บทที่ 63 : ความเสียหายที่ทำได้ใน 1 วิ (2-2)
ติดตามเป็นกำลังใจให้ผู้แปลได้ที่แฟนเพจ:BamแปลNiyay
บทที่ 63 : ความเสียหายที่ทำได้ใน 1 วิ (2-2)
ฉันหันไปพูดกับออลก้าที่กำลังจ้องมองกลุ่มคนพวกนั้นอย่างไม่ว่างตา
"เฮ้ คุณหนู"
"กำลังพูดกับฉันเหรอ?"
“มีใครอยู่ที่นี่อีกนอกจากเธอ”
“ฉันไง ฉันก็อยู่ที่นี่เหมือนกัน”
ฉันเขกหน้าผากของเจนน่าแรงๆ ก่อนพูดต่อ
“ใช้เวทมนตร์อะไรได้บ้าง?”
“ถามทำไม?”
“ทำไมถึงถามน่ะเหรอ เพราะอยากรู้ว่าเธอมีความสามารถในการต่อสู้อะไรบ้าง?”
“ฉัน…”
เสียงของออลก้าติดขัดลงขณะที่เธอกำลังพูด
“ทำไมฉันถึงอยู่ที่นี่ได้…?”
“เธอไม่ได้มาที่นี่เพื่อต่อสู้หรอกเหรอ?”
“ฉันไม่ได้เต็มใจสักหน่อย! ฉันถูกบังคับให้ต่อสู้โดยไม่เหตุผลในสถานที่ไม่คุ้นเคยบ้านี้ ไร้เหตุผลสิ้นดี!”
“เธอต้องต่อสู้ ไม่อย่างนั้นเธอก็จะจบลงแบบไอ้พวกที่เพิ่งเข้าห้องหลอมรวมไป”
“…”
แม้ว่าความทรงจำของเธอจะดูสับสน แต่ออลก้าที่ดูไม่รู้เรื่องอะไรเลยก็ทรุดตัวลงนั่งบนม้านั่งข้างฉัน
“ขอถามอีกครั้งนะ..เธอสามารถใช้เวทมนตร์อะไรได้บ้าง?”
“เวทย์เพลิง ฉันสามารถใช้เวทย์เพลิงได้ถึงระดับ 3”
จากหน้าต่างสถานะของเธอ ฉันก็รู้อยู่แล้ว
“ฉันรู้แล้วเรื่องนั้นแล้ว ว่าแต่เวทมนตร์อื่นล่ะ? สามารถใช้เวทย์มนตร์อื่นเช่นการเคลื่อนย้ายมวลสารได้หรือเปล่า?”
“เวทมนตร์ประเภทนี้จัดอยู่ในระดับ 3 หรือสูงกว่า”
“แสดงว่าเธอไม่สามารถใช้มันได้สินะ”
“มีปัญหาเหรอ? ถ้าฉันแสดงเวทมนตร์ของฉันออกมา รับรองว่าจะต้องประหลาดใจกันหมดแน่”
“ก็แค่น่าผิดหวังนิดหน่อย”
เวทมนตร์เสริมแกร่งจะให้ความคล่องตัวมากกว่าเวทมนตร์เชิงรุก ฉันจึงถามออกไป เนื่องจากมันอาจมีความเป็นไปได้ที่เธออาจจะมีความสามารถที่ซ่อนอยู่ บางทีมันอาจไม่ได้ระบุไว้ในหน้าต่างทักษะของเธอ แต่ดูเหมือนว่าจะไม่มีของอะไรแบบนั้น
ถึงอย่างนั้นเธอก็ยังคงเป็นนักเวทย์ที่มีค่ามากอยู่ดี
“จากนี้ไปเธอจะต้องออกไปสู้กับพวกเรา เข้าใจไหม?”
"รู้แล้ว ถึงฉันไม่รู้สึกเต็มใจก็เถอะ”
“เคยมีประสบการณ์ต่อสู้กับสัตว์ประหลาดบ้างไหม?”
"แน่นอนสิ! ฉายาฉันคือแม่มดแห่งรีเวลเชียวนะ!'”
ไม่คิดเลยว่าออลก้าจะเชี่ยวชาญเวทมนตร์เพลิงและมีประสบการณ์ในการต่อสู้กับสัตว์ประหลาดด้วย
ดูเหมือนเธอจะรู้สึกไม่สบายใจมากกว่าจะรู้สึกกลัวกับสิ่งที่พบเจอ นั่นถือว่าเป็นสัญญาณเชิงบวกทีเดียว ดูเหมือนว่าเธอคงจะสามารถปลดปล่อยศักยภาพสูงสุดของเธอในฐานะฮีโร่ระดับ 3 ดาวได้ทันทีเมื่อต่อสู้
ยังมีเวลาอีกสักพักก่อนที่กลุ่มปาร์ตี้ 2 จะกลับมา
ในช่วงเวลานั้น ฉันสอบถามเกี่ยวกับความรู้เรื่องพิกมีอัพของออลก้า แต่เธอก็ลังเล ก่อนจะตอบออกมา
เธอรู้เรื่องพื้นฐานคล้ายกับอีดิส เธอเข้าใจเรื่องการอัญเชิญและการหลอมรวม แต่เธอไม่คุ้นเคยเรื่องของระดับและเกรด
“ทำไมถึงถามเกี่ยวกับการใช้เวทมนตร์ของฉันกัน? นายมีความรู้เรื่องเวทย์มนตร์งั้นเหรอ?”
"ไม่เชิง ฉันเองก็ไม่ค่อยรู้เรื่องนี้มากนัก”
สิ่งที่ฉันพูดไปไม่ใช่ว่าไม่ถูกต้อง เวทมนตร์เป็นสิ่งลึกลับและไม่ได้มีอยู่บนโลก
แม้ว่าจะสามารถจัดหมวดหมู่และจำแนกฮีโร่ตามกายภาพได้ในพิกมีอัพ แต่นักเวทย์กลับแตกต่างออกไป เพราะแต่ละคนล้วนมีลักษณะพิเศษ จนไม่สามารถกำหนดให้เป็นประเภทใดประเภทหนึ่งได้ หากไม่มีประสบการณ์โดยตรงก็เป็นการยากที่จะกำหนดวิธีใช้ความสามารถของพวกเขา การจัดการนักเวทย์ถือเป็นปัญหาที่ท้าทายที่สุดสำหรับนายท่านมือใหม่
แน่นอนว่าเมื่อได้เห็นและวิเคราะห์เวทมนตร์ที่แตกต่างกันหลายร้อยชนิด ฉันจึงสามารถเข้าใจมันได้บ้าง
หลังจากนั้นไม่นาน ปาร์ตี้ที่ 2 ก็กลับมาที่จัตุรัสโดยไม่ได้รับอันตรายใดๆ
อีดิสดูพอใจกับผลลัพธ์ที่ได้ ความแข็งแกร่งของโรเดอริคคงเกินความคาดหมายมาก
ตอนนี้ถึงตาของปาร์ตี้ที่ 1 แล้ว
ไอเซลล์เรียกเราเข้าสู่รอยแยกของมิติและเวลา
อารอนหมุนหอกอย่างเหม่อลอยและได้ถามขึ้นมา
“เราเพิ่งเคยเจอนักเวทย์กันครั้งแรกใช่ไหมครับ? ผมนึกมาตลอดว่าพวกเขาเป็นแค่ตัวตนในจินตนาการซะอีก”
“นักเวทย์หายากขนาดนั้นเลยเหรอ?” ฉันถาม
“ไม่รู้เหรอครับพี่? ถึงผมจะเดินทางไปหลายที่ แต่ก็ไม่เคยพบนักเวทย์มาก่อนเลย” อารอนตอบ
“ตอนนี้เราลงเรือลำเดียวกันแล้ว” เจนน่ากล่าว
ขณะที่เรากำลังรอ ความสนใจของฉันก็มุ่งไปอยู่ที่ออลก้าซึ่งกำลังสังเกตพวกเราอยู่อย่างใจเย็น ดูเหมือนเธอจะไม่ดูประหลาดใจเท่าไร แต่จากนั้นสายตาของฉันก็มองไปที่เสื้อผ้าอันเป็นเอกลักษณ์ของเธอ
การทดสอบที่แท้จริงก็จะเริ่มในไม่ช้า
“ปีนหอคอยและกอบกู้โลก!”
[ดันเจี้ยนหลัก : ชั้นปัจจุบัน – 7]
“ฉันว่าเราไปชั้น 4 ก็พอแล้วนะ” ฉันรำพึงเสียงดัง
นายท่านคงยังไม่ส่งเราไปที่ชั้นต่อไปหรอก
หากประเมินพลังเวทมนตร์ของเธอแล้ว ชั้น 4 ที่มีฮาร์ปี้และก็อบลินอยู่ร่วมกันคงเป็นการทดสอบที่เพียงพอแล้ว
แต่ก่อนอื่น ฉันต้องรู้ว่าพลังของออลก้าเป็นแบบไหน
แม้ว่าเวทมนตร์แห่งไฟมักจะเป็นความสามารถในการโจมตี แต่การใช้งานนั้นแตกต่างกันไปตามฮีโร่แต่ละคน นั่นหมายความว่าเราต้องปรับรูปแบบปาร์ตี้ของเราให้เหมาะสม อาจต้องเปลี่ยนไปจากแนวกลยุทธ์ดั้งเดิมที่เน้นการโจมตีระยะประชิด
ฉันหันไปหาอารอนและเจนน่าเพื่อเริ่มพูดคุย
“เมื่อการต่อสู้เริ่มต้นขึ้น เราจะอยู่ข้างหลัง”
"ทำไมล่ะ?"
“ฉันอยากจะรู้ว่าเวทมนตร์ที่เธอใช้แบบไหน”
"นั่นหมายความว่ายังไงเหรอ?" ออลก้าได้ยินที่ฉันพูด
“ไม่มีความมั่นใจเหรอ? ไหนบอกว่าถ้าได้เห็นพลังของเธอ พวกฉันจะต้องประหลาดใจไง?”
“ก็ใช่! ฉันน่ะเป็นคนพิเศษกว่าใคร”
"พิเศษเหรอ?"
“อืม…พวกนายจะต้องประหลาดใจอย่างแน่นอน เดี๋ยวได้รู้เอง”
ฉันหัวเราะเบาๆ
ตั้งแต่มาที่นี่ ฉันได้เห็นฉากที่น่าทึ่งนับไม่ถ้วน การเห็นผู้หญิงคนหนึ่งเรียกไฟจากมือจึงไม่ทำให้ฉันประหลาดใจอีกต่อไป
[เอาล่ะ จงเข้าไปได้! ท่านฮานสู้ๆ นะคะ!]
ร่างของไอเซลล์ค่อยๆ จางหายไป
แสงสว่างพุ่งออกมาจากกระจกด้านซ้าย
[ชั้นท้าทายปัจจุบันคือชั้น 8 ของดันเจี้ยนหลัก]
[ประตูจะเปิดภายใน 10 วินาที เตรียมพร้อม!]
ฉันประหลาดใจมาก ฉันรีบพยายามสงบสติอารมณ์และตะโกนเสียงดัง
“ชั้น 8! ทุกคนชักอาวุธออกมาเดี๋ยวนี้!”
“แต่พี่เพิ่งบอกให้เราอยู่ข้างหลัง…”
“เงียบได้แล้ว!”
'ไอ้นายท่านบัดซบเอ๊ย…'
การทดสอบบนชั้น 4 ดูเหมือนน้อยเกินไปสินะ
ยังไม่หายหัวร้อนอีกเหรอ?
ฉันใช้มือขวาชักดาบออกมาและยึดโล่ไว้ด้วยมือซ้าย ขณะที่แสงสว่างค่อยๆ ปกคลุมเรา เราก็ถูกพาไปยังสถานที่ที่ไม่คุ้นเคย
เราเห็นทุ่งหญ้ากว้างใหญ่ และเราสามารถมองเห็นกำแพงเมืองที่เราเคยเห็นที่ชั้น 6
เจนน่าเลิกคิ้วขึ้น
“อืม มันดูคุ้นๆ…เหมือนฉันเคยเห็นมันมาก่อนเลย”
ตัก ตัก ตัก ตัก ตัก
เสียงฝีเท้าสั่นสะเทือนจากด้านหลัง
“ทุกคน ระวัง!”
เจนน่ารีบกระโดดหลบไปด้านข้างอย่างรวดเร็ว ตามมาด้วยอารอน
ออลก้ายืนอยู่ที่นั่น ดูเหมือนจมอยู่กับภวังค์และจ้องมองไปยังต้นทางเสียง
“อย่ายืนนิ่งสิ!”
ฉันลากออลก้าแล้วกลิ้งลงไปด้านข้าง
ชุดของเธอนั้นบดบังการมองเห็นของฉันมาก และภายในการมองเห็นที่เลือนรางก็ได้มีดาบเล่มหนึ่งถูกเหวี่ยงออกมาทางเรา ฉันใช้แขนขวาป้องกันออลก้าไว้
[ชั้น 8]
[ประเภทภารกิจ – ปราบปราม]
[เป้าหมาย – กำจัดศัตรูทั้งหมด!]
[ก็อบลินไรเดอร์ Lv.9 X 27]