ตอนที่แล้วบทที่ 97 อสูรกินเหล็กวิวัฒนาการได้จริง
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปบทที่ 99 ชื่อของการวิวัฒนาการ

บทที่ 98 วิธีการวิวัฒนาการขั้นสองของอสูรกินเหล็ก


“ทักษะอะไรบ้าง?!”

ในขณะที่หลินฮงเหนียนกล่าวออกมา ทุกคนต่างก็ตกตะลึงและรีบเอ่ยถาม

นอกเหนือจากทักษะการปราบปราที่จะถูกปลุกขึ้นมาอย่างแน่นอนเมื่อระดับการเติบโตของมันถึงระดับราชันย์ มันยังได้ปลุกสามทักษะใหม่ในคราวเดียว ดูเหมือนว่าการวิวัฒนาการในครั้งนี้ได้พัฒนาเผ่าพันธุ์ของอสูรกินเหล็กอย่างมหาศาล!

กุญแจสำคัญในตอนนี้ก็คือระดับของสามทักษะเผ่าพันธุ์ใหม่เหล่านี้

หลังจากสัตว์อสูรวิวัฒนาการ หนึ่งในวิธีที่เที่ยงตรงที่สุดในการตัดสินศักยภาพใหม่ของสัตว์อสูรก็คือการดูว่าทักษะเผ่าพันธุ์ที่เพิ่งถูกปลุกขึ้นมานั้นแข็งแกร่งมากเพียงใด!

“ข้า…”

เมื่อเขาได้รับการสะท้อนจากอสูรกินเหล็ก หลินฮงเหนียนก็ตื่นเต้นจนเขากล่าวอะไรไม่ได้เลย

“สามทักษะพวกนี้ หนึ่งทักษะระดับกลาง หนึ่งทักษะระดับสูง และหนึ่งทักษะระดับสุดยอด!”

“อย่ากล่าววกไปวนมา! บอกข้า!” หลินซิ่วจูอดไม่ได้ที่จะจ้องมองไปที่พ่อของนาง

“ทักษะระดับกลางคือแปลงร่างยักษ์!”

[ทักษะ] : แปลงร่างยักษ์

[ระดับทักษะ] : กลาง

[หมายเหตุ] : มันเป็นทักษะพิเศษ มันสามารถขยายร่างได้ ภายใต้สถานะขยายร่าง การใช้พลังงานจะเพิ่มขึ้นและความแข็งแกร่งก็จะเพิ่มขึ้นเช่นเดียวกัน

ทุกคน : “?”

ซืออวี๋ : “?”

ทักษะระดับกลางนี้ไม่เลวเลย หลินฮงเหนียนพอใจมากในตอนแรก

อย่างไรก็ตาม เมื่อเขาเห็นสีหน้าอันแปลกประหลาดของทุกคน เขาก็ตระหนักได้ว่ามีบางอย่างผิดปกติ

เขามองไปที่อีเลฟเว่นขนาดพกพาบนไหล่ของซืออวี๋และตกอยู่ในห้วงความคิดลึก

อีเลฟเว่น : อู๋ (¬‸¬)?

“รอเดี๋ยวก่อน!!”

หลินฮงเหนียนกล่าวขึ้นมาอย่างกะทันหัน “ทำไมอสูรกินเหล็กที่ปลุกสายเลือดวิวัฒนาการโบราณของพวกมันถึงสามารถเรียนรู้การทวีคูณซึ่งเป็นเวอร์ชั่นที่สูงกว่าของแปลงร่างยักษ์ ในขณะที่อสูรกินเหล็กที่วิวัฒนาการอย่างแท้จริงถึงทำได้เพียงแค่ปลุกแปลงร่างยักษ์ล่ะ??”

เขาค้นพบจุดบอด

ทุกคนมองไปที่ซืออวี๋และอีเลฟเว่น ทำให้ซืออวี๋ตกอยู่ในห้วงความคิดลึก

น่าทึ่งมาก…

รุ่นพี่แพนด้าและคนอื่นกำลังจินตนาการถึงรูปแบบการวิวัฒนาการโบราณ ในท้ายที่สุด อสูรกินเหล็กก็ปลุกทักษะที่คล้ายกันขึ้นมาได้จริงเหรอ?

การวิวัฒนาการนี้มาไว้เพื่ออะไรกัน?

