@Restaurant 3
“เป็นงะล่ะ!? อึ้งแดกไปเลยสิ”
“เช็ด..! กูไม่นึกเลยจริงๆ วะ”
ตีสองเวลาเดิมตามที่โกศลว่า ศรารุจยอมอดตาหลับขับตานอนมาถ่างตารอทีเด็ดที่เจ้าตัวการันตีนักหนาว่าเห็นแล้วต้องอึ้ง
ดาราสาวในจอแก้วที่เขาเชิดชูยกย่องดั่งนางฟ้าในดวงใจมาใช้บริการที่นี่จริงๆ ด้วย
“แล้วเขาที่นี่ทำไม”
“ก็แค่มาพักผ่อน”
“พักห่าอะไรที่แบบนี้ ไอ้สน! มึงบอกกูมานะเว้ย” ศรารุจคาดคั้น
“ไม่ได้! มันเป็นข้อมูลของลูกค้า” กฎเหล็กที่ผู้ให้บริการต้องเคร่งครัด ข้อมูลลูกค้าที่เข้าพักถือเป็นความลับขั้นสุดยอด
จะบอกใครไม่ได้
“แต่กูเป็นเจ้าของตึก”
“กูบอกว่าไม่ได้ก็ไม่ได้ไง”
“มีปัญหาอะไรกันรึเปล่าคะ”
“ป ปะ เปล่าครับ...” ศรารุจสะดุ้งโหยงตอบกลับตามสัญชาตญาณ เพราะมือบางสะกิดที่หัวไหล่ถามเขาด้วยสัมผัสและน้ำเสียงที่แผ่วเบา นุ่มนวล
“คุณสนค่ะ! ไวน์ที่แพมสั่งได้มารึเปล่าคะ”
“ได้ครับ! ให้ผมขึ้นไปเสิร์ฟเลยมั้ย”
“อ้าว...! คุณคนนี้ไม่ใช่พนักงานที่นี่เหรอคะ งั้นแบบนี้...”
“นี้ไอ้รุจเป็นเพื่อนและเจ้าของตึกนี้ครับคุณแพม ไม่ต้องห่วงครับ เรารักษามาตรฐานการบริการดี คุณแพมสบายใจได้”
“ดีค่ะ! งั้นแพมขึ้นไปรอบนห้องพักนะคะ”
“คืนนี้ขอให้สนุกนะครับ”
^^
ดาราสาวยิ้มละลายรับและค้อมศีรษะลงเล็กน้อยเป็นตอบกลับมารับทราบแล้ว จากนั้นเธอก็เดินเสียงเบาแม้จะสวมรองเท้าสั้นเข็มสูงหลายนิ้วขึ้นบันไดจนกระทั่งถึงห้องพักที่ชั้นสาม
ศรารุจรีบสูดอากาศเข้าปอดคล้ายคนจะจมน้ำ
เขารู้สึกเกร็ง ประหม่าจนหายใจไม่เข้าเมื่ออยู่ใกล้ดาราสาวที่เขาชื่นชอบขนาดนี้
“ไอ้สน! ไวน์นั่นอยู่ไหน”
“มึงจะทำไม”
“เดี๋ยวกูเอาขึ้นไปเสิร์ฟให้”
“มึงจะบ้าเหรอ”
“เถอะน่า! บอกให้เอามาไง” ศรารุจเสนอตัว
เป็นไปได้ยากเหลือเกินที่จะได้เจอดาราสาวในดวงใจ และไหนๆ เธอก็มาเยือนถึงถิ่นฐานทำมาหากินของเขาแล้ว เหตุใดจะไม่ใช้โอกาสทองนี้ได้ใกล้ชิดคนดัง
“โอ๊ะ..!?” หนุ่มใหญ่ยังไม่ทันจะเคาะประตูคนด้านในก็เปิดรับ ศรารุจสำรวจคนตรงหน้า
ชายหุ่นหนารูปร่างดีกล้ามเป็ดมัด หน้าตาแลดูเจ้าสำอาง อายุคงใกล้เคียงกับเขาแต่การดูแลตัวเองนั้นแตกต่างกันราวฟ้ากับดิน
“พนักงานใหม่เหรอ”
“เปล่าครับ! ผมเป็นเจ้าของตึกนี้”
“หืม...” คนฟังลากเสียงยาวเหมือนไม่เชื่อแต่ก็ไม่ได้ใส่ใจอะไร
ศรารุจเดินเอาถังน้ำแข็งแช่ขวดไวน์ไปตั้งให้บนโต๊ะและถือโอกาสมองห้องพักที่เปิดให้บริการลูกค้า
มันยังคงสภาพเดิม โกศลแทบไม่ได้ปรับเปลี่ยนอะไร เฟอร์นิเจอร์เดิมก็ยังคงถูกนำมาใช้รวมไปถึงกระจกฝ้าขุ่นที่ผนังห้องน้ำ
แม้มันจะมีไอน้ำเกาะอยู่บ้างแต่ก็พอให้เห็นเงารางๆ ของอีกสองชีวิตในนั้น
ไม่ใช่หนึ่งแต่เป็นสอง
ร่างเล็กผิวขาวหยวกกำลังคุกเข่าต่อหน้าอีกคน เขากำลังยืนอยู่และทั้งคู่กำลังหันหน้าเข้าใส่กันแต่อยู่ต่างระดับ
ศรารุจไม่รู้ว่าอีกคนคือใครแต่ผู้หญิงที่นั่งคุกเข่าอยู่นั้นมันต้องเป็นดาราสาวที่ขาชื่นชอบแน่ๆ
ดูจากท่าทางลักษณะมันทำให้คิดเป็นอย่างอื่นไปไม่ได้ว่าเธอกำลังใช้ปากกับส่วนนั้น
จังหวะที่คนนั่งผงกหัว จังหวะที่คนยืนขยับเอว
มันสัมพันรับส่งกันอย่างดีต้องใช่แน่! ไม่ผิดเพี้ยน
“ทำไมไม่เปิดมาด้วยล่ะ”
“ค ครับ!”
“เปิด”
“ครับๆ ได้ครับ” ศรารุจตะลึงงันทำอุไรไม่ถูก ตาเขาเอาแต่จ้องคนในห้องน้ำ มือไม้สั่นเปิดจุกไวน์ยากเย็นแต่ก็เสร็จเรียบร้อย เขารินลงในแก้วใบสวยแล้วส่งให้ชายหนุ่มเจ้าสำอาง
อีกคนยื่นมือมารับ ยกขึ้นแกว่งแล้วดมกลิ่นก่อนจะสาดลงคอให้คราวเดียวและส่งแก้วคืน
“ดะ ได้แล้วครับ”
“ขอบใจ” ชายหนุ่มเดินหายเข้าไปในห้อง สมทบกับสองร่างที่กำลังเมามันอย่างไม่สนเหนือสนใต้
แก้วไวน์ถึงส่งอีกคนแล้วเขาก็สาดลงคอคราวเดียวก่อนจะโน้มคอหนุ่มเจ้าสำอางเข้ามาจูบปาก หญิงสาวด้านล่างจึงหันข้าง สองมือของเธอกำท่อนร้อนแล้วชักอย่างรวดเร็ว
อ๊าห์....
เสียงกระเส่าร้องออกมาพอให้คนนอกได้ยิน
ชายร่างหนาที่ยืนอยู่ทั้งสองคนกำลังจูบปากอย่างไม่ว่างเว้นส่วนหญิงสาวด้านล่างนั้น เธอก็กำลังง้วนกับแท่งรักสองแท่งสลับไปมาอย่างเอาใจ
.
.
.
เฮือกก!!
ศรารุจเดินกลั้นลมหายใจลงมาจากชั้นสาม เขาไม่รู้ตัวเช่นกันว่าทำไมถึงเป็นเช่นนั้น อาจเป็นเพราะภาพที่เห็นหนึ่งหญิงสองชายกำลังระเริงกามให้ดูอย่างหน้าไม่อาย
ดาราสาวที่เขาชื่นชอบมายาวนานถูกอุ้มกระเตงถูกกระทำทั้งหน้าและหลัง
เสียงหวีดหวิวครวญครางของเธอดังก้องวนในหูจนขนลุก สีหน้าแววตายามที่เขาเคยเห็นเธอในจอโทรทัศน์ชั่งขัดต่อสิ่งที่เกิดขึ้นบนชั้นสามนัก
“ไอ้รุจคืนนี้มึงว่างใช่มั้ย”
“ใช่” คำตอบมีแค่ใช่หรือไม่ใช่ และพ่อหม้ายเมียตายจะต้องมีธุระอะไรในยามวิกาลเช่นนี้
“เอาไปเผื่อสักสองสามชิ้นแล้วขึ้นไปชั้นสองห้องแรก”
“เอาไปทำไม”
“กูจะรู้มั้ยของมึงเบอร์อะไร เอ้า! หยิบ!” โกศลส่งตะกร้าถุงยางคละขนาดคละกลิ่นคละชนิดมาให้เจ้าตัว
ศรารุจงงหลายครั้งหลายคราวในคืนนี้แต่ก็ยอมทำตามแบบงงๆ เช่นเดิม
แล้วก็เดินขึ้นชั้นสองเลี้ยวไปห้องแรกตามที่โกศลว่าไว้
เมื่อเปิดประตูหลักก็จะมีฉากที่กั้นห้องย่อยออกไปอีกสี่ห้อง
“เชี่ย!”
ชั้นสามที่ว่าน่าตกตะลึงแต่ชั้นสองห้องแรกนี้ก็ไม่เบาหรือแพ้กันเลย
ห้องย่อยสามห้องแรกมีคู่ชายหญิงบรรเลงเพลงกามกันอยู่ก่อนแล้ว คงมีเพียงห้องท้ายสุดสินะที่เขาต้องเดินตรงเข้าไป
“นี้ครับ...” ศรารุจส่งถุงยางในมือให้หญิงสาว
ด้วยแสงไฟในห้องเป็นสีฟ้าอ่อนๆ ออกสลัวๆ เขาจึงมองหน้าเธอไม่ชัดนัก แต่เท่าที่ตาเนื้อสัมผัสได้เธอน่าจะอายุประมาณยี่สิบปลายๆ หรือสามสิบต้นๆ
“เอามาแค่สองอันรึคะ”
“ครับ” ศรารุจไม่ตรัสรู้ว่าควรต้องหยิบมากี่อันเพราะเขาคิดว่าไม่ได้ใช้เอง
“จะบอกว่าคุณอึดน่าดูสินะ ได้! เดี๋ยวรู้กัน”