ตอนที่แล้วตอนที่ 653 ถั่วสีทอง
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 655 ธนาคารฟารซี

ตอนที่ 654 กำจัดกลุ่มเผ่ามาร?


ตอนที่ 654 กำจัดกลุ่มเผ่ามาร?

“เยว่เกอ? เยว่เกอก็อยู่ในดินแดนกฎด้วยงั้นเหรอ? ทำไมฉันถึงไม่เคยเห็นเธอมาก่อนเลย” เซี่ยเฟยถามอย่างสงสัย

“ที่ดินแดนกฎใช้เข็มทิศมิติในการสื่อสารไม่เหมือนกับในพันธมิตรที่ใช้ไมโครคอมพิวเตอร์ ช่องทางการติดต่อสื่อสารแบบเก่าของเราจึงใช้ไม่ได้อีกต่อไป แล้วมันก็ไม่น่าแปลกที่นายจะไม่รู้ว่าเยว่เกอเข้าไปอยู่ในดินแดนกฎแล้ว เว้นแต่ว่านายจะบังเอิญเจอเธอแล้วค่อยแลกเปลี่ยนช่องทางการติดต่อกัน” เฉินตงกล่าวด้วยรอยยิ้ม

“นั่นสินะ ตอนอยู่ในพันธมิตรพวกเรายังมีช่องทางการติดต่ออยู่บ้าง แต่หลังจากที่เข้าไปในดินแดนกฎแล้วฉันไม่มีช่องทางการติดต่อไปหาคนอื่นเลย” เซี่ยเฟยกล่าวพร้อมกับพยักหน้า

“ความจริงฉันได้ข่าวเรื่องที่นายเข้าร่วมงานชุมนุมมังกรฟ้ามาสักพักหนึ่งแล้ว แต่ฉันไม่สามารถหาช่องทางติดต่อไปหานายได้ และฉันก็ไม่สามารถไปหานายที่ตระกูลหยูได้ด้วยเหมือนกัน ถ้าเราไม่ได้บังเอิญมาเจอกันในครั้งนี้ ฉันก็ไม่รู้ว่ามันจะต้องรออีกนานแค่ไหนก่อนที่เราจะได้มาพบกันอีกครั้ง”

“ตั้งแต่ที่นายสอนทฤษฎีเยสให้กับฉัน มันก็ทำให้ฉันต้องเดินทางไปนู่นมานี่อยู่ตลอดเวลา โดยในระหว่างนั้นฉันก็ได้ถูกพาไปยังสถานที่ที่เรียกว่าดาวมรดกโดยบังเอิญ ก่อนที่มันจะมีคนพาฉันไปยังดินแดนกฎ ซึ่งฉันก็ได้มารู้ทีหลังว่าดินแดนกฎที่ฉันเดินทางเข้ามามันคือมุมมืดของดินแดนกฎไม่ใช่มุมสว่างเหมือนตระกูลหยูที่พานายเข้าไป”

“แต่ถึงแม้ว่าฉันจะได้เดินทางมายังมุมมืด ฉันก็คิดว่ามันไม่มีอะไรเสียหายอยู่แล้ว เพราะสิ่งที่ฉันต้องการคือการฝึกฝนวิชาการต่อสู้ ดังนั้นไม่ว่าฉันจะอยู่ในมุมมืดหรือมุมสว่าง ขอแค่ฉันมีโอกาสพัฒนาตัวเองแค่นั้นฉันก็พอใจแล้ว” เฉินตงอธิบาย

“ที่แท้ครั้งสุดท้ายที่นายมาบอกลาฉัน มันก็เป็นเพราะว่านายกำลังจะเดินทางเข้าไปในดินแดนกฎใช่ไหม?” เซี่ยเฟยกล่าวถาม

“ใช่ ตอนนั้นฉันกำลังจะเดินทางเข้าสู่ดินแดนกฎจริง ๆ แต่ฉันไม่สามารถที่จะบอกนายตรง ๆ ได้” เฉินตงกล่าวพร้อมกับพยักหน้า