“บางทีพรสวรรค์ของอีเลฟเว่นอาจดีกว่า? ปรมจารย์หลิน เจ้าสามารถนำอสูรกินเหล็กไปแช่ในน้ำพุศักดิ์สิทธิ์ในตอนที่เจ้ามีเวลา” ซืออวี๋กล่าวแนะนำออกมา

โยนทุกอย่างให้แก่ต้นไม้ชีวิตโบราณ

หลินฮงเหนียนเงียบลง

“ทักษะระดับสูงและระดับสุดยอดล่ะ???” หลินซิ่วจูเอ่ยถามออกมา

หลินฮงเหนียนไม่ได้คิดถึงปัญหาของแปลงร่างยักษ์และการทวีคูณอีกต่อไป เขาสูดหายใจเข้าลึกและกล่าวว่า “ทักษะระดับสูง การแข็งกร้าวซึ่งเป็นธาตุโลหะ ทักษะระดับสุดยอด พลังภายในซึ่งเป็นธาตุโลหะเช่นเดียวกัน!”

[ทักษะ] : การแข็งกร้าว

[ระดับทักษะ] : สูง

[หมายเหตุ] : ทักษะประเภทโลหะ ผู้ใช้ได้รับการป้องกันโดยพลังประเภทโลหะ เพิ่มความต้านทานต่อทักษะทุกประเภท

นี่คือทักษะอัพเกรดของการเคลือบแข็ง

การเคลือบแข็งจะต้านทานการโจมตีทางกายภาพได้ค่อนข้างดี ทว่าการแข็งกร้าวนั้นแตกต่าง ไม่ว่าจะเป็นการโจมตีธาตุ ทักษะควบคุม และทักษะประเภทจิตวิญญาณ มันก็มีผลต้านทานที่สูงมาก

อาจกล่าวได้ว่ามันเป็นทักษะที่ครอบคลุมซึ่งเพิ่มความสามารถในการรับการโจมตีของอสูรกินเหล็กอย่างมาก

[ทักษะ] : พลังภายใน

[ระดับทักษะ] : สุดยอด

[หมายเหตุ] : มันเป็นทักษะประเภทโลหะ มันสามารถเข้าสู่สถานะยับยั้งและกักเก็บพลังของมัน มันสามารถสะสมพลังที่เหนือขีดจำกัดของมันได้และจะไม่ส่งผลกระทบต่อสถานะของมัน ภายใต้สถานะนี้ มันสามารถสะสมพลังได้มหาศาลและเพิ่มพลังโจมตีของมันได้หลายเท่า ทว่านั่นจะสร้างภาระให้แก่ร่างกายอย่างมาก

“บัดซ*”

หลังจากปรมจารย์หลินกล่าวจบ คณบดีฮ่าว คณบดีหลี่ และที่ปรึกษาติ้งไม่ค่อยเท่าไหร่ ทว่าเจิ้งอิ๋งเจียตกตะลึงอย่างแท้จริง

(ผู้อำนวยการหลี่ เปลี่ยนเป็น คณบดีหลี่)

“มันปลุกทักษะพลังภายในจริงเหรอ?” เจิ้งอิ๋งเจียอ้าปากกว้าง

ทักษะนี้อาจกล่าวได้ว่าเป็นทักษะเทวะของธาตุโลหะ

อย่างแรก ทักษะนี้สามารถพัฒนาร่างกายของสัตว์อสูรได้!

สัตว์อสูรธรรมดาจะอิ่มหลังจากกินคริสตัลพลังงานหนึ่งก้อนและไม่สามารถกินได้อีกต่อไป ทว่าหลังจากเชี่ยวชาญทักษะพลังภายใน การที่สัตว์อสูรจะกินคริสตัลพลังงานสิบหรือร้อยก้อนก็ไม่ใช่ปัญหา

นอกจากนี้ สัตว์อสูรจะไม่สามารถย่อยคริสตัลพลังงานเหล่านั้นได้ และจะไม่สูญเสียคริสตัลพลังงานไปโดยเปล่าประโยชน์เช่นกัน แต่พวกมันจะสะสมพลังงานนี้ไว้ในร่างกายของพวกมันอย่างต่อเนื่อง

ในการต่อสู้ ไม่ว่าจะเป็นใช้พลังนี้อย่างช้าๆ หรือปะทุในคราวเดียว นั่นก็สามารถทำได้

นี่เป็นทักษะต่อสู้ที่ดีที่สุด ไม่เพียงมันจะช่วยให้สัตว์อสูรมีร่างกายที่เหนือกว่าสัตว์อสูรในระดับเดียวกันเท่านั้น ทว่ามันยังมอบพลังในการต่อสู้ข้ามระดับให้แก่สัตว์อสูรอีกเช่นกัน!

“การเคลือบแข็ง แปลงร่างยักษ์ การแข็งกร้าว พลังภายใน…”

“หลังจากที่อสูรกินเหล็กวิวัฒนาการ มันก็เป็นสุดยอดสัตว์อสูรต่อสู้ที่เกิดมาเพื่อต่อสู้ ไม่สิ เกิดมาเพื่อสงคราม” คณบดีฮ่าวถอนหายใจ คณบดีหลี่และที่ปรึกษาติ้งเห็นด้วยอย่างมาก

ในขณะนี้ เจ็ดยอดนักโบราณคดีต่างก็ถูมือด้วยความอิจฉา

รุ่นพี่แพนด้าก็ตื่นเต้นเล็กน้อยเช่นเดียวกัน ร่างกายของนางสั่นอย่างต่อเนื่อง

การปลุกทักษะระดับสุดยอดหลังจากการวิวัฒนาการหมายความว่าระดับศักยภาพเผ่าพันธุ์ของอสูรกินเหล็กจะสูงกว่าระดับราชันย์อย่างแน่นอน

อสูรกินเหล็กของนางจะกลายเป็นแข็งแกร่งเช่นนี้ได้ในอนาคตเหรอ?

“อู๋!!!” อสูรกินเหล็กของหลินฮงเหนียนก็ตื่นเช่นมากเช่นกัน มันรู้สึกว่าพลังอันไร้ที่สิ้นสุดกำลังปะทุออกมาจากร่างกายของมัน!

มันเหลือบมองอีเลฟเว่น ต้องการรับรู้ถึงความอิจฉาของอีเลฟเว่น…

“อู๋” อย่างไรก็ตาม อีเลฟเว่นส่ายหัวของมัน

มันเพิ่งมีเพิ่มสามทักษะ อีเลฟเว่นขาดอย่างอื่นได้แต่ไม่ใช่ทักษะ! มันมีทักษะมากเกินไป!

อสูรกินเหล็ก : …

ในเวลานี้ คนที่มีความสุขที่สุดก็คือตัวหลินฮงเหนียน

“พลังภายใน”

เขายิ้มและมองไปที่อสูรกินเหล็ก

อสูรกินเหล็กพยักหน้า

จากนั้นภายใต้การจ้องมองของทุกคน มันก็กลับสู่รูปลักษณ์เดิมก่อนการวิวัฒนาการของมัน

ชุดเกราะบนร่างกายของมันหายไป และขนาดร่างกายของมันก็กลับสู่ปกติ

“มันสามารถกลับสู่สถานะก่อนวิวัฒนาการของมันได้เหรอ?!”

ซืออวี๋ผู้ที่เงียบมาโดยตลอดได้ตกตะลึง ดวงตาของเขาเบิกกว้าง

“ใช่แล้ว นี่คือสิ่งที่มหัศจรรย์เกี่ยวกับทักษะระดับสุดยอดนี้” คณบดีหลี่หัวเราะอย่างบางเบา

“มันเป็นทักษะเทวะเพื่อ ‘แกล้งเป็นหมูเพื่อกินเสือ’ หากใช้ร่วมกับการหดตัวของอสูรกินเหล็กของเจ้า มันจะมีผลน่าทึ่งไหม?”

หลังจากตกตะลึง ในที่สุดอารมณ์ของซืออวี๋ก็เกิดการผันผวน

บัดซ* สถานะยับยั้งนี้สามารถไม่โกงไปเหรอ?

“เยี่ยมไปเลย!” ในขณะเดียวกัน หลินซิ่วจูก็อดไม่ได้ที่จะตะโกนออกมา

ด้วยทักษะนี้ อสูรกินเหล็กจะมีสองร่างไม่ใช่เหรอ???

ในอนาคต ดูเหมือนว่านางจะสามารถปล่อยให้อสูรกินเหล็กของนางวิวัฒนาการได้โดยไม่ต้องกังวลแล้ว

การที่อสูรกินเหล็กทำได้เพียงแค่ขยายร่างหลังจากการวิวัฒนาการและหดตัวไม่ได้นั้นน่าเสียดายเล็กน้อย นางกระหายในทักษะการทวีคูณของอีเลฟเว่นมาก

“ดูเหมือนว่าเราจะไม่ต้องกังวลอีกต่อไปแล้ว…”

ซืออวี๋ก็คิดเช่นเดียวกันกับหลินซิ่วจู

ในขณะนี้ แม้มันจะวิวัฒนาการ แต่ก็ยังมีเครื่องประดับแพนด้าและเตียงแพนด้า!

มันเป็นทักษะเทวะอย่างแท้จริง!

ซืออวี๋กล่าวเป็นนัยกับอีเลฟเว่นบนไหล่ของเขา เขารู้สึกว่าเขายังต้องใช้เงินและเพิ่มแต้มมากขึ้น…

อีเลฟเว่น : อู๋

ในเวลานี้ ทุกคนมองไปที่อสูรกินเหล็กของปรมจารย์หลินด้วยอารมณ์ที่หลากหลาย

บางทีนี่อาจเป็นอสูรกินเหล็กตัวแรกที่วิวัฒนาการในยุคนี้?

ปรมจารย์หลินฮงเหนียนกำลังจะมีโด่งดัง ซืออวี๋ผู้ที่ค้นพบเส้นทางการวิวัฒนาการของอสูรกินเหล็กก็จะโด่งดังเช่นเดียวกัน!

ทุกคนเต็มไปด้วยอารมณ์ ทว่าในตอนนี้ ซืออวี๋นึกถึงบางสิ่งอย่างกะทันหันและรู้สึกว่าเรื่องยังไม่จบ

“รอเดี๋ยวก่อน!”

ซืออวี๋มองไปที่ปรมจารย์หลินและกล่าวออกมาอย่างกะทันหัน “เจ้าอยากลองสลักสัญลักษณ์พิเศษบนตัวอสูณกินเหล็กไหม?”

“ข้ายังรู้สึกว่าสัญลักษณ์จารึกเป็นกุญแจสำคัญสู่การวิวัฒนาการขั้นสองของอสูรกินเหล็ก และไม่ได้เรียบง่ายเช่นเดียวกับสัญลักษณ์เผ่า”

ในขณะที่ตกตะลึง ปรมจารย์หลินก็พยักหน้าและเลือกที่จะเชื่อซืออวี๋

“ทว่าข้าจะสลักมันยังไงล่ะ?”

ซืออวี๋แนะนำว่า “กรงเล็บเคลือบแข็ง”

เมื่อทุกคนเห็นว่าซืออวี๋มีความมุ่งมั่นมาก พวกเขาก็อดไม่ได้ที่จะตื่นเต้นอีกครั้ง

เป็นไปได้ไหมว่ามีบางอย่างพิเศษเกี่ยวกับสัญลักษณ์นั่น?

“ถ้าเช่นนั้นก็ลองทำตามที่ซืออวี๋บอกกันเถอะ”

เมื่อวิธีการวิวัฒนาการที่ซืออวี๋ยืนยันนั้นได้ถูกพิสูจน์แล้ว การเชื่อซืออวี๋อีเกครั้งก็ไม่ใช่เรื่องใหญ่

คณบดีฮ่าวนำเศษโลหะออกมา

อสูรกินเหล็กก็กลับสู่ร่างเกราะยักษ์ของมัน

ในขณะนี้ อสูรกินเหล็กมองไปที่สัญลักษณ์พิเศษบนเศษโลหะและมองไปที่ชุดเกราะของมัน มันตกอยู่ในห้วงความคิดลึก

พวกเขาจะลองสลักสิ่งนี้จริงเหรอ?

“มาลองดูกันเถอะ” หลินฮงเหนียนหัวเราะและกล่าวอย่างเฉยเมย ไม่ว่าเรื่องนี้จะสำเร็จหรือไม่ การสลักมันก็ไม่มีอะไรต้องเสีย

“อู๋!!”

อสูรกินเหล็กพยักหน้าและเคลือบแข็งกรงเล็บของมัน มันเริ่มคัดลอกสัญลักษณ์พิเศษลงบนชุดเกราะของมัน…

กรีซซซ!

อย่างไรก็ตาม ในวินาทีต่อมา ฉากที่ไม่คาดคิดก็เกิดขึ้น

กรงเล็บอันแหลมคมของอสูรกินเหล็กซึ่งได้ถูกเสริมพลังโดยการเคลือบแข็งขั้นเหนือธรรมชาติไม่สามารถทิ้งรอยไว้บนชุดเกราะได้เลย!

เราต้องรู้ว่าชุดเกราะในปัจจุบันไม่ได้ถูกเคลือบแข็งและเสริมพลัง

“แข็งเช่นนั้นเลยเหรอ?” คณบดีหลี่ตกตะลึงเล็กน้อย

การป้องกันนี้…

โดยปราศจากทักษะ ความแข็งแกร่งของร่างกายมันก็ได้เหนือกว่าระดับเหนือธรรมชาติแล้วงั้นเหรอ?

มันเทียบได้กับมังกรยักษ์ในด้านร่างกายไหม?

กรีซซซซ!

“อู๋!!”

สีหน้าของอสูรกินเหล็กเปลี่ยนไป มันพยายามอีกครั้ง ทว่ามันก็ยังไม่สามารถสลักสัญลักษณ์ได้เลย

“ดูเหมือนว่าข้าต้องแกะสลักสัญลักษณ์ด้วยสิ่งที่แข็งกว่านี้” คณบดีฮ่าวตกอยู่ในห้วงความคิดลึก

ในขณะที่ทุกคนตกตะลึงกับพลังป้องกันของชุดเกราะของอสูรกินเหล็ก มีเพียงสีหน้าของอสูรกินเหล็ก หลินฮงเหนียน และซืออวี๋เท่านั้นที่ผิดแปลก

“ไม่ นั่นไม่ถูกต้อง” สีหน้าของหลินฮงเหนียนเคร่งขรึม

“ไม่สิ ความแข็งแกร่งของกรงเล็บเคลือบแข็งขั้นเหนือธรรมชาติเหนือกว่าชุดเกราะอย่างชัดเจน”

“อสูรกินเหล็กกล่าวว่าดูเหมือนจะมีพลังบางอย่างระหว่างกรงเล็บและชุดเกราะของมัน ป้องกันไม่ให้มันทำสัญลักษณ์บนชุดเกราะ!”

“อะไรนะ?”

ทันทีที่ปรมจารย์หลินกล่าวจบ ทุกคนก็ตกตะลึง

นี่คืออะไรกัน กลไกการป้องกันตัวเองเหรอ?

“ไปไปได้ไหมว่าจารึกนี้จะมีพลังลี้ลับบางอย่างจริง?”

ก่อนหน้านี้ ทุกคนคิดว่าสัญลักษณ์พิเศษไม่มีความหมายอะไร แต่ในตอนนี้ เมื่อพวกเขาค้นพบปรากฎการณ์อันแปลกประหลาดนี้ ตราบใดที่พวกเขาไม่โง่ พวกเขาก็สามารถรับรู้ได้ว่ามีบางอย่างผิดปกติ

นี่ไม่ใช่ว่ากรงเล็บแข็งไม่มากพอ

แต่ประเด็นคือทำไมถึงมีการปฏิเสธระหว่างกรงเล็บเคลือบแข็งและชุดเกราะล่ะ?

ทุกคนขมวดคิ้ว เป็นไปได้ไหมว่าที่ซืออวี๋กล่าวถูกแล้ว?

มีอะไรพิเศษเกี่ยวกับจารึกนั่นจริงเหรอ?

มิฉะนั้น หากมันเป็นเพียงจารึกที่เรียบง่าย ทำไมอสูรกินเหล็กถึงสลักมันไม่ได้ล่ะ!

ซืออวี๋ตกอยู่ในห้วงความคิดลึก

นั่นไม่ควรเป็นเช่นนั้น

ในฉากประวัติศาสตร์ที่เขาเห็น อสูรกินเหล็กกลุ่มนั่นใช้กรงเล็บเคลือบแข็งของพวกมันเพื่อสลักจารึกบนชุดเกราะของมัน ไม่มีอะไรพลาดแน่นอน!

การวาดของอสูรกินเหล็กนั้นดุจดั่งสายน้ำ ไม่ว่าจะมองยังไง ก็ไม่มีอะไรขวางกั้น

ในขณะนั้นเอง ซืออวี๋ก็รู้สึกว่าเขาไม่ได้สังเกตประเด็นสำคัญ เกิดอะไรขึ้น… คิดช้าๆ ในขณะที่ซืออวี๋มองไปที่อสูรกินเหล็กของปรมจารย์หลินฮงเหนียน เขาก็ตกตะลึง

[ทักษะ] : การเคลือบแข็ง

[สถานะ] : สอนได้

เช่นเดียวกับไหมหนอนขั้นเหนือธรรมชาติของบักกี้ แม้ว่าอสูรกินเหล็กของปรมจารย์หลินจะเชี่ยวชาญทักษะเผ่าพันธุ์จนถึงขั้นเหนือธรรมชาติแล้ว แต่สารบัญทักษะก็ยังแสดงให้เห็นว่าสามารถสอนได้!

หลังจากตกตะลึงไปสักพักหนึ่ง ซืออวี๋ก็กล่าวอย่างสงบว่า “เมื่อกล่าวถึงเรื่องนี้ เป็นไปได้ไหมว่าความเชี่ยวชาญของการเคลือบแข็งจะยังไม่พอ?”

“มีความเชี่ยวชาญที่สูงกว่าขั้นเหนือธรรมชาติ…”

“ข้ารู้สึกว่าการก้าวหน้าในทักษะเผ่าพันธุ์อีกครั้งและการเปลี่ยนแปลงเชิงคุณภาพอาจเป็นกุญในการวิวัฒนาการขั้นสองของอสูรกินเหล็ก! บางที เมื่อถึงเวลา จารึกอาจไม่มีการปฏิเสธ”

ในคราวนี้ ความคิดของซืออวี๋เปิดกว้างขึ้น เขารู้สึกว่ามีบางอย่างผิดปกติและการคาดการณ์ของเขาก็ถูกต้องอย่างแน่นอน!

มันอาจเป็นกุญแจสู่การวิวัฒนการขั้นสองของอสูรกินเหล็ก!

ระดับราชันย์เป็นเพียงจุดเริ่มต้น!

อนาคตคือระดับเทพนิยาย!

เมื่อซืออวี๋กล่าวจบ สีหน้าของทุกคนก็แปลกไป

คณบดีฮ่าวอธิบายว่า “ขั้นเริ่มต้น ขั้นช่ำชอง ขั้นชำนาญ ขั้นสมบูรณ์ และขั้นเหนือธรรมชาติ แม้ว่าชื่อแต่ละขั้นจะแตกต่างกันในแต่ละยุค ทว่าความเชี่ยวชาญทักษะของสัตว์อสูรดูเหมือนจะมีห้าขั้นนี้ ขั้นสมบูรณ์เป็นตัวแทนของจุดสูงสุดของทักษะ ขั้นเหนือธรรมชาติหมายความว่ามันได้ทะลวงขีดจำกัดสูงสุดของทักษะ”

“สำหรับขั้นที่สูงขึ้น ไม่มีสิ่งนั้น ไม่มีบันทึกของมันมาตั้งแต่สมัยโบราณแล้ว… และยังไม่มีสัตว์อสูรของนักฝึกสัตว์อสูรตัวไหนที่ถึงขั้นนั่น”

“นี่อาจไม่ถูก ทำไมเราไม่ลองสลักด้วยเครื่องมืออื่นล่ะ?”

มุมปากของหลินฮงเหนียนกระตุก เขาไม่รู้ว่าเขาควรเชื่อซืออวี๋ไหม

จนถึงตอนนี้ ทำไมซืออวี๋ไม่กล่าวว่าอสูรกินเหล็กสามารถวิวัฒนาการได้อีกครั้งหลังจากกินไผ่ล่ะ?

แม้ว่านั่นจะเป็นเรื่องจริง แต่ก็ไม่สามารถทำสำเร็จได้

การใช้เงื่อนที่ผิดหลักวิทยาศาสตร์ดังกล่าวเพื่อล่อลวงให้เขามีความคาดหวังต่อการวิวัฒนาการของอสูรกินเหล็ก นี่ไม่ใช่ทำลายชีวิตเขาเท่านั้น แต่ยังจะทำให้เขาและอสูรกินเหล็กฝึกฝนไม่หยุดทั้ง 24 ชั่วโมงเลยงั้นเหรอ?

ในขณะที่ทุกคนปฏิเสธเรื่องไร้สาระนี้ ซืออวี๋ก็เงียบลง

เขายังคงเชื่อมั่นอย่างดื้อรั้นว่าการคาดการณ์ของเขาถูกต้อง

ยิ่งกว่านั้น การเข้าสู่ขั้นเหนือธรรมชาติก็ในตอนแรกก็ยากมากไม่ใช่เหรอ?

Fanpage : ผีเสื้อกลางคืน

Link : https://www.facebook.com/translatemoth

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด