บทที่ 64: ความเสียหายที่ทำได้ใน 1 วิ (3-1)
ติดตามเป็นกำลังใจให้ผู้แปลได้ที่แฟนเพจ:BamแปลNiyay
บทที่ 64: ความเสียหายที่ทำได้ใน 1 วิ (3-1)
"ระวัง!"
พวกก็อบลินขี่หมาป่าพุ่งเข้ามาหาเรา ฝุ่นที่ตลบอบอวลได้ปกปิดการปรากฏตัวของพวกมันไว้ชั่วคราว
พวกมันมีประมาณ 27 ตัว
เมื่อนับก็อบลินและหมาป่าแยกกันแล้ว ก็รวมได้ 54 ตัว
ก็อบลินสวมชุดเกราะเหล็กที่แข็งแกร่ง กวัดแกว่งหน้าไม้และดาบในขณะที่หมาป่าก็ขนาดใหญ่จนมีลักษณะคล้ายม้า
“ดูเหมือนเราจะเจอปัญหาเข้าแล้ว”
หากแค่จัดการหนึ่งหรือสองตัวคงจะไม่เป็นปัญหา แต่การเผชิญหน้าพวกมันเกือบ 30 ตัวก็เหมือนกับการสู้กับกองกำลังทหารม้า
ก็อบลินที่ขี่หมาป่าได้ส่งเสียงออกมาพร้อมกับพุ่งเข้ามาหาเราโดยตรง
“เราควรทำยังไงดี?”
"ง่ายๆ เลยนะ ! จัดการมัน!”
เจนน่ากรีดลูกธนูอย่างรวดเร็วและปล่อยให้มันพุ่งไป
ก็อบลินตัวหนึ่งล้มลงจากหมาป่าของมัน
พื้นที่ที่เรากำลังสู้ตอนนี้เป็นพื้นที่โล่ง
ฉันอดไม่ได้ที่จะขมวดคิ้ว เราถูกทิ้งให้เจอกับการโจมตีอันน่าสยดสยองของก็อบลินที่ขี่หมาป่าทั้งยี่สิบกว่าตัว ฝุ่นฟุ้งกระจายรอบๆ ขณะที่พวกมันวิ่งเข้ามาข้างหน้า
“กร๊าก!”
"โบ๊ว!"
เสียงร้องของหมาป่าผสมกับเสียงร้องของก็อบลิน ทำให้เกิดเสียงประสานที่ไม่สอดคล้องกัน
เราจำเป็นต้องใช้วิธีที่แตกต่างออกไป ต้องไม่เหมือนกับกลยุทธ์ปกติที่เคยใช้
“อารอน จังหวะที่พวกมันจะเข้าถึงเรา นายจัดการมาจากข้างหลังที ทำได้ใช่ไหม?”
“ผมจะทำให้ดีที่สุดครับ!”
“ส่วนเธอ…”
ฉันหันมองไปทางออลก้า
“ฉันจะบอกเธอทีหลัง!”
ทันใดนั้น ก็มีอะไรบางอย่างเล็งไปที่หน้าผากของฉันโดยตรง ฉันปัดมันออกอย่างรวดเร็วด้วยโล่ จ้วงดาบออกไปทันที ร่างกายส่วนบนของก็อบลินบิดเบี้ยวอย่างพิสดารขณะที่ถูกตัดออกจากครึ่งล่าง ฉันกลิ้งตัวลงสู่พื้นอย่างรวดเร็วและหลบเลี่ยงมันได้ทันเวลา
ขณะที่พวกก็อบลินขี่หมาป่าวิ่งผ่านฉันไป ดาบของพวกมันก็เหวี่ยงเข้ามาใกล้อย่างน่ากลัว ฉันปัดป้องด้วยโล่และถอยกลับไปสองสามก้าว
“อารอน!”
"พร้อมครับ!"
อารอนเสียบก็อบลินด้วยหอกของเขาอย่างแรง และแทงทะลุแผ่นอกของมัน
ลูกธนูของเจนน่าก็ทำให้ก็อบลินอีกตัวร่วงกับพื้น นอนแน่นิ่งไม่ไหวติง
“ออลก้า! ร่ายเวทย์มนต์ของเธอได้แล้ว”
"เวทย์?"
“อย่าให้ฉันต้องพูดซ้ำได้ไหม! เธอไม่ใช่นักเวทย์เหรอ? กวาดล้างพวกมันให้หมด”
“ฉันต้องการเวลา!”
"นานแค่ไหน?"
"หนึ่งนาที!"
ก็อบลินโจมตีครั้งที่สอง คราวนี้ หมาป่าดุร้ายพุ่งเข้ามาหาฉัน แต่ด้วยความรวดเร็ว ฉันจึงกลิ้งหลบลงกับพื้น และแทงดาบเข้าไปในปากของมัน
ด้วยปฏิกิริยาตอบสนองรวดเร็วดุจสายฟ้า ฉันกลิ้งตัวอีกครั้งเพื่อหลีกเลี่ยงการโจมตีที่เต็มไปด้วยความโกรธเกรี้ยวที่กำลังจะเหยียบลงมาที่ตัวได้อย่างหวุดหวิด
“จัดการมันเดี๋ยวนี้!”
ออลก้าเริ่มร่ายเวทย์และดวงตาของเธอปิดลง
【ราแกรนเซดัส】
เสียงทุ้มต่ำที่ก้องกังวานไหลออกมาจากริมฝีปากของออลก้าราวกับว่ามันกำลังปกคลุมในอากาศ
วงแหวนเพลิงเส้นหนึ่งจุดติดอยู่ใต้เท้าของออลก้า มันเริ่มหนาขึ้นเรื่อยๆ และบิดขึ้นด้านบนราวกับงูขดตัว ตอนนี้มันกำลังที่ห่อหุ้มร่างกายของเธอไว้ทั้งหมด
'นี่คือ... เวทมนตร์สินะ'
ความอบอุ่นที่แผ่ออกมาจากร่างของออลก้ากระทบแก้มของฉัน ซึ่งเป็นเครื่องพิสูจน์ที่จับต้องได้ถึงพลังที่พลุ่งพล่านในตัวเธอ
เมื่อพิจารณาเรื่องระยะการโจมตีและความคล่องตัวที่จำกัดของเรา อารอนกับฉันนั้นเป็นสายโจมตีระยะประชิด ส่วนเจนน่าก็ระยะกลางและพอหลบหนีได้อยู่ แต่กับออลก้าที่เป็นนักเวทย์คนนี้...
“อารอน ป้องกันเจนน่าจากลูกธนูที่พุ่งเข้ามาที อย่าให้เธอสมาธิหลุด”
"ครับ!"
ด้วยการเคลื่อนไหวที่รวดเร็ว อารอนหันเหทิศทางลูกธนูด้วยหอกของเขาและลูกธนูของเจนน่าก็แทงทะลุก็อบลินไปตัวหนึ่ง
“แค่หนึ่งนาที”
เราต้องอดทนจนกว่าศัตรูจะผ่านเราไป ซึ่งตอนนี้เหลือทั้งหมด 30 วินาที
"กร๊ากกก กร๊ากกกก!"
ก็อบลินขี่หมาป่ารู้ถึงมนต์สะกดที่กำลังปลดปล่อยออกมา มันระดมพลตัวอื่นๆ โดยพุ่งเข้าหาออลก้า ฉันป้องกันเธอเอาไว้และสกัดกั้นเส้นทางของพวกมันด้วยดาบของฉัน
พวกนักเวทย์ไม่ว่าจะเป็นพันธมิตรหรือศัตรูต่างก็เป็นเป้าหมายหลักในการถูกกำจัดเสมอ ฉันสามารถซื้อเวลาให้เราได้ แต่การหยุดก็อบลิน 30 ตัวนั้นเป็นไปไม่ได้เลยที่ฉันจะทำเพียงลำพัง
“เธอไม่มีเกราะขณะร่ายเวทย์หรือไงกัน?”
ในระหว่างการร่ายมนตร์ นักเวทย์มักจะเสริมกำลังตัวเองด้วยม่านหรือเกราะเพื่อป้องกันการขัดจังหวะหรือการโจมตีของศัตรู
“เธอตอบไม่ได้เหรอ?”
'หรือบางทีเธออาจไม่ได้ยินฉันกันนะ?'
ฉันหันกลับไปมองอีกครั้ง และเห็นเธอพึมพำไม่หยุดหย่อน ดวงตาของออลก้ากลับกลายลุกโชนเป็นประกายไฟ
ก็อบลินไรเดอร์จะใช้เวลาประมาณ 10 วินาทีจึงจะมาถึงตัวเรา แม้ว่าเจนน่าจะมีทักษะนักธนูที่เชี่ยวชาญมากที่สามารถโค่นก็อบลินตัวได้สองตัวพร้อมกัน แต่การพุ่งเข้ามาของพวกมันพร้อมกันก็ไม่แสดงท่าทีว่าจะสะดุดหรือลดลงเลย ก็อบลินเหวี่ยงดาบและเตะหมาป่าด้วยขาหลังอย่างสุดแรง
“ถ้าเธอยังคงอยู่ตรงนั้น เธอจะถูกพวกมันฆ่านะ!”
“ร่ายเวทย์มนตร์ขณะเคลื่อนที่ไม่ได้เหรอ?”
“มันเสี่ยงเกินไปนะฮาน!”
"โอ๊ย!"
ฉันรีบจับแขนของออลก้าแล้วกลิ้งไปด้านข้าง หลบหลีกดาบที่แกว่งเข้ามาได้อย่างหวุดหวิด ความร้อนที่แผดเผาแล่นผ่านแขนขาของฉัน ซึ่งเป็นหลักฐานอย่างดีว่าเธอเก่งกาจเวทย์เพลิงเพียงใด
“อะไรนะ…นายทำอะไรน่ะ?”
“เธอนี้มันไร้ประโยชน์ชะมัด”
หากมีม่านหรือเกราะป้องกัน ฉันคงไม่ต้องเอื้อมมือไปคว้ามือของออลก้า เธอเองก็จะสามารถร่ายคาถาโดยไม่ต้องมีการป้องกันใดๆ
“นายบอกฉันว่าไร้ประโยชน์เหรอ? เวทมนตร์นี้น่ะ รู้ไหมว่าการเปลี่ยนมานาให้กลายเป็นธาตุไฟมันเป็นเรื่องยากขนาดไหน!”
"พอได้แล้ว"
ความอบอุ่นที่คงอยู่ของเปลวไฟยังคงแผดเผาผ่านปลายนิ้วของฉัน มันแย่มาก แต่ฉันก็ยังเคลื่อนไหวได้ปกติ
เมื่อการโจมตีครั้งที่สามสำเร็จ เหล่าก็อบลินก็มุ่งเป้าไปที่ครั้งที่สี่ โดยพุ่งเข้ามาหาเราและมีเป้าหมายเดียวในใจ นั่นก็คือออลก้า
หากเป้าหมายของพวกมันคือฉัน อารอน หรือแม้แต่เจนน่า เราก็คงสามารถล่อมันเข้ามา หลบเลี่ยงการโจมตีของพวกมัน เปิดการโจมตีตอบโต้และกวาดล้างพวกมันออกไปได้ แต่ออลก้านั้นแตกต่างออกไป ด้วยชุดที่ดูงุ่มง่ามของเธอ เธอขาดทั้งความแข็งแกร่งและความว่องไว มีความเสี่ยงสูงว่าเธอจะถูกฆ่าในทันที
ถ้าหากคิดแผนโดยไม่สนใจอะไรนัก ฉันคงใช้ออลก้าเป็นตัวล่อและกำจัดศัตรูแน่นอน
แต่ฉันก็สะบัดไล่ความคิดประหลาดๆ นั้นทิ้งไปและเริ่มตรวจดูสภาพของพวกเราทุกคนอีกครั้ง