“ก่อนนั้นฉันก็ใกล้จะออกเดินทางมายังดินแดนกฎแล้วเหมือนกัน และฉันก็ไม่สามารถที่จะบอกความจริงกับนายได้ ว่าแต่ตอนนี้นายมีพลังอยู่ในระดับไหนแล้ว?” เซี่ยเฟยกล่าวพร้อมกับยักไหล่

“ฉันเป็นอัศวินกฎที่เชี่ยวชาญกฎแห่งสสารและกฎน้ำแข็งขั้นที่ 8” เฉินตงกล่าว

“นี่นายมีพลังระดับอัศวินกฎขั้นที่ 8 แล้วงั้นเหรอ?!” เซี่ยเฟยอุทานขึ้นมาด้วยความตกใจ เพราะตอนแรกเขาคิดว่าการเลื่อนระดับพลังของเขาเร็วมากแล้ว แต่ในความเป็นจริงเฉินตงกลับสามารถเลื่อนระดับได้เร็วกว่าเขาเสียอีก

“ฉันเริ่มเรียนรู้พลังกฎมาก่อนนาย ความจริงฉันเริ่มเรียนรู้พลังกฎมาตั้งแต่ตอนที่ได้เข้าไปในดาวเคราะห์มรดกแล้ว เพียงแต่คนที่สอนฉันไม่ได้บอกว่าพลังนี้คือพลังกฎ ฉันเลยยังไม่รู้เรื่องเกี่ยวกับพลังกฎจนกระทั่งฉันได้เดินทางเข้ามายังดินแดนกฎ” เฉินตงกล่าว

เมื่อพูดถึงดาวเคราะห์มรดกมันก็ทำให้เขานึกขึ้นได้ว่าตัวเขาเคยได้เดินทางไปยังดาวเคราะห์มรดกเช่นเดียวกัน เพียงแต่ดาวเคราะห์ดวงนั้นถูกทิ้งร้างมาเป็นเวลานานแล้ว มันจึงไม่มีใครคอยมาสอนวิธีการใช้พลังกฎเหมือนกันกับเฉินตง

ไม่น่าแปลกใจเลยว่าทำไมซัลลิแวนถึงได้พาเฉินตงเดินทางไปไหนมาไหนด้วย ท้ายที่สุดคนที่สามารถพัฒนาได้อย่างรวดเร็วขนาดนี้ล้วนแล้วแต่ถูกยกย่องว่าเป็นอัจฉริยะ การที่ซัลลิแวนรู้สึกภาคภูมิใจในตัวเฉินตงมันก็คงจะไม่ใช่เรื่องที่แปลกประหลาดอะไร

เมื่อคิดถึงเรื่องนี้มันก็ทำให้เซี่ยเฟยรู้สึกหนักใจอยู่เล็กน้อย เพราะเรื่องที่เกิดขึ้นไม่เพียงแต่จะทำให้แอวริลต้องมาซ่อนตัวอยู่ในดินแดนลับเท่านั้น แต่มันยังทำให้เฉินตงต้องบอกลาดินแดนกฎอีกด้วย ซึ่งถ้าหากว่าเฉินตงไม่ได้ยื่นมือมาช่วยเขาเอาไว้ อนาคตของชายคนนี้ก็คงจะพัฒนาไปได้ไกลมาก ๆ อย่างแน่นอน

แม้ว่าการเติบโตในโลกใต้ดินของดินแดนกฎจะไม่ใช่เรื่องที่น่าภาคภูมิใจนัก แต่อย่างน้อยเฉินตงก็ยังคงมีเส้นทางพัฒนาตัวเองต่อไปได้ ไม่เหมือนในตอนนี้ที่พวกเขาเหมือนเดินทางมาจนถึงทางตัน และการที่เฉินตงยอมทิ้งทุกอย่างเพื่อมาช่วยชีวิตเขาเอาไว้ เซี่ยเฟยย่อมจะต้องตอบแทนหนี้บุญคุณในครั้งนี้อย่างแน่นอน

