บทที่ 5 : ของขวัญจากคาคาชิ
บทที่ 5 : ของขวัญจากคาคาชิ
“สถานที่ซ่อนได้เปลี่ยนไปแล้ว ถือเป็นการตัดสินที่ชาญฉลาดจริงๆ” ซาโตรุนั่งบนก้อนหินแล้วมองดูนารูโตะและคนอื่นๆ ที่กำลังเคลื่อนไหวอย่างรวดเร็วด้วยตาทิพย์
หลังจากการเผชิญหน้าแบบตัวต่อตัว พวกเขาก็รู้ถึงความต่างของความแข็งแกร่ง จากนั้นจึงพากันแยกย้ายหาที่ซ่อนตัว เพื่อมุ่งความสนใจไปที่การลอบโจมตีและคิดแผนอื่นในการต่อสู้
เป็นความคิดที่ดีมาก
การทำแบบนี้เรียกได้ว่าเหนือกว่าเกะนินเริ่มต้นพอสมควร
น่าจะเป็นการตัดสินใจของซาสึเกะใช่ไหมนะ?
“ทีมเจ็ดก่อตั้งขึ้นมาด้วยการมีแกนหลักเป็นความรักและการแข่งขัน เราสามารถส่งเสริมการเติบโตของเจ้าเด็กพวกนี้ได้อย่างเต็มที่แน่” ซาโตรุหยิบอมยิ้มออกมาและแกะมัน พร้อมกับยัดใส่เข้าไปในปากของเขา
นารูโตะชอบซากุระ และซากุระก็ชอบซาสึเกะ
นารูโตะอยากได้ความรักจากซากุระ และซากุระก็ต้องการความรักจากซาสึเกะ
หลังจากที่นารูโตะแข็งแกร่งขึ้น ซาสึเกะก็จะรู้สึกได้ ซาสึเกะจึงยิ่งจะพยายามเต็มที่เพื่อให้แข็งแกร่งขึ้นมากกว่า
นี่คือแก่นแท้ของทีมที่เจ็ด
“น่าเสียดายที่ทั้งสามไม่มีการทำงานร่วมกันเป็นทีมเลย ทุกคนต่างก็แค่อยากอวดฝีมือตนเอง” ซาโตรุยืดเอวแล้วนอนบนก้อนหินด้วยใบหน้าเบื่อหน่าย
เนื้อหาของการประเมินที่เขาให้เด็กพวกนี้ทำคือทำให้เขาก้าวไปหนึ่งก้าว
อาจฟังดูเหมือนง่าย แต่จริงๆ แล้วเป็นเรื่องยากมาก
เนื่องจากเขามีความสามารถ [คุณไสยไร้ขีดจำกัดล่าง] อยู่ ต้องบอกว่าในโลกนินจาทั้งหมด มีเพียงไม่กี่คนเท่านั้นที่สามารถบังคับทำให้เขาขยับไปก้าวหนึ่งได้
แน่นอนว่าการก้าวไปข้างหน้าหนึ่งก้าวนั้นถือเป็นการประเมินแบบผิวเผิน แต่แก่นหลักที่แท้จริงของการทดสอบยังถูกซ่อนเอาไว้อยู่
“ดูเหมือนว่าทุกอย่างจะเป็นไปได้ด้วยดีสินะ ฉันคงวางใจได้แล้ว”
