ตอนที่แล้วตอนที่ 17 ชีวิตที่แสนโหดร้าย
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 19 ก่อตั้งหมู่บ้าน

ตอนที่ 18 รางวัลของผู้นำ


ตอนที่ 18 รางวัลของผู้นำ

“สรุปพวกมันก็เป็นแค่พวกขยะทั่วไปสินะ” ลีลาพูดขึ้น หลังจากที่ได้ฟังเรื่องราวของศัตรู

“ใช่ครับ หากไม่ใช่เพราะว่าถูกพวกมันเล่นสกปรกแล้วล่ะก็..” แซมพูดพร้อมกำหมัดแน่น

“เอาเถอะ งั้นพวกเราก็รีบจัดการให้มันจบๆ ไปเลยแล้วกัน”

เมื่อรับรู้ว่าศัตรูของพวกเขานั้นเป็นแค่มนุษย์ธรรมดาทั่วไป ที่ไม่กล้าแม้กระทั่งเผชิญหน้ากับพวกมอนสเตอร์ พวกเขาก็ไม่มีเหตุผลอะไรที่จะต้องระวังตัวอีกต่อไป

พวกเขาทั้งสี่ จึงได้มุ่งหน้าไปยังจุดหมายโดยมีแซมเป็นผู้นำทาง…

..

ใช้เวลาเดินทางประมาณครึ่งชั่วโมง ทุกคนก็มาหยุดยืนอยู่ที่หน้าบ้านหลังหนึ่ง ไม่เสียเวลาพูดอะไรมากมาย ลีลาเธอได้พังประตูเข้าไป และพุ่งเข้าไปในบ้านหลังนั้นพร้อมกับดาบในมือ

เขาที่ยืนรออยู่ข้างนอก ได้ยินเสียงของผู้ชายร้องตะโกนออกมา ก่อนจะตามมาด้วยเสียงร้องอย่างเจ็บปวดและเสียงร้องขอชีวิต ผ่านไปได้ไม่ถึงครึ่งนาทีทุกอย่างในนั้นก็ได้เงียบลง

เหตุการณ์ทุกอย่างจบลงอย่างรวดเร็ว ไร้ซึ่งคำพูดไร้สาระของตัวร้ายเหมือนในหนังที่เคยได้ดู

เขาและไลลาหันมามองหน้ากัน ก่อนจะเดินตามเข้าไปในบ้าน เมื่อเดินเข้ามาในบ้านก็เห็นศพของผู้ชาย 4 คน นอนจมกองเลือดอยู่ โดยมีลีลาที่กำลังยืนถือดาบ ที่ถูกอาบไปด้วยเลือดสีแดงสดของพวกมันอยู่กลางห้อง

เมื่อเขากวาดสายตามองไปทั่วห้อง ก็พบกับผู้ชายคนหนึ่งถูกจับมัดไว้อยู่ตรงมุมห้อง และกำลังมองดูเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นด้วยท่าทางหวาดกลัว เนื้อตัวสั่นเทา

ส่วนตรงกลางห้องก็มีผู้หญิงคนหนึ่งที่เสื้อผ้าฉีกขาดเนื้อตัวเต็มไปด้วยคราบน้ำกาม ยืนมองดูศพของผู้ชาย 4 คน นั้นด้วยสายตาเรียบเฉย

นอกจากนั้นแล้ว เขายังมองเห็นเด็กผู้หญิงที่เหมือนจะเป็นน้องสาวของแซมนอนอยู่บนพื้นที่เต็มไปด้วยคราบเลือดสีแดงที่แห้งแล้ว

“พ่อครับ แม่ครับ ผมมาช่วยแล้ว!” แซมที่รีบเดินตามทุกคนเข้ามาในบ้านรีบพูดขึ้น

แต่ก็ไร้เสียงตอบรับจากทั้งสามคน ราวกับว่าพวกเขาทั้ง 3 คนนั้น ไม่เคยรู้จักกับแซมมาก่อน

ในเวลานี้คนเป็นพ่อนั้นก็เอาแต่พูดพึมพำอะไรบางอย่างด้วยท่าทางที่ดูหวาดกลัว ส่วนคนเป็นแม่นั้น ก็ได้แต่ยืนอยู่นิ่งๆ ด้วยสายตาที่เหม่อลอย ในขณะที่น้องสาวของแซมนั้นกำลังนอนสลบไม่ได้สติ

“...”

เมื่อเห็นสภาพของทุกคนในครอบครัว แซมก็กำหมัดแน่นด้วยความโกรธ ก่อนจะจ้องมองไปที่ศพที่อยู่บนพื้น และเดินเข้าไปกระทืบศพพวกนั้นด้วยความโกรธแค้น

“ไอ้เวรเอ้ย ไอ้พวกชาติชั่ว! พวกแกทำพ่อแม่และน้องฉันแบบได้ยังไง ไอ้พวกชั่วๆๆ พวกแกสมควรตายแล้ว ไอ้พวกสารเลว!”

คำพูดด่าทอมากมายได้ออกมาจากปากของแซม ในขณะที่กำลังกระทืบร่างอันไร้วิญญาณของพวกมันไม่หยุด จากนั้นแซมก็หยิบมีดเขี้ยวหมาป่าที่ทุกคนเคยให้เขาพกไว้ออกมา และใช้มันกรีดแทงเฉือนลงไปที่ร่างชั่วๆ ของพวกมันด้วยความโกรธแค้น

เขาที่เห็นแบบนั้นก็ได้แต่ถอนหายใจ ก่อนจะหันไปพูดกับไลลา

“ดูเหมือนพวกเขาจะได้รับบาดเจ็บ ยังไงไลลาก็ช่วยพวกเขาหน่อยนะ”

“อื้ม เดี๋ยวฉันช่วยรักษาพวกเขาให้เอง” ไลลาพยักหน้าก่อนจะเดินเข้าไปช่วยรักษาพวกเขา..

...

หลังจากนั้นไม่นานเวลาก็ได้ผ่านล่วงเลยมาจนถึงช่วงค่ำ ตลอดช่วงบ่ายนั้นพวกเขาก็ได้ช่วยเหลือครอบครัวของแซม

และเพราะภายในบ้านที่เกิดเหตุนั้น เต็มไปด้วยสิ่งสกปรก และชิ้นส่วนที่ไม่น่าดูของพวกมนุษย์ชั่วๆ พวกนั้น พวกเขาจึงได้ตัดสินใจย้ายบ้านมาอยู่อีกที่หนึ่งแทน

บ้านหลังที่พวกเขาย้ายเข้ามาอยู่ใหม่นี้ มีสภาพค่อนข้างดี สามารถอยู่อาศัยได้อย่างสบาย แถมบริเวณหน้าบ้านนั้น ก็มีแม่น้ำอีกด้วย

ส่วนสภาพครอบครัวของแซมในตอนนี้นั้น มันค่อนข้างย่ำแย่ และดูหดหู่มากเลยทีเดียว

แม้ผู้เป็นพ่อเป็นแม่ จะค่อนข้างมีอาการน่าเป็นห่วง แต่มันก็เทียบไม่ได้กับอาการของลูกสาวของพวกเขาเลย

ในทันทีที่เด็กสาวได้สติขึ้นมา เธอก็ได้ร้องไห้ออกมาอย่างน่าสงสาร ปากก็พูดขอร้องอ้อนวอนออกมาตลอดเวลาว่า...

“อย่าทำหนูเลย..ฮือๆ หนูกลัวแล้ว ฮือๆ อย่าๆ ใครก็ได้ช่วยด้วย ฮือๆ”

"เฮ้อ..." เมื่อเห็นสภาพของเด็กผู้หญิงคนนี้แล้ว เขาก็อดไม่ได้ที่จะรู้สึกสลดหดหู่ในใจ

ทั้งๆ ที่เป็นมนุษย์ด้วยกันแท้ๆ แต่ทำไมคนพวกนั้นถึงทำร้ายกันได้มากมายขนาดนี้ เขาเองก็ไม่รู้จะบรรยายออกมาเป็นคำพูดอย่างไรดี จึงทำได้แค่เพียงให้ไลลาช่วยเข้าไปปลอบโยนเด็กสาวแทน หลังจากที่ตื่นขึ้นมาและร้องไห้อยู่สักพักหนึ่ง เด็กสาวก็ได้รู้สึกเพลียและหมดแรง จากนั้นก็หลับลงไปอีกครั้ง

....

ในช่วงเวลาค่ำคืน

ตอนนี้ เขากำลังก่อกองไฟ และนั่งคุยอยู่กับลีลาที่บริเวณหน้าบ้าน ส่วนคนอื่นๆ ก็ยังคงอยู่กันภายในบ้าน

“นี่นนท์.. นายว่าต่อจากนี้ไป พวกเราจะใช้ชีวิตต่อไปยังไงกันนะ” อยู่ๆ ลีลาก็ได้พูดขึ้นมา ขณะที่สายตายังคงมองจ้องอยู่ที่กองไฟ

"หืม?"

“ฉันคิดว่า..ในหมู่บ้านแห่งนี้ ถึงแม้พื้นที่ส่วนใหญ่จะพังทลายไปแล้ว แต่ก็มีพื้นที่บางส่วนที่ยังสามารถใช้อาศัยได้อยู่” เมื่อได้ฟังในสิ่งที่ลีลาพูด เขาพยักหน้าเห็นด้วยกับคำพูดของเธอ

หลังจากที่พวกเขาได้เข้ามาในหมู่บ้านแห่งนี้ เขาก็พบว่า บ้านเรือนและสิ่งก่อสร้างส่วนใหญ่ ได้พังทลายกลายเป็นกองหินไปหมดแล้ว

ส่วนบ้านหลังที่ยังพอใช้การได้นั้น ก็ต้องทำการปรับปรุงซ่อมแซมให้ดีเสียก่อน ถึงจะสามารถพักอาศัยอยู่ได้

“โชคดีที่พื้นที่ตรงนี้ มีแม่น้ำตัดผ่านมาพอดี หากสามารถวางแผนจัดการให้ดีได้แล้ว พวกเราคงสามารถใช้ชีวิตอยู่ที่นี่ได้ ตราบจนถึงวันตายของพวกเราได้เลยล่ะ..”

“อืม ก็ดีแล้วไม่ใช่เหรอ?”

“ใช่.. แต่ถ้าฉันคิดไม่ผิด ในอนาคตมันจะต้องมีมนุษย์คนอื่น ที่ถูกดึงมายังโลกนี้เพิ่มขึ้นอีกอย่างแน่นอน และที่นี่ก็คงจะกลายเป็นที่พักของคนพวกนั้น”

“สรุปก็คือ ที่นี่คงจะกลายเป็นบ้านพักแห่งใหม่สำหรับผู้ที่ถูกดึงเข้ามาในโลกนี้สินะ แล้วมันจะมีปัญหาอะไรอย่างนั้นเหรอ?” เขาถามเธอออกมาอย่างสงสัย

“นั่นล่ะปัญหา! หากที่นี่มีแค่พวกเราอาศัยอยู่ ก็คงจะไม่มีปัญหาอะไร แต่ในอนาคต ไม่รู้ว่าจะมีคนอีกเยอะแยะมากมายเท่าไหร่ ที่จะพากันเข้ามาอาศัยอยู่ที่นี่

ฉันคิดว่าในไม่ช้า มันก็คงจะเกิดปัญหาตามมาแน่ๆ ไม่อย่างไรก็อย่างหนึ่ง” ลีลาพูดออกมาด้วยน้ำเสียงและสีหน้าที่ค่อนข้างวิตกกังวล

เขาพยักหน้าเห็นด้วยให้กับคำพูดของเธอ เขาเองก็คิดว่ามันมีความเป็นไปได้สูงเลยทีเดียว ที่จะเกิดเหตุการณ์แบบนั้นขึ้นได้ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องจำนวนคนที่มีมากขึ้น หรือปัญหาความวุ่นวายมากมาย ที่จะต้องเกิดขึ้นตามมาอย่างแน่นอน

เขาเห็นสีหน้าที่กำลังวิตกกังวลของเธอ เขาก็ทำได้แค่เพียงยิ้มบางๆ ออกมา จากนั้นเขาก็เอื้อมมือโอบไปที่ไหล่ของเธอ ก่อนจะดึงร่างของเธอเข้ามากอด

“งั้น.. พวกเราก็คงต้องมีผู้นำ”

“ผู้นำงั้นเหรอ?”

“ใช่ ผู้นำ! พวกเราต้องมีผู้นำที่แข็งแกร่ง ผู้ที่จะปกป้องพวกเขาจากภัยอันตรายภายนอกได้ และคอยแก้ปัญหาต่างๆ ภายในหมู่บ้านนี้อีกด้วย” เขาพูดพร้อมกับหันไปมองสบตาเธอ

“นายอยากให้ฉันเป็นผู้นำอย่างงั้นเหรอ?”

“ผมไม่บังคับหรอกนะ เพราะมันเป็นตำแหน่งที่มีภาระเยอะ และยากลำบาก แต่ว่า.. หากลีลายอมทำล่ะก็ ผมจะคอยช่วยเหลือและคอยสนับสนุนทุกอย่างเอง”

“มัดมือชกกันสินะ แต่ก็เอาเถอะ ดูเหมือนฉันจะไม่มีทางเลือกอื่นอีกแล้วสินะ” ลีลาพูดออกมาด้วยน้ำเสียงที่ราวกับว่ามันช่วยไม่ได้ ก่อนจะหันมามองหน้าเขา

“ดูเหมือนในอนาคต ฉันจะต้องเหนื่อยมากแน่ๆ ถ้าอย่างนั้น..จะเป็นอะไรไหม ถ้าฉันอยากจะขอค่าเหนื่อยจากนายล่วงหน้า?” ลีลาพูดหันมาพูดกับเขาด้วยใบหน้าขึ้นสีแดงเล็กน้อย พร้อมกับมองสบตากับเขา

แค่เพียงเขาได้เห็นใบหน้าเขินๆ ของเธอ เขาก็รับรู้ได้ถึงเจตนาความต้องการของเธอ

“ได้สิ ให้ได้ตามที่คุณภรรยาของผมต้องการเลยล่ะ” เขาพูดด้วยรอยยิ้ม พร้อมกับค่อยๆ ยื่นหน้าเข้าไปใกล้ๆ เธอ

“คนเลว~” ลีลาพูดออกมาด้วยน้ำเสียงน่ารัก ก่อนจะยื่นริมฝีปากเข้ามาจูบกันเขา..

つづく

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด