บทที่ 86 วิธีแกล้งทำเป็นผู้เชี่ยวชาญ
บทที่ 86 วิธีแกล้งทำเป็นผู้เชี่ยวชาญ
การมาถึงของไคโดช่วยเปโรเปรอสไว้ในขณะนั้น ซึ่งทำให้บิ๊กมัมไม่สามารถตามหาเขาด้วยตัวเองได้ ถ้าเปโรเปรอสบังเอิญเจอบิ๊กมัมในขณะที่เธอยังโกรธอยู่ ผลลัพธ์คงเป็นสิ่งที่คาดเดาไม่ได้
ควีนยังกังวลเกี่ยวกับปฏิกิริยาของกัปตันของเขาด้วย แต่เมื่อเทียบกับความไม่สบายใจของเปโรเปรอส ควีนกลับผ่อนคลายมากกว่า อย่างมากที่สุด เขาคงถูกทุบตีสักสองสามวัน เขาคุ้นเคยกับมันแล้ว แต่ก็รู้สึกเศร้าเล็กน้อยที่ต้องพูดออกมาดังๆ
ด้วยแผนที่ขุมทรัพย์ในมือ โอลกะกำลังสั่งให้ต้นหนและผู้ถือหางเสือเรือปรับทิศทางของพวกเขา
มีต้นหนเรืออัจฉริยะไม่มากนัก แต่ก็มีหลายคนที่รู้เรื่องการนำทางเพียงเล็กน้อย เหตุผลที่โอลกะกำกับเส้นทางก็เพราะไม่มีใครสามารถเข้าใจข้อความบนแผนที่ได้
เกาะอัลเคมิหายไปเมื่อกว่าร้อยปีที่แล้ว และภาษาที่พวกเขาใช้นั้นแตกต่างอย่างมากจากภาษาสมัยใหม่ นอกจากนี้ยังสามารถจัดได้ว่าเป็นอักษรโบราณ
แม้ว่าอารยธรรมในภูมิภาคของโลกโจรสลัดจะมีภาษาที่เหมือนกัน แต่แต่ละเกาะก็มีวัฒนธรรมที่แตกต่างกันออกไปด้วยภาษาถิ่นและตัวอักษรท้องถิ่นมากมาย
ภาษาเหล่านี้มีความคล้ายคลึงกันบางประการด้วย ลวดลายบนแผนที่สมบัติเป็นของหนึ่งในอักษรโบราณ แม้ว่ามันจะแตกต่างจากอักษรของอัลเคมิ แต่ทั้งสองก็เป็นอักษรภาพเหมือนกัน
และด้วยความเข้าใจของเธอในภาษาของอัลเคมิ โอลกะก็สามารถเดาอย่างมีหลักการและแปลตัวอักษรได้อย่างถูกต้องในระดับนึง นอกจากนี้ ยังมีหลายวิธีในการเขียนอักขระ “茴” และรูปแบบที่คล้ายกันก็มีอยู่ในอักษรโบราณอื่นๆเช่นกัน (ตัวอักษรในรูปประโยคนี้แปลว่า เม็ดยี่หรานะครับ)
แม้ว่าเธอจะจำตัวอักษรได้เพียงครึ่งเดียว แต่เธอยังสามารถเดาการออกเสียงและความหมายของตัวอักษรได้อย่างคร่าวๆตามบริบทก่อนและหลังของมัน แม้ว่าอาจจะมีความแตกต่างกัน แต่เรื่องที่จะสื่อทั่วไปก็ไม่น่าจะผิด
ก่อนหน้านี้พ่อค้าให้สิ่งนี้เป็นของแถมกับเธอเพราะพวกเขาไม่รู้ด้วยซ้ำว่ามันคืออะไร ทุกสิ่งที่เกี่ยวข้องกับสมัยโบราณเป็นสิ่งที่รัฐบาลโลกไม่ต้องการเผยแพร่
เกาะอัลเคมิได้หายไปแล้ว และมีเกาะที่คล้ายกันมากกว่าหนึ่งเกาะ ดังนั้นข้อความจำนวนมากจึงสูญหายไปและมีเพียงไม่กี่แห่งที่เชี่ยวชาญด้านการวิจัยทางประวัติศาสตร์เท่านั้นที่สามารถตีความอักษรเหล่านี้ได้
อย่างไรก็ตาม ไม่ว่าพวกเขาจะสามารถแปลข้อความเหล่านี้ได้หรือไม่ก็ไม่ส่งผลกระทบต่อความสามารถในการอ่านแผนที่ เมื่อเปรียบเทียบตำแหน่งของเกาะและกระแสน้ำในมหาสมุทร พวกเขายังสามารถค้นหาเส้นทางได้ แต่การรู้วิธีการอ่านจะทำให้ง่ายและสะดวกยิ่งขึ้น
“ทำไมฉันถึงรู้สึกว่ามันเป็นเรื่องหลอกลวง”
ควีนถือแผนที่ด้วยสีหน้าสงสัย ควีนเข้าร่วมกับพวกเขาเพราะเขาเป็นผู้เชี่ยวชาญในการล่าสมบัติ แต่เขาจะพิสูจน์ความเชี่ยวชาญของตนได้อย่างไร? เขาทำโดยการจู้จี้จุกจิกกับสิ่งต่างๆ ท้ายที่สุดแล้ว ถ้าเขาไม่สามารถจู้จี้จุกจิกกับสิ่งใด เขาก็คงไม่ใช่ผู้เชี่ยวชาญมากนัก
“เชอะ ไอ้แก่ นายไม่เข้าใจข้อความเหล่านี้ด้วยซ้ำ แล้วนายรู้ได้อย่างไรว่ามันเป็นของปลอม? อย่างไรก็ตาม เราแค่ลองเสี่ยงโชค ทำไมไม่ลองดูสักหน่อยล่ะ?”
“เธอยังเด็กเกินไปที่จะรู้ถึงอันตรายของโลกนี้ นังหนู”
ในบรรดาลูกเรือระดับสูงทั้งหมดเอเซียร์เป็นคนเดียวที่ไม่เคยมีความขัดแย้งกับควีน พวกเขาทั้งสองมีความคล้ายคลึงกันหลายประการในบุคลิกของพวกเขา เช่น การหลงตัวเองและความมั่นใจที่มากเกินไป และแน่นอนว่าเป็นเพราะเอเซียร์ไม่สามารถเอาชนะควีนในการต่อสู้ได้ ความแข็งแกร่งของเขาพอๆ กับทหารราบทั่วไปเลยทีเดียว
ในความเป็นจริง มันจะถูกต้องกว่าถ้าบอกว่าความแข็งแกร่งของเอเซียร์นั้นน้อยกว่าทหารราบทั่วไป เขายังคงไม่ลดน้ำหนัก และร่างกายของเขาก็ไม่ได้ให้ข้อได้เปรียบใดๆในการต่อสู้
ในขณะที่ โอลกะทำได้ดีในกลุ่มโจรสลัดร้อยอสูรเนื่องจากสถานะของเธอในฐานะเด็กฝึกและสัตว์เลี้ยงของกัปตัน
“ว่าแต่นี่มันเขียนว่าอะไรล่ะ?”
“ฉันไม่ค่อยเข้าใจมันมากนัก แต่จากสิ่งที่ฉันรวบรวม มันน่าจะหมายถึงสมบัติล้ำค่าที่ให้ชีวิตนิรันดร์”
“สมบัติที่ให้ชีวิตนิรันดร์เหรอ? นั่นฟังดูเหมือนเป็นการหลอกลวงมากกว่า”
บางครั้งก็มีข่าวลือเช่นนี้ในทะเลเช่น แอปเปิ้ลทองคำในตำนาน อย่างไรก็ตามทั้งหมดนี้เป็นเพียงข่าวลือเท่านั้น ทองคำบริสุทธิ์ของเอเซียร์เป็นหนึ่งในวิธีที่จะสามารถมีชีวิตนิรันดร์ได้ แต่ก็ไม่มีใครรู้ว่าทองคำบริสุทธิ์มีนมีขีดจำกัดหรือไม่
ปัจจุบันการผ่าตัดอมตะของผลโอเปะ โอเปะ เป็นวิธีที่น่าเชื่อถือที่สุด แต่มีเพียงผู้ใช้ผลปีศาจนี้หรือผู้ที่เคยผ่านการผ่าตัดเท่านั้นที่รู้ข้อมูลเฉพาะของมัน
แผนที่ขุมทรัพย์หลายแห่งมีลูกเล่นที่เชิญชวนให้ผู้คนหลงไหลในตัวมันได้ง่าย เช่น สมบัติที่สามารถซื้อโลกทั้งใบได้ได้ หรือความลับแห่งชีวิตนิรันดร์ ควีนเคยเห็นเรื่องแบบนี้มาก่อน
อย่างไรก็ตาม เขาเพียงแต่พูดเรื่องไร้สาระเท่านั้น เขาไม่มีความตั้งใจที่จะกลับไปเผชิญกับการฝึกพิเศษของไคโดในตอนนี้
เรือโจรสลัดที่ชักธงของกลุ่มโจรสลัดร้อยอสูรแล่นไปในทะเล ในน่านน้ำของนิวเวิลด์ ธงโจรสลัดเป็นใบเบิกทางที่ดีที่สุด ตราบใดที่ลูกเรือโจรสลัดกลุ่มนั้นแข็งแกร่งเพียงพอ และไม่ยั่วยุหรือพบกับโจรสลัดที่ประมาทในดินแดนของพวกเขา โดยทั่วไปแล้ว พวกเขาสามารถเดินทางอย่างสงบสุขได้
นี่เป็นกฎที่ไม่ได้เขียนไว้ในหมู่โจรสลัดรายใหญ่ หากพวกเขาต่อสู้กันทุกวัน จะไม่เกิดประโยชน์กับใครเลย ไม่ว่าจะเป็นเพื่ออาณาเขตของตนหรือเพื่อตนเองก็ตาม
หลายอย่างสามารถเจรจาได้โดยไม่ต้องไปล้ำเส้นใคร เช่น การเจรจาเรื่องกล้วยของไคโดและชาร์ล็อตต์ หลินหลิน ด้วยวิธีการนี้ ทุกคนจะได้รับสิ่งที่ต้องการ โจรสลัดที่พึ่งพาการต่อสู้เพื่อแก้ไขปัญหาเกือบจะทั้งหมดอยู่ในระดับต่ำสุด
หลังจากล่องเรือไประยะหนึ่ง อาร์เซอุสและคนอื่นๆก็ใกล้จะถึงจุดหมายปลายทางแล้ว ในเวลานี้ท้องฟ้าถูกปกคลุมไปด้วยเมฆ แต่ก็ไม่มีวี่แววว่าฝนจะตก
ในพื้นที่ทะเลทั่วไป การเกิดขึ้นของเมฆปกคลุมเป็นวงกว้างมักบ่งชี้ถึงพายุที่กำลังใกล้เข้ามา แต่ที่นี่คือนิวเวิลด์ ความรู้ทั่วไปทั้งหมดเกี่ยวกับการเดินเรือสามารถถูกทำลายได้ที่นี้
ขณะนี้โอลกะกำลังโทรหาเอเซียร์เพื่อขอความช่วยเหลือ เนื่องจากมีบางคำที่เธอไม่เข้าใจ ตอนที่อัลเคมิหายตัวไปเธออายุเพียง 8 ขวบ และเธอไม่เคยเรียนรู้ภาษาของอัลเคมิได้ทั้งหมด ดังนั้นเธอจึงจำตัวอักษรที่ซับซ้อนกว่านี้ไม่ได้
หลังจากเหตุการณ์ดังกล่าว อาเคมิได้หายไป และเอเซียร์ก็ไม่ได้สอนเรื่องเหล่านั้นให้เธอ แต่พวกเขาเรียนภาษาใหม่ด้วยกันแทน
ด้วยความช่วยเหลือของเอเซียร์ ในที่สุดเธอก็เข้าใจความหมายของประโยคสุดท้าย
“ปีกเที่ยงคืนตัดผ่านก้อนเมฆ ขณะที่แสงจันทร์นำทางไปสู่จุดหมายปลายทางสุดท้าย น่าจะหมายความว่าแบบนี้นะ”
“เที่ยงคืน? แสงจันทร์? เราต้องรอที่นี่ถึงเที่ยงคืนเหรอ?”
“อาจจะ?….แผนที่ขุมทรัพย์นี้ไม่สมบูรณ์ แม้ว่ามันจะระบุตำแหน่งของเกาะสุดท้าย แต่มันนำทางผู้คนไปยังน่านน้ำใกล้เคียงเท่านั้น หลังจากนั้นมีเพียงประโยคนี้ประโยคเดียวเท่านั้น”
“งั้นเรามารอกันก่อน ในเมื่อเราอยู่ที่นี่แล้ว การรอสักหนึ่งคืนก็ไม่เสียหายอะไร”
พวกเขาทิ้งสมอและรอจนถึงเที่ยงคืน เมฆหนาทึบปกคลุมแสงจันทร์ แต่เมื่อถึงเวลาเที่ยงคืน รอยแตกก็เปิดขึ้นบนท้องฟ้า และแสงจันทร์ก็ลดหลั่นไปทางขอบฟ้าเป็นเส้นตรง
พวกเขามองเห็นบางสิ่งบางอย่างลอยผ่านเมฆไปอย่างคลุมเครือ ซึ่งทำให้เกิดรอยแตกร้าวในเมฆ
“ไม่ว่าจะดูกี่ครั้ง ธรรมชาติมันก็แปลกจริงๆ” โอลกะถอนหายใจเมื่อเห็นภาพแปลก ๆ
อย่างไรก็ตาม ความสนใจของควีนอยู่ที่อย่างอื่นเมื่อเทียบกับโอลกะ เขารู้สึกว่าเมฆเหล่านั้นดูแปลกมากและมันไม่เหมือนเมฆปกติ
ในขณะนั้น เสียงร้องอันแหลมคมดังก้องไปทั่วท้องฟ้า และจากนั้นร่างอันมืดมิดก็ร่วงหล่นลงไปบนเรือของกลุ่มโจรสลัดร้อยอสูร