ตอนที่ 1381 แก๊งกําปั้นเหล็ก
ฮาวเวิร์ด หนุ่มผิวขาวคนนี้กลิ้งตัวไปมาบนพื้น อาการคันตามร่างกาย.. ทําให้เขาแทบจะเป็นบ้าไปแล้ว เขาไม่เคยรู้สึกอึดอัดทรมานเหมือนอย่างในตอนนี้มาก่อนเลย คนจีนคนนี้เขามันใช้เวทมนตร์หรืออะไรกันแน่ มันถึงทำให้เขาทั้งคัน ทั้งทรมานจนอยากที่จะตายๆ ไป เพื่อให้หลุดพ้นจากความทรมานนี้…
ชายร่างใหญ่ทั้งสองคนที่อยู่ข้างๆ เมื่อกี้ถูก หลินฟาน ซัดเปรี้ยงจนล้มลงไป มาตอนนี้พากันลุกขึ้นทีละคน ในตอนแรกตั้งใจจะเข้ามาช่วย แต่เมื่อพอเห็นอีกฝ่ายมอบหลักการของตนเองให้กับ ฮาวเวิร์ด ทั้งสองคนก็ตกใจจนตัวแข็งทื่อไป ที่ไหนจะยังกล้าเข้าไปช่วยอีก มัน.. แน่นอน พวกเขาไม่อยากตกไปอยู่ในสภาพแบบนี้
“เร็ววว, ช่วยฉันด้วย!”
ในที่สุด ฮาวเวิร์ด ก็ทนไม่ไหวอีกต่อไป เขาได้ร้องขอความเมตตาจาก หลินฟาน อย่างช่วยไม่ได้ มันยากมาก.. ยากเกินไป เขาอยากจะตายอยู่แล้ว แต่ตอนนี้เขาตายไม่ได้ ได้แต่ทนทุกข์ทรมานไปทั้งเป็น
หลินฟาน ยังคงไม่แยแส.. และเขาทำเพียงมองอีกฝ่ายอย่างเย็นชาเท่านั้น
ฮาวเวิร์ด ยังคงต้องดิ้นรนต่อสู้ต่อไป ความเจ็บปวดนี้ มันไม่ใช่สิ่งที่มนุษย์ธรรมดาจะทนได้
“ช่วยผม.. ช่วยผมด้วย คุณอยากรู้อะไร ผ.. ผมจะบอก.. ผมจะบอกคุณ ตราบใดที่คุณช่วยผม อ๊าากกก ผมทนไม่ไหวแล้วจริงๆ หรือคุณจะยิงผมให้ตายเลยก็ได้ อา.. ขอร้อง ขอร้องเถอะ!”
ฮาวเวิร์ด ได้ขอร้องอ้อนวอนออกมา
หลินฟาน กล่าวว่า : “ผมจะได้รับสิ่งที่ผมต้องการ ..ได้อย่างไร?”
ฮาวเวิร์ด กล่าวว่า : “แก๊งกําปั้นเหล็ก(The Iron Fist Gang) นี่เป็นแก๊งใหญ่ในโลกใต้ดินของเมืองลอนดอน การประมูลมืดเป็นหนึ่งในอุตสาหกรรมของพวกเขา ทั้งหมดถูกควบคุมเอาไว้โดยคุณเคลาส์(Klaus) แห่งแก๊งกําปั้นเหล็ก!”
หลินฟาน กล่าวถามว่า : “คนคนนี้ ..อยู่ที่ไหน?”
ฮาวเวิร์ด ตอบว่า : “เขาอยู่ที่มิดไนท์บาร์ เขาเป็นคนดูแลที่นั่น”
มิดไนท์บาร์ เป็นบาร์ใต้ดิน ในเมืองลอนดอน บาร์ใต้ดินเองก็ไม่ใช่เรื่องแปลกใหม่อะไร มันมีอยู่ทุกหนทุกแห่ง แต่มิดไนท์บาร์แห่งนี้ ..ค่อนข้างแตกต่างกันออกไป เพราะขนาดของมัน แน่นอนว่ามันไม่ใช่บาร์เล็กๆ ธรรมดาๆ ทั่วไปจะเอามาเปรียบเทียบกันได้ ที่นี่นอกจากการดื่ม และเต้นรำแล้ว ยังมีรายการบันเทิงที่น่าตื่นเต้นอื่นๆ อีกด้วย
คนทั่วไปจะไม่รู้ว่าบาร์แห่งนี้เป็นธุรกิจของแก๊งกำปั้นเหล็ก ซึ่งเป็นขุมกำลังที่ไม่ควรมองข้ามในโลกใต้ดินของเมืองลอนดอน, ว่ากันว่า หัวหน้าแก๊งกำปั้นเหล็ก เคยเป็นนักมวยมาก่อน และเขาก็ได้อยู่ยงคงกระพันด้วยกำปั้นเหล็กคู่หนึ่ง, ต่อมาเขาได้พากลุ่มน้องๆ ลงมาคลุกคลีอยู่ในโลกใต้ดิน แล้วค่อยๆ กลายมาเป็นขุมกำลังหนึ่ง
หัวหน้าแก๊งคนนี้ไม่ใช่คนที่ใช้แต่แขนขาในการพัฒนา หรือจำพวกสมองขี้เลื่อย ตรงกันข้าม คนคนนี้มีความเฉียบแหลมทางธุรกิจมาก และได้มีส่วนร่วมในอุตสาหกรรมมากมาย ทุกสิ่งอย่างที่เขาทำล้วนมีสีสัน ถ้าทั้งหมดนี้ไม่ใช่คําสารภาพที่ออกมาจากปากของ ฮาวเวิร์ด ที่นี่เราจะไปคิดได้อย่างไรว่า ..กองกําลังใต้ดินจะเคลื่อนตัวอยู่บนเว็บไซต์ในการประมูลบน Deep Web และยังทํามันจนกลายมาเป็นแบรนด์ที่มีชื่อเสียงบน Deep Web อีกทั้งยังมีสมาชิกที่เข้าลงทะเบียนอีกหลายแสนคน แค่การประมูลมืดนี้ ก็คงจะสร้างรายได้ให้กับแก๊งกำปั้นเหล็กได้ ..ไม่น้อยแล้ว
เมื่อได้ข้อมูลที่อยากรู้แล้ว ในที่สุด หลินฟาน ก็ถอดเข็มเงินที่หว่างคิ้วของ ฮาวเวิร์ด ออก เพื่อปลดปล่อยความทรมานแก่เขา
ฮาวเวิร์ด รู้สึกได้ทันทีว่า อาการคันตามร่างกายของเขา.. มันได้หายไปแล้ว มันได้หายไปอย่างไร้ร่องรอย และมันดูราวกับว่า ..ไม่เคยปรากฏมาก่อน
ฮาวเวิร์ด ตกใจมาก เขาไม่รู้จริงๆ ว่า หลินฟาน ร่ายเวทมนตร์แบบไหนอะไรกันแน่ เข็มเงินเล่มเดียว.. เขาสามารถทำมันได้ถึงขนาดนี้เลย?
หลังจากได้หายใจเข้าออกลึกๆ ฮาวเวิร์ด ก็เงยหน้าขึ้น แต่ยังคงเห็นเหงื่อเย็นๆ ที่ไหลตกลงมาอาบใบหน้าของเขา เขาเองได้มองไปที่ หลินฟาน แล้วพูดว่า : “แม้ว่าคุณจะเก่งมาก แต่คุณวางแผนที่จะไปท้าทายแก๊งกําปั้นเหล็กคนเดียว งั้นหรือ? ผมขอแนะนําให้คุณเลิกคิดซะ เพราะนี่มันไม่ใช่สิ่งที่คุณคนเดียวจะรับมือได้!”
หลินฟาน กล่าวว่า : “ผมเป็นพวกชอบพูดคุยกันก่อน.. ลงมือ ถ้าพูดคุย และให้เหตุผลกันได้ ทุกอย่างก็สามารถจัดการได้ง่าย สำคัญสุด.. คือถ้าไม่จําเป็นจริงๆ ผมเองก็ไม่ชอบลงมือกับคนอื่น โอเค.. พาผมไปหา นายเคลาส์อะไรนั่นทีสิ”
แม้ว่าจะมีชื่อว่า มิดไนท์บาร์ แต่ที่นี่ก็ยังคงดำเนินธุรกิจอยู่แม้จะเป็นช่วงกลางวันแสกๆ และส่วนถนนของบาร์แห่งนี้ก็ยังค่อนข้างดีอยู่ มองผิวเผินแล้วก็ยังเป็นบาร์ที่มีกลิ่นอายของในด้านศิลปะ และวรรณกรรมค่อนข้างมาก ถ้าเป็นวัยรุ่นในสายศิลป์ วรรณกรรม ได้เข้ามา แน่นอนพวกเขาจะต้องถ่ายรูปที่หน้าประตูก่อนเป็นอันดับแรก เพื่อเก็บไว้เป็นที่ระลึก หรือไม่อาจส่งไปอวดเพื่อนๆ
และไม่มีใครคาดคิดเลยว่า บาร์แห่งนี้จะเกี่ยวข้องกับกองกําลังใต้ดิน
รถเก๋งคันหนึ่งได้มาถึงด้านนอกมิดไนท์บาร์ และหยุดอยู่ที่ถนนฝั่งตรงข้าม..
ฮาวเวิร์ด ที่เป็นคนขับ หลินฟาน ได้นั่งอยู่ข้างๆ คนขับ ที่เบาะหลัง คือชายร่างใหญ่ทั้งสองคนนั้น ทั้งสองเองได้นอนเอียงศีรษะลงไปอยู่ในเวลานี้ และแน่นอนทั้งสองคนนี้เพิ่งจะถูก หลินฟาน จัดการไป
“ลงจากรถ แล้วพาผมเข้าไป” หลินฟาน ได้กล่าว
ฮาวเวิร์ด ได้เช็ดเหงื่อเย็นๆ เขาไม่รู้ว่าผลที่ตามมา.. ที่เขาได้พา หลินฟาน มาที่นี่มันจะเป็นอย่างไร บางทีผลที่ตามมานั้น เขา.. อาจจะรับมันไม่ได้ก็เป็นไปได้ แต่เมื่อเรื่องมันมาถึงขั้นนี้แล้ว มันก็มีแต่เขาจะต้อง.. เดินหน้าต่อไป เท่านั้น
เขาไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากกัดฟัน.. แล้วนำ หลินฟาน ลงจากรถ
ทั้งสองข้ามถนน และกําลังจะเดินเข้าไปในประตูของ มิดไนท์บาร์
ทันใดนั้นก็ได้ยินเสียงกรีดร้องของผู้หญิงคนหนึ่งดังออกมาจากด้านข้าง ดวงตาของ หลินฟาน แหลมคมขึ้น เขามองเห็นได้ทันทีว่าประตูด้านข้างของบาร์ มีเด็กสาวคนหนึ่งถูกดึงผม และกำลังถูกลากเข้าไปในซอยที่อยู่ข้างๆ แม้ว่าเด็กสาวคนนี้จะพยายามดิ้นรนไปอย่างสิ้นหวัง แต่เนื่องจากคนที่ฉุกกระชากดึงเธอนั้นเป็นชายฉกรรจ์ เธอจึงไม่สามารถต่อต้านได้เลย
หลินฟาน ขมวดคิ้ว : “เกิดอะไรขึ้น?”
ฮาวเวิร์ด ได้ยิ้มหัวเราะ แล้วพูดว่า : “ไม่เป็นไร ไม่เป็นไร ไม่มีอะไร อาจจะเป็นเพราะพนักงานเสิร์ฟคนนี้ทําผิดพลาด มันก็ต้องให้ความรู้แก่เธอสักหน่อย มันก็เท่านั้น”
หลินฟาน มองไปที่เขาแวบหนึ่ง แล้วพูดว่า : “ไปดูสิ”
“นี่…” ฮาวเวิร์ด ยิ้มอย่างขมขื่น เขารู้ว่าเขาไม่อาจจะหยุด หลินฟาน ได้ เลยทำได้แค่เดินไปกับ หลินฟาน
ภายในซอยพบเด็กสาวผิวขาวคนหนึ่ง กำลังถูกชายฉกรรจ์ผิวขาวกระชากผม ลากเข้าไปในซอยลึก
“ได้โปรด ปล่อยฉันไปเถอะ ขอร้อง!” เด็กสาวผิวขาวได้ร้องไห้ และร้องขอความเมตตา น้ำมูก น้ำตาได้ไหลอาบท่วมแก้มทั้งสองข้าง
เห็นแต่เธอแต่งตัวดูโป๊มาก ทั้งยังแต่งหน้าเข้ม การแต่งหน้าแบบนี้ก็ดูไม่สอดคล้องกับอายุของเธอเลย บวกกับการแต่งตัวที่ดูเป็นผู้ใหญ่ และออกจะเซ็กซี่นั่น ยิ่งทำให้ดูไม่เข้ากันไปใหญ่ และยิ่งเมื่อเห็นเธอร้องไห้ เครื่องสำอางที่แปะอยู่บนหน้าก็พากันหลุดลอกออกหมด ใบหน้าเต็มไปด้วยลายของเครื่องสําอางที่เข้ามาผสมกันมั่ว ทั้งยังออกจะดูน่าเกลียดมาก กล่าวคือ ไม่น่าดูเลยสักนิด..
ชายฉกรรจ์คนนั้นกลับไม่มีความเมตตาใดๆ, เขาได้ลากเด็กสาวคนนั้นไปโดยไม่มีท่าทีจะหยุดชะงักแม้แต่น้อย เมื่อพอลากเด็กสาวผิวขาวคนนี้มาจนถึงมุมหนึ่งแล้ว เขาก็ได้จับเธอโยนลงไปกับพื้นทันที
ชายฉกรรจ์ หยิบมีดพับออกมา และจ้องมองไปที่เด็กสาวด้วยสีหน้าท่าทีที่ดุร้าย
เด็กสาวที่เห็นก็ตกใจ หวาดกลัวมาก และใช้มือที่วางอยู่บนพื้น รีบขยับถอยหลังออกไป แต่ข้างหลังของเธอกลับมีแต่ทางตัน เธอถอยออกไปไหนไม่ได้อีกแล้ว ได้แต่ถอยไปที่มุมหนึ่ง และขดตัวกอดตัวเองจนดูคล้ายกับลูกบอล
ปากของเธอยังคงร้องขอความเมตตาออกมาอยู่เรื่อยๆ : “คุณอย่าเข้ามาได้โปรด อย่าทําร้ายฉันเลยนะ ครั้งต่อไปฉันไม่กล้าแล้ว ฉันจะไม่กล้าอีกแล้ว”
ชายฉกรรจ์ยิ้มอย่างเย็นชา และสีหน้าของเขาดูโหดเหี้ยมมาก ตัวเขาได้ก้าวไปข้างหน้า และฟันมีดในมือลงไป
เด็กสาวผิวขาวได้ยกแขนขึ้นมาบังตัวเองออกไปโดยไม่รู้ตัว แขนของเธอก็ได้ถูกมีดกรีดจนเกิดเป็นรอยแผล และได้มีเลือดไหลซึมออกมาทันที จนเด็กสาวผิวขาวที่เห็น.. ได้ร้องครวญครางออกมาอย่างเจ็บปวด
และไม่รู้ว่า ชายฉกรรจ์ ตั้งใจจะฟันเธอตรงไหนอีก การฟันเมื่อกี้นี้มันเห็นได้ชัดว่าไม่ได้ทำให้ ชายฉกรรจ์ เกิดความพอใจ ชายฉกรรจ์ ตรงหน้าไม่คิดจะพูดพร่ำเพรื่ออีก เขาได้เดินถือมีดเข้าหาเด็กสาวผิวขาวอีกครั้ง พร้อมกับเอื้อมมือไปจับผมของเธอ พยายามที่จะควบคุมเธอไว้
เด็กสาวผิวขาว ที่ไหนจะเป็นคู่ต่อสู้ของเขาได้ เมื่อถูกเขาจับผมแล้วทั้งยังถูกกระชากดึงขึ้น ชายฉกรรจ์ ก็หยิบมีดพกในมือขึ้นมาโชว์ต่อหน้าเธอ แล้วจากนั้นเขาก็ได้ยกมีดในมือนั้น เตรียมจะฟันลงมาที่เธออีกครั้ง
“คุณคิดจะทำอะไร?”
เสียงหนึ่ง จู่ๆ ได้ดังขึ้น ..มาจากด้านหลัง
ชายฉกรรจ์ หยุดยั้งมือตัวเอง และหันไปมอง ก็เห็น ฮาวเวิร์ด กับหลินฟาน กำลังเดินเข้ามา
ชายฉกรรจ์คนนี้.. จำ ฮาวเวิร์ด ได้อย่างชัดเจน แต่ หลินฟาน เขากลับไม่เคยพบเห็นหน้ามาก่อน แต่คนที่พูดออกมาเมื่อกี้นี้ คือ หลินฟาน
“ไอ้เด็กเอเชียคนนี้มันเป็นใครวะ?” ชายฉกรรจ์คนนั้นได้ถามกับ ฮาวเวิร์ด
ฮาวเวิร์ด ได้มีเหงื่อเย็นๆ ไหลตกลงมา ชายฉกรรจ์ตรงหน้า.. พูดออกมาแบบนี้ นี่มันอันตรายมาก เขาไม่สามารถเตือนอีกฝ่ายได้ ดังนั้นเขาจึงได้แต่พูดไปว่า : “ตอบคำถามเขาไปสิวะ..”
เมื่อได้ยินเช่นนี้ ชายฉกรรจ์ ก็ถอนหายใจออกมา แล้วพูดว่า : “มันจะไปอะไรอีก ก็อีนังนี่มันไม่เชื่อฟัง แถมยังรุกรานแขกพิเศษของทางเรา สุดท้าย หัวหน้าเลยขอให้ฉันลากอีนังนี่ออกมาสั่งสอนเล็กน้อย…”