลฮวงเคยเป็นตระกูลที่รุ่งเรืองมากแค่ไหน ที่สำคัญคือสมบัติที่เขาได้รับยังไม่ใช่สมบัติที่ล้ำค่ามากที่สุด เพราะถ้าหากว่าเขายังคงพัฒนาพลังต่อไปได้เรื่อย ๆ เขาก็จะมีโอกาสเข้าถึงสมบัติได้เพิ่มขึ้นอีกถึงสองระดับ

‘รวยแล้วโว้ย!!’ เซี่ยเฟยตะโกนบอกตัวเองภายในใจอย่างยินดี

หลังจากกลับไปที่คฤหาสน์ในเมืองแบล็กไลออน ฮีธฟิลด์ก็ได้จัดงานเลี้ยงต้อนรับเซี่ยเฟยกับเฉินตงอีกครั้ง

หลังจากที่เขาได้ตรวจสอบเฉินตงในวันนี้อย่างเป็นทางการ เขาก็ได้พบว่าพรสวรรค์ของเฉินตงเป็นพรสวรรค์ในระดับที่สูงมาก ความมุ่งมั่นที่ชายหนุ่มได้ครอบครองอยู่ก็เป็นความมุ่งมั่นที่หาได้ยากมากแม้แต่ภายในจักรวาลอันกว้างใหญ่เช่นเดียวกัน ที่สำคัญรอยแผลเป็นทั่วทั้งร่างของเฉินตง มันก็ยิ่งทำให้ฮีธฟิลด์รู้สึกตกใจมากยิ่งขึ้น

ตระกูลไลอ้อนฮาร์ทเป็นตระกูลที่ให้ความสำคัญกับความแข็งแกร่งของนักรบเหนือสิ่งอื่นใด รอยแผลเป็นจึงเป็นเหมือนกับเหรียญเกียรติยศของพวกเขา ดังนั้นรอยแผลเป็นของชายหนุ่มจึงยิ่งทำให้ฮีธฟิลด์แสดงความชื่นชมชายหนุ่มพลังน้ำแข็งมากกว่าเดิม

“เอานี่ฉันให้” เซี่ยเฟยยื่นแหวนมิติที่มีความจุ 1,000 ลูกบาศก์เมตรให้กับเฉินตง ก่อนที่เขาจะออกเดินทาง

“มันคืออะไร?” เฉินตงถามอย่างสงสัย

“ข้างในใส่คริสตัลเหลืองเอาไว้ 10,000 ชิ้น, คริสตัลนางแอ่นขาว 20 กิโลกรัม, วิชาต่อสู้เกี่ยวกับกฎแห่งสสาร 17 วิชาและยาบางส่วนที่ฉันเตรียมเอาไว้ให้ ส่วนที่เหลือ... เอาเป็นว่าฉันลืมไปแล้ว ถ้านายมีเวลาว่างก็ลองตรวจสอบพวกมันดูเองก็แล้วกัน” เซี่ยเฟยกล่าว

“10,000 คริสตัลเหลือง!! คริสตัลนางแอ่นขาว 20 กิโลกรัม!! นี่นายไปรวยมาจากไหนถึงเอาของพวกนี้มาให้ฉัน ฉันว่าฉันออกเดินทางไปพร้อมกับนายดีกว่า” เฉินตงกล่าวด้วยดวงตาที่เบิกกว้าง

“อย่าโง่ไปหน่อยเลย นายก็น่าจะรู้ดีว่าตระกูลไลอ้อนฮาร์ทแข็งแกร่งมากแค่ไหน และฮีธฟิลด์ยังให้ความสำคัญกับนายมาก หลังจากนี้อนาคตของนายคงจะไร้ขีดจำกัดแล้ว มันย่อมเป็นทางเลือกที่ดีสำหรับนายมากกว่าการออกเดินทางไปพร้อมกับฉันแน่นอน”

“หลังจากนี้ฉันหวังว่าฉันจะได้เห็นนายที่แข็งแกร่งขึ้นกว่าเดิมนะ” เซี่ยเฟยกล่าวด้วยรอยยิ้มพร้อมกับยื่นมือออกไปตบไหล่สหายที่ใกล้จะต้องแยกเส้นทางการเดินแล้ว

“นั่นสินะ ฉันคงจะปวดหัวกับแม่เหล็กดูดปัญหาอย่างนายแน่ ๆ เอาเป็นว่าฉันจะเก็บคริสตัลนางแอ่นขาวกับวิชาการต่อสู้เอาไว้ แต่ฉันไม่ต้องการคริสตัลต้นกำเนิดพวกนั้นหรอก การฝึกที่นี่ไม่จำเป็นจะต้องใช้เงินแม้แต่คริสตัลเดียว นายเก็บคริสตัลต้นกำเนิดพวกนั้นเอาไว้ใช้เถอะ” เฉินตงกล่าวอย่างจริงใจ

“จำเอาไว้ว่าดินแดนกฎไม่ใช่ดินแดนที่เราจะไว้ใจใครได้ง่าย ๆ แม้แต่สหายที่ครั้งหนึ่งเราเคยเชื่อใจพวกเขาแล้วก็ตาม” เซี่ยเฟยกล่าวเตือนอย่างเขินอายเล็กน้อย เพราะหลังจากเหตุการณ์ของหยูฮัว เขาก็ได้ตระหนักด้วยตัวเองว่าการไว้ใจใครในดินแดนกฎไม่เชื่อเรื่องที่สามารถทำได้ง่าย ๆ เหมือนกับในอดีตจริง ๆ

“ไม่ต้องห่วง ฉันจะดูแลตัวเองเป็นอย่างดี เมื่อไหร่ก็ตามที่นายต้องการให้ฉันไปฆ่าใครให้รีบติดต่อมาหาฉันได้เลย” เฉินตงกล่าวพร้อมกับตบหน้าอกของตัวเองอย่างแรง

“ถ้าฉันขอให้นายช่วย ฉันก็คงจะไม่ใช่ฉันแล้วล่ะมั้ง จำเอาไว้ตราบใดก็ตามที่ใครทำให้ฉันไม่มีความสุข ฉันจะให้พวกมันต้องชดใช้คืนเป็นร้อยเท่าพันเท่า!” เซี่ยเฟยกล่าวพร้อมกับหัวเราะขึ้นมาเบา ๆ

หลังจากที่กลับมายังดินแดนลับของหุ่นยนต์และทักทายแอวริลแล้ว เซี่ยเฟยก็เริ่มเตรียมห้องตามคำแนะนำของโอโร่ในทันที

การพยายามหลอมรวมอาวุธมายาไม่ใช่เรื่องง่าย เพราะท้ายที่สุดหงส์ครามจะต้องพยายามดูดกลืนร่างของต้นพลัมเก้าราตรีเข้าไป ดังนั้นเซี่ยเฟยจึงจำเป็นจะต้องเตรียมการอย่างระมัดระวังมากที่สุด เพราะถ้าหากว่ามันเกิดข้อผิดพลาดขึ้นมาเขาก็คงจะรู้สึกเสียใจไปชั่วชีวิต

โซฟีขออันธกับเขาอีกครั้ง ซึ่งเซี่ยเฟยก็ไม่รู้ว่าจักรกลตนนี้กับวิญญาณอดีตนักฆ่ากำลังพยายามแอบทำอะไรอยู่กันแน่ ที่สำคัญคืออันธไม่เคยคิดที่จะปฏิเสธคำขอของโซฟีเลยทั้ง ๆ ที่ตอนแรกที่เขาทิ้งสร้อยหินมัวร์ไว้ อันธแทบที่จะร้องไห้เพราะไม่อยากจากเขาไปด้วยซ้ำ

แม้ว่าเซี่ยเฟยจะพยายามถามว่าพวกเขาทั้งสองคนกำลังทำอะไรอยู่ แต่เขาก็ไม่เคยได้รับคำตอบกลับคืนมา ซึ่งชายหนุ่มก็เลือกที่จะเลิกสนใจเรื่องนั้นไปก่อน เพราะเขาต้องมุ่งความสนใจมาที่การเตรียมการให้หงส์ครามทำการเอากลืนกินต้นพลัมเก้าราตรีเข้าไปให้ได้เสียก่อน

กองทัพหุ่นยนต์จำเป็นจะต้องใช้เวลา 3 วัน 3 คืนในการสร้างโดม 4 ชั้นขนาดใหญ่ ซึ่งไม่เพียงแต่อาคารนี้จะมีความแข็งแกร่งมากเท่านั้น แต่มันยังป้องกันไม่ให้อากาศเล็ดลอดออกมาจากภายในโดมอีกด้วย

ในระหว่างที่โดมกำลังถูกปิดผนึก เซี่ยเฟยก็สวมใส่ชุดต่อสู้พร้อมกับยืนรออยู่หน้าอุปกรณ์ปรุงยา

“เอาล่ะพวกเรามาเริ่มกันเถอะ” เซี่ยเฟยกล่าว

“ขั้นตอนแรกให้นายสกัดสารสกัดจากหงอนไก่รัญจวนออกมาซะก่อน” โอโร่กล่าวอย่างจริงจัง

***************

หงอนไก่รัญจวนเป็นวัตถุดิบที่น่ากลัวมากจริง ๆ

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด