บทที่ 98 วิธีการวิวัฒนาการขั้นสองของอสูรกินเหล็ก
“ทักษะอะไรบ้าง?!”
ในขณะที่หลินฮงเหนียนกล่าวออกมา ทุกคนต่างก็ตกตะลึงและรีบเอ่ยถาม
นอกเหนือจากทักษะการปราบปราที่จะถูกปลุกขึ้นมาอย่างแน่นอนเมื่อระดับการเติบโตของมันถึงระดับราชันย์ มันยังได้ปลุกสามทักษะใหม่ในคราวเดียว ดูเหมือนว่าการวิวัฒนาการในครั้งนี้ได้พัฒนาเผ่าพันธุ์ของอสูรกินเหล็กอย่างมหาศาล!
กุญแจสำคัญในตอนนี้ก็คือระดับของสามทักษะเผ่าพันธุ์ใหม่เหล่านี้
หลังจากสัตว์อสูรวิวัฒนาการ หนึ่งในวิธีที่เที่ยงตรงที่สุดในการตัดสินศักยภาพใหม่ของสัตว์อสูรก็คือการดูว่าทักษะเผ่าพันธุ์ที่เพิ่งถูกปลุกขึ้นมานั้นแข็งแกร่งมากเพียงใด!
“ข้า…”
เมื่อเขาได้รับการสะท้อนจากอสูรกินเหล็ก หลินฮงเหนียนก็ตื่นเต้นจนเขากล่าวอะไรไม่ได้เลย
“สามทักษะพวกนี้ หนึ่งทักษะระดับกลาง หนึ่งทักษะระดับสูง และหนึ่งทักษะระดับสุดยอด!”
“อย่ากล่าววกไปวนมา! บอกข้า!” หลินซิ่วจูอดไม่ได้ที่จะจ้องมองไปที่พ่อของนาง
“ทักษะระดับกลางคือแปลงร่างยักษ์!”
[ทักษะ] : แปลงร่างยักษ์
[ระดับทักษะ] : กลาง
[หมายเหตุ] : มันเป็นทักษะพิเศษ มันสามารถขยายร่างได้ ภายใต้สถานะขยายร่าง การใช้พลังงานจะเพิ่มขึ้นและความแข็งแกร่งก็จะเพิ่มขึ้นเช่นเดียวกัน
ทุกคน : “?”
ซืออวี๋ : “?”
ทักษะระดับกลางนี้ไม่เลวเลย หลินฮงเหนียนพอใจมากในตอนแรก
อย่างไรก็ตาม เมื่อเขาเห็นสีหน้าอันแปลกประหลาดของทุกคน เขาก็ตระหนักได้ว่ามีบางอย่างผิดปกติ
เขามองไปที่อีเลฟเว่นขนาดพกพาบนไหล่ของซืออวี๋และตกอยู่ในห้วงความคิดลึก
อีเลฟเว่น : อู๋ (¬‸¬)?
“รอเดี๋ยวก่อน!!”
หลินฮงเหนียนกล่าวขึ้นมาอย่างกะทันหัน “ทำไมอสูรกินเหล็กที่ปลุกสายเลือดวิวัฒนาการโบราณของพวกมันถึงสามารถเรียนรู้การทวีคูณซึ่งเป็นเวอร์ชั่นที่สูงกว่าของแปลงร่างยักษ์ ในขณะที่อสูรกินเหล็กที่วิวัฒนาการอย่างแท้จริงถึงทำได้เพียงแค่ปลุกแปลงร่างยักษ์ล่ะ??”
เขาค้นพบจุดบอด
ทุกคนมองไปที่ซืออวี๋และอีเลฟเว่น ทำให้ซืออวี๋ตกอยู่ในห้วงความคิดลึก
น่าทึ่งมาก…
รุ่นพี่แพนด้าและคนอื่นกำลังจินตนาการถึงรูปแบบการวิวัฒนาการโบราณ ในท้ายที่สุด อสูรกินเหล็กก็ปลุกทักษะที่คล้ายกันขึ้นมาได้จริงเหรอ?
การวิวัฒนาการนี้มาไว้เพื่ออะไรกัน?
“บางทีพรสวรรค์ของอีเลฟเว่นอาจดีกว่า? ปรมจารย์หลิน เจ้าสามารถนำอสูรกินเหล็กไปแช่ในน้ำพุศักดิ์สิทธิ์ในตอนที่เจ้ามีเวลา” ซืออวี๋กล่าวแนะนำออกมา
โยนทุกอย่างให้แก่ต้นไม้ชีวิตโบราณ
หลินฮงเหนียนเงียบลง
“ทักษะระดับสูงและระดับสุดยอดล่ะ???” หลินซิ่วจูเอ่ยถามออกมา
หลินฮงเหนียนไม่ได้คิดถึงปัญหาของแปลงร่างยักษ์และการทวีคูณอีกต่อไป เขาสูดหายใจเข้าลึกและกล่าวว่า “ทักษะระดับสูง การแข็งกร้าวซึ่งเป็นธาตุโลหะ ทักษะระดับสุดยอด พลังภายในซึ่งเป็นธาตุโลหะเช่นเดียวกัน!”
[ทักษะ] : การแข็งกร้าว
[ระดับทักษะ] : สูง
[หมายเหตุ] : ทักษะประเภทโลหะ ผู้ใช้ได้รับการป้องกันโดยพลังประเภทโลหะ เพิ่มความต้านทานต่อทักษะทุกประเภท
นี่คือทักษะอัพเกรดของการเคลือบแข็ง
การเคลือบแข็งจะต้านทานการโจมตีทางกายภาพได้ค่อนข้างดี ทว่าการแข็งกร้าวนั้นแตกต่าง ไม่ว่าจะเป็นการโจมตีธาตุ ทักษะควบคุม และทักษะประเภทจิตวิญญาณ มันก็มีผลต้านทานที่สูงมาก
อาจกล่าวได้ว่ามันเป็นทักษะที่ครอบคลุมซึ่งเพิ่มความสามารถในการรับการโจมตีของอสูรกินเหล็กอย่างมาก
[ทักษะ] : พลังภายใน
[ระดับทักษะ] : สุดยอด
[หมายเหตุ] : มันเป็นทักษะประเภทโลหะ มันสามารถเข้าสู่สถานะยับยั้งและกักเก็บพลังของมัน มันสามารถสะสมพลังที่เหนือขีดจำกัดของมันได้และจะไม่ส่งผลกระทบต่อสถานะของมัน ภายใต้สถานะนี้ มันสามารถสะสมพลังได้มหาศาลและเพิ่มพลังโจมตีของมันได้หลายเท่า ทว่านั่นจะสร้างภาระให้แก่ร่างกายอย่างมาก
“บัดซ*”
หลังจากปรมจารย์หลินกล่าวจบ คณบดีฮ่าว คณบดีหลี่ และที่ปรึกษาติ้งไม่ค่อยเท่าไหร่ ทว่าเจิ้งอิ๋งเจียตกตะลึงอย่างแท้จริง
(ผู้อำนวยการหลี่ เปลี่ยนเป็น คณบดีหลี่)
“มันปลุกทักษะพลังภายในจริงเหรอ?” เจิ้งอิ๋งเจียอ้าปากกว้าง
ทักษะนี้อาจกล่าวได้ว่าเป็นทักษะเทวะของธาตุโลหะ
อย่างแรก ทักษะนี้สามารถพัฒนาร่างกายของสัตว์อสูรได้!
สัตว์อสูรธรรมดาจะอิ่มหลังจากกินคริสตัลพลังงานหนึ่งก้อนและไม่สามารถกินได้อีกต่อไป ทว่าหลังจากเชี่ยวชาญทักษะพลังภายใน การที่สัตว์อสูรจะกินคริสตัลพลังงานสิบหรือร้อยก้อนก็ไม่ใช่ปัญหา
นอกจากนี้ สัตว์อสูรจะไม่สามารถย่อยคริสตัลพลังงานเหล่านั้นได้ และจะไม่สูญเสียคริสตัลพลังงานไปโดยเปล่าประโยชน์เช่นกัน แต่พวกมันจะสะสมพลังงานนี้ไว้ในร่างกายของพวกมันอย่างต่อเนื่อง
ในการต่อสู้ ไม่ว่าจะเป็นใช้พลังนี้อย่างช้าๆ หรือปะทุในคราวเดียว นั่นก็สามารถทำได้
นี่เป็นทักษะต่อสู้ที่ดีที่สุด ไม่เพียงมันจะช่วยให้สัตว์อสูรมีร่างกายที่เหนือกว่าสัตว์อสูรในระดับเดียวกันเท่านั้น ทว่ามันยังมอบพลังในการต่อสู้ข้ามระดับให้แก่สัตว์อสูรอีกเช่นกัน!
“การเคลือบแข็ง แปลงร่างยักษ์ การแข็งกร้าว พลังภายใน…”
“หลังจากที่อสูรกินเหล็กวิวัฒนาการ มันก็เป็นสุดยอดสัตว์อสูรต่อสู้ที่เกิดมาเพื่อต่อสู้ ไม่สิ เกิดมาเพื่อสงคราม” คณบดีฮ่าวถอนหายใจ คณบดีหลี่และที่ปรึกษาติ้งเห็นด้วยอย่างมาก
ในขณะนี้ เจ็ดยอดนักโบราณคดีต่างก็ถูมือด้วยความอิจฉา
รุ่นพี่แพนด้าก็ตื่นเต้นเล็กน้อยเช่นเดียวกัน ร่างกายของนางสั่นอย่างต่อเนื่อง
การปลุกทักษะระดับสุดยอดหลังจากการวิวัฒนาการหมายความว่าระดับศักยภาพเผ่าพันธุ์ของอสูรกินเหล็กจะสูงกว่าระดับราชันย์อย่างแน่นอน
อสูรกินเหล็กของนางจะกลายเป็นแข็งแกร่งเช่นนี้ได้ในอนาคตเหรอ?
“อู๋!!!” อสูรกินเหล็กของหลินฮงเหนียนก็ตื่นเช่นมากเช่นกัน มันรู้สึกว่าพลังอันไร้ที่สิ้นสุดกำลังปะทุออกมาจากร่างกายของมัน!
มันเหลือบมองอีเลฟเว่น ต้องการรับรู้ถึงความอิจฉาของอีเลฟเว่น…
“อู๋” อย่างไรก็ตาม อีเลฟเว่นส่ายหัวของมัน
มันเพิ่งมีเพิ่มสามทักษะ อีเลฟเว่นขาดอย่างอื่นได้แต่ไม่ใช่ทักษะ! มันมีทักษะมากเกินไป!
อสูรกินเหล็ก : …
ในเวลานี้ คนที่มีความสุขที่สุดก็คือตัวหลินฮงเหนียน
“พลังภายใน”
เขายิ้มและมองไปที่อสูรกินเหล็ก
อสูรกินเหล็กพยักหน้า
จากนั้นภายใต้การจ้องมองของทุกคน มันก็กลับสู่รูปลักษณ์เดิมก่อนการวิวัฒนาการของมัน
ชุดเกราะบนร่างกายของมันหายไป และขนาดร่างกายของมันก็กลับสู่ปกติ
“มันสามารถกลับสู่สถานะก่อนวิวัฒนาการของมันได้เหรอ?!”
ซืออวี๋ผู้ที่เงียบมาโดยตลอดได้ตกตะลึง ดวงตาของเขาเบิกกว้าง
“ใช่แล้ว นี่คือสิ่งที่มหัศจรรย์เกี่ยวกับทักษะระดับสุดยอดนี้” คณบดีหลี่หัวเราะอย่างบางเบา
“มันเป็นทักษะเทวะเพื่อ ‘แกล้งเป็นหมูเพื่อกินเสือ’ หากใช้ร่วมกับการหดตัวของอสูรกินเหล็กของเจ้า มันจะมีผลน่าทึ่งไหม?”
หลังจากตกตะลึง ในที่สุดอารมณ์ของซืออวี๋ก็เกิดการผันผวน
บัดซ* สถานะยับยั้งนี้สามารถไม่โกงไปเหรอ?
“เยี่ยมไปเลย!” ในขณะเดียวกัน หลินซิ่วจูก็อดไม่ได้ที่จะตะโกนออกมา
ด้วยทักษะนี้ อสูรกินเหล็กจะมีสองร่างไม่ใช่เหรอ???
ในอนาคต ดูเหมือนว่านางจะสามารถปล่อยให้อสูรกินเหล็กของนางวิวัฒนาการได้โดยไม่ต้องกังวลแล้ว
การที่อสูรกินเหล็กทำได้เพียงแค่ขยายร่างหลังจากการวิวัฒนาการและหดตัวไม่ได้นั้นน่าเสียดายเล็กน้อย นางกระหายในทักษะการทวีคูณของอีเลฟเว่นมาก
“ดูเหมือนว่าเราจะไม่ต้องกังวลอีกต่อไปแล้ว…”
ซืออวี๋ก็คิดเช่นเดียวกันกับหลินซิ่วจู
ในขณะนี้ แม้มันจะวิวัฒนาการ แต่ก็ยังมีเครื่องประดับแพนด้าและเตียงแพนด้า!
มันเป็นทักษะเทวะอย่างแท้จริง!
ซืออวี๋กล่าวเป็นนัยกับอีเลฟเว่นบนไหล่ของเขา เขารู้สึกว่าเขายังต้องใช้เงินและเพิ่มแต้มมากขึ้น…
อีเลฟเว่น : อู๋
ในเวลานี้ ทุกคนมองไปที่อสูรกินเหล็กของปรมจารย์หลินด้วยอารมณ์ที่หลากหลาย
บางทีนี่อาจเป็นอสูรกินเหล็กตัวแรกที่วิวัฒนาการในยุคนี้?
ปรมจารย์หลินฮงเหนียนกำลังจะมีโด่งดัง ซืออวี๋ผู้ที่ค้นพบเส้นทางการวิวัฒนาการของอสูรกินเหล็กก็จะโด่งดังเช่นเดียวกัน!
ทุกคนเต็มไปด้วยอารมณ์ ทว่าในตอนนี้ ซืออวี๋นึกถึงบางสิ่งอย่างกะทันหันและรู้สึกว่าเรื่องยังไม่จบ
“รอเดี๋ยวก่อน!”
ซืออวี๋มองไปที่ปรมจารย์หลินและกล่าวออกมาอย่างกะทันหัน “เจ้าอยากลองสลักสัญลักษณ์พิเศษบนตัวอสูณกินเหล็กไหม?”
“ข้ายังรู้สึกว่าสัญลักษณ์จารึกเป็นกุญแจสำคัญสู่การวิวัฒนาการขั้นสองของอสูรกินเหล็ก และไม่ได้เรียบง่ายเช่นเดียวกับสัญลักษณ์เผ่า”
ในขณะที่ตกตะลึง ปรมจารย์หลินก็พยักหน้าและเลือกที่จะเชื่อซืออวี๋
“ทว่าข้าจะสลักมันยังไงล่ะ?”
ซืออวี๋แนะนำว่า “กรงเล็บเคลือบแข็ง”
เมื่อทุกคนเห็นว่าซืออวี๋มีความมุ่งมั่นมาก พวกเขาก็อดไม่ได้ที่จะตื่นเต้นอีกครั้ง
เป็นไปได้ไหมว่ามีบางอย่างพิเศษเกี่ยวกับสัญลักษณ์นั่น?
“ถ้าเช่นนั้นก็ลองทำตามที่ซืออวี๋บอกกันเถอะ”
เมื่อวิธีการวิวัฒนาการที่ซืออวี๋ยืนยันนั้นได้ถูกพิสูจน์แล้ว การเชื่อซืออวี๋อีเกครั้งก็ไม่ใช่เรื่องใหญ่
คณบดีฮ่าวนำเศษโลหะออกมา
อสูรกินเหล็กก็กลับสู่ร่างเกราะยักษ์ของมัน
ในขณะนี้ อสูรกินเหล็กมองไปที่สัญลักษณ์พิเศษบนเศษโลหะและมองไปที่ชุดเกราะของมัน มันตกอยู่ในห้วงความคิดลึก
พวกเขาจะลองสลักสิ่งนี้จริงเหรอ?
“มาลองดูกันเถอะ” หลินฮงเหนียนหัวเราะและกล่าวอย่างเฉยเมย ไม่ว่าเรื่องนี้จะสำเร็จหรือไม่ การสลักมันก็ไม่มีอะไรต้องเสีย
“อู๋!!”
อสูรกินเหล็กพยักหน้าและเคลือบแข็งกรงเล็บของมัน มันเริ่มคัดลอกสัญลักษณ์พิเศษลงบนชุดเกราะของมัน…
กรีซซซ!
อย่างไรก็ตาม ในวินาทีต่อมา ฉากที่ไม่คาดคิดก็เกิดขึ้น
กรงเล็บอันแหลมคมของอสูรกินเหล็กซึ่งได้ถูกเสริมพลังโดยการเคลือบแข็งขั้นเหนือธรรมชาติไม่สามารถทิ้งรอยไว้บนชุดเกราะได้เลย!
เราต้องรู้ว่าชุดเกราะในปัจจุบันไม่ได้ถูกเคลือบแข็งและเสริมพลัง
“แข็งเช่นนั้นเลยเหรอ?” คณบดีหลี่ตกตะลึงเล็กน้อย
การป้องกันนี้…
โดยปราศจากทักษะ ความแข็งแกร่งของร่างกายมันก็ได้เหนือกว่าระดับเหนือธรรมชาติแล้วงั้นเหรอ?
มันเทียบได้กับมังกรยักษ์ในด้านร่างกายไหม?
กรีซซซซ!
“อู๋!!”
สีหน้าของอสูรกินเหล็กเปลี่ยนไป มันพยายามอีกครั้ง ทว่ามันก็ยังไม่สามารถสลักสัญลักษณ์ได้เลย
“ดูเหมือนว่าข้าต้องแกะสลักสัญลักษณ์ด้วยสิ่งที่แข็งกว่านี้” คณบดีฮ่าวตกอยู่ในห้วงความคิดลึก
ในขณะที่ทุกคนตกตะลึงกับพลังป้องกันของชุดเกราะของอสูรกินเหล็ก มีเพียงสีหน้าของอสูรกินเหล็ก หลินฮงเหนียน และซืออวี๋เท่านั้นที่ผิดแปลก
“ไม่ นั่นไม่ถูกต้อง” สีหน้าของหลินฮงเหนียนเคร่งขรึม
“ไม่สิ ความแข็งแกร่งของกรงเล็บเคลือบแข็งขั้นเหนือธรรมชาติเหนือกว่าชุดเกราะอย่างชัดเจน”
“อสูรกินเหล็กกล่าวว่าดูเหมือนจะมีพลังบางอย่างระหว่างกรงเล็บและชุดเกราะของมัน ป้องกันไม่ให้มันทำสัญลักษณ์บนชุดเกราะ!”
“อะไรนะ?”
ทันทีที่ปรมจารย์หลินกล่าวจบ ทุกคนก็ตกตะลึง
นี่คืออะไรกัน กลไกการป้องกันตัวเองเหรอ?
“ไปไปได้ไหมว่าจารึกนี้จะมีพลังลี้ลับบางอย่างจริง?”
ก่อนหน้านี้ ทุกคนคิดว่าสัญลักษณ์พิเศษไม่มีความหมายอะไร แต่ในตอนนี้ เมื่อพวกเขาค้นพบปรากฎการณ์อันแปลกประหลาดนี้ ตราบใดที่พวกเขาไม่โง่ พวกเขาก็สามารถรับรู้ได้ว่ามีบางอย่างผิดปกติ
นี่ไม่ใช่ว่ากรงเล็บแข็งไม่มากพอ
แต่ประเด็นคือทำไมถึงมีการปฏิเสธระหว่างกรงเล็บเคลือบแข็งและชุดเกราะล่ะ?
ทุกคนขมวดคิ้ว เป็นไปได้ไหมว่าที่ซืออวี๋กล่าวถูกแล้ว?
มีอะไรพิเศษเกี่ยวกับจารึกนั่นจริงเหรอ?
มิฉะนั้น หากมันเป็นเพียงจารึกที่เรียบง่าย ทำไมอสูรกินเหล็กถึงสลักมันไม่ได้ล่ะ!
ซืออวี๋ตกอยู่ในห้วงความคิดลึก
นั่นไม่ควรเป็นเช่นนั้น
ในฉากประวัติศาสตร์ที่เขาเห็น อสูรกินเหล็กกลุ่มนั่นใช้กรงเล็บเคลือบแข็งของพวกมันเพื่อสลักจารึกบนชุดเกราะของมัน ไม่มีอะไรพลาดแน่นอน!
การวาดของอสูรกินเหล็กนั้นดุจดั่งสายน้ำ ไม่ว่าจะมองยังไง ก็ไม่มีอะไรขวางกั้น
ในขณะนั้นเอง ซืออวี๋ก็รู้สึกว่าเขาไม่ได้สังเกตประเด็นสำคัญ เกิดอะไรขึ้น… คิดช้าๆ ในขณะที่ซืออวี๋มองไปที่อสูรกินเหล็กของปรมจารย์หลินฮงเหนียน เขาก็ตกตะลึง
[ทักษะ] : การเคลือบแข็ง
[สถานะ] : สอนได้
เช่นเดียวกับไหมหนอนขั้นเหนือธรรมชาติของบักกี้ แม้ว่าอสูรกินเหล็กของปรมจารย์หลินจะเชี่ยวชาญทักษะเผ่าพันธุ์จนถึงขั้นเหนือธรรมชาติแล้ว แต่สารบัญทักษะก็ยังแสดงให้เห็นว่าสามารถสอนได้!
หลังจากตกตะลึงไปสักพักหนึ่ง ซืออวี๋ก็กล่าวอย่างสงบว่า “เมื่อกล่าวถึงเรื่องนี้ เป็นไปได้ไหมว่าความเชี่ยวชาญของการเคลือบแข็งจะยังไม่พอ?”
“มีความเชี่ยวชาญที่สูงกว่าขั้นเหนือธรรมชาติ…”
“ข้ารู้สึกว่าการก้าวหน้าในทักษะเผ่าพันธุ์อีกครั้งและการเปลี่ยนแปลงเชิงคุณภาพอาจเป็นกุญในการวิวัฒนาการขั้นสองของอสูรกินเหล็ก! บางที เมื่อถึงเวลา จารึกอาจไม่มีการปฏิเสธ”
ในคราวนี้ ความคิดของซืออวี๋เปิดกว้างขึ้น เขารู้สึกว่ามีบางอย่างผิดปกติและการคาดการณ์ของเขาก็ถูกต้องอย่างแน่นอน!
มันอาจเป็นกุญแจสู่การวิวัฒนการขั้นสองของอสูรกินเหล็ก!
ระดับราชันย์เป็นเพียงจุดเริ่มต้น!
อนาคตคือระดับเทพนิยาย!
เมื่อซืออวี๋กล่าวจบ สีหน้าของทุกคนก็แปลกไป
คณบดีฮ่าวอธิบายว่า “ขั้นเริ่มต้น ขั้นช่ำชอง ขั้นชำนาญ ขั้นสมบูรณ์ และขั้นเหนือธรรมชาติ แม้ว่าชื่อแต่ละขั้นจะแตกต่างกันในแต่ละยุค ทว่าความเชี่ยวชาญทักษะของสัตว์อสูรดูเหมือนจะมีห้าขั้นนี้ ขั้นสมบูรณ์เป็นตัวแทนของจุดสูงสุดของทักษะ ขั้นเหนือธรรมชาติหมายความว่ามันได้ทะลวงขีดจำกัดสูงสุดของทักษะ”
“สำหรับขั้นที่สูงขึ้น ไม่มีสิ่งนั้น ไม่มีบันทึกของมันมาตั้งแต่สมัยโบราณแล้ว… และยังไม่มีสัตว์อสูรของนักฝึกสัตว์อสูรตัวไหนที่ถึงขั้นนั่น”
“นี่อาจไม่ถูก ทำไมเราไม่ลองสลักด้วยเครื่องมืออื่นล่ะ?”
มุมปากของหลินฮงเหนียนกระตุก เขาไม่รู้ว่าเขาควรเชื่อซืออวี๋ไหม
จนถึงตอนนี้ ทำไมซืออวี๋ไม่กล่าวว่าอสูรกินเหล็กสามารถวิวัฒนาการได้อีกครั้งหลังจากกินไผ่ล่ะ?
แม้ว่านั่นจะเป็นเรื่องจริง แต่ก็ไม่สามารถทำสำเร็จได้
การใช้เงื่อนที่ผิดหลักวิทยาศาสตร์ดังกล่าวเพื่อล่อลวงให้เขามีความคาดหวังต่อการวิวัฒนาการของอสูรกินเหล็ก นี่ไม่ใช่ทำลายชีวิตเขาเท่านั้น แต่ยังจะทำให้เขาและอสูรกินเหล็กฝึกฝนไม่หยุดทั้ง 24 ชั่วโมงเลยงั้นเหรอ?
ในขณะที่ทุกคนปฏิเสธเรื่องไร้สาระนี้ ซืออวี๋ก็เงียบลง
เขายังคงเชื่อมั่นอย่างดื้อรั้นว่าการคาดการณ์ของเขาถูกต้อง
ยิ่งกว่านั้น การเข้าสู่ขั้นเหนือธรรมชาติก็ในตอนแรกก็ยากมากไม่ใช่เหรอ?
Fanpage : ผีเสื้อกลางคืน