ชายคนหนึ่งปรากฏตัวออกมาจากอากาศที่มีหมอกอันบางเบา เขามีผมสีเทาสั้นและสวมหน้ากากสีดำปิดหน้าไว้ ผ้าคาดหัวเขาก็ปิดตาข้างหนึ่งเขาไปด้วย
เขาสวมเสื้อนินสีเขียวพร้อมชุดสีดำอยู่ข้างใต้ ใบหน้าของเขาแทบไม่ต่างกับลุงที่ขี้เกียจลุกออกมาจากที่นอน
เขาเป็นโจนินชั้นสูงแห่งโคโนฮะ ผู้ได้รับฉายาว่านินจาจอมคัดลอก ฮาตาเกะ คาคาชิ
ซาโตรุยิ้มแล้วพูดว่า "นายมองว่ามันเป็นไปด้วยดีเหรอ? การประเมินของฉันยากมากเลยนะ ถ้าเด็กดื้อกลุ่มนี้ขืนยังทำแบบนี้ต่อไป พวกเขาจะอาจจะต้องกลับไปโรงเรียนนินจาก็เป็นได้"
“ฉันก็ไม่ได้คิดเลยว่าคนที่แข็งแกร่งในระดับนายจะอยากมาเป็นอาจารย์ของเด็กทีมเจ็ด” คาคาชิเอนหลังพิงลำต้นของต้นไม้
ในสายตาของคาคาชิ ซาโตรุนั้นแข็งแกร่งมาก เขาแทบไม่เคยพ่ายแพ้ใครเลยในช่วงหลายปีมานี้
อย่าได้ประมาทชายผู้ดูมีนิสัยไร้กังวลคนนี้ไปเชียว
ในบรรดาศัตรูที่ซาโตรุเคยเผชิญในอดีต มีเพียงไรคาเงะรุ่นที่สี่จากหมู่บ้านคุโมะงาคุเระ และมิซึคาเงะรุ่นที่ห้าจากหมู่บ้านคิริกาคุเระเท่านั้น
มีข่าวลือว่ากระทั่งหมัดของไรคาเงะรุ่นที่สี่ก็ไม่สามารถทำร้ายซาโตรุได้สักนิดเดียว!
แน่นอนว่าซาโตรุเคยพ่ายแพ้ครั้งหนึ่ง
ในยามนั้น ซาโตรุพ่ายแพ้ในการต่อสู้กับซึนาเดะ แต่ทุกคนก็รู้ว่าซาโตรุจงใจพ่ายแพ้เพื่อปกป้องซึนาเดะ
คาคาชิจึงประหลาดใจมากที่เมื่อซาโตรุกลับมาที่หมู่บ้าน เขากลับเสนอตัวเป็นอาจารย์ประจำทีมที่เจ็ด
คนที่แข็งแกร่งระดับนี้กลับต้องการเป็นอาจารย์ของเกะนิน
“นายคิดว่าฉันอยากจะสอนเด็กดื้อพวกนี้เหรอ? มันเป็นเพราะคำขอของสึนะจังต่างหาก” ซาโตรุถอนหายใจ เขาหยิบอมยิ้มออกมาแล้วถามว่า “อยากกินอมยิ้มของฉันไหม?”
“ถ้านายพูดถึงอมยิ้มจริงๆ ฉันจะกินก็ได้นะ” มุมปากของคาคาชิกระตุกเล็กน้อย
อยากกินอมยิ้มของฉันไหมเหรอ?
เราเป็นผู้ชายอายุมากทั้งคู่ ช่วยอย่าพูดจาให้มันสองแง่สองงามได้ไหม?
ที่จริงคาคาชิก็อยากจะกินอมยิ้มจริงๆ เพราะขนมของซาโตรุถือว่าเป็นขนมพิเศษของหมู่บ้านคิริงาคุเระและมันอร่อยมาก
แต่วิธีการพูดของซาโตรุเมื่อครู่มันออกจะ…ช่างมันเถอะ
"อย่าอายไปเลย" ซาโตรุเขย่าอมยิ้มไปมา
คาคาชิไม่ได้พูดถึงอะไรต่อ แต่หยิบระฆังออกมาสองใบแล้วเขย่าพร้อมกับพูดว่า "ถ้าใช้ระฆังเพื่อการประเมิน มันคงไม่ลำบากเหมือนตอนนี้แล้ว"
"มันเก่าเกินไป" ซาโตรุโบกมือ “ฉันรู้ว่านายกังวลเรื่องอะไร ไม่ต้องกังวลหรอก”
“ฉันจะสอนเด็กแสบพวกนี้ให้พึ่งพาตนเองโดยเร็วที่สุด ฉันจะทำงานให้เสร็จและไปหาสึนะจัง” ซาโตรุเอาอมยิ้มเข้าไปในปาก สีหน้าของเขาที่กำลังยิ้มแย้มอยู่ยากจะอ่านออกว่ากำลังคิดสิ่งใด
“โอ้ ถ้าอย่างนั้นก็ฝากทั้งสามคนด้วย เบามือกับพวกเขาหน่อย”
คาคาชิลุกขึ้นเบื้องหน้าของซาโตรุ โค้งคำนับเล็กน้อยแล้วพูดว่า "เพื่อลูกชายของท่านอาจารย์ ฉันคงต้องขอรบกวนนายแล้ว"
โฮคาเงะรุ่นที่ 4 นามิคาเสะ มินาโตะ เป็นอาจารย์ของคาคาชิและเป็นผู้มีพระคุณที่เขาเคารพมากที่สุดในชีวิตของเขา
เขาเป็นเหมือนวีรบุรุษที่ดึงคาคาชิจากความมืดสู่แสงสว่าง
“ว่าแต่เด็กจิ้งจอกนั่นเคยใช้พลังของเก้าหางหรือเปล่า?” ซาโตรุถาม
“มีครั้งหนึ่ง นารูโตะพ่นจักระสีแดงโลหิตไปทั่วร่างกายของเขา แต่ถูกผนึกหยุดไว้อย่างรวดเร็ว มันคงจะเป็นพลังจากเก้าหาง” คาคาชินึกเรื่องที่เพิ่งเกิดขึ้นและกล่าวตอบ
“นั่นคือสิ่งที่องค์กรรากกังวลใช่ไหม? กังวลเรื่องเด็กจิ้งจอกนี้ที่อาจจะสูญเสียการควบคุมตัวเอง” ซาโตรุหันมองไปไกลๆ ผ่านตาทิพย์ของเขา เขาสามารถเห็นหน่วยลับนินจาหลายคนในระยะไกลได้เลย
ไม่จำเป็นต้องคิดก็รู้ หน่วยลับนินจาพวกนี้จะต้องเป็นคนขององค์กรราก จุดประสงค์ของพวกเขาคือการคอยสอดแนมนารูโตะ
“ดันโซ ตาแก่คนนั้นที่โหยหาอำนาจกลับกลัวพลังอำนาจเองเสียได้ ตลกดีแฮะ”
“ฉันเองก็เกลียดการถูกแอบมอง ยิ่งมาเฝ้ามองทั้งวันอย่างนี้ยิ่งแล้วใหญ่ ลูกอมแค่นี้จะพอไหมนะ?”
ซาโตรุค่อยๆ ยกมือขึ้นราวกับทำท่าทางปืนเล็งไปที่คนองค์กรรากที่ซ่อนตัวอยู่ในความมืดจากระยะไกลๆ
"[ไสยเวทย์หมุนตามอาโอะ (น้ำเงิน)]"
มีสสารสีดำเข้มโผล่ออกมาจากปลายนิ้วของซาโตรุ สสารสีดำพุ่งออกมาด้วยความเร็วที่รวดเร็วมาก ทำให้เกิดรอยแตกขนาดใหญ่ไม่ว่ามันจะผ่านไปที่ไหนก็ตาม
เกิดการระเบิดอย่างรุนแรงขึ้น
ป่าที่อยู่ห่างไกลกลับกลายเป็นที่รกร้างว่างเปล่าชั่วพริบตา
นี่เป็นท่าการโจมตีที่ใช้บ่อยที่สุดของเขา มันคือ [ไสยเวทย์หมุนตามอาโอะ (น้ำเงิน)] และความสามารถสูงสุดของมันสามารถไปถึงลบอนันต์ได้เลย
อาจเรียกได้ว่าเป็นหลุมดำขนาดย่อมๆ
“ซาโตรุ นายทำเหรอ...?” คาคาชิผงะเล็กน้อยเมื่อมองไปยังจุดควันสีดำที่อยู่ไกลออกไป เหงื่อหยดหนึ่งได้ไหลออกมาจากหน้าผากของเขา
“มีใครหนีไปได้หรือเปล่า?” ซาโตรุวางมือไว้เหนือดวงตา มองดูควันดำไกลๆ และยิ้มออกมาอย่างรู้สึกผิด "ขอโทษ ขอโทษที พอเห็นว่าพวกเขาเฝ้าดูมาตลอดทั้งวัน ฉันก็เลยคิดว่าพวกเขาเป็นศัตรูจากหมู่บ้านอื่น"
“คนจากหมู่บ้านของเราคงไม่ได้ส่งสายลับมาสอดแนมดูเกะนินธรรมดาสามคนที่นี่ทั้งวันกันใช่ไหม?” ซาโตรุพูดด้วยน้ำเสียงเย็นชา
“ฉันขอไม่ตอบ ตอนแรกฉันเองก็กลัวว่าพวกเขาจะรบกวนนาย แต่ด้วยความแข็งแกร่งของนาย คงไม่จำเป็นต้องกังวลเรื่องนี้แล้วสินะ” คาคาชิได้แต่ถอนหายใจออกมา
เนื่องจากมีซาโตรุ นารูโตะคงปลอดภัย ต่อให้จะเป็นชิมูระ ดันโซก็ไม่มีทางที่จะทำอะไรได้
ถึงซาโตรุจะดูขี้เล่นและไม่ค่อยจริงจัง แต่ก็ไม่มีใครในหมู่บ้านที่น่าเชื่อถือมากกว่าเขาอีกแล้ว!
แน่นอนว่าหลังจากการตายของคนในองค์กรรากเหล่านี้ ดันโซคงจะต้องโกรธมากอย่างแน่นอน แต่ไม่มีทางเลยที่เขาจะทำอะไรอย่างเปิดเผย
เพราะการสอดแนมนารูโตะที่ไม่ได้ทำอะไรผิดมันถือเป็นการฝ่าฝืนกฎของหมู่บ้าน
“ฉันยังมีงานต้องทำ ขอตัวไปก่อนนะ” คาคาชิชูสองนิ้วขณะที่เขากำลังจะออกไปในทันที
“เดี๋ยวก่อน ขอยืมหนังสือนายหน่อยสิ เดี๋ยวฉันจะคืนให้หลังจากอ่านจบ” ยามนี้เขากำลังประเมินความสามารถของทีมหน่วยเจ็ด ทำให้เขาไม่มีเวลาออกไปซื้อหนังสือเล่มใหม่ได้
“แต่ครั้งที่แล้วนายยังไม่ได้คืนเลยนะ!”
“มีอะไรแบบนั้นด้วยเหรอ? ดูท่าฉันคงเผลอลืมไป” ซาโตรุแสร้งทำเป็นคิดอย่างจริงจัง แต่จริงๆแล้วซึนาเดะฉีกหนังสือที่ยืมไป
เหตุผลก็คือเนื้อหาของหนังสือมีเนื้อหาลามกอนาจารเกินไป
“ฉันเพิ่งจะซื้อมันมาด้วยสิ...เอางี้ ฉันจะให้นายเป็นของขวัญแล้วกัน” คาคาชิยื่นมันให้ซาโตรุ แล้วพูดด้วยรอยยิ้มเล็กน้อย “ยินดีกับการที่นายเป็นอาจารย์ของทีมที่เจ็ดด้วยนะ”
“ขอบคุณ ส่วนนี้ลูกอมของนาย” ซาโตรุไม่ปฏิเสธพร้อมกับเก็บหนังสือไป หยิบลูกอมออกมาแล้วโยนให้คาคาชิ
เขาและคาคาชิรู้จักกันมานานแล้ว
พวกเขาเป็นเพื่อนที่ดีต่อกัน
*****