โชคดีที่พวกชาร์ลียังคงไม่ถูกลากเข้ามายุ่งเกี่ยวกับเรื่องนี้ด้วย ไม่อย่างนั้นเซี่ยเฟยก็คงจะรู้สึกหนักใจมากกว่านี้

“ตอนนี้เยว่เกอเป็นยังไงบ้าง?” เซี่ยเฟยถาม

“ฉันได้เจอกับเธอมาสักพักใหญ่ ๆ แล้ว ดูเหมือนว่าเธอจะได้เข้าไปอยู่ในตระกูลเล็ก ๆ ของดินแดนกฎ ซึ่งฉันก็ไม่รู้เหมือนกันว่าเธอมาที่ดินแดนกฎได้ยังไง แต่โดยรวมเธอก็ยังคงเป็นเธอเหมือนเดิมที่มักจะดึงแตงกวาออกมากัดในระหว่างที่เธอไม่รู้จะทำอะไร” เฉินตงกล่าว

“ไม่ว่าจะอยู่ที่ไหนเธอก็ยังไม่สูญเสียความเป็นตัวเองไปสินะ” เซี่ยเฟยกล่าวด้วยรอยยิ้ม

“เธอเคยให้หมายเลขเข็มทิศมิติกับฉันไว้ แต่ฉันก็ยังไม่เคยติดต่อไปหาเธอเหมือนกัน ถ้าหากว่านายต้องการจะหาแหล่งข่าวที่เราเชื่อถือได้ เยว่เกอก็คงจะเป็นแหล่งข่าวที่น่าเชื่อถือมากที่สุดสำหรับพวกเราแล้ว” เฉินตงกล่าวก่อนที่จะมอบหมายเลขเข็มทิศมิติของเยว่เกอให้กับเซี่ยเฟย

“ถ้าฉันดึงเธอเข้ามาเกี่ยวกับเรื่องนี้ด้วย มันจะทำให้เธอเดือดร้อนหรือเปล่า?” เซี่ยเฟยกล่าวพร้อมกับขมวดคิ้ว

“นี่นายยังไม่รู้ตัวอีกเหรอว่าเธอชอบนาย! อย่าว่าแต่การขอให้เธอช่วยรวบรวมข้อมูลให้นายเลย แม้ว่านายจะบอกให้เธอไปตระกูลหยูเธอก็คงจะรีบเดินทางไปที่นั่นโดยไม่ลังเล” เฉินตงกล่าวพร้อมกับหัวเราะเสียงดัง

เซี่ยเฟยทำหน้ามุ่ยขึ้นมาเล็กน้อย เพราะในความจริงคนที่มาหลงชอบเขาไม่ได้มีเพียงแต่เยว่เกอเท่านั้น แต่มันยังรวมถึงซาร่า, เย่เสี่ยวหาน, นิโคลและแม้กระทั่งคุณหนูมู่ฟู่ผิงจากตระกูลวิทเทอร์ก็คงจะหลงชอบเขาอยู่ด้วย

หากพิจารณาจากสถานะของเซี่ยเฟยก่อนเกิดเหตุการณ์นี้ มันก็คงจะไม่ใช่เรื่องแปลกถ้าหากว่าเขาจะมีภรรยาสัก 3-4 คน แต่สิ่งที่สำคัญที่สุดคือเซี่ยเฟยมีแอวริลอยู่ก่อนแล้วต่างหาก

เซี่ยเฟยกับแอวริลเริ่มพูดคุยกันตั้งแต่สมัยพวกเขายังเป็นเด็ก ยิ่งไปกว่านั้นแอวริลยังยอมรับชายหนุ่มตั้งแต่ในตอนที่เซี่ยเฟยไม่มีอะไรเลย แม้กระทั่งในตอนที่เขาหลงไปในกลุ่มดาววิลเดอร์เนสหญิงสาวก็ยังส่งกองยานที่ 1 ของบริษัทไปตามหาเขาโดยไม่ลังเล

ซึ่งเหตุการณ์ทั้งหมดที่แอวริลเคยทำให้กับเขาในอดีต มันก็ทำให้เซี่ยเฟยไม่สามารถที่จะแบ่งปันความรักไปให้กับผู้หญิงคนอื่นได้จริง ๆ

“ไม่ต้องคิดมากหรอก เยว่เกอก็รู้อยู่แล้วว่านายไม่ได้ชอบเธอ พูดตามตรงว่าตอนนี้เราไม่เหลือทางเลือกที่ดีกว่าเธอแล้ว อย่างน้อยการให้เธอช่วยรวบรวมข้อมูลให้มันก็ดีกว่าการที่เราไม่รู้ข่าวคราวจากโลกภายนอกเลย” เฉินตงกล่าวด้วยรอยยิ้มหลังจากที่ได้เห็นสีหน้าอันลังเลของสหาย

“อืม เดี๋ยวฉันจะลองติดต่อเธอไปก็แล้วกัน” เซี่ยเฟยกล่าวพร้อมกับพยักหน้า

แม้ว่าภายนอกเยว่เกอมักจะทำตัวกระโตกกระตาก แต่ภายในผู้หญิงคนนี้ก็ถือว่ามีความคิดความอ่านมากพอสมควร การที่ได้เธอมาช่วยสืบหาข้อมูลให้ถือว่าเป็นทางเลือกที่ดีที่สุดสำหรับพวกเขาในเวลานี้จริง ๆ

“ช่วงนี้เราคงจะกลับไปที่ดินแดนกฎไม่ได้สักระยะ นายคิดว่าหลังจากนี้นายจะเอายังไงต่อ?” เซี่ยเฟยถามเปลี่ยนเรื่อง

“ถึงจะกลับไปที่ดินแดนกฎไม่ได้แล้วยังไงล่ะ ไม่ใช่ว่าที่นี่มีทั้งน้ำทั้งอาหารให้พวกเราอยู่แล้วงั้นเหรอ และก่อนหน้านี้ฉันก็ได้คริสตัลต้นกำเนิดมาเยอะมาก ฉันคิดว่าฉันจะฝึกอยู่ที่นี่อีกสัก 10 ปี มันน่าจะทำให้ฉันก้าวหน้าไปได้มากพอสมควร” เฉินตงกล่าวพร้อมกับตบกล้ามแขนของตัวเอง

เซี่ยเฟยรู้ดีว่าสิ่งที่เฉินตงพูดออกมานั้นไม่ใช่ความจริง ท้ายที่สุดการฝึกฝนก็ไม่ใช่เพียงแต่การนั่งเก็บตัวดูดซับพลังงานอยู่เฉย ๆ แต่มันยังรวมถึงการแลกเปลี่ยนความรู้และต้องอาศัยประสบการณ์จริงในการต่อสู้เพื่อพัฒนาตัวเองด้วย

เขารู้ดีว่าเฉินตงเป็นพวกบ้าการต่อสู้มากขนาดไหน และมันก็ไม่จำเป็นจะต้องพูดถึงการเก็บตัวฝึกอยู่ที่ใดที่หนึ่งเป็นเวลา 10 ปีเลย เพราะการที่ชายคนนี้ไม่ได้สู้กับใครสัก 10 วันมันก็คงจะทำให้เขาเริ่มรู้สึกอึดอัดแล้ว ดังนั้นคำพูดของอีกฝ่ายก็เป็นเพียงการพูดเพื่อไม่ให้เขารู้สึกลำบากใจก็เท่านั้น

หลังจากพูดคุยกันมาเป็นเวลานานเฉินตงก็ขอตัวออกไปพักผ่อน ซึ่งเซี่ยเฟยก็ได้มอบยารักษาไปให้กับอีกฝ่ายหลายขวดเพื่อที่เฉินตงจะได้ฟื้นฟูร่างกายกลับมาได้อย่างรวดเร็ว

หลังจากเฉินตงจากไปเซี่ยเฟยก็ชกเข้าใส่กำแพงหลายสิบครั้ง พร้อมกับใบหน้าของเขาที่เต็มไปด้วยความเคร่งเครียด

“ทำไมแอวริลกับเฉินตงถึงจะต้องมาซวยไปกับฉันด้วย!” เซี่ยเฟยกล่าวขึ้นมาด้วยน้ำเสียงอันขมขื่น

“เลิกโทษตัวเองเถอะ นายก็น่าจะรู้ดีว่าเรื่องนี้มันไม่ใช่ความผิดของนาย อย่างน้อยโอโร่ก็ยังอยู่ที่นี่ นายใช้ช่วงเวลานี้ให้เขาสอนเรื่องต่าง ๆ ให้กับนายก็ได้” อันธพยายามปลอบใจเซี่ยเฟย

“นั่นสินะ ถึงจะบ่นไปมันก็ไม่มีอะไรดีขึ้นมา คืนนี้ฉันจะใช้พลังในพื้นที่สมองส่วนที่ 7 ทะลวงผ่านไปยังอัศวินกฎขั้นที่ 7 ให้ได้ แล้วฉันจะฝึกกฎแห่งความโกลาหลไปให้ถึงกับขั้นที่ 3” เซี่ยเฟยร้องคำรามขึ้นมาด้วยความแค้น ซึ่งวิกฤตที่เขากำลังพบพานในขณะนี้ก็กำลังผลักดันให้เขาเติบโตอย่างรวดเร็วมากยิ่งขึ้น

ยิ่งศัตรูบีบคั้นเขามากเท่าไหร่ เขาก็ยิ่งต้องการที่จะแก้แค้นศัตรูกลับไปเป็นร้อยเท่าพันเท่า

“คนที่ชื่อเฉินตงนั่นเป็นเพื่อนของนายใช่ไหม?” โอโร่กล่าวถามขณะที่ชายหนุ่มกำลังนั่งลงเพื่อฝึกฝน

“ใช่”

“ตอนนี้เขาไม่มีที่ไปงั้นเหรอ?”

“ใช่ มันคือความผิดของผมเอง” เซี่ยเฟยกล่าวพร้อมกับขมวดคิ้ว

“ถ้าอย่างนั้นก็ให้เขาไปอยู่กับตระกูลไลอ้อนฮาร์ทของฉันสิ” โอโร่กล่าว

“เฉินตงเป็นมนุษย์ที่อยู่ฝั่งของเผ่าเทพแล้วเขาจะไปอยู่กับตระกูลไลอ้อนฮาร์ทที่อยู่ทางฝั่งเผ่ามารได้ยังไง? คุณเลิกพูดเรื่องไร้สาระพวกนี้เถอะ” เซี่ยเฟยกล่าวพร้อมกับกรอกตา

“ฉันพูดเรื่องไร้สาระที่ไหน นี่ฉันกำลังจริงจังอยู่นะ” โอโร่กล่าวด้วยความโกรธเล็กน้อย ก่อนที่เขาจะเปลี่ยนไปพูดด้วยน้ำเสียงที่จริงจังว่า

“นายมีความสัมพันธ์ที่ดีกับหลานชายของฉัน ถ้าหากว่านายพาเฉินตงไปหาฮีธฟิลด์เขาจะต้องตกลงรับเฉินตงเข้าตระกูลแน่นอน”

“ถึงแม้ว่าผมจะเคยช่วยลูกชายของเขาไว้ แต่เขาก็ช่วยซื้ออาวุธดาร์คเมทัลไปจากผมด้วยราคาแพงกว่าปกติหลายเท่าด้วยเหมือนกัน หนี้บุญคุณระหว่างพวกเรามันก็น่าจะจบลงแค่นั้นแล้วสิ” เซี่ยเฟยกล่าว

“นี่นายกำลังสับสนอะไร? การพาเฉินตงไปให้ตระกูลไลอ้อนฮาร์ทไม่ใช่การที่นายไปขอความช่วยเหลือจากเขา แต่มันคือการที่นายกำลังหยิบยื่นความช่วยเหลือไปให้กับเขาต่างหาก” โอโร่กล่าว

“ทำไมมันถึงเป็นแบบนั้นล่ะ?” เซี่ยเฟยถาม

“เฉินตงคืออัจฉริยะที่สามารถพัฒนาเข้าใกล้ราชากฎได้ในเวลาเพียงแค่ไม่ถึง 2 ปี ยิ่งไปกว่านั้นเขาก็ยังไม่ได้พัฒนาในตระกูลใหญ่แต่พัฒนาในมุมมืดของดินแดนกฎ พูดตามตรงนะว่าคนแบบนี้ไม่ใช่อัจฉริยะที่สามารถหาพบได้ง่าย ๆ และตระกูลไลอ้อนฮาร์ทของฉันก็ต้องการอัจฉริยะเพื่อเข้ามาพัฒนากองกำลังของเราเอง” โอโร่กล่าวด้วยน้ำเสียงที่ตื่นเต้น ซึ่งมันแสดงให้เห็นว่าเขากำลังชื่นชมเฉินตงอยู่จริง ๆ

“ฉันถามหน่อยเถอะว่าทั่วทั้งดินแดนกฎจะมีคนสักกี่คนที่สามารถพัฒนาได้อย่างรวดเร็วเหมือนกับนาย ยิ่งไปกว่านั้นเขายังพัฒนาในที่ที่แทบจะไม่มีทรัพยากรอะไรเลย แต่ถ้าหากว่าเขาได้มาอยู่ในตระกูลไลอ้อนฮาร์ทของเรา ป่านนี้เขาก็คงจะกลายเป็นราชากฎไปตั้งนานแล้ว ดังนั้นถ้าหากว่านายแนะนำอัจฉริยะคนนี้ให้กับฮีธฟิลด์ ฉันรับประกันว่าเขาจะต้องขอบคุณนายมากแน่นอน”

เซี่ยเฟยรู้สึกว่าสิ่งที่โอโร่กำลังพูดอยู่นั้นค่อนข้างที่จะสมเหตุสมผล เพราะทุกคนต่างก็รู้ดีว่าเฉินตงคืออัจฉริยะที่หาตัวจับได้ยาก และในเมื่อเขาไม่สามารถกลับไปใช้ชีวิตในฝั่งของดินแดนเทพได้ การไปใช้ชีวิตในดินแดนเผ่ามารก็ไม่น่าจะใช่เรื่องที่แย่อะไร

อย่างน้อยการที่เฉินตงได้ไปอยู่ตรงนั้นมันก็ยังมีเส้นทางให้เขาพัฒนาต่อไปได้ ที่สำคัญคือเขาจะมีโอกาสกระชับความสำพันธ์ที่ดีกับตระกูลไลอ้อนฮาร์ทอีกครั้งหนึ่งด้วย

“ความจริงมันก็คงจะดีไม่น้อยถ้าหากว่านายเข้าร่วมกับตระกูลไลอ้อนฮาร์ทของฉันเหมือนกัน เพราะแม้แต่ฮีธฟิลด์ก็ยังมองเห็นพรสวรรค์ที่อยู่ภายในตัวของนาย” โอโร่กล่าวด้วยแววตาอันเป็นประกาย

“ให้ฉันเข้าร่วมกับเผ่ามารงั้นเหรอ? ฉันขอใช้เวลาคิดอีกสักหน่อยก็แล้วกัน ถึงยังไงมันก็เป็นเส้นทางที่ฉันไม่มีทางเดินย้อนกลับได้” เซี่ยเฟยกล่าวขึ้นมาเบา ๆ ก่อนที่เขาจะหันไปให้ความสนใจกับกล่องสมบัติ 2 ใบที่อยู่ข้าง ๆ เขา

***************

เอาแล้ว! ทุกคนคิดว่าเฉินตงกับพี่เฟยจะตัดสินใจยังไง?